บทที่ 239 สายตาเร่าร้อนเยี่ยงนี้ ดูมิใช่การเสแสร้ง!
ป้าหวังรีบร้อนเข้ามาถึงบ้านของหลิงอิน
หลิงอินกำลังฝึกเล่นกู่ฉินอยู่ในบ้าน
ป้าหวังเข้ามาถึงคว้ามือหลิงอินไว้ “ยายหนู รีบตามข้ามา มีคนแย่งสามีเจ้า!”
“หา?”
หลิงอินมีหน้าตามึนงง มีคนแย่งสามีของนางหรือ
ผู้ใดคือสามีของนาง?
“เจ้ามัวมาหามาเหออยู่กระไร เร็วเข้าเถิด หนนี้มีแม่นางพาผู้ใหญ่ในบ้านไปหาคุณชายหลี่ คิดแล้วคงตั้งใจไปหารือเรื่องเกี่ยวดอง!”
ป้าหวังร้อนใจเหลือแสน “เจ้ารีบตามข้ามาเถิด ขืนไปช้า พวกเขาคงได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว หากเป็นเช่นนั้นคงไม่มีธุระกงการของเจ้าอีก!”
ฟังมาถึงตรงนี้ หลิงอินกระจ่าง
สามีที่ป้าหวังกล่าวถึงคือท่านเซียน!
บาปกรรมแท้ ๆ ท่านเซียนโปรดอย่าว่ากัน!
นางรีบภาวนาในใจ นึกไปว่านางมิได้พูด ป้าหวังเป็นคนพูด!
“ท่านป้า ท่านจะหาว่าแม่นางทุกคนที่ไปหาคุณชายหลี่อยากแต่งงานกับคุณชายหลี่ไม่ได้…”
หลิงอินเอ่ยอย่างละเหี่ยใจ
ป้าหวังใส่ใจการดองครั้งนี้เกินไปแล้ว มาเยือนที่นี่สองสามวันครั้งเพื่อเร่งให้นางรีบตกล่องปล่องชิ้นกับท่านเซียน
ทว่า…เรื่องนี้นางตัดสินใจได้หรือ?
“หากมิใช่แล้วแม่นางผู้นั้นต้องพาผู้ใหญ่ในบ้านไปด้วยหรือ? ยายหนู ข้าจะบอกให้ แม่นางที่ไปหาคุณชายหลี่ครานี้หน้าตาสะสวยยิ่ง ไม่ด้อยไปกว่าเจ้าแม้แต่น้อย นอกจากนี้ ข้าดูแล้วแม่นางผู้นั้นดูสูงส่งมีกลิ่นอายความเป็นเซียน เกรงว่าอาจเป็นผู้ฝึกตนด้วย!”
ป้าหวังเอ่ยอย่างหวังดีระคนสั่งสอน “ยายหนู คุณชายหลี่ดีถึงเพียงนี้ มีแม่นางผู้ฝึกตนหลงเสน่ห์คุณชายหลี่ย่อมมิใช่เรื่องแปลก! แม่นางนามเซี่ยเหยียนที่ไปหาคุณชายหลี่บ่อย ๆ ผู้นั้น ข้าได้ยินว่าเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักไท่หัวด้วย!”
นางกล่าวต่อ “ยายหนู เจ้าจะมัวชักช้าอยู่ไม่ได้แล้ว แม่นางผู้ฝึกตนต่างหลงเสน่ห์คุณชายหลี่ เจ้าเป็นเพียงเด็กสาวปุถุชนธรรมดา เทียบไม่ได้กับแม่นางผู้ฝึกตนเหล่านั้น ขืนยังมัวชักช้าอยู่เยี่ยงนี้ เจ้ามิได้เป็นแม้กระทั่งอนุด้วยซ้ำ!”
หลังหลิงอินได้ฟังวาจาของป้าหวังก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร
หมายความว่าอย่างไร ที่ว่านางเทียบไม่ได้กับแม่นางผู้ฝึกตนเหล่านั้น…
นางอยากบอกเหลือเกินว่า ท่านป้าหวัง ท่านพูดผิดแล้ว มิใช่ว่านางเทียบไม่ได้กับแม่นางผู้ฝึกตนเหล่านั้น แต่แม่นางผู้ฝึกตนเหล่านั้นเทียบไม่ได้กับนางต่างหาก
นางคือจ้าวสูงสุดแห่งยุคโบราณที่ทะลวงเส้นทางสังสารวัฏสำเร็จเชียวนะ!
“ไม่เป็นไรท่านป้า ข้ารู้จักคุณชายอยู่บ้าง ไม่มีเรื่องราวอย่างที่ท่านว่า ท่านป้าวางใจได้เลย!”
หลิงอินกล่าว ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ยอมตามป้าหวังไป
ป้าหวังถอนหายใจอย่างระอา “เฮ้อ ยายหนู เจ้าดื้อด้านเข้าไปเถิด วันหน้าเจ้าได้สำนึกเสียใจแน่!”
“ฮ่า ๆ ไว้ข้าสำนึกเสียใจเมื่อใดค่อยว่ากัน! ท่านป้า เมื่อครู่ข้าฝึกบทเพลงอยู่บทหนึ่ง ข้าจะเล่นให้ท่านป้าฟัง”
หลิงอินเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม
นางรู้สึกได้ว่าป้าหวังดีกับนางจากใจจริง และในใจของนางเองก็เห็นป้าหวังเป็นครอบครัวจริง ๆ เช่นกัน
สายใยครอบครัวคือสิ่งที่นางปรารถนาที่สุด เพราะชาติก่อนนางสูญเสียอะไรต่อมิอะไรไปมาก…
เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแม่และป้าหวัง นางเป็นเหมือนเด็กในครอบครัวปุถุชนธรรมดาจริง ๆ ได้ดื่มด่ำกับความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจากสายใยครอบครัวอย่างเต็มที่
…
ภายในร้านหลี่จิ่วเต้า
หยวนอีเข้ามาในร้านแล้วยังไม่เท่าไหร่ นางเคยมาแล้วหนหนึ่ง จึงสามารถรักษาความสงบในใจไว้ได้
ทว่าท่านพ่อและท่านบรรพจารย์เพิ่งเคยมาครั้งแรก ต่อให้เตรียมใจมาพร้อมก่อนมา กระนั้นเมื่อได้เห็นภาพวาดภาพอักษรจีนต่าง ๆ และเครื่องหยกแกะสลักต่าง ๆ ในร้านแล้ว พวกเขายังสะท้านใจอย่างยิ่งยวด ฝืนรักษาท่าทีสุขุมไว้
“สองท่านนี้คือ?”
หลี่จิ่วเต้าถามหยวนอี
หยวนอีนำกระถางดอกไม้มาให้เฉย ๆ ก็ได้ เหตุใดต้องพาผู้อื่นมาด้วย
“คุณชาย ท่านนี้คือท่านพ่อของข้า ท่านนี้คือผู้อาวุโสในครอบครัวข้า พวกเขาชื่นชมภาพวาดภาพอักษร และเครื่องหยกแกะสลักที่สุด หลังได้เห็นเครื่องหยกแกะสลักที่ท่านมอบให้ข้า พวกเขาต่างอุทานว่าฝีมือคุณชายเลิศล้ำ นับถือคุณชายเหลือแสน จึงตามข้าที่นี่เพื่อมาเยี่ยมเยียนคุณชาย”
หยวนอีแนะนำตัวแทนบิดาและบรรพจารย์ของตน จากนั้นนางก็ถามอย่างระแวดระวัง “ข้าพาท่านพ่อและผู้อาวุโสมาหาคุณชาย คุณชายถือสาหรือไม่?”
นางกลัวว่าการพาบิดาและบรรพจารย์ของตนมาทักทายท่านเซียนโดยมิได้แจ้งเช่นนี้ จะทำให้ท่านเซียนไม่พอใจ
“ฮ่า ๆ หามิได้ ข้ายินดีต้อนรับอย่างยิ่ง!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ รู้สึกดีใจค่อนข้างมาก
ความสามารถเป็นที่ยอมรับ มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ฝึกตนอีก จะมิให้เขาดีใจได้เยี่ยงไร!
เขาเห็นประกายความเร่าร้อนที่มีต่อภาพวาดภาพอักษร รวมถึงเครื่องหยกแกะสลักฝีมือเขาจากสายตาของบิดาและผู้อาวุโสของหยวนอี ความเร่าร้อนนั้นมิได้เป็นการเสแสร้ง
บิดาและผู้อาวุโสของหยวนอีชื่นชอบภาพวาดภาพอักษร และเครื่องหยกแกะสลักจริง ๆ
“เชิญด้านใน”
เขาเชิญพวกหยวนอีเข้าไปยังลานด้านหลัง
หลังจากบิดาของหยวนอีและบรรพจารย์มาถึงลานด้านหลัง ก็ยิ่งสะท้านเข้าไปใหญ่
เพราะสิ่งที่พวกเขาได้เห็นอยู่ทั่วไปในลานเล็กแห่งนี้ล้วนสูงส่งเหนือสิ่งใด เกินกว่าการรับรู้ของพวกเขา!
