รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 235 เสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้ว!

บทที่ 235 เสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้ว!

บทที่ 235 เสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้ว!

“แม่นางน้อยยังอ่อนต่อโลกนักให้ผู้ใหญ่ของบ้านเจ้าเป็นคนคุยเถิด”

วิญญาณนักบุญผู้หนึ่งกล่าวขึ้น และจ้องเขม็งไปที่บรรพจารย์ตระกูลหยวน

เขาคิดว่าหยวนอียังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความสามารถอันทรงพลังของพวกเขา บรรพจารย์ของตระกูลหยวนอายุมากแล้ว ย่อมไม่ทำผิดพลาดเช่นกันใช่หรือไม่?

“ไปเถอะ พวกเจ้าสู้ไม่ได้”

บรรพจารย์ส่ายหัว และกล่าวเช่นเดียวกับหยวนอีออกไปว่า ‘พวกเจ้าสู้ไม่ได้’ ตามตรง!

ก็เอาสิ!

ฮ่า ๆ!

จากนั้นบรรพจารย์ก็หัวเราะในใจเสียงดัง พลางคิดว่าช่างร้ายกาจยิ่งนัก วิญญาณนักบุญอยู่ต่อหน้า แต่กลับบอกว่าวิญญาณนักบุญสู้ไม่ได้!

แต่หากจะบอกว่าไม่ประหม่าเลยก็มิใช่

เขาประหม่าเพียงนิดเดียวเท่านั้นแหละ!

ขนาดมังกรดำที่ตัวตนเหนือกว่ามหาจักรพรรดิ ยังมิอาจทำอันใดได้เมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่หยกที่ท่านเซียนมอบให้ ฉะนั้นแล้ว กับขอบเขตนักบุญก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…

เดิมทีใบหน้าของวิญญาณนักบุญยังคงมีรอยยิ้มประดับ คิดว่าบรรพจารย์ของตระกูลหยวนน่าจะพูดจาลื่นหู พรรณาความทรงพลังวิญญาณนักบุญของเขาได้

แต่สุดท้ายแล้ว บรรพจารย์ของตระกูลหยวนนั้นปัญญานิ่มยิ่งกว่าหยวนอีเสียอีก กล่าวเสริมเป็นนัยให้หยวนอีอีกด้วย!

ชั่วพริบตาสีหน้าของพวกเขาก็อึมครึม

เด็กไม่รู้ไม่ผิด แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ?

ท่าทีของเหล่ายอดฝีมือวิญญาณนักบุญแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่ง

อยู่แค่ขอบเขตเทวา แต่กลับกล้ามาพูดกับพวกเขาเช่นนี้ได้อย่างไร?

“ข้าให้หน้าพวกเจ้าแล้วนะ!”

วิญญาณนักบุญคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนจะปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อสะกดข่มกลุ่มหยวนอี

สิ่งมีชีวิตดุจมดปลวกตรงหน้านี้ไม่คุ้มค่าพอให้พวกเขาลงมือ เพียงปราณของวิญญาณนักบุญก็เพียงพอจัดการกับกลุ่มหยวนอีแล้ว

“พวกเราก็ให้หน้าพวกเจ้าแล้วเช่นกัน!”

หยวนอีกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะยกมือขึ้นเตรียมเรียกอาวุธจักรพรรดิสิบกว่าชิ้นออกมา ทว่ายังไม่ทันได้เคลื่อนไหว ก็ถูกปราณของวิญญาณนักบุญยับยั้งเอาไว้เสียก่อนแล้ว

อาวุธจักรพรรดิเหล่านี้เทียบไม่ได้กับกระบี่หยกที่ท่านเซียนเป็นผู้แกะสลักเอง ยิ่งหยิบออกมาใช้ก็ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงาน

หากนางใช้อาวุธจักรพรรดิเหล่านี้เอง พลังย่อมถูกสูบออกไปในทันที!

เพราะพลังของนางไม่เพียงพอที่จะเปิดใช้งานอาวุธจักรพรรดิมากมาย

ส่วนที่ว่าเหตุใดนางถึงไม่เปิดใช้งานกระบี่หยก

นั่นเพราะมันไม่มีความจำเป็นเลย

เพียงแค่จัดการวิญญาณนักบุญ นางรู้สึกว่าหากใช้กระบี่หยกนั่นอาจทำให้กระบี่หยกแปดเปื้อนเสียเปล่า

พลังของวิญญาณนักบุญไม่ได้นับเป็นว่าอะไรเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องใช้กำลังยึดโพรงมังกร มาตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ก็ไม่มีอะไรให้นางต้องเกรงใจแล้ว!

