ตอนที่ 197 ความแข็งแกร่งของด่านสวรรค์ กองกำลังจู่โจม!
ตู้ม!
ยามนี้ กองกำลังเผ่าราชวงศ์ที่เป็นขั้นหกทัณฑ์มารวมตัวกันเพื่อจะสังหารหนิงฝาน
“หึ!”
เห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะสับฟันกระบี่ออกไป ปราณกระบี่ฉีกกระชากความว่างเปล่า ใต้ฝ่าเท้าเกิดแสงวาบขึ้นมา แล้วเขาก็ถอยกลับไปยังด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
แม้ว่าพลังด้านการรบของเขาจะแข็งแกร่ง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถรับมือกับพวกเผ่าบรรพกาลมากมายเพียงนี้ได้ไหว จึงต้องหลบภัยไปชั่วคราว
“จะไปไหน!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานล่าถอยไปยังด้านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เผ่าอาชูร่าขั้นหกทัณฑ์ตนนั้นก็ส่งเสียงขึ้นในทันที อีกทั้งยังมีเผ่าบรรพกาลกว่าอีกสิบตนตามหนิงฝานไป
แต่แม้จะเห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็ยังคงยืนอยู่บนด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าด้วยท่าทีที่ใจเย็น และไม่ได้ล่าถอยไปไหน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
พริบตาต่อมา การโจมตีของกองกำลังเผ่าบรรพกาลอย่างเผ่าอาชูร่าก็ปะทุออก แต่แล้วเวลานี้ จู่ ๆ บนด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าปรากฏผังค่ายกลขนาดใหญ่ ซึ่งสลายพลังโจมตีของทุกคนได้อย่างง่ายดาย
หลายคนล่าถอยออกไปไม่ทัน จึงชนเข้ากับผังค่ายกลขนาดใหญ่ ทำให้ต่างเวียนหัวไปตาม ๆ กัน และถอยกลับออกไปด้วยสีหน้าย่ำแย่
“แย่แล้ว!”
“อากาศตรงนี้ช่างแปลกประหลาดเสียจริง!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น เหล่าเผ่าบรรพกาลที่เหลืออยู่ก็หยุดฝีเท้าในทันที
หนิงฝานหัวเราะพลางพูดขึ้น “ทุกท่าน ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้านี้ข้าตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อต้านทานเผ่าบรรพกาลของพวกเจ้า ดู ๆ แล้วก็ใช้ได้ผลอยู่นะ!”
“หึ!”
“ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเล็กเพียงนี้ จะสามารถขัดขวางพวกข้าได้อย่างไร!”
เห็นเช่นนั้น เผ่าอาชูร่าตนนั้นก็ร้องคำรามออกมา จากนั้นก็มองไปรอบ ๆ ตัวและพูดขึ้นว่า “ทุกท่าน มาร่วมมือกันทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้วครอบครองโลกมนุษย์กัน!”
ตู้ม!
สิ้นคำพูดนั้น เขาก็ลงมือก่อน พลังอันสะพรึงกลัวเพิ่มพูนขึ้นในร่างกาย กลายเป็นพลังมังกรโกรธเกรี้ยวร้องคำรามออกมา ก่อนจะตรงไปยังด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หลังจากที่ติดตามเขาไป เหล่าเผ่าบรรพกาลที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนร่วมมือกัน ทุก ๆ ตนใช้พลังกันอย่างเต็มที่ ทั้งร่างกาย พลังวิเศษ และกองกำลังทหาร เวลานี้พลังสามสิบสามสายแห่งมังกรผงาดขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ท้องฟ้าเดือดพล่าน ความว่างเปล่าถูกทำลาย และกระแทกอย่างแรงลงบนด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ตู้ม!
ด้วยพลังที่สั่นสะเทือนไปทั่วผืนฟ้ากว้างใหญ่นั้น ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกพลังไร้ที่สิ้นสุดกลืนกินในทันที ทว่าผู้ที่อยู่ตรงนั้นอย่างหนิงฝานกลับทำราวกับว่าไม่เห็นเหตุการณ์อันใดทั้งสิ้น แม้แต่อาการกลัวเล็กน้อยก็ไม่มี เขาเพียงมองดูความแข็งแกร่งของด่านสวรรค์เท่านั้น
แล้วทันใดนั้น พลังงานอันน่าสะพรึงกลัวจากค่ายกลสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็สะท้อนกลับมา ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่าน ใบไม้ร่วงหล่นจนหมดต้น กวาดล้างเหล่ากองกำลังเผ่าบรรพกาลจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว กระดูกแตกหักสิ้น ผู้คนล้มลงกับพื้น ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย!
“อ๊าก!”
“บ้าจริง!”
“ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร!”
“พวกข้าร่วมมือเหล่าเซียนธุลีสีชาดถึงสามสิบสามตน แม้แต่โลกใบเล็กก็สามารถระเบิดได้ แต่กลับทำลายด่านสวรรค์ตรงหน้าไม่ได้!”
“…”
เหล่าเผ่าบรรพกาลต่างพากันร้องออกมาด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่ามีร้อนรนและโกรธแค้น
“ฮ่า ๆๆ!”
เวลานี้ หนิงฝานเงยหน้าหัวเราะขึ้นฟ้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าอย่าได้เสียพลังไปโดยเปล่าประโยชน์กับความแข็งแกร่งของด่านสวรรค์นี้เลย จะเป็นพวกเจ้าหรือต่อให้เป็นเหล่าเซียนธุลีสีชาดกว่าอีกสิบคน ก็อย่าหวังว่าจะทำลายมันได้!”
“สมควรตาย!”
“จะทำเยี่ยงไรกับสิ่งนี้ดี!”
“ทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไม่ได้ พวกเราก็จะเข้าไปในโลกมนุษย์ไม่ได้!”
“พวกเราต้องยอมล่าถอยเช่นนั้นรึ นี่มันแย่เสียจริง!”
“…”
เหล่าเผ่าบรรพกาลต่างโกรธจัด พวกเขาเป็นถึงเซียนธุลีสีชาด เขย่าฟ้าคว่ำมหานที จะคว้าดวงดาวหรือดวงจันทร์ก็มิใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้กลับถูกด่านสวรรค์ขัดขวางเอาไว้!
“หึ!”
“ข้ามิเชื่อว่าด่านสวรรค์นี้จะไม่สามารถทำลายลงได้!”
ยามนี้ เผ่าอาชูร่าตนนั้นตะโกนขึ้นด้วยความเย็นชา จากนั้นก็ออกคำสั่งเพิ่มทันที
ในไม่ช้า ปรมาจารย์ด้านค่ายกลก็รีบเร่งมาที่นี่เพื่อจะทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าให้สิ้นซาก
แต่ก็ต้องยอมแพ้ไปอย่างรวดเร็ว!
หลังจากนั้นเหล่าเผ่าบรรพกาลก็พากันครุ่นคิดหาวิธีอื่นต่าง ๆ นานา ทว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางยกด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไปได้
จนท้ายที่สุดเหล่าผู้คนก็รวมพลังกันอีกครั้ง และหันไปใช้กำลังของกองกำลังเพื่อทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแทน
ทว่าผลลัพธ์ไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงได้ กลับยังถูกหนิงฝานฉวยโอกาสนี้ลงมือฆ่าเซียนธุลีสีชาดไปอีกสองคน
ตอนนี้เหล่าเผ่าบรรพกาลเริ่มยอมแพ้กับความคิดที่จะทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว!
…
ณ โลกใบเล็กที่เผ่าอาชูร่าอาศัยอยู่
เผ่าอาชูร่านับเป็นเผ่าราชวงศ์ที่ทรงพลัง และโลกใบเล็กของพวกเขาก็กว้างใหญ่มาก
เวลานี้ ณ ศูนย์กลางของโลกใบเล็ก ตำหนักอาชูร่า
ผู้นำแห่งเผ่าอาชูร่านั่งอยู่บนบัลลังก์ ด้านล่างเต็มไปด้วยเหล่าเผ่าบรรพกาล
“ทุกท่าน หนึ่งล้านปีมานี้ หลากหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในโลกใบเล็กนี้ พลังต้นกำเนิดแทบจะหายไปจนหมดสิ้น ก่อนทันฑ์พิบัติเซียนจะมาถึง พวกเราจะต้องเอาโลกมนุษย์มาให้ได้เพื่อเพิ่มพลังต้นกำเนิดให้กับโลกของเรา ดังนั้นพวกเราจำต้องคิดหาวิธีทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าให้เร็วที่สุด!” ผู้นำเผ่าอาชูร่ามองไปยังเหล่าเผ่าบรรพกาลด้านล่างและกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันหนักแน่น
ได้ยินเช่นนั้น เหล่าเผ่าบรรพกาลก็มีท่าทีที่หนักอึ้งขึ้นมา!
พลังต้นกำเนิดโลกหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง หากพลังต้นกำเนิดหายไป โลกก็จะตาย!
เมื่อเวลาผ่านไป เผ่าบรรพกาลเผ่าต่าง ๆ อย่างพวกเขาก็จะต้องค่อย ๆ สาบสูญไปภายในสายธารแห่งกาลเวลา
โลกมนุษย์เป็นสถานที่เดียวที่พวกเขาสามารถเติมเต็มพลังต้นกำเนิดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถรามือจากเรื่องนี้ได้ง่ายเพียงนั้น หลังจากตกอยู่ในความเงียบงันชั่วครู่หนึ่ง ผู้นำเผ่าสุนัขสวรรค์ก็พูดขึ้นว่า “ข้าคิดวิธีหนึ่งได้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดออกมาหรือไม่!”
“พูดมา!”
เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้คนต่างพากันมองมา ผู้นำเผ่าสุนัขสวรรค์ก็พูดต่อ “ความแข็งแกร่งของด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ทุกท่านคงจะทราบกันดีแล้ว หากใช้พลังของพวกเราย่อมไม่มีทางทำลายลงได้ พวกเราจำต้องออกตามหาผู้ช่วยจากภายนอก!”
“ผู้ช่วยจากภายนอก?”
“ใช่! ข้าคิดออกถึงผู้ช่วยภายนอกที่ใหญ่ที่สุดนั่นก็คือสิบเผ่าพันธุ์ราชันบรรพกาล ทั้งสิบเผ่าพันธ์ราชันบรรพกาลมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ได้ยินมาว่าบางท่านก็มีความสัมพันธ์อันดีกับทัณฑ์พิบัติเซียน เพียงแค่พวกเราสามารถค้นหาเพียงไม่กี่ท่าน ไม่สิ ขอเพียงแค่สิบเผ่าพันธุ์ราชันบรรพกาลเพียงท่านเดียว ก็สามารถทำลายด่านสวรรค์เก่าชั้นฟ้าลงได้แล้ว!”
หลังจากที่ผู้นำเผ่าสุนัขสวรรค์พูดจบ ผู้คนต่างพากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย!
แต่ผู้นำเผ่าอาชูร่ากลับส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า “มิได้ เผ่าราชันบรรพกาลแข็งแกร่งมากเกินไป แม้พวกเขาทำลายด่านสวรรค์ได้จริง แต่พลังต้นกำเนิดของโลกมนุษย์จะมาถึงมือของพวกเราหรือ!”
“ใช่แล้ว! ด้วยความกระหายของเผ่าราชันบรรพกาล โลกมนุษย์ย่อมไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้!”
“ใช่! หากมิใช่ทางเลือกสุดท้าย ก็มิต้องหาเผ่าราชันบรรพกาลมาหรอก!”
หลายคนเห็นด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเกรงกลัวเผ่าราชันบรรพกาลเป็นอย่างมาก!
ผู้นำเผ่าสุนัขสวรรค์พูดขึ้นว่า “หากไม่สามารถใช้เผ่าราชันบรรพกาลได้ เช่นนั้นคงทำได้เพียงหาเผ่าราชวงศ์เผ่าอื่นมาร่วมมือ รวบรวมผู้อยู่ในขอบเขตเซียนธุลีสีชาดให้เพียงพอ ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงได้!”
ผู้นำเผ่าอาชูร่าพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัวอีกครั้ง “แม้ว่าแผนการนี้จะดูเป็นไปได้ แต่ภายใต้ทัณฑ์พิบัติเซียน มีหลายเผ่าราชวงศ์ที่ถูกกวาดล้างจนต้องหลบหนีไป หากต้องการรวบรวมเผ่าราชวงศ์ให้เพียงพอก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย!”
สิ้นคำพูดนั้น ผู้คนต่างยิ่งทุกข์ใจ
เห็นเช่นนั้นแล้ว ผู้นำเผ่าสุนัขสวรรค์ก็ไม่มีความคิดอันใดอีก!
ทว่าตอนนี้เอง แววตาของผู้นำเผ่าอาชูร่าก็เปล่งประกายขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ข้าคิดแผนการหนึ่งออกแล้ว ด่านสวรรค์นั่นเราสามารถหาทางทำลายจากภายในได้ ลองให้คนของเราเข้าไปในด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ด้วยการโจมตีที่ผสานนอกและใน มันย่อมมีความหวังที่จะทำลายด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงได้!”
“วิธีการนี้…พวกเราจะทำเช่นไรจึงจะสามารถเข้าไปในด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้?”
“ก็ส่งทหารเข้าไป แล้วให้คนของพวกเราแฝงอยู่ข้างในนั้น!” ผู้นำเผ่าอาชูร่าว่า
“ท่านบ้าไปแล้ว! ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีเซียนเผ่ามนุษย์ผู้นั้นเฝ้าดูแลอยู่ ส่งทหารเขาไป มีแต่จะส่งไปตายเท่านั้น!” ผู้คนต่างไม่เห็นด้วย!
ทว่าผู้นำเผ่าอาชูร่ากลับยิ้มอย่างเย้ยหยันและกล่าวว่า “มิใช่ปัญหา เผ่าปีศาจจอมตะกละ เผ่าสามตา เผ่าแปดแขน เผ่าตั๊กแตน รวมถึงเผ่าสะบั้นวิญญาณ ผู้นำทั้งห้าเผ่านั้นล้วนตายด้วยน้ำมือของเซียนเผ่ามนุษย์ ด้วยวิธีการนี้ พวกเขาย่อมต้องยินดีไปล้างแค้นให้กับผู้นำเผ่าของพวกเขาเป็นแน่!”
“ฮ่า ๆ!”
“ไม่เลว!”
“เช่นนั้นก็วิธีนี้แหละ!”
สายตาของผู้นำเหล่าเผ่าบรรพกาลเปล่งประกายขึ้นมา
ไม่ว่าผู้คนของทั้งห้าเผ่าจะเห็นหรือไม่เห็นด้วย นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว!
ท้ายที่สุดเมื่อได้แผนการแล้ว ผู้นำเหล่าเผ่าบรรพกาลก็บีบบังคับทหารของทั้งห้าเผ่าในทันที และเริ่มต้นจู่โจมด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า!