พวกเขาเคยเห็นสมบัติล้ำค่ามากมายที่มังกรดำสั่งสมอยู่ในโพรงมังกร จึงนับว่าเปิดโลกทัศน์มาบ้างแล้ว
ทว่าไม่ว่าของชิ้นใดของท่านเซียนที่ตั้งอยู่ตรงนี้ หากเปรียบเทียบดูแล้วสมบัติล้ำค่าที่มังกรดำสั่งสมนั้นก็ห่างชั้นไปไกลโข หรือเรียกได้ว่าไม่ควรนำมาเปรียบเทียบด้วยซ้ำ!
ดอกไม้ต้นหญ้าทุกต้นที่ปลูกอยู่ในลานของท่านเซียน ต่างมีขุมปราณชีวิตเข้มข้นน่าทึ่งไหลเวียน ทรงพลังกว่าโอสถจักรพรรดิที่มังกรดำสั่งสมตั้งไม่รู้เท่าไหร่!
นอกจากนี้ พวกเขายังเห็นเครื่องครัวต่าง ๆ ในห้องครัวผ่านทางหน้าต่าง
เครื่องครัวเหล่านี้มีจังหวะแห่งจักรพรรดิไหลเวียน แกร่งกล้ากว่าอาวุธมหาจักรพรรดิที่ได้จากมังกรดำมาก พวกเขารู้สึกได้ด้วยซ้ำว่าเครื่องครัวเหล่านี้เกินขอบเขตพลังของอาวุธมหาจักรพรรดิไปแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจเป็นอาวุธเซียน!
ส่วนก้อนผลึกใสที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องครัวนั้น ทำให้พวกเขายิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่
พวกเขาสัมผัสได้ว่าเวลาในบริเวณรอบ ๆ ก้อนผลึกใสหยุดลง นิ่งงันอยู่อย่างนั้น เป็นเรื่องที่พวกเขาทึ่งมากที่สุด!
ควบคุมได้แม้กระทั่งเวลาเชียวหรือ!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
นอกจากนี้ เมื่อพวกเขาได้เห็นผักสดเนื้อสดต่าง ๆ ที่วางอยู่ในก้อนผลึกใสก็ยิ่งทึ่งเข้าไปใหญ่ จนไม่รู้ว่าควรเอื้อนเอ่ยคำใด!
หยุดเวลาเพียงเพื่อเก็บรักษาผักสดเนื้อสดอย่างนั้นหรือ…
สวรรค์!
ท่านเซียนก็คือท่านเซียน น่าเหลือเชื่อยิ่ง!
“มาสิ เข้ามานั่งข้างใน”
หลี่จิ่วเต้าเชื้อเชิญพวกหยวนอีเข้าไปในห้องโถง แล้วขอให้พวกหยวนอีรอสักครู่ ส่วนตัวเขาเองเข้าไปในห้องครัวเพื่อปรุงชาเย็น
ถ้าผู้อาวุโสของหยวนอีเป็นคนธรรมดา เขาคงไม่ปรุงชาเย็น
ถึงอย่างไรผู้อาวุโสของหยวนอีก็ดูมีอายุแล้ว ให้คนชราดื่มของเย็นไม่ดีเท่าใด
ทว่าผู้อาวุโสของหยวนอีดูก็รู้ว่ามิใช่คนธรรมดา กระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าเด็กหนุ่มเสียอีก เขาจึงหมดข้อกังวลในเรื่องนั้น
ภายในห้องโถง
เมื่อหยวนอี บิดาของหยวนอี และบรรพจารย์ ได้เห็นกระถางที่ตั้งอยู่ในห้อง รวมถึงลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์ที่ตั้งอยู่กลางห้องต่างกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ ความสะท้านแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจ
คราวก่อนที่หยวนอีมา นางมิได้เข้ามาในห้องโถง จึงไม่รู้ว่าภายในห้องโถงมีสิ่งใดบ้าง
คราวนี้นางได้เข้ามาในห้องโถง ทั้งยังเห็นแล้วว่าภายในห้องโถงมีสิ่งใดบ้าง นางสั่นสะท้านไปถึงดวงวิญญาณ
“โอ…โอสถเซียนหรือ”
กระถางที่ตั้งอยู่ในห้องพลังแกร่งกล้ากว่าดอกไม้ต้นหญ้าที่ปลูกอยู่ในลานเล็กด้านนอกมาก อธิบายด้วยคำว่าฟ้ากับเหวยังได้!
พวกเขาต่างมองว่าพืชที่อยู่ในกระถางเหล่านี้คือโอสถเซียน!
“นี่คือ…ลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์!”
พวกเขารู้จักภูมิหลังของลูกแก้วนี้ อย่าให้พูดเลยว่าน่าตะลึงงันเพียงใด!
โอสถเซียน ลูกแก้วเซียน!
พวกเขาได้เห็นวัตถุเซียนเยี่ยงนี้ในชีวิตนี้ จนรู้สึกว่าต่อให้พวกเขาตายไปตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องให้เสียใจแล้ว!