“พวกเจ้าเอาของออกมาจากโพรงมังกรด้วยใช่หรือไม่?”

“ทั้งหมดนั้น…เป็นอาวุธจักรพรรดิ!”

หลังจากหยวนอีหยิบอาวุธจักรพรรดิออกมาสิบกว่าชิ้น สายตาของกลุ่มพลังของวิญญาณนักบุญก็จ้องเขม็งมายังนาง

อาวุธจักรพรรดินั้นหายากเกินไป พวกเขาไม่เคยเห็นอาวุธจักรพรรดิมากมายหลายชิ้นเช่นนี้มาก่อน!

ชั่วขณะนั้น ดวงตาของพวกเขาก็ลุกเป็นไฟทันที

“อยากได้หรือไม่?”

หยวนอีแย้มยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะให้พวกเจ้าทั้งหมด”

ให้พวกเขาทั้งหมด?

ฮ่า ๆ ตอนนี้แม่นางน้อยรู้จักดูสถานการณ์แล้วหรือ?

สีหน้าของเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญเผยรอยยิ้ม คิดว่าหยวนอียังถือว่าใช้ได้อยู่ ตอนนี้รู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเขา

“พวกเจ้ารับให้ดีเล่า”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหยวนอีเจิดจ้ากว่าเดิม

ก่อนที่นางจะขว้างมุกใสแวววาวหลายสิบเม็ดออกไปเบื้องหน้าของพวกเขา

เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญแต่ละคนได้รับมุกคนละหนึ่งเม็ด

มุกวิเศษเหนือสามัญ บนมุกแฝงด้วยคลื่นจังหวะแห่งจักรพรรดิอันทรงพลัง เห็นได้ชัดว่ามุกเหล่านี้เป็นของวิเศษเหนือสามัญ หาใช่สิ่งของธรรมดาทั่วไปที่ทำจากวัสดุระดับจักรพรรดิ!

“ไม่ถูกต้อง!”

“นี่มัน…กำลังจะระเบิดแล้ว!”

พวกเขาเป็นถึงวิญญาณนักบุญ ประสาทสัมผัสย่อมเฉียบแหลม จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่าพลังภายในมุกกำลังรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกำลังจะระเบิด พวกเขาตื่นตระหนกรีบขว้างมุกออกไปทันที อีกทั้งยังรีบเหาะเหินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง สะเทือนฟ้าดินเผยพลังระเบิดรุนแรงเทียมสวรรค์ ทั่วทุกแห่งที่โดนแรงระเบิดเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกจนมองไม่เห็นก้นหลุม!

ยอดเขารอบข้างถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง กลางอากาศที่ถูกระเบิดนั้นล้วนแต่เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ พลังโกลาหลในความว่างเปล่าพลันรั่วไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง!

ทว่ากลุ่มหยวนอีกลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว

อาวุธจักรพรรดิหลายสิบชิ้นมีจังหวะแห่งจักรพรรดิปรากฏอยู่ และทั้งหมดก็เป็นอาวุธประเภทป้องกัน ถึงแม้หยวนอีจะไม่ได้ใช้งาน แต่อาวุธจักรพรรดิเหล่านี้ก็สามารถสกัดกั้นแรงระเบิดได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี

หยวนอีใช้อาวุธจักรพรรดิหลายสิบชิ้นไม่เพียงแต่แยกวิญญาณนักบุญให้แต่ละคนห่างกัน ซ้ำยังสกัดกั้นพลังปราณของวิญญาณนักบุญด้วย

หากใช้วิธีอื่น นางอาจจะไม่ต้องเสียอาวุธมากมายถึงขนาดนี้

แน่นอนว่าต่อหน้าเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญเหล่านี้ นางไม่จำเป็นต้องเสแสร้งใช้กลอุบายก็ได้

แต่ตอนนี้กลายเป็นนางต้องสละอาวุธของจักรพรรดิหลายสิบชิ้นกันระเบิดแทน

มุกใสแวววาวที่นางส่งไปคือ มุกระเบิดจักรพรรดิสามารถระเบิดได้ในทันที มิหนำซ้ำ มันยังปะทุพลังภายในทั้งหมดออกมา

นางได้มุกระเบิดจักรพรรดิมากว่าหนึ่งพันเม็ด…

สมบัติที่มังกรดำรวบรวมมายาวนานนั้นมากมายจนประเมินค่ามิได้!

“อ๊ากก!”

“พวกเจ้าสมควรตาย!”

เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญโกรธจัด จิตสังหารของแต่ละคนฉายชัดออกมา!

มุกระเบิดจักรพรรดิระเบิดออกกะทันหัน โชคยังดีที่พวกเขาตอบสนองได้รวดเร็ว เลือกถอยหนีเป็นอันดับแรก มิฉะนั้น พวกเขาทั้งหมดคงถูกระเบิดตายไปแล้ว!

แม้พวกเขาจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทว่าก็ยังคงได้รับผลกระทบอยู่

แรงระเบิดน่ากลัวเกินไป ร่างกายของพวกเขาแต่ละคนได้รับบาดเจ็บ บางคนขาซ้ายขาด บางคนแขนสองข้างขาด และบางคนเหลือเพียงครึ่งร่างเท่านั้น!

รวมถึงบางคนมีปฏิกิริยาช้า ร่างกายถูกระเบิดตรงนั้นจนกลายเป็นละอองโลหิตในทันที เหลือเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งหนีออกมาทันถึงรอด!

“อยากลิ้มรสพลังของมุกระเบิดจักรพรรดิอีกหรือไม่?”

หยวนอีจ้องเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญตาเขม็ง ยกมือขึ้นเตรียมขว้างมุกระเบิดจักรพรรดิอีกสิบกว่าเม็ด

ยังมีอีกหรือ?

เหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญทั้งหมดล้วนแต่หวาดผวา ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

หากโดนอีกครั้ง พวกเขาจะต้องถูกระเบิดจนตายอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสงสัย!

ฟิ้ว!

ในเวลานี้เอง หยวนอียกมือขึ้นสร้างแท่นค่ายกล ทันใดนั้นกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวก็กำจายออกไปทั่วบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นคลื่นริ้วค่ายกลพลันเคลื่อนไหว ค่ายกลโบราณอันน่าพรั่นพรึงแผ่ขยายปกคลุมเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญทั้งหมด

“เจ้าคิด…จะทำสิ่งใด!?”

สีหน้าเหล่ายอดฝีมือขอบเขตนักบุญขาวซีดไร้สีเลือดแม้แต่น้อย

ค่ายกลโบราณมีคลื่นพลังจักรพรรดิไหลเวียน จิตวิญญาณของพวกเขากำลังสั่นสะท้าน ตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว

ต่อหน้าพลังจักรพรรดิเช่นนี้ ตัวของพวกเขาช่างเล็กกระจ้อยร่อย ไร้ค่าเกินกว่ากล่าวถึง พลังจักรพรรดิเช่นนี้สามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย โดยไม่เหลือแม้แต่ซาก!

ในตอนนี้ พวกเขาอยากจะตบตนเองสักหลายฉาดจริง ๆ อวดเก่งจนเสียใจเอง

หากพวกเขารู้ว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ พวกเขาจะไม่มาที่แห่งนี้เด็ดขาด!

โดยเฉพาะวิญญาณนักบุญคนแรกที่เป็นคนหยุดพวกหยวนอี ตอนกำลังก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่า ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเสียใจ อยากจะตัดมือตัวเองเสียจริง!

เขาจะหยุดไว้ทำไมกัน!

เขาคิดว่าหยุดเอาไว้อย่างน้อยจะได้แย่งชิงโชคลาภ…

แต่เช่นนี้ไหนเลยจะมีโชคลาภให้แย่งชิง นี่มันเป็นนำพาภัยพิบัติมาสู่ตนเองชัด ๆ เขากำลังส่งตัวเองไปตาย!

ค่ายกลโบราณถูกเปิดใช้ พลังแห่งจักรพรรดิไร้ขีดจำกัด ปราณค่ายกลตรึงพวกเขาเอาไว้ พวกเขาจึงหลบหนีไปไหนไม่ได้!

ยามนี้เอง พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นปลาบนเขียง ให้กลุ่มหยวนอีฆ่าพวกเขาได้ตามใจชอบ เพราะความตายอยู่ในกำมือของกลุ่มหยวนอี!

หยวนอีอยากให้พวกเขาตาย พวกเขาก็ต้องตาย…

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท