‘นั่นอีอูยอนหรือเปล่า’
‘ไม่มีทาง อีอูยอนจะมาอยู่ในที่แบบนี้คนเดียวเหรอ’
‘ไม่ว่าจะเป็นใครก็หล่อมากเลยนะ มารอแฟนหรือเปล่า’
เขาไม่สนใจกับเสียงกระซิบกระซาบรอบตัว และไม่ยอมละสายตาไปจากเกทฝั่งขาเข้า เวลาที่คาดว่าเครื่องบินจะมาถึงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ เพราะเกิดการดีเลย์
มันก็นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เจอหน้ากันอีกครั้งหลังจากที่ไปเยี่ยมอินซอบที่อเมริกา ในระหว่างนั้นพวกเขาคุยโทรศัพท์กันบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ใช่ว่าอินซอบเกิดเปลี่ยนใจ และบอกว่าไม่มาแล้วหรอกนะ ในขณะที่คิดแบบนั้นก็ได้รับการติดต่อมาว่า “ผมจะกลับเกาหลี” เขาจึงซื้อตั๋วเครื่องบิน และส่งให้ในวันนั้นเลย
อินซอบมีความสุขอยู่ท่ามกลางครอบครัวที่สงบสุขและอบอุ่นที่อเมริกา แม้จะรู้ว่าการทำให้อีกฝ่ายทิ้งเรื่องพวกนั้นไว้ข้างหลังเป็นความเห็นแก่ตัวของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ยอมตัดใจอย่างเด็ดขาด
เขาได้ยินเสียงดังเอะอะมาจากเกท จากนั้นคนก็ทยอยออกมาทีละคนสองคน ผ่านไปไม่นานภาพของอินซอบที่เข็นสัมภาระออกมาก็โผล่เข้ามาในสายตา ท่าทีที่ทำตาโตและมองไปรอบๆ เหมือนกับตื่นกลัวอยู่เล็กน้อยทำให้ช่วงล่างของเขาปวดหนึบขึ้นมา เขาคิดว่าจะเรียกอีกฝ่ายดีไหม แต่แล้วก็ล้มเลิกไปกลางคัน เขารู้สึกพอใจกับภาพของอินซอบที่มองหาตัวเองอย่างน่าประหลาด
‘…!’
แล้วพวกเขาก็สบตากัน แม้จะสวมหมวกลงมาต่ำ แต่ตาของอินซอบก็โตขึ้นเหมือนกับจำเขาได้ในปราดเดียว
‘อิน…’
เขากำลังจะเรียกชื่อ แล้วก็หยุดไปดื้อๆ อินซอบยิ้มกว้าง ใบหน้าที่ขาวซีดเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา เขาฉวยของที่อยู่ในมือของอินซอบที่กำลังเดินเข้ามาราวกับแย่ง และกำข้อมือของอีกฝ่ายไว้
‘เอ่อ…’
แม้จะสัมผัสได้ถึงความมึนงงของอินซอบ แต่เขาก็เดินไปจนถึงที่ที่จอดรถไว้ทั้งๆ แบบนั้น การก้าวเดินเร็วๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นเกือบจะวิ่งในไม่ช้า เขายัดสัมภาระใส่กระโปรงท้ายรถอย่างลวกๆ และพาอินซอบขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ ทันทีที่ขึ้นมานั่งตรงที่นั่งฝั่งคนขับ เขาก็คว้าต้นคอของอินซอบไว้ก่อนจะประกบริมฝีปากลงไป เขารู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ก็ตอนนั้นเอง อินซอบที่นิ่งไปราวกับตื่นตกใจอ้าปากออกเล็กน้อย และตอบรับจูบของเขา เขาโลมเลียและดูดดุนภายในริมฝีปากที่เปียกชุ่มอย่างไร้สติ ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและมีความสุขกับลมหายใจที่เล็ดลอดออกมา
ชอบ
อินซอบหอบหายใจและจับแขนเขาไว้ น้ำหนักเบาหวิวนั้นที่เกาะตนไว้ทำให้แทบจะเป็นบ้า
ชอบ ชอบมากๆ …ผมชอบคุณ…
ช่วงเวลาแสนหวานดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
เขาได้รสชาติของเลือดในปาก เลือดซึมออกมาจากรอยแตกเล็กๆ บนริมฝีปากของอินซอบที่ถูกดูดดุนอย่างต่อเนื่องจนแตก
เขาถึงได้ถอนริมฝีปากออกตอนนั้น
พวกเขาสบตากัน แก้มที่กลายเป็นสีแดงกับผมที่ยุ่งเหยิง ริมฝีปากที่บวมเจ่อ และดวงตากลมโตที่บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำตัวไม่ถูกด้วยความตื่นตกใจ วินาทีที่ได้เห็นท่าทางเหลอหลานั้น เขาก็หัวเราะ นี่เป็นความสุขที่มากที่สุดที่เขามีเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา
‘ยินดีต้อนรับครับ’
เขาพูดแบบนั้นและดึงอินซอบเข้ามากอด เขากอดร่างที่เล็กและอุ่นไว้ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขนั้น เขาเสียอินซอบไปหลายครั้งในฝันร้ายที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ฝันร้ายที่ตอนนี้เกือบจะมาหาอีกครั้ง
‘คุณอินซอบ’
‘ครับ’
อินซอบตอบรับเสียงเรียกนิ่งๆ
แก้มที่เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเล็กน้อยเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์ เขาก้มหน้าลงและไล่จูบแก้ม ใบหู เปลือกตา และหน้าผากของอินซอบด้วยความยินดี
พอซบลงกับหน้าอกของอินซอบ เขาก็ได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจที่เป็นปกติ เขาจะเสียอีกฝ่ายไปไม่ได้อีกเด็ดขาด เขาตั้งมั่นกับตัวเองอยู่หลายครั้งหลายหนก่อนจะหลับตาลง
เขานึกถึงฝันร้ายในวันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างกายที่เย็นเฉียบ และดวงตาที่ไร้แวว ต่อให้ใช้มือห้ามอย่างไร เลือดที่ไหลออกมาก็…
“คุณอูยอน…”
เสียงที่เอ่ยเรียกทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณอูยอน คุณอูยอนครับ”
ใครบางคนเขย่าไหล่เขา พอลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นใบหน้าเล็กๆ ที่ทำหน้าเป็นกังวล
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
เขาไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงถามแบบนี้ จึงเอาแต่จ้องอีกฝ่ายอยู่สักพัก
“เหมือนคุณจะฝันร้ายน่ะครับ…ถ้าทำให้คุณต้องตื่นขึ้นมาโดยไม่จำเป็นก็ขอโทษด้วยนะครับ”
เขาเอื้อมมือออกไปรั้งตัวของอินซอบเข้ามาแทนคำตอบ เขาฝังจมูกเข้ากับร่างที่อยู่ในอ้อมกอดและสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด
“…ฝันร้ายเหรอครับ”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ”
หน้าต่างบานเล็ก เตียงนอนแคบๆ และโต๊ะที่มีหนังสือถูกวางไว้อย่างแน่นเอี้ยดเตือนให้เขารู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ที่นี่คือห้องพักของอินซอบ ตอนนั้นเองเขาถึงถอนหายใจออกมายาวๆ
อินซอบโอบกอดอีอูยอนอย่างลังเลก่อนจะเริ่มตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ
“ทำอะไรน่ะครับ”
อีอูยอนยิ้มจนดวงตาที่หายง่วงเป็นที่เรียบร้อยแล้วตอนนี้โค้งพลางเอ่ยถาม
“ทุกครั้งที่ผมฝันร้าย แม่จะทำแบบนี้ครับ…ผมชอบน่ะครับ”
อินซอบเอ่ยถามต่ออย่างระมัดระวังว่า ‘หรือคุณไม่อยากให้ทำครับ?’ อีอูยอนกอดเอวของอินซอบ และยึดไว้เหมือนเป็นเด็กเล็กๆ อินซอบตบหลังของเขาอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
ความกังวลใจที่ติดค้างอยู่ในใจค่อยๆ แห้งเหือดไปเหมือนกับความชื้นที่เปียกชื้นในหน้าฝน อีอูยอนกอดเอวของอินซอบไว้โดยไม่ให้เหลือช่องวางบนเตียงแคบๆ เขารู้สึกถึงกลิ่นผิวของอินซอบผ่านชุดนอน อินซอบมักจะมีกลิ่นหอมอยู่เสมอ เป็นกลิ่นที่ได้จากร่างกายของเจ้าตัวเองไม่ใช่กลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นอย่างสบู่หรือยาสระผม
หากได้ดมกลิ่นนั้น เขาจะรู้สึกหิวโหยขึ้นมาอย่างไม่รู้เหตุผล
“…อ๊ะ!”
พอเขาล้วงมือเข้าไปในชุดนอน อินซอบก็เด้งตัวขึ้นมาทันที
“คือว่ามือ…”
เขาลูบไล้หลังของอีกฝ่ายขึ้นมาตามแนวกระดูกสันหลัง ผิวหนังอ่อนนุ่มถูกกวาดไล้ราวกับแนบติดอยู่กับมือ
“คุณอูยอน มือ…”
“ขอให้ล้วงเข้าไปเหรอครับ”
อีอูยอนตอบคำตอบที่คาดไม่ถึงพร้อมล้วงมือเข้าไปในกางเกงนอนตัวหลวมของอินซอบ และลูบไล้ท่อนเนื้อที่นุ่มหยุ่น
“อ๊ะ เดี๋ยว…อึก”
เนื่องจากใช้มือรูดชักให้หลายครั้งแล้วก่อนที่จะนอน ท่อนเนื้อที่อ่อนไหวอย่างเต็มที่จนบวมเป่งขึ้นมาในทันที อีอูยอนดึงกางเกงนอนของอินซอบลงมาดื้อๆ อินซอบงอตัวในสภาพที่หุบขาเอาไว้
“ช่วยอ้าขาหน่อยครับ”
อีอูยอนจูบหลังของอินซอบพลางกระซิบ อินซอบส่ายหน้า ถึงจะมีอะไรด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว แต่อินซอบก็ยังทำตัวเหมือนคนที่เพิ่งเคยจะมีอะไรกันเป็นครั้งแรกทุกครั้ง ท่าทีนั้นทั้งน่ารัก และน่าสงสารจนทำให้เขาเกิดความรู้สึกที่อยากจะรังแกอีกฝ่ายแรงๆ
“ผมอยากดูไอ้นั่นสวยๆ ของคุณอินซอบนะครับ”
เขาจูบหัวเข่าของอินซอบ และเซ้าซี้เหมือนเด็กที่ไม่มีมารยาท อินซอบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ในไม่ช้า และอ้าขาออกให้
แม่งเอ๊ย
อีอูยอนกลืนคำสบถลง และพุ่งเข้าใส่เหมือนหมาที่อดอยาก เขาถูไถแก่นกายที่แข็งขืนขึ้นมาโดยที่ไม่ได้แตะต้องเลยสักนิดกับช่วงล่างของอินซอบก่อนจะหมกมุ่นอยู่กับสัมผัสนั้น อินซอบจับแขนของอีอูยอนไว้ และอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“เพราะตอนเย็นทำไปเยอะแล้ว ช่วงล่างก็เลยบวม…”
“ผมรู้ครับ”
เขามาที่บ้านของอินซอบทันทีที่ตารางงานที่ยาวต่อเนื่องถึงสิบวันจบลง พอประตูหน้าบ้านถูกปิดลง เขาก็ถอดกางเกงออกก่อนที่จะถอดรองเท้าเสียอีก หลังจากเสร็จในท่ายืนไปถึงสองครั้ง เขาก็พาอินซอบไปที่เตียง และทำเรื่องอย่างว่ากับอินซอบไปเกินสองชั่วโมง
เขาเอื้อมมือออกมาลูบคลำช่วงล่างของอินซอบ การที่อีกฝ่ายสะดุ้งและห่อตัวเข้าหากันทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับช่องทางที่ร้อนผ่าวนั้นน่ารักโคตรๆ
“ผมจะไม่สอดใส่ครับ”
เขาใช้มือลูบไล้ช่องทางด้านหลัง และปลอบอินซอบ อินซอบที่หวาดกลัวกอดอีอูยอนไว้จนแทบจะเป็นการเกาะ
อีอูยอนใช้มือข้างหนึ่งช้อนหลังหัวของอินซอบให้มาพิงกับตัวเอง และลูบคลำช่องทางนั้นอย่างต่อเนื่อง
“…ห้ามสอดใส่นะครับ”
“อื้อ”
อีอูยอนตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะขบกัดต้นคอของอินซอบ พอเขาขบกัดเนื้อที่อยู่ในปากก่อนจะฝังฟันลงไปและขยับลิ้น บริเวณตรงนั้นก็เป็นรอยเลือดคั่งในทันที
“…รอย…”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็หาย”
อินซอบมีผิวที่บอบบาง อีอูยอนรู้ดีกว่าใครว่าหากเกิดรอยช้ำ หรือแผลแล้วรอยจะไม่หายไปง่ายๆ
อีอูยอนกัดต้นคออีกข้างไว้ไม่ปล่อย พอเขาเพิ่มแรงดูดอีกเล็กน้อย ก็ปรากฏเป็นรอยฟันพร้อมกับรอยเลือดคั่ง
“คุณอูยอน…”
อินซอบจับแขนของอีอูยอนไว้ด้วยแรงที่น้อยนิด
เขาชอบให้อินซอบเรียกชื่อของเขา แม้จะไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวจะรู้หรือไม่ก็ตาม เพราะทุกครั้งที่เอ่ยเรียกชื่อของเขา อินซอบมักจะทำสีหน้าลำบากใจให้เห็น อีอูยอนได้ยินเสียงอินซอบเอ่ยเรียกชื่อตน แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะท่าทางที่น่ารักมากๆ นั้น
“คุณอูยอน…”
พออีอูยอนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และดูดดุนกระดูกไหปลาร้าของอินซอบ อีกฝ่ายก็เรียกชื่อด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
“อื้อ”
อีอูยอนตอบรับ
“…ที่แบบนั้นมันมองเห็นนะครับ”
“งั้นก็ทำในที่ที่มองไม่เห็นได้ใช่ไหมครับ”
อินซอบขบคิดก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย อีอูยอนยิ้มก่อนจะเลื่อนชายเสื้อของอินซอบขึ้น รอยที่ประทับไว้ระหว่างที่มีเซ็กซ์กันเมื่อกี้นี้แน่นขนัด
อีอูยอนดูดหัวนมของอินซอบอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
“อ๊ะ! เดี๋ยวครับ ตรงนั้น…”
“ก็คุณบอกว่าทิ้งรอยไว้ตรงอื่นได้นี่ครับ แล้วตรงนี้ก็มองไม่เห็นด้วย หรือว่าคุณเที่ยวเอาตรงนี้ไปให้คนอื่นดูเหรอครับ”
เขากัดติ่งเนื้อที่ชูชันและแดงระเรื่อไว้ก่อนจะขยับลิ้นไปมา ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น อินซอบก็จะครวญครางและเอนตัวไปด้านหลัง เหงื่อซึมออกมาจากร่างกายที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นทันที และกลิ่นกายของอีกฝ่ายก็เข้มข้นขึ้น อีอูยอนกอดอินซอบไว้จากด้านหลังและยึดเอวของอีกฝ่ายไว้แน่น
“ผมจะไม่ทำครับ”
เขากระซิบเสียงต่ำ และกดจูบลงไปบนต้นคอของอินซอบ เขาเอาแก่นกายที่แข็งขืนมาวางไว้ตรงร่องก้นและขยับเอว หลังของอินซอบก็สั่นเล็กน้อย เขาจูบกระหม่อม ใบหู ไหล่ และแก้มของอีกฝ่ายอย่างขาดสติ
ลมหายใจของอินซอบขาดห้วง และผิวก็แดงขึ้นเรื่อยๆ น้ำหล่อลื่นที่ไหลออกมาจากส่วนปลายเปียกแฉะช่องทางด้านหลัง และทำให้เกิดเสียงชื้นแฉะทุกครั้งที่ถูไถแก่นกาย
อีอูยอนกอดไหล่ของอินซอบไว้แน่นจากด้านหลัง และเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่าย
คุณอินซอบ ผมชอบคุณอินซอบนะครับ คุณอินซอบ…
คำสารภาพที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับพูดเสแสร้งทำให้มือของอินซอบที่กำผ้าปูที่นอนอยู่สั่นระริก แก่นกายของชายหนุ่มแตะเข้ากับช่องทางที่ขมิบอย่างน่าหวาดเสียวราวกับจะอ้อนวอนและผละออกไป
“…ไม่เป็นไรครับ”
เสียงค่อยๆ ของอินซอบทำให้อีอูยอนถามกลับไปว่า “ครับ?”
“ใส่เข้ามาได้…อ๊ะ!”
อีอูยอนจับเนินเนื้อของอินซอบไว้ และกระแทกแก่นกายของตัวเองเข้ามาโดยไม่รอให้ถึงคำพูดสุดท้าย ความรู้สึกที่ว่าท่อนล่างได้ถูกเนื้อเยื่ออุ่นร้อนโอบกอดไว้ทำให้อีอูยอนกัดริมฝีปาก ใบหน้าที่สุภาพของอีอูยอนถูกความต้องการทำให้แตกกระเจิง พอลมหายใจของเขาขาดห้วง อินซอบก็หันหลังกลับมามองด้วยแววตาที่เหมือนกับกลัว และในวินาทีที่สบตากัน อีอูยอนก็แน่ใจ
ถึงความไม่มีพิษมีภัยของอินซอบที่ไม่เคยทำร้ายใครเลยสักครั้ง และไม่สามารถทำร้ายใครได้ด้วย
เขาเกร็งแขนและไสเอวเข้าหาอีกฝ่ายแรงขึ้น
“อึก”
อินซอบนอนลงกับเตียงราวกับล้มพับลงไปดื้อๆ อีอูยอนพุ่งเข้าใส่เหมือนหมาที่ติดสัด และสอดใส่แก่นกายของตัวเองเข้าไปในตัวอินซอบ อินซอบหอบหายใจพร้อมกับพยายามปรับจังหวะการขยับตัวของตัวเอง เขาอยากจะทำทุกอย่างให้อีกฝ่าย ไม่ว่าอย่างไรขาอยากจะยุ่งเกี่ยวกับอินซอบไปตลอด
“คุณอินซอบ คุณอินซอบ…”
อินซอบพยักหน้าทุกครั้งที่เรียกชื่อ อีอูยอนพลิกตัวของอินซอบกลับมา และจับขาของอีกฝ่ายอ้าออก หลังจากที่ทำให้ส่วนล่างเชื่อมติดกันอย่างลึกซึ้งแล้ว เขาก็กดจูบลงบนแก้มที่เห่อแดงด้วยความร้อนและแรงอารมณ์ของอินซอบอยากทุลักทุเล
อินซอบยื่นแขนออกมากอดคอของเขาเอาไว้ราวกับจะตอบรับเสียงเรียกของอีอูยอน อีอูยอนขยับเอวเหมือนคนบ้า ความต้องการที่รุนแรงอัดแน่นกันทุกครั้งที่เขากระแทกแก่นกายที่แข็งขืนเข้าไปในตัวของอินซอบ
เขาจำท่อนหนึ่งในหนังสือวิเคราะห์ฆาตกรต่อเนื่องที่เคยอ่านตอนเด็กๆ ได้ ว่ามีฆาตกรจำนวนมากเหมือนกันที่บอกว่าการฆ่าคนทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ และฆาตกรที่ใช้มีดก็บอกว่าพวกเขารู้สึกไปเองว่าเหมือนได้สอดใส่แก่นกายเข้าไปทุกครั้งที่แทงฝ่ายตรงข้าม
แล้วมันเป็นความรู้สึกที่ปกติหรือเปล่า