รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 251 ข้าเข้าสู่ขอบเขตพรตเต๋าแล้ว ดังนั้นข้าจะทำสิ่งใดก็ได้!

บทที่ 251 ข้าเข้าสู่ขอบเขตพรตเต๋าแล้ว ดังนั้นข้าจะทำสิ่งใดก็ได้!

บทที่ 251 ข้าเข้าสู่ขอบเขตพรตเต๋าแล้ว ดังนั้นข้าจะทำสิ่งใดก็ได้!

ร่างกายของหนิงเจี๋ยเปล่งรัศมีพร่างพราว เขาเดินไปยังประตูของสำนักไท่หัวด้วยสีหน้ายโส ไม่คิดจะเก็บซ่อนปราณของตนไว้แม้แต่น้อย

“คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านคือ?”

ศิษย์ผู้เฝ้าประตูสำนักไท่หัวเอ่ยถามหลังจากเห็นหนิงเจี๋ยเดินเข้ามา

เขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณของหนิงเจี๋ยที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซ้ำยังทำให้ร่างกายรู้สึกสั่นสะท้าน มองแวบแรกดูแล้วอีกฝ่ายไม่น่าจะมีเจตนาดีนัก

ทว่าเขาก็ยังคงปฏิบัติกับอีกฝ่ายด้วยความมีมารยาท ไร้ซึ่งความหยาบกระด้างต่อหนิงเจี๋ย

ความสัมพันธ์ของสำนักไท่หัวและแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะแน่นแฟ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกวันนี้สำนักไท่หัวมีตำแหน่งสูงส่ง แม้กระทั่งในแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางยังต้องไว้หน้าพวกเขา

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศิษย์จากสำนักไท่หัวได้รับความเคารพจากผู้คนในทุกที่ที่พวกเขาไป

ทว่าทุกคนในสำนักไท่หัวไม่มีผู้ใดกลายเป็นคนหยิ่งผยองหรือหลงระเริงจนมองไม่เห็นหัวผู้อื่น

เนื่องจากบรรพชนสำนักไท่หัวเข้มงวดกับเรื่องนี้มาก ครั้งหนึ่งเคยมีผู้อาวุโสท่านหนึ่งอ้างอำนาจบารมีของสำนักไท่หัวไปหาเรื่องสำนักอื่น ทว่าหลังจากที่ท่านบรรพชนทราบเรื่องนี้เข้า ก็ตรงไปตัดหัวของผู้อาวุโสผู้นั้นทันที

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครในสำนักไท่หัวกล้าทำผิดเช่นนั้นอีก

พรึ่บ!

หนิงเจี๋ยเมินเฉยต่อศิษย์ผู้นั้นด้วยสีหน้าเย็นชา เขาไพล่มือสองข้างไปด้านหลัง ก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณออกมาใส่ศิษย์ผู้นั้นจนกระเด็นออกไป แล้วกระอักเลือดออกจากปาก โลหิตกระเซ็นลงบนพื้นประหนึ่งบุปผาแย้มบาน

“เรื่องที่ครั้งก่อนไม่ได้ทำ ข้าก็จะทำมันในครั้งนี้…”

หนิงเจี๋ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขายกมือข้างหนึ่งแล้วสะบัดออก พลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าใส่ประตูของสำนักไท่หัวจนทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังในทันที

หลังจากนั้นเขาก็เดินเหยียบซากปรักหักพังก้าวไปข้างหน้า

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างทางที่เขาเดิน ทุกสิ่งรอบตัวเขากลายเป็นซากปรักหักพัง

ในครั้งนี้เป้าหมายของเขาไม่ได้มีเพียงการมาพาตัวเซี่ยเหยียนไป แต่เขายังต้องการจะล้างบางสำนักไท่หัว!

เขายังคงไม่ลืมเลือน ซ้ำยังจำได้อย่างชัดเจน ถึงความคับแค้นที่ประสบจากสำนักไท่หัวในครั้งนั้น

“ข้าชอบที่เจ้าทำตัวเลวทรามเช่นนี้”

หลิงเซิ่งส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

“ข้าเองก็ชอบ”

หนิงเจี๋ยหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความหยิ่งผยองและปีติยินดี ในเมื่อมีพลังอันแข็งแกร่ง ไยจึงต้องทนเก็บงำสันดานของตัวเองเอาไว้?

ช่างน่าเบื่อสิ้นดี!

ปลดปล่อยนิสัยตัวเองทำตัวตามธรรมชาติ พลังอันแข็งแกรงที่ถือครองไว้จึงจะไม่เสียเปล่า

ทว่าเขากลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าหลิงเซิ่งนั้นหมายมาดจะมอบความตายให้แก่ตัวเขาไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหัวเราะออกมาได้ดังและเปี่ยมสุขเช่นนี้

“ใครบังอาจมาก่อกวนสำนักไท่หัวของข้า!?”

“จงหยุดบัดเดี๋ยวนี้!”

มีเสียงตวาดดังกึกก้อง ตามมาด้วยร่างยอดฝีมือทะยานออกมาจากส่วนในของสำนักไท่หัวทีละร่าง

พวกเขาเหล่านี้คือผู้อาวุโสของสำนักไท่หัว

เวิงอู๋โยวเคยนำภาพเขาไท่หัวซึ่งท่านเซียนเป็นผู้วาดกลับมา ด้านในภาพนั้นมี ‘แสงแห่งไท่หัว’ อยู่ สามารถชักนำวิถีไท่หัวได้!

หลังจากพินิจภาพนี้แล้ว พวกเขาต่างก็ได้รับผลประโยชน์ ความแข็งแกร่งแต่เดิมถูกปรับปรุงขึ้นเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหนิงเจี๋ยแล้ว พวกเขาก็คล้ายกำลังรนหาที่ตายประหนึ่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เพียงแค่หนิงเจี๋ยกระทืบเท้าเบา ๆ กลับให้ความรู้สึกราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบลงที่หน้าอก พากันร่วงลงจากท้องฟ้ากระแทกลงพื้นอย่างแรงทีละคนทีละคน!

“เป็นเจ้า!”

“เหตุใดเจ้าถึงแข็งแกร่งเช่นนี้?!”

ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสที่จำหนิงเจี๋ยได้เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ครั้งล่าสุดที่หนิงเจี๋ยมายังที่แห่งนี้ยังอยู่เพียงขอบเขตนิพพาน หากแต่ในยามนี้ ความรู้สึกที่พวกเขาสัมผัสได้จากหนิงเจี๋ยนั้นแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเหล่าบรรดาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เสียอีก!

พวกเขาต่างรู้สึกเหลือเชื่อ ความเร็วในการเลื่อนขั้นของหนิงเจี๋ยนั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เร็วจนชวนให้คนตื่นตะลึง!

“เซี่ยเหยียนล่ะ? นางอยู่ที่ใด?”

หนิงเจี๋ยเอ่ยถามออกมาด้วยเสียราบเรียบ

หากเซี่ยเหยียนไม่ได้อยู่ที่สำนักไท่หัว นางก็คงจะอยู่ที่เมืองชิงซาน

หากเป็นเช่นนี้ก็ดี เขาจะได้ทำลายสำนักไท่หัวแล้วตรงไปยังเมืองชิงซาน

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ทว่าหลังจากที่เส้นแสงสว่างวาบ เซี่ยเหยียนก็ปรากฏตัวขึ้นมา แสดงให้เห็นว่านางยังคงอยู่ในสำนักไท่หัว

จากนั้นจึงตามมาด้วยร่างของเวิงอู๋โยวและเจ้าสำนักไท่หัว

“เป็นเจ้านี่เอง!”

เซี่ยเหยียนมองหนิงเจี๋ยอย่างไม่คาดคิดว่า ผู้ที่มาก่อเรื่องในสำนักไท่หัวจะเป็นเขา

เหตุใดหนิงเจี๋ยจึงมาที่นี่อีก?

หรือเรื่องที่อาณาจักรเซี่ยยังไม่ทำให้เขาได้รับบทเรียนมากพอ?

ในยามนั้นหนิงเจี๋ยนำยอดฝีมือจากนิกายเจ็ดดาราไปยังอาณาจักรเซี่ยเพื่อบังคับให้นางยอมจำนน

ยังดีที่นางได้รับคันศรและคำชี้แนะจากท่านเซียนมา ไม่เช่นนั้นนางคงถูกนำตัวไปแล้ว

ตอนนั้นนางต้องการจะสังหารพวกหนิงเจี๋ยทิ้ง เพื่อตัดปัญหาในอนาคต

แต่ถ้าพวกหนิงเจี๋ยถูกสังหารในเวลานั้น จะก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ นิกายเจ็ดดาราจะไม่มีวันปล่อยผ่านเรื่องนี้ หากเกิดการโจมตีครั้งใหญ่ขึ้นมา นางก็เกรงว่าคนจากนิกายเจ็ดดาราจะไปรบกวนท่านเซียนอีก

ดังนั้นนางจึงไม่ได้ปลิดชีพพวกหนิงเจี๋ยลงในครานั้น แต่บังคับให้พวกเขาสัตย์สาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่ปริปากเรื่องใดเกี่ยวกับอาณาจักรเซี่ยและท่านเซียนออกไป

เรื่องที่ตามมาทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองในยามนั้นตัดสินใจถูกต้อง เรื่องทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีผู้ใดจากนิกายเจ็ดดารามาสร้างปัญหาใดให้

ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าหนิงเจี๋ยจะกลับมาสังหารคนจากสำนักไท่หัวของพวกเขา

หรือหนิงเจี๋ยจะไม่รู้เกี่ยวกับสถานะในปัจจุบันของสำนักไท่หัว?

ไม่รู้ว่าในทุกวันนี้กระทั่งคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ยังไม่กล้าล่วงเกินสำนักไท่หัวเลย?

อันที่จริงแล้ว หนิงเจี๋ยเองก็ไม่รู้เรื่องเหล่านี้จริง ๆ

หนิงเจี๋ยตรงดิ่งมาที่นี่ทันทีหลังออกจากแดนต้องห้ามนวปรภพ จึงไม่รู้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันเป็นเช่นไร

แต่ถึงจะรู้ เขาก็ไม่สนใจอยู่ดี

วิญญาณนักบุญหลิงเซิ่งฟื้นตัวกลับมาแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวสิ่งใด อีกทั้งหลิงเซิ่งได้กล่าวเอาไว้ว่า หากไม่ใช่ขอบเขตนักบุญก็ไม่อาจคุกคามพวกเขาได้

“ข้าคิดถึงเจ้ามานานแล้ว เจ้ายังคงสวยงดงามชวนให้ข้าตราตรึงเช่นเดิม!”

หนิงเจี๋ยมองไปทางเซี่ยเหยียนด้วยความหลงใหล

เขาชอบเซี่ยเหยียนจริง ๆ หรือ?

ย่อมต้องไม่ใช่!

เซี่ยเหยียนเป็นสตรีคนแรกที่หนึ่งเจี๋ยต้องการจะได้มา หากแต่กลับไม่สามารถครอบครองได้ ดังนั้นแล้วแทนที่จะบอกว่าหนิงเจี๋ยชอบเซี่ยเหยี่ยน ควรกล่าวว่าเขาต้องการจะชดเชยความผิดหวังก่อนหน้านี้ของตนต่างหาก

“เจ้าช่างกล้าเสียจริง…”

เวิงอู๋โยวอดกล่าวออกมาไม่ได้ “เจ้ามาที่นี่ เจ้านิกายเจ็ดดารารู้เรื่องนี้แล้วใช่หรือไม่?”

เมื่อก่อนในฐานะศิษย์ของนิกายเจ็ดดารา เขาเคยยำเกรงต่อเจ้านิกายเจ็ดดาราเป็นอย่างมาก

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนดังเช่นวันวานแล้ว

เวิงอู๋โยวมองหน้าอีกฝ่าย ตอนนี้อย่าว่าแต่หนิงเจี๋ยเลย กระทั่งเจ้านิกายเจ็ดดาราก็ยังไม่กล้ามาทำตัวเช่นนี้ใส่สำนักไท่หัว

เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าหนิงเจี๋ยเอาความหาญกล้ามาจากที่ใด…

“จำเป็นต้องให้เขารู้ด้วยหรือ?”

หนิงเจี๋ยยิ้มออกมาอย่างไม่แยแส ไร้ซึ่งความเคารพเจ้านิกายเจ็ดดาราในวาจาที่เอ่ยออกมา

ในอดีตเขาเคยต้องการจะเป็นเจ้านิกายของนิกายเจ็ดดารา ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ต้องการตำแหน่งนี้อีกต่อไป

ตำแหน่งเจ้านิกายเจ็ดดาราไม่คู่ควรกับเขาในตอนนี้แล้ว!

“คนหนุ่มเช่นเจ้าถูกสิ่งใดกระตุ้นจนกลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว?”

เวิงอู๋โยวหมดคำจะกล่าว เหตุใดถึงรู้สึกว่าหนิงเจี๋ยนั้นแตกต่างจากคนปกติอยู่บ้าง?

“ช่างมีตาแต่ไร้แววยิ่งนัก!”

หนิงเจี๋ยสบถ ปราณอันแข็งแกร่งของขอบเขตพรตเต๋าถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มพิกัด ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราด “ข้าได้เข้าสู่ขอบเขตพรตเต๋าแล้ว ไม่ว่าข้าอยากจะทำอะไรหรือไปที่ใดก็ย่อมได้ ข้าจะบอกพวกเจ้าเอาไว้ นอกจากเซี่ยเหยียนแล้ว ในวันนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย!”

เขาทั้งกำเริบเสิบสานและเอาแต่ใจ ไม่เห็นพวกเวิงอู๋โยวอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ฉากดังกล่าว คล้ายกับครั้งก่อนที่เขามายังสำนักไท่หัวเป็นอย่างมาก

ครั้งที่แล้วเขาเองก็ผยองไม่ต่างอะไรไปจากครั้งนี้

หากแต่ครั้งนี้มีสิ่งที่ผิดไปจากครั้งที่แล้ว

ครั้งก่อนตัวเขานั้นพึ่งพาตัวตนในฐานะศิษย์ของนิกายเจ็ดดารา

แต่ในคราวนี้เขาพึ่งพาตนเอง!

มันทำให้ท่าทางของเขาไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น กลับกันยังผยองยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

  1. M. พูดว่า:

    พี่คะ ตอนที่ 250 หาย…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท