ตอนที่ 201 ข้ามีนามว่าเทียนเสีย หลอมเผ่ามนุษย์!
ณ โลกมนุษย์ ราชวงศ์เทพขนนก วังจักรพรรดินี
ครืน!
ด้วยเสียงอันดังกึกก้องออกมาจากการที่หนิงฝานแยกร่างออกมานั้น ปราณอันน่าเกรงขามขนาดมหึมาได้แผ่ไปทั่วทั้งพระราชวังจักรพรรดินี พริบตาถัดมา เขาก็กลายเป็นเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์!
“อืม!”
“ฝึกฝนมาร้อยปี ในที่สุดก็พัฒนามาจนถึงขั้นเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์!”
“วันนี้หากข้าใช้พลังปราณผันไตรวิสุทธ์ ข้าก็จะมีร่างเซียนเจ็ดทัณฑ์ถึงสามคน ด้วยพลังเช่นนี้ย่อมสามารถจัดการกับเหล่าเผ่าบรรพกาลนอกด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้”
เมื่อรับรู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย หนิงฝานก็รู้สึกพอใจมาก
ทว่าเมื่อครู่นี้ ขณะที่หนิงฝานก้าวเข้าสู่เซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์ ภายนอกด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็มีแขกที่ไม่คาดคิดมาเยือน
ภายในความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุด รถม้าที่แสนหรูหราคันหนึ่งข้ามเข้ามา คันรถเปล่งประกายด้วยแสงเซียนอันหาที่เปรียบมิได้ ส่องแสงพร่างพราวราวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ด้านหน้านั้นมีมังกรเก้าตัวที่ทำหน้าที่ลากรถ รูปลักษณ์ของพวกมันดูดุร้าย ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดซึ่งเต็มไปด้วยปราณแห่งขอบเขตกึ่งเซียนและมีกรงเล็บที่แข็งแรง
ในไม่ช้า รถม้าเก้ามังกรก็มาถึงด้านนอกโลกใบเล็กของเผ่าอาชูร่า
พรึ่บ!
ผู้นำเผ่าอาชูร่าและเหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาลต่างพากันออกมาจากโลกใบเล็ก เมื่อเห็นว่ารถม้าเก้ามังกรมาถึง สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“ขอต้อนรับเผ่าสวรรค์!”
ทันใดนั้น ทุกคนก็ทำความเคารพให้กับรถม้าเก้ามังกร
“มิต้อง!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากภายในรถม้าเก้ามังกร แม้ว่าเสียงนั้นจะเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความหนักแน่และทรงพลัง
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น ชายชราในชุดคลุมสีขาวก็ก้าวลงมาจากรถม้าคันนั้น คนผู้นี้ดูแข็งแรงแม้จะแก่ชราแล้ว รอบตัวมีกลิ่นอายแห่งเซียนกำจายออกมา ทุกอิริยาบถของเขาเปี่ยมไปด้วยปราณของเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์อันน่าพรั่นพรึง ทั่วร่างของเขานับว่าน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้!
“ข้ามีนามว่า เทียนเสีย ในเมื่อข้ายอมรับผลประโยชน์จากพวกเจ้าแล้ว ย่อมต้องช่วยพวกเจ้าแน่นอน พูดมาว่าพวกเจ้าเชิญข้ามาด้วยเรื่องใด?”
ชายชราในชุดคลุมสีขาวเรียกตนเองว่าเทียนเสีย เขามองไปทางเหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาล ท่าทางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายเป็นอย่างมาก
ยามนี้แม้ว่าในใจของเหล่าผู้คนจะไม่ค่อยสบายนัก แต่ก็มิกล้าเอ่ยอันใดออกมา
ผู้นำเผ่าอาชูร่าพูดขึ้นว่า “ท่านเทียนเสีย ในครั้งนี้ที่เชิญท่านมาก็เพื่อต้องการให้ท่านทำลายด่านสวรรค์ให้พวกข้า ด่านสวรรค์แห่งนี้มีนามว่าด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า…”
พูดจบ ผู้นำเผ่าอาชูร่าก็พูดต่อ “โอ้! จริงสิ ด่านสวรรค์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่ามนุษย์ โลกมนุษย์ในตอนนี้ถูกปกครองโดยเผ่ามนุษย์”
“หืม? เผ่ามนุษย์”
ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเทียนเสียก็เต็มไปด้วยความรังเกียจทันที
เพราะหากสืบย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิดของเผ่าสวรรค์ พวกเขาก็แยกออกมาจากเผ่ามนุษย์ แม้ว่าในตอนท้าย สายเลือดจะเปลี่ยนไป สามารถยืนหยัดด้วยตนเองจนกลายเป็นหนึ่งในเผ่าราชันบรรพกาลทั้งสิบ แต่ครั้งหนึ่งสถานะของเผ่ามนุษย์ถูกเผ่าสวรรค์มองว่าเป็นความอัปยศตลอดกาล
“คิดไม่ถึงว่าโลกมนุษย์ที่แม้ว่าจะยังมีเผ่ามนุษย์อยู่ยังพัฒนามาถึงระดับนี้ได้”
“เผ่ามนุษย์ที่ต่ำต้อยพวกนั้นมีชีวิตอยู่บนโลกไปอีกหนึ่งวัน ถือเป็นการสบประมาทเผ่าสวรรค์ของข้า”
“ในเมื่อข้ามาแล้ว ก็มิอาจอนุญาตให้เผ่ามนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกอีกต่อไป นำทางข้าไป”
เห็นเช่นนั้นเหล่าผู้นำเผ่าโบราณก็ดูดีใจขึ้นมา และพาเทียนเสียมาถึงภายนอกด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
เพิ่งมาถึงภายนอกด่านสวรรค์เก่าชั้นฟ้า เทียนเสียก็มองเห็นผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ภายในด่านสวรรค์แล้ว
พรึ่บ!
เวลานี้ ในดวงตาคู่นั้นของเขาลุกโชนไปด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว
แล้วผู้นำเผ่าอาชูร่าก็พูดขึ้นว่า “ท่านเทียนเสีย นี่คือด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มีโลกใบเล็กทั้งเก้าเป็นรากฐาน พวกมันถูกหล่อหลอมด้วยค่ายกลเซียน ทำให้แข็งแกร่งมาก แม้กึ่งเซียนกว่าสิบคนลงมือก็ไม่สามารถทำลายลงได้ นี่คือเหตุผลที่พวกข้าเชิญท่านมาที่นี่”
“โอ้?”
เทียนเสียเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสดู “แม้สายเลือดของเผ่ามนุษย์จะสกปรกและต่ำต้อย แต่ก็อดพูดไม่ได้ว่าด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้านั้นทรงพลังจริง ๆ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้”
“หา?”
“ท่านเทียนเสียก็ไม่สามารถทำลายมันได้หรือ?”
“เช่นนั้นควรทำเยี่ยงไรดี!?”
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาลก็แย่ลงในทันที ทุกคนต่างรู้สึกผิดหวัง
เมื่อเห็นเหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาลเริ่มผิดหวัง เทียนเสียกลับหรี่ตาลงพร้อมยกยิ้มขึ้น “แม้ด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าจะทรงพลังมาก แต่ก็ต้องการคนคอยคุ้มกันดูแล หากข้าลงมือฆ่าเผ่ามนุษย์ทุกคนด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็คงจะพังทลายลงมาเอง!”
“ทำลายทั้งเผ่ามนุษย์!”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว เหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาลล้วนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
ถึงพวกเขาจะไม่ได้สนใจเผ่ามนุษย์ แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะทำลายทั้งเผ่าพันธุ์ อย่างมากที่สุดก็ให้เป็นทาสรับใช้ หรือไม่ก็เอาไว้กินเลือดกินเนื้อ อย่างไรก็ตาม เผ่าสวรรค์ตรงหน้าเขากับเผ่ามนุษย์มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน กลับพูดออกมาว่าจะทำลายทั้งเผ่ามนุษย์!
นี่มัน…
แม้เหล่าผู้นำเผ่าบรรพกาลจะตกใจ แต่ก็มิได้มีผู้ใดคัดค้าน กลับดีอกดีใจและร้องตะโกนให้กับเทียนเสีย “เช่นนั้นเชิญท่านเทียนเสียลงมือเถอะ!”
“ได้!”
เทียนเสียพยักหน้า
ครืน!
ชั่วอึดใจถัดมา เขาหยิบเตาแห่งเซียนขึ้นมา บนนั้นสลักข้อความเอาไว้สามบรรทัด
หลอมสวรรค์
หลอมแผ่นดิน
หลอมเลือดของทุกสรรพสิ่ง
“นี่คือเตาหลอมสวรรค์ ใช้เลือดแห่งเผ่าสวรรค์ของข้าเป็นแนวทางเพื่อหลอมรวมเผ่ามนุษย์ผู้ต่ำต้อยทั้งหมดด้วยตัวข้าเอง”
เมื่ออธิบายจบ เทียนเสียก็ใช้เลือดของตัวเองหยดลงบนสิ่งนั้นทันที
พรึ่บ!
ทันใดนั้น พลังของเขาก็สั่นสะเทือน เตาหลอมสวรรค์ในมือระเบิดออกมาพร้อมกับแสงแห่งเซียนที่เจิดจ้า หลังจากนั้นตัวเตาก็ปะทุออกมา เพียงชั่วพริบตา ขนาดของมันก็ใหญ่ขึ้น แล้วหยดเลือดแห่งเผ่าสวรรค์ในนั้นก็หลั่งเลือดออกมา
เทียนเสียพลันเปล่งเสียงออกมาดังกึกก้องราวกับเสียงสวรรค์ที่ร้องคำราม “วันนี้ข้า เทียนเสีย ในนามเผ่าสวรรค์ ขอหลอมเลือดมนุษย์อันต่ำต้อยของเผ่ามนุษย์!”
ครืน!
สิ้นคำ เขาก็เขย่าเตาหลอมสวรรค์ในมือทันที ฉับพลันนั้น กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งด่านสรรค์เก้าชั้นฟ้าและปกคลุมไปทั้งโลกมนุษย์
ตอนนี้เอง ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ภายในด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทั้งหมดรู้สึกว่าเลือดในร่างกายไหลพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง ไม่สามารถควบคุมได้จนต้องเอามันออกมาจากร่าง
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น!?”
ภายในนั้น จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนที่ควบคุมดูแลอยู่ชั้นเก้าของด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเลือด จึงได้หายตัวออกมาอยู่เหนือด่านสวรรค์ สายตาพลันมองเห็นเทียนเสียรวมถึงเตาหลอมสวรรค์ขนาดใหญ่ซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้กำลังครอบคลุมพื้นที่ไปถึงครึ่งหนึ่งในความว่างเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นเทียนเสียหรือเตาหลอมสวรรค์ ทั้งสองสิ่งนี้ต่างทำให้หลัวชิงเซียนรู้สึกถึงความหวาดกลัว เลือดทั้งร่างกายเดือดพล่าน!
“ท่านเป็นใคร!?”
“ดูแล้วเจ้าก็คงเป็นเผ่ามนุษย์ เหตุใดจึงได้ช่วยเผ่าบรรพกาลมาทำลายเผ่ามนุษย์ของข้า!”
หลัวชิงเซียนถามเทียนเสีย
ทว่าเทียนเสียกลับหัวเราะอย่างเย็นชาและตอบกลับว่า “บังอาจ! ข้าคือเผ่าสวรรค์ มิใช่เผ่ามนุษย์สกปรกต่ำต้อยเช่นพวกเจ้า วันนี้ในนามเผ่าสวรรค์ ข้าจะหลอมเผ่ามนุษย์ทั้งหมดของพวกเจ้า พวกเจ้าที่อยู่ในโลกทำให้เผ่าสวรรค์ของข้าต้องเสื่อมเสีย!”
ขวับ!
หลังพูดจบ เขาก็เขย่าเตาหลอมสวรรค์อย่างแรง พลังอันน่าเกรงขามม้วนตัวไปยังด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทันที!
เวลาเดียวกันนั้นเอง ภายในด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์จำนวนไม่น้อยที่อ่อนแอ ร่ายกายระเบิดออก เลือดพลันสาดกระเซ็น!
หลักหมื่น!
หลักแสน!
หลักล้าน!
เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของเผ่ามนุษย์กว่าล้านคนก็ระเบิดออก เลือดรวมตัวกันจนกลายเป็นธารโลหิต ก่อนจะถูกดูดเข้าไปภายในเตาหลอมสวรรค์ ทันทีที่เข้าไปในนั้นก็ถูกละลายจนเหลือเพียงความว่างเปล่า
“อ๊าก!”
“แย่แล้ว!”
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าตกใจเช่นนี้ ทั่วทั้งด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็เกิดความวุ่นวายในทันที เพราะคาดไม่ถึงว่าจะมีมนุษย์ที่สามารถผ่านเข้ามาในด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและลงมือกับพวกเขาได้
สีหน้าของจักรพรรดินีหลัวชิงเซียนถึงกับเปลี่ยนไป นางรีบไปแจ้งข่าวกับหนิงฝานทันที
ไม่ทันรอให้จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนได้แจ้งข่าว ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ทั่วทั้งโลกมนุษย์ต่างได้รับผลกระทบจากเตาหลอมสวรรค์กันทั้งสิ้น!
รวมถึงหนิงฝานที่เพิ่งมาถึง เขาก็รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของเลือดในร่างกายตนเองเช่นกัน
“นี่มันอะไรกัน!”
เมื่อพบเจอการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ หนิงฝานรีบรุดไปยังด่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าทันที ครั้นเห็นเตาหลอมสวรรค์ในมือของเทียนเสียที่กำลังดูดกลืนเผ่ามนุษย์กว่าล้านคน ทันใดนั้น ทั่วร่างของเขาก็ระเบิดพลังออกมา!
“เผ่าสวรรค์รนหาที่ตาย!”