ถึงแม้ภาพวาดจะขายไม่ได้เงินมามากนัก แต่หลินเยวียนก็ไม่ได้หัวเสียแต่อย่างใด
เพราะเขาเชื่ออย่างหนึ่ง
ว่าต่อให้ในตอนนี้เขาไม่มีทางได้รับการ์ดตัวละครของฉีไป๋สืออีก เขาก็ยังมีโอกาสแตะถึงระดับความสามารถการวาดภาพที่ใกล้เคียงกันในอนาคต
เมื่อมีฝีมือในระดับใกล้เคียงกันแล้ว เขานึกอยากวาดภาพอย่างกุ้งหกตัวออกมาอีกสักกี่แผ่นก็ไม่มีปัญหา
เพราะเขามีกล่องสมบัติ
ก่อนหน้านี้ระบบเคยแนะนำไว้แล้ว
สิ่งที่เรียกว่าทักษะนั้นมีการแบ่งระดับ
เหนือระดับมืออาชีพ ยังมีระดับปรมาจารย์ และระดับสมบูรณ์แบบ
ทักษะการวาดภาพของการ์ดตัวละครของฉีไป๋สือ น่าจะอยู่ในระดับปรมาจารย์ หรือบางทีฝีมือการวาดภาพกุ้งของเขาก็อาจเข้าใกล้ระดับสมบูรณ์แบบแล้วก็ได้?
ที่น่าเสียดายก็คือ
ทักษะความสามารถของระดับซึ่งเหนือกว่าปรมาจารย์ จะเปิดได้จากกล่องสมบัติทองขึ้นไปเท่านั้น จนถึงปัจจุบันนี้หลินเยวียนยังไม่เคยได้รับกล่องสมบัติทองเลยสักใบ
ทั้งเนื้อทั้งตัวเขา เหลือเพียงกล่องสมบัติเงินเพียงใบเดียวที่ยังไม่ได้เปิด
“ฉันซื้อสกิลได้มั้ย” หลังจากกลับถึงบ้าน หลินเยวียนก็ถามอย่างอดไม่ได้
ระบบตอบกลับ “ซื้อไม่ได้ ทำได้แค่รับสกิลจากกล่องสมบัติ”
หลินเยวียนเข้าใจทันที
เป็นเหมือนที่เขาคาดเดาไว้
มอบปลาให้มีหรือจะสู้สอนให้จับปลา ภาษิตกล่าวไว้ถูกต้องแล้ว
ความสามารถถึงจะเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด!
ผลงานเหล่านี้ อาจทำให้ตนได้ผลประโยชน์ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว ความสามารถจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
“ตัวอย่างเช่นการวาดภาพ การเล่นเปียโน ก็มีประโยชน์กับฉันในชีวิตประจำวันเหมือนกัน…”
หลินเยวียนคิดมาตลอดว่าเมื่อมีฟังก์ชันสั่งผลิตผลงานแล้ว ตนจะไม่ต้องพึ่งพากล่องสมบัติมากเกินไปแล้ว
ทว่าดูจากตอนนี้แล้ว กล่องสมบัติยังต้องใช้ความสามารถหามา มีแค่กล่องสมบัติเท่านั้นที่จะมีหวังเปิดออกมาเป็นความสามารถ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินเยวียนก็เบนสายตาไปยังกล่องสมบัติเงินที่ตนเหลือทิ้งไว้ในคลังไอเทมของระบบอย่างอดไม่ได้
ในนี้จะมีสกิลไหมนะ
เอาเถอะ ไว้ค่อยเปิดตอนมือขึ้นก็แล้วกัน
หลินเยวียนข่มความสงสัย
สามวันต่อมาเป็นวันเสาร์
หลินเยวียนเรียกหลัวเวยไปยังออฟฟิศของตน ตอนนี้หลัวเวยรับตำแหน่งผู้ช่วยวาดการ์ตูนของเขาอย่างเป็นทางการแล้ว
“อาจารย์”
เมื่อหลัวเวยพบหน้าหลินเยวียนอีกครั้ง ท่าทีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่ว่าจะด้วยสถานะผู้ช่วยวาดการ์ตูน หรือด้วยฝีมือการวาดภาพพู่กันโบราณ ให้เรียกหลินเยวียนว่าอาจารย์ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
หลินเยวียนไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยเรื่องคำเรียกมาแต่ไหนแต่ไร ยังไงซะเขาก็เคยถูกเรียกด้วยสารพัดชื่อไปแล้ว
อาจารย์ ท่านเทพ ตัวแทน รุ่นน้อง…
นี่ไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญอะไร
หลินเยวียนเริ่มอธิบายเงื่อนไขในการทำงานกับหลัวเวย การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเริ่มงานได้อย่างเป็นทางการในวันนี้
“เป็นเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเองเหรอเนี่ย”
หลัวเวยทึ่งไป ทันใดนั้นก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ที่แท้ก็เป็นนิยายเรื่องนี้นำมาดัดแปลงเป็นการ์ตูน ฉันชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยล่ะ เคยอ่านมาบ้าง อาจารย์ได้สิทธิ์ในการดัดแปลงผลงานมาหรือยังคะ”
“ได้แล้วครับ”
หลินเยวียนได้ประกอบพิธีมอบสิทธิ์ให้กับตัวเองในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลัวเวยปรับตัวเข้ากับบทบาทการเป็นผู้ช่วยของตนแล้ว “ฉันจะกลับไปอ่านนิยายเรื่องนี้ให้จบ…งั้นเรามากำหนดกรอบกันดีกว่า คุณมีแบบร่างไหมคะ”
“สักครู่นะครับ”
หลินเยวียนเริ่มลงมือวาดรูปทันที
ก่อนอื่นต้องยืนยันสไตล์และลายเส้นในการวาดตัวละครก่อน
หลินเยวียนวาดลักษณะของตัวละครทั้งหมดออกมาตามแบบของต้นฉบับ
ล้วนเป็นรูปแบบดั้งเดิมของเรื่องเจ้าชายลูกสักหลาด สไตล์มังงะญี่ปุ่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์
เพียงแต่บนโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสไตล์มังงะญี่ปุ่นหรือไม่มังงะญี่ปุ่นก็แค่นั้นเอง
“นี่คือหลงหม่า?”
หมวกเทนนิสสุดคลาสสิก เครื่องแบบเซงากุสีน้ำเงินขาว ผมหน้าม้าลงปรกหน้า แต่กลับเผยให้เห็นดวงตาคมเป็นประกายคู่นั้น
หล่อเหลาและมุ่งมั่น
จากนั้นก็เป็นฟูจิ ชูสึเกะและตัวละครสำคัญคนอื่นๆ
เมื่อเห็นหลินเยวียนออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครแล้ว แววตาของหลัวเวยก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอรู้ดีว่าหลินเยวียนมีฝีมือในการวาดภาพสเก็ตช์
แต่การมีฝีมือในการสเก็ตช์ เป็นคนละเรื่องกับความสามารถในสร้างภาพสเก็ตช์ เธอนึกไม่ถึงว่าหลินเยวียนจะออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครซึ่งเป็นการ์ตูนได้ดีขนาดนี้
ในฐานะคนที่เคยอ่านต้นฉบับนิยายมา หลัวเวยมั่นใจว่ารูปลักษณ์ของตัวละครเหล่านี้ตรงกับที่บรรยายไว้ในนิยาย!
ต่อให้เป็นแฟนคลับตัวยงของเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิส ก็คงไม่มีทางเกิดความรู้สึกกังขากับรูปลักษณ์ของตัวละครเหล่านี้มากนัก
“ตัวละครที่ปรากฏตัวตอนแรกๆ ก็รูปลักษณ์ตามนี้เลยครับ”
หลินเยวียนใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ก่อนจะวางมือ “คุณช่วยผมทำได้ถึงระดับไหน ก็ทำเต็มที่เลยนะครับ”
หลัวเวยแววตาพราวประกาย
ทันใดนั้นเธอก็จ้องมองหลินเยวียน พูดว่า “ถ้าฉันช่วยคุณทำงานได้มากพอ คุณรับปากได้มั้ยคะว่าหลังจากนี้จะสอนฉันวาดภาพพู่กันโบราณ?”
วาดภาพพู่กันโบราณ?
หลินเยวียนชะงักไป ตอนนี้เขาสอนหลัวเวยไม่ได้หรอก เพราะระดับความสามารถในการวาดภาพพู่กันโบราณของเขาก็พอๆ กับหลัวเวยนั่นแหละ
แต่ถ้าหากเขาสามารถเปิดความสามารถด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ได้จากกล่องสมบัติสีทอง ก็อาจจะสอนหลัวเวยได้
เรื่องแบบนี้ หลินเยวียนไม่กล้ารับประกัน
ขณะที่หลินเยวียนกำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆ ระบบก็ปรากฏขึ้น [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับภารกิจใหม่ ถ้าค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของโฮสต์สามารถแตะถึงสามแสนได้ภายในหนึ่งปี จะมอบรางวัลเป็นกล่องสมบัติทองที่มีความสามารถด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ให้กับโฮสต์!]
“รับภารกิจ!”
หลินเยวียนดีใจขึ้นมาบ้าง
ระบบไม่ได้คิดจะหลอกกินเงินจากเขาแค่อย่างเดียว แต่ก็มีช่วงเวลาที่เป็นห่วงเป็นใยกันกับเขาบ้าง
ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาที่ตนต้องการความสามารถด้านจิตรกรรมมากที่สุด ระบบก็จะมอบหมายภารกิจเช่นนี้ให้
หลังจากรับภารกิจมาแล้ว
หลินเยวียนก็หันไปมองหลัวเวย “ถ้าคุณช่วยผมได้มากพอ ผมจะสอนวาดภาพพู่กันโบราณให้ครับ”
“ได้ค่ะ!”
หลัวเวยตื่นเต้นดีใจยกใหญ่
หลินเยวียนเป็นท่านเทพของชมรมจิตรกรรม ความสามารถในการสอนของเขายอดเยี่ยมจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักศึกษา ดังนั้นหลัวเวยจึงอยากรู้เหลือเกินว่า การสอนวาดภาพพู่กันโบราณของหลินเยวียนจะเก่งกาจถึงขนาดนั้นไหม
ใช่แล้ว
ด้วยฝีมือด้านจิตรกรรมในตอนนี้ของหลัวเวย ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้จากปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมสักคน
ทว่าปัญหาอยู่ที่ คนที่วาดภาพเก่งมีอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสอนได้
“งั้นเราเริ่มกันเลยแล้วกันค่ะ”
หลินเยวียนพยักหน้า เขาออกแบบสตอรีบอร์ดออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนรายละเอียดและความสมบูรณ์แบบ เขาอยากส่งต่อให้หลัวเวย ดูว่าหลัวเวยจะทำได้ดีมากแค่ไหน
หลัวเวยก็ไม่ได้รีรอ
หลินเยวียนออกแบบสตอรีบอร์ด เธอก็คัดลอกแบบของตัวละครหลงหม่าและคนอื่นๆ ตามที่หลินเยวียนวาดไว้
หลังจากคัดลอกแบบเช่นนี้ได้สักพัก เธอก็สามารถวาดรูปลักษณ์ของตัวละครอย่างหลงหม่าและคนอื่นๆ ตามแบบฉบับของหลินเยวียนได้อย่างอิสระ
“ไม่เลว”
เมื่อวาดสตอรีบอร์ดเสร็จ หลินเยวียนก็มองไปยังตัวละครที่หลัวเวยคัดลอกแบบ แทบไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เขาวาดเลย
แต่ถึงอย่างนั้น นี่คือความสามารถของยอดฝีมือ และก็เป็นเหตุผลที่หลินเยวียนอยากให้หลัวเวยมาช่วย
ผู้ช่วยทั่วไป สามารถช่วยหลินเยวียนวาดได้เพียงส่วนฉากง่ายๆ แต่ผู้ช่วยระดับหลัวเวย กลับสามารถช่วยหลินเยวียนวาดการ์ตูนออกมาได้จริงๆ!
อันที่จริง
บนอินเทอร์เน็ต ยอดฝีมือด้านจิตรกรรมที่สามารถดึงเสน่ห์ของตัวละครต้นฉบับออกมาได้นั้นมีไม่น้อย คนกลุ่มนี้โดยทั่วไปแล้วจะเป็นนักวาดโดจินระดับพระกาฬ
นักวาดโดจินบางคน สามารถวาดรูปลักษณ์ของตัวละครออกมาได้โดยแทบไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับ
หลัวเวยจัดอยู่ในผู้ช่วยกลุ่มนี้
แต่หลินเยวียนกลับไม่รู้ว่า เดิมทีหลัวเวยก็เป็นนักวาดที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ แถมยังเคยวาดผลงานโดจินมาบ้าง จนได้รับการยอมรับจากแฟนคลับของผลงานต้นฉบับไม่น้อยเลยทีเดียว…
หลินเยวียนรู้เพียงว่า ตั้งแต่นี้เขาก็จะวาดปรินซ์ออฟเทนนิสกับผู้ช่วยอย่างหลัวเวยได้แล้ว
ถึงอย่างไร งานสตอรีบอร์ดส่วนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนมากนักสำหรับหลินเยวียน
เขาสามารถรับผิดชอบวาดเล่มแรก จากนั้นก็ทำสตอรีบอร์ดของเนื้อหาในเล่มที่สองไว้ล่วงหน้า จากนั้นค่อยส่งต่อให้หลัวเวยวาด
………………………………………..