ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 260 ข้อสรุป(กลาง)

ตอนที่ 260 ข้อสรุป(กลาง)

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​เมื่อยาม​เซิ​นข​อง​วัน​ต่อมา​

“​เรียบร้อย​แล้ว​”​ ​เขา​เจอ​สือ​อี​เหนียง​ก็​บอกว่า​ ​“​เด็ก​เลี้ยง​ในนามของ​หวัง​หลัง​”

เร็ว​ขนาด​นี้​…​

สือ​อี​เหนียง​ถาม​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​ท่าน​โหว​ทำได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​แล้ว​สังเกตเห็น​ว่า​แม้​เขา​จะ​หน้าตา​สะอาดสะอ้าน​ ​แต่​ริมฝีปาก​กลับ​แห้ง​กร้าน​ ​อีกทั้ง​ยัง​สวม​เสื้อผ้า​ที่​สวม​ออก​ไป​เมื่อวาน​ ​บน​ตัว​มีกลิ่น​สุรา​เหม็น​ๆ​ ​นาง​จึง​สงสัย​ว่า​เมื่อวาน​เขา​ไม่ได้​นอนหลับ​พักผ่อน​แล้ว​คง​ดื่ม​สุรา​ที่​สกุล​หวัง​ไป​ไม่น้อย​ ​จึง​ระงับ​ความตกใจ​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​ไป​ตัก​น้ำ​เข้ามา​รับใช้​เขา​ล้างหน้าล้างตา​ ​“​ท่าน​โหวดื​่ม​สุรา​มา​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ให้​โรง​ครัว​ทำ​น้ำแกง​แก้​เมา​หรือ​ต้ม​น้ำแกง​ไก่​มา​ให้ท่าน​ดื่ม​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่เป็นไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​แค่​ยัง​ไม่ได้​นอน​ตั้งแต่​เมื่อวาน​ ​เจ้า​ปู​เตียง​ให้​ข้างี​บสั​กหน​่อย​เถิด​”

ทุกคน​เดิน​อยู่​รอบตัว​เขา​ ​ในที่สุด​ก็​รับใช้​เขา​เข้านอน​ ​เดิมที​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​รับใช้​เขา​เข้านอน​แล้ว​ค่อย​ถามถึง​สถานการณ์​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับเป็น​คนพูด​ออกมา​ก่อน​

“​ท่านกั​๋​วกง​เป็น​คน​หูเบา​ ​แต่​เขา​ไม่ใช่​คน​ไม่รู้​อะไร​ ​พอ​ข้า​บอก​เขา​อย่างชัดเจน​ ​เขา​ก็​เห็นด้วย​ทันที​”

ไม่มีทาง​ง่ายดาย​ขนาด​นี้​

หาก​ง่ายดาย​ขนาด​นี้​ ​หรือว่า​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พูด​ไม่​เป็น​เช่นนั้น​หรือ​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านาง​ไม่เชื่อ​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​บาง​เรื่อง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ไม่รู้​ ​พูด​ไม่ตรงประเด็น​ ​บวก​กับ​สกุล​ญาติ​พวก​นั้น​เอะอะโวยวาย​อยู่​ข้างๆ​ ​ท่านกั​๋​วกง​จึง​คิด​ไม่ได้​และ​ไม่เข้าใจ​”

“​ต้อง​รู้​ว่า​ ​สืบทอด​ตำแหน่ง​คือ​ความเมตตา​ของ​ราชวงศ์​ ​แต่​ผู้​ที่จะ​มาสื​บท​อด​ตำแหน่ง​กลับเป็น​เรื่อง​ของ​สกุล​หวัง​ ​ตอนนี้​เขา​มีลูก​สะใภ้​ ​เขา​สามารถ​รับ​หลาน​มา​เลี้ยง​ได้​ ​แต่​หาก​เขา​รับ​บุตรชาย​มา​เลี้ยง​ ​อนาคต​ยัง​ต้อง​ดู​ว่า​บุตรชาย​จะ​มีทา​ยาท​ให้​หวัง​หลัง​หรือไม่​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​หวัง​หลัง​ก็​จะ​ไม่ใช่​ทายาท​สืบทอด​แล้ว​ ​หาก​ให้​สือ​เหนียง​เป็น​คนที​่​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​ ​หนึ่ง​คือ​สามารถ​สืบทอด​ตำแหน่ง​ ​สอง​คือ​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ก็​คือ​บิดา​ของกั​๋​วก​งคน​ต่อไป​ ​เช่นนั้น​ก็​สามารถ​จัด​พิธีศพ​ที่​ดีกว่า​นี้​ได้​ ​มิฉะนั้น​ ​ต่อไป​คง​ต้อง​มอบ​ตำแหน่งกั​๋​วกง​ให้​บุตรบุญธรรม​ ​แต่​ไม่ใช่​หวัง​หลัง​ที่​เป็น​บุตรชาย​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​”

“​สุดท้าย​ท่านกั​๋​วก​งบ​อก​ว่า​เขา​รัก​และ​เอ็นดู​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​มากกว่า​ ​พอ​ข้า​พูด​อธิบาย​ออก​ไป​ ​เขา​ก็​เห็นด้วย​ทันที​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ในทันที

การ​ใช้​เรื่อง​ทายาท​สืบทอด​และ​เรื่อง​พิธีศพ​มา​เกลี้ยกล่อม​ท่านกั​๋​วกง​ ​ก็​คงมี​แค่​คนที​่​เกิด​ใน​สกุล​ขุนนาง​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เท่านั้น​ที่​คิดได้​ ​เมื่อ​เขา​เป็น​คนพูด​ออกมา​ ​ท่านกั​๋​วกง​ถึง​ฟัง​เข้าหู​

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​นั้น​อายุ​ยังน้อย​ ​คุณสมบัติ​ของ​เขา​ก็​ยังน้อย​เกินไป​

“​ลำบาก​ท่าน​โหว​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ถือโอกาส​เอ่ย​ชื่นชม​เขา​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เรื่อง​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​“​…​บอกว่า​อยาก​เจอ​นาย​หญิง​สาม​สกุล​เฉียว​ ​ข้า​ถาม​ท่าน​ป้า​สอง​คนที​่​คอย​ดูแล​นาง​แล้ว​ ​ท่าน​ป้า​สอง​คน​นั้น​บอกว่า​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ร่างกาย​แข็งแรง​ดี​ ​พบปะ​แขก​คง​ไม่น่า​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​…​”

หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​บอกว่า​เฉียว​เหลียน​ฝัง​อยาก​เจอ​ท่าน​แม่​ของ​ตัวเอง​ ​รอยยิ้ม​ที่​แผ่วเบา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มลาย​หาย​ไปรา​วกับ​หมอกยาม​เช้า​ภายใต้​แสงอาทิตย์​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​เฉียว​เหลียน​ฝัง​สามารถ​พบปะ​แขก​ได้​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เรียบ​เฉย​แล้ว​พูด​ขัดจังหวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นาง​ตั้งครรภ์​อยู่​ ​อยู่​ดูแล​ร่างกาย​ที่​จวน​ให้​มาก​ๆ​ ​แล้วไป​มาหา​สู่​กับ​คน​พวก​นั้น​ให้​น้อย​ๆ​ ​เสียหน่อย​”

ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ที่​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ก็​หยุดนิ่ง​ทันที

นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้สติ​กลับมา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​นอนลง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ได้​ไป​ทานข้าว​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ตั้ง​หลาย​วัน​แล้ว​ ​เจ้า​อย่า​ลืม​ปลุก​ข้า​ตื่น​ยาม​โหย​่ว​”​ ​ทำท่า​ที​ว่า​ไม่จำเป็น​ต้อง​พูด​อะไร​อีก​

มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​พอดี​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​เฉียว​อี๋​เหนียง​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

นาง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​หลับตา​แล้ว​ ​“​อย่า​ลืม​ปลุก​ข้า​ตื่น​ยาม​โหย​่ว​”

เขา​พูด​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ ​แต่​น้ำเสียง​นั้น​หนักแน่น

สือ​อี​เหนียง​จึง​เดิน​ออก​ไป​ที่​ห้องโถง

“​ท่าน​โหว​…​”​ ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ออกมา​คนเดียว​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ก็​มีสี​หน้า​ผิดหวัง​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยื่น​คอ​ออก​ไป​มอง​ด้านหลัง​ของ​สือ​อี​เหนียง

“​ท่าน​โหว​พึ่ง​จะ​พักผ่อน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​เฉียว​อี๋​เหนียง​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​บอก​ข้า​ได้​เหมือนกัน​”

เฉียว​เหลียน​ฝัง​หา​ข้ออ้าง​ไม่ได้​จึง​พูดว่า​ ​“​ข้า​แค่​จะ​มาถาม​เรื่อง​ที่​ข้า​ขอ​ครั้งก่อน​ ​เรื่อง​ที่​ให้ท่าน​แม่​มา​เยี่ยม​ข้า​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เอาไว้​อย่างชัดเจน​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​เจ้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ควร​พักผ่อน​อย่างสงบ​”

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เบิกตา​กว้าง​ ​ทำท่า​ที​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​พูดว่า​ ​“​ข้า​…​ข้า​อยาก​เจอ​ท่าน​โหว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่สน​ใจ​ ​นาง​หัน​ตัว​ออก​เปิดทาง​ให้​ทันที​

เฉียว​เหลียน​ฝัง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ลังเล​ ​ทำ​สีหน้า​ตกใจ​และ​สับสน​อยู่นาน​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​ไม่​ควร​รบกวน​เวลาพักผ่อน​ของ​ท่าน​โหว​ ​ข้า​ขอตัว​กลับ​ไป​ก่อน​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ออก​ไป​ส่ง​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​ส่วนตัว​เอง​เดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​นั่ง​เย็บ​ปัก​ ​‘​ลม​หุบเขา​’​ ​ที่​ยัง​ทำไม​่​เสร็จ​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​

ผ่าน​ประตู​ข้างทาง​ทิศตะวันออก​ไป​แล้ว​ ​ซิ่ว​หยวน​ก็​ถาม​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เบา​ๆ​ ​“​คุณหนู​ ​เมื่อ​ครู่​ทำไม​ท่าน​ไม่​เข้าไป​ถาม​ล่ะ​เจ้า​คะ​”​

เฉียว​เหลียน​ฝังหัว​เราะ​อย่าง​เย้ยหยัน​เบา​ๆ​ ​“​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​มี​เล่ห์เหลี่ยม​ ​ในเมื่อ​นาง​กล้า​ปล่อย​ให้​ข้า​เข้าไป​ถาม​ ​แสดงว่า​นาง​มี​วิธี​รับมือ​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ข้า​บุ่มบ่าม​เข้าไป​ถาม​เช่นนั้น​ ​ก็​หลงกล​นาง​น่ะ​สิ​”

ซิ่ว​หยวน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​คิด​ว่า​มัน​มีเหตุผล​ ​จึง​พยักหน้า​ซ้ำๆ​

เฉียว​เหลียน​ฝัง​บอก​นาง​ ​“​เจ้า​ฉลาด​กว่านี​้​หน่อย​ ​เรา​ต้องหา​โอกาส​เจอ​ท่าน​โหวตา​มลำ​พัง​อีกครั้ง​”

ซิ่ว​หยวน​ตอบรับ

แต่​น่าเสียดาย​ที่​วัน​ต่อมา​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอาแต่​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​ลาน​ข้างนอก​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​แม้แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​เห็น​เขา​แค่​เช้า​และ​เย็น​

เมื่อถึง​วันที่​หก​เดือน​สอง​ก็​มี​ข่าว​แพร่สะพัด​ออกมา​ว่า​ ​สวี​ลิ่ง​หนิง​ ​คุณชาย​สาม​ได้รับแต่งตั้ง​ให้​เป็น​นายอำเภอ​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง

พอ​ข่าว​นี้​แพร่​ออกมา​ก็​ก่อเกิด​ความโกลาหล

สวี​ลิ่ง​อี๋​พึ่ง​จะ​สูญเสีย​ตำแหน่ง​แม่ทัพ​ทหาร​ทั้ง​ห้า​เหล่าทัพ​แห่ง​กองทัพ​ภาค​ ​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ไป​ ​ฮ่องเต้​กลับ​แต่งตั้ง​คุณชาย​สาม​สกุล​สวี​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ตำแหน่ง​เล็ก​ ​ขุนนาง​ระดับ​เจ็ด​ ​แต่​มัน​ก็​เป็น​ตำแหน่ง​ขุนนาง​

ทำให้​ผู้คน​วิพากษ์วิจารณ์​ใน​ความเห็น​ของ​ฮ่องเต้

ทันใดนั้น​ ​ก็​มี​รถม้า​เคลื่อน​มา​จอด​จน​เต็ม​หน้า​ประตู​จวน​สกุล​หลัว​ ​คน​หลั่งไหล​มา​แสดงความยินดี​อย่างไม่ขาดสาย

ฮู​หยิน​สาม​กลายเป็น​จุดสนใจ​ของ​ทุกคน​เป็นครั้งแรก​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​สดชื่น​มีชีวิตชีวา​ ​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีแดง​ ​สั่ง​ให้​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ชงชา​ต้ม​น้ำ​ ​ยก​สุรา​ทำอาหาร​ทุกวัน​ ​ยุ่ง​วุ่นวาย​เป็นอย่างมาก​ ​มีหน้ามีตา​อย่างที่​สุด​ ​แล้วยัง​หา​เวลา​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​คุณชาย​สาม​เป็น​คนฉลาด​เจ้าค่ะ​ ​แต่​เรื่อง​ชีวิตประจำวัน​กลับ​ไม่​ค่อย​รู้เรื่อง​ ​ออก​ไป​ไกล​ขนาด​นั้น​ ​ข้า​จะ​ไม่​เป็นห่วง​ได้​เช่นไร​”

ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​“​เรือน​ของ​เขา​ยัง​มี​อี้​อี๋​เหนียง​ไม่ใช่​หรือ​ ​เช่นนั้น​ก็​ให้​นาง​ไป​ด้วย​”

ฮู​หยิน​สาม​แอบ​กังวล​ใน​ใจ​ ​แต่กลับ​ไม่กล้า​แสดง​สีหน้า​ออกมา​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นาง​คน​นั้น​ก็​ไม่รู้​เรื่อง​เจ้า​คะ​ ​เมื่อก่อน​ใน​หนึ่ง​เดือน​รับใช้​ท่าน​พี่​ไม่​ถึง​สาม​วัน​”

“​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย​จริงๆ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​นาง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​เจ้า​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา​ ​เรื่อง​พวก​นี้​เจ้า​ก็​เป็น​คน​จัดการ​เอง​เถิด​”

“​คุณชาย​สาม​โตมา​กับ​ท่าน​ ​นิสัย​ของ​เขา​ท่าน​รู้ดี​ที่สุด​”​ ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​ ​“​เดิมที​อยาก​จะ​หา​คน​มารับ​ใช้​เขา​เพิ่ม​ ​แต่​เขา​ตา​สูง​ ​คน​นี้​ ​คน​นั้น​ก็​ไม่พอใจ​ ​เรื่อง​นี้​ถึง​ได้​ล่าช้า​เช่นนี้​ ​ตอนนี้​ต้อง​ออก​ไป​แล้ว​ ​ยิ่ง​เลือก​คนที​่​เหมาะสม​ไม่ได้​”​ ​จากนั้น​ก็​หน้าแดง​ ​“​ข้า​ยัง​เป็นห่วง​ ​คิด​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ควร​ไป​กับ​เขา​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มีใคร​รับใช้​ท่าน​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​แอบ​เหลือบมอง​ไท่ฮู​หยิน​

ไท่ฮู​หยิน​รู้สึก​ว่า​มัน​ถึง​เวลา​แล้ว​ ​จึง​พยักหน้า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​อายุ​เจ็ดสิบ​แปดสิบ​เดิน​ไม่ได้​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่ต้องการ​ให้​เจ้า​มาคอย​รับใช้​ดูแล​ ​แต่​หาก​เจ้า​ไป​แล้วก็​จะ​ไม่มีใคร​ดูแล​จวน​…​”

ที่​พวก​นาง​สอง​คนพูดมากัน​ตั้ง​เยอะแยะ​ ​ก็​แค่​อยาก​ให้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​

ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​หาก​พูดถึง​คนดู​แล​จวน​ ​จวน​ของ​เรา​ก็​มี​คนฉลาด​อยู่​คน​หนึ่ง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“​หา​?​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เลิก​คิ้ว

“​น้อง​สะใภ้​สี่​ไง​เล่า​เจ้า​คะ​!​”​ ฮู​หยิน​สาม​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​“​นาง​อ่านหนังสือ​ก็​ออก​ ​ช่วงนี้​คอย​ช่วย​ข้า​ดูแล​จวน​ ​เพียงแค่​แนะนำ​เล็กน้อย​ก็​เข้าใจ​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​ข้า​เห็น​ว่านาง​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​ไม่​ให้​นาง​ลองดู​ล่ะ​เจ้า​คะ​”

“​นาง​หรือ​?​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​“​ยัง​อายุ​ไม่​ถึง​สิบห้า​เลย​…​”

นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ลังเล

ฮู​หยิน​สาม​รีบ​พูดว่า​ ​“​ความสามารถ​ไม่ได้​ขึ้นอยู่กับ​อายุ​เจ้าค่ะ​ ​กาน​หลัว​ยัง​ได้​เป็น​สมุหนายก​ตั้งแต่​อายุ​เพียง​สิบสอง​ปี​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​อีก​ไม่​กี่​เดือน​นาง​ก็​สิบห้า​แล้ว​…​”​ ​นาง​พยายาม​พูดจา​หว่านล้อม

ไท่ฮู​หยิน​ลังเล​อยู่นาน​ ​สุดท้าย​ก็​เห็นด้วย​ ​“​เช่นนั้น​ตอนนี้​ก็​ให้​นาง​ลองดู​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​แปลกใจ​ ​กลัว​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​เปลี่ยนใจ​จึง​บอก​ให้​ชิว​หลิง​ไป​เชิญ​สือ​อี​เหนียง​มา​ ​“​…​ข้า​ไม่ได้​พูด​เกิน​จริง​ ​ท่าน​ลอง​ถาม​ประเดี๋ยว​ก็​รู้​เจ้าค่ะ​”

หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​มา​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​เอ่ย​ถาม​นาง​ ​แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ต้อง​ปฏิเสธ​ ​แต่ฮู​หยิน​ก็​พยายาม​รับรอง​ ​ทุกคน​ปฏิเสธ​กัน​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ฝืน​รับ​ป้าย​คู่​และ​กุญแจ​มา​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ ​“​…​พี่สะใภ้​สาม​จะ​ออกเดินทาง​เมื่อไร​หรือ​ ​ช่วงนี้​ต้อง​คอย​ชี้แนะ​ข้า​สักหน่อย​นะ​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​สาม​ราวกับ​ยก​ก้อนหิน​ออกจาก​อก​ ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​มั่นใจ​ ​“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ก่อนที่​ข้า​จะ​ออกเดินทาง​ข้า​จะ​ต้อง​มอบ​หน้าที่​นี้​ให้​เจ้า​อย่างเหมาะสม​ ​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​เจ้า​กระวนกระวาย​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​แน่นอน​”​ ​จากนั้น​ก็​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ขอตัว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​ ​ตรง​ไป​ยัง​โถง​บุปผา​ของ​ส่วน​รายงาน

ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ที่​จวน​ต่าง​เตรียมใจ​ไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​แต่​พวก​นาง​แค่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​เร็ว​ขนาด​นี้​ ​และ​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่าฮู​หยิน​สาม​ไม่ได้​จากไป​อย่าง​เศร้าโศก​ ​แต่กลับ​ยอม​ปล่อยวาง​ ​พวก​นาง​ก็​เก็บความ​ดูถูก​นาง​ไว้​ใน​ใจ​ ​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ ​พากัน​ส่ง​นาง​ด้วยความยินดี​ ​บรรยากาศ​ครึกครื้น​กลมเกลียว​กัน

หู่​พั่ว​และ​จู๋​เซียง​ก็​มาด​้วย​ ​หู่​พั่ว​ช่วยดูแล​บุคลากร​ ​ส่วน​จู๋​เซียง​ช่วยดูแล​เรื่อง​เงิน​และ​ข้าวของ​ ​พวก​นาง​สอง​คน​ตรวจสอบ​บัญชี​กับ​บรรดา​ท่าน​ป้า​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​สาม​นั่ง​ฟัง​รายงาน​อยู่​ใน​ห้อง​ข้างใน​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มี​คน​มารา​ยงานฮู​หยิน​สาม​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​ซ่ง​มา​เจ้าค่ะ​”

ชิว​หลิง​วาง​สิ่งของ​ที่อยู่​ใน​มือ​ลง​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​ไป​ต้อนรับ​ที่​เรือน​หลัก​ของฮู​หยิน​สาม​

ฮู​หยิน​อธิบาย​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ ​“​น้อง​หญิง​บุตรสาว​อนุ​ของ​ข้า​เอง​ ​คิด​ว่าน​่า​จะ​รู้​ว่า​พี่เขย​ได้รับ​ตำแหน่ง​ ​จึง​มา​แสดงความยินดี​”​ ​แต่​นาง​ไม่​ไป​ต้อนรับ​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มี​คน​มารา​ยงา​นว​่า​มี​ใคร​มาบ​้าง​

ฮู​หยิน​สาม​ให้​สาวใช้​ไปดู​บ้าง​ ​ให้​ป้า​กาน​ไป​ชงชา​บ้าง​ ​ตัวเอง​ไป​ต้อนรับ​เอง​บ้าง​ ​ถึง​ยาม​ที่​ต้อง​จุด​ตะเกียง​แล้วแต่​ก็​ยัง​ตรวจ​บัญชี​รายวัน​ไป​ได้​แค่​ครึ่ง​เดียว​ ฮู​หยิน​สาม​จึง​บอก​ให้​คน​ไป​ตรวจดู​ลาน​ข้างนอก​ ​คน​กลับมา​รายงาน​ว่า​สวี​ลิ่ง​หนิง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ดื่ม​สุรา​อยู่​ลาน​นอก​ ​พวก​นาง​สอง​คน​จึง​ทานข้าว​เย็น​อย่างง่ายๆ​ ​แล้ว​ตรวจ​บัญชี​รายวัน​ต่อ​ ​จนถึง​ยาม​ไฮ​่​ถึง​ตรวจสอบ​เสร็จ​

พวก​นาง​นัด​กัน​จัดการ​บัญชี​คลังเก็บของ​พรุ่งนี้​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​ต้อง​ตรวจ​บัญชี​แล้วยัง​ต้อง​ตรวจ​สิ่งของ​ ​จากนั้น​ก็​ทาน​อะไร​ตอนกลางคืน​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป​

ในเมื่อ​พวกเขา​จะ​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ทิ้ง​ลูก​ๆ​ ​ไว้​ที่นี่

ฮู​หยิน​สาม​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ก็​บอก​ให้​สามี​คิด​หาวิ​ธี​

สวี​ลิ่ง​หนิง​ดื่ม​สุรา​ไป​ไม่น้อย​ ​เขา​จับมือฮู​หยิน​สาม​ ​“​เจ้า​ไป​กับ​ข้า​ก็​พอแล้ว​ ​ไม่ต้อง​ไป​สนใจ​พวกเขา​!​”

ฮู​หยิน​สาม​หน้าแดง​ ​พูด​บ่น​คุณชาย​สาม​ ​จากนั้น​ก็​สะบัด​มือ​ออก​แล้ว​เรียก​บ่าว​รับใช้​เข้ามา​ ​“​ไป​เรียก​คุณชาย​น้อย​สอง​คน​มา​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​พวกเขา​”

บ่าว​รับใช้​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป

คุณชาย​สาม​กอดฮู​หยิน​สาม​จาก​ด้านหลัง​ ​“​ไป​กัน​เถิด​ ​เรา​กลับ​เข้าไป​ข้างใน​กัน​”

ลมหายใจ​ที่​ร้อนผ่าว​ริน​รด​อยู่​ที่​คอ​ ฮู​หยิน​สาม​ตัวอ่อน​ลง

คุณชาย​สาม​หัวเราะ​อย่าง​พึงพอใจ​ ​จากนั้น​ก็​อุ้มฮู​หยิน​สาม​เข้าไป​ข้างใน​…​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​เรียก​สาวใช้​ให้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​รับใช้​

“​คุณชาย​น้อย​มา​แล้ว​หรือยัง​”

ฮู​หยิน​สาม​หน้าแดง​ราวกับ​ปัด​แก้ม​

สาวใช้​ก้มหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ยัง​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​สาม​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ไปหา​อีกครั้ง

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สาวใช้​ก็​กลับมา​รายงาน​ ​“​บอกว่า​คุณชาย​น้อย​ไม่อยู่​ที่​เรือน​เจ้าค่ะ​ ​หา​ทุกที่​แล้วก็​หาไม่​เจอ​”

ฮู​หยิน​สาม​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ตก​ ​“​ไปหา​อีกครั้ง​ ​ส่ง​คน​ไปหา​อีก​สอง​สาม​คน​”

ทันใดนั้น​นาง​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​สอง​สาม​วัน​มานี​้​สวี​ซื่อ​ฉิน​ไม่ได้​มาคา​รวะ​นาง

ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ก็​พลัน​ซีดเซียว​ลง​ทันที

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท