ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 2 เล่ม 4 Side Story 1-1

ภาค 2 เล่ม 4 Side Story 1-1

พอได้ยินเสียงรถ อินซอบก็ปิดหนังสือที่อ่านอยู่ แมวที่นอนอยู่บนตักรับรู้ถึงความคิดของเจ้าของได้ราวกับไม่ใช่คน และหลบให้

อินซอบวิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน พอเขาเปิดประตูให้ก่อนที่ประตูจะถูกเปิด ผู้ชายที่ยืนอยู่นอกประตูก็ทำตาโตราวกับตกใจเล็กน้อย

“ไม่ได้ฟังที่พูดเลยสินะครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าให้เช็กก่อนว่าเป็นใครแล้วค่อยเปิด”

“ผมเช็กจากรถของคุณอีอูยอนแล้วครับ”

อินซอบชี้ไปที่หน้าต่าง อีอูยอนกอดอินซอบหลังจากปลดเน็กไทออก

“คิดถึงผมไหมครับ”

“…ครับ คิดถึงครับ”

พวกเขาไม่เจอกันแค่สามวันเท่านั้น แต่กลับรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปนานมาก อีอูยอนฝังจมูกกับซอกคอของอินซอบก่อนจะสูดหายใจเข้าไป

“งานเรียบร้อยดีไหมครับ”

“เรียบร้อยดีเพราะคุณเลยครับ”

อีอูยอนเงยหน้าขึ้นมาจูบอินซอบ เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกและโยนใส่โซฟาอย่างไม่สนใจในระหว่างที่จูบกัน จากนั้นเขาก็กอดเอวของอินซอบไว้ และอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนโต๊ะแบบไอส์แลนด์

“เฮ้อ…”

พอริมฝีปากที่จูบกันอยู่พักใหญ่เผยออก อินซอบก็พ่นลมหายใจออกมา อีอูยอนจูบปากอีกฝ่ายเบาๆ และงับริมฝีปากล่างอย่างหยอกล้อพร้อมกับยิ้ม

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ผมก็จะไม่ยุ่งแล้วครับ”

ทนายความรับหน้าที่เป็นตัวแทนทางกฎหมายของเขา เนื่องจากเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นตอนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จากนี้ไปจึงไม่มีเรื่องที่จะต้องมาอเมริกาให้กวนใจอีกแล้ว ปัญหาก็คือเนื่องจากพ่อเสียชีวิตในระหว่างนั้นพอดี เขาจึงต้องมาพัวพันกับปัญหาการรับมรดก

ที่ผ่านมาอีอูยอนยุ่งมาก เพราะมัวแต่จัดการปัญหาทางด้านกฎหมายกับแม่ที่ใช้ประวัติการรักษาอาการทางจิตของลูกชายมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะได้เป็นผู้ดูแลมรดก คำพูดของทนายความที่บอกว่าเป็นกังวลกับเรื่องที่คาดไม่ถึงที่อาจเกิดขึ้นทำให้อีอูยอนต้องสะสางวิลล่าที่เหลืออยู่ที่เกาหลี และบริจาคเงินทั้งหมดไป เนื่องจากเขาบริจาคเงินที่หามาได้ ไม่ใช่เงินที่มีมาตั้งแต่แรก จึงทำให้ได้ตอนจบที่งดงามอย่างมาก และสีหน้าของแม่ที่ได้ยินความจริงนั้นก็ไม่น่าดู

นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความโลภในเงิน

“โล่งอกไปทีนะครับ”

อินซอบลูบแก้มของอีอูยอนอย่างอ่อนโยน

เขาอยากจะให้ทุกอย่างที่เป็นของเขากับอินซอบ เขาอยากจะอยู่ในชีวิตของอินซอบและเกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายในทุกรูปแบบ และถ้าอยากทำแบบนั้นเขาต้องจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย

“เขาบอกว่าทุกอย่างจะจบลงก่อนสุดสัปดาห์ครับ”

สุดสัปดาห์นี้พวกเขาวางแผนจะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์เพื่อฉลองวันเกิดของอินซอบ แม้จะเคยไปเที่ยวตามชานเมืองเป็นระยะเวลาสั้นๆ มาบ้างแล้วหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่อินซอบก็ตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นการไปเที่ยวอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้ถึงเรื่องนั้นดี อีอูยอนจึงโต้รุ่งอยู่หลายคืนเพื่อจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จก่อนจะกลับมา

“กินข้าวไหมครับ”

“ผมไม่ค่อยหิวเท่าไรน่ะครับ”

“คุณน่าจะเหนื่อยมาก ควรจะพักนะครับ”

อินซอบทำสีหน้าเป็นห่วง

“เวลาผู้ชายเหนื่อย ไอ้นั่นจะตั้ง”

อีอูยอนถูแก้มของตัวเองกับฝ่ามือของอินซอบก่อนจะแตะปากลงไปและพึมพำ

“แต่ทำไมไอ้นั่นของผมถึงตั้งต่อให้ผมจะไม่เหนื่อยล่ะครับ”

“…เอ่อ…”

การพูดอย่างกะทันหันนั้นทำให้อินซอบกะพริบตาราวกับมึนงงเล็กน้อย อีอูยอนดึงต้นคอของอินซอบเข้ามา และจูบปากของเขาราวกับออดอ้อน

“…เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

อินซอบเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งจะได้รู้ความจริงว่าอีกฝ่ายนอนไม่ค่อยหลับเวลาที่ตนไม่อยู่ เขาเจอยานอนหลับที่โต๊ะข้างหัวเตียง และถามอีอูยอนด้วยตัวเอง

“คุณน่าจะไม่ค่อยได้นอน…”

“มีเซ็กซ์แล้วค่อยนอนก็ได้ครับ”

นี่เป็นความต้องการทางเพศที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยมาระยะหนึ่งแล้ว อินซอบโอบคอของอีอูยอนไว้โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ และจูบปากอีกฝ่ายอีกครั้ง อีอูยอนล้วงมือเข้าไปในเสื้อไหมพรมที่อินซอบสวมอยู่ พอเขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้และบิดยอดอกอีกฝ่ายเบาๆ อินซอบก็ร้องครางออกมาเบาๆ

“เหนื่อยเหรอครับ”

อินซอบไม่เข้าใจจุดประสงค์ในคำถามที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของอีอูยอนจึงถามกลับไปว่า “ครับ?”

“ก็ไอ้นั่นของคุณอินซอบตั้งนี่ครับ”

อีอูยอนลูบหว่างขาของอินซอบพลางเอ่ย การแหย่เล่นนั้นทำให้ใบหน้าของอินซอบแดงเถือก อีอูยอนยิ้มจนตาหยี

“ขึ้นไปกันไหมครับ”

อินซอบพยักหน้าให้กับคำถามของอีอูยอน เขาจับขาของอินซอบให้เกี่ยวเอวของตัวเองไว้ และอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างง่ายดาย

“จับแน่นๆ นะครับจะได้ไม่ตก”

แม้จะรู้ว่าไม่มีทางที่จะทำตก แต่อีอูยอนก็ยังพูดแบบนั้นทุกครั้ง เพราะถ้าพูดแบบนั้นอินซอบจะโอบคอเขาไว้แน่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี อินซอบที่เกาะเขาไว้ด้วยแรงอันน้อยนิดนั้นน่ารักมาก

ในระหว่างที่เดินตัดผ่านห้องนั่งเล่นไป อีอูยอนก็ทนไม่ไหวและจูบอินซอบอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถขึ้นบันไดได้ และพรมจูบอีกฝ่ายในขณะที่พิงร่างกับกำแพง เพราะกระทำง่ายๆ อย่างการเชื่อมริมฝีปากเข้าด้วยกันและบดเบียดกันไปมานั้นหวานมากเสียจนเขามึนหัว

“อือ อื้อ…”

อินซอบส่งเสียงครวญครางเบาๆ อีอูยอนสอดมือเข้าไประหว่างเสื้อไหมพรมตัวหลวมและกอดเอวของอินซอบไว้ สัมผัสของผิวที่รู้สึกที่มือนั้นนุ่มจนเขาขนลุก แค่ลูบไล้แผ่นหลังของอินซอบเขาก็เหมือนจะเสร็จได้หลายครั้ง

“ยืนทำดีไหมครับ”

อีอูยอนเอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำในระยะที่ริมฝีปากเกือบจะแตะกัน นี่ไม่ใช่การถามความคิดเห็น แต่เป็นการบอกให้รู้ว่าอยากมีอะไรกับคุณในท่ายืน อินซอบไม่รู้ว่าการทำในท่ายืนนั้นทำกันยังไง จึงมองอีอูยอนด้วยสายตาหวาดกลัวก่อนจะหลับตาแน่น จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยากได้อะไร เขาก็อยากจะมอบให้ทุกอย่าง

อีอูยอนหัวเราะเบาๆ เขาดันหลังของอินซอบเข้ากำแพงราวกับจะบดให้ละเอียด ในตอนที่มือขนาดใหญ่ของชายหนุ่มจับกางเกงของอินซอบไว้ และกำลังจะดึงลงมา

ติ๊งต่อง

เสียงกริ่งเบาๆ ก็ดังขึ้น อินซอบตกใจและดันตัวออกจากอีอูยอน

“อย่าสนใจเลยครับ ไม่มีใครมาหรอก”

หากเป็นช่วงเย็นคนรับใช้ทั้งหมดจะกลับไป และบ้านก็จะเหลือแต่พวกเขา อีอูยอนไม่สนใจและกอดอินซอบอีกครั้ง

แต่เสียงกริ่งก็ดังอีกหลายครั้ง

“…ต้องไปดูหรือเปล่าครับ”

อีอูยอนถอนหายใจยาวเหยียดและปล่อยอินซอบลงกับพื้น อินซอบจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบและมองหน้าจอติดผนังที่เชื่อมต่อกับประตูทางเข้า

ผู้ชายที่สวมหมวกพนักงานส่งของชี้ไปที่กล่องที่มีชื่อของอินซอบเขียนอยู่ อินซอบเอียงคอก่อนจะเปิดประตูทางเข้าให้

“สั่งอะไรมาเหรอครับ”

“ผมสั่งหนังสือไว้สองสามเล่ม…”

อินซอบขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะจำได้ว่าตอนที่ตรวจสอบในตอนกลางวัน ยังขึ้นสถานะว่ากำลังเตรียมจัดส่งอยู่เลย

ผ่านไปได้ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าบ้าน พออินซอบกำลังจะวิ่งออกไป อีอูยอนก็คว้าไหล่ของเขาไว้

[ใครครับ]

[มาส่งของครับ]

อีอูยอนมองผ่านตาแมวก่อนจะเปิดประตู ตอนนั้นเสียงแตรกับเสียงตะโกนว่า “เซอร์ไพรส์” ก็ดังขึ้นพร้อมกับคอนเฟติที่ลอยออกมา

[สุขสันต์วันกะ…]

คอนเฟติที่ลอยออกมาร่วงลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง อีอูยอนที่ทำหน้านิ่งอย่างน่าโหดร้ายจ้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขม็ง

[ที่นี่…]

ในตอนที่ผู้ชายที่สวมหมวกพนักงานส่งของกำลังจะถามอะไรบางอย่างเป็นภาษาอังกฤษ เสียงพูดว่า “นาธานเหรอ” ก็ดังมาจากด้านหลัง

“ฮยองงง”

ผู้ชายตัวสูงถอดหมวกพนักงานส่งของออกก่อนจะยิ้ม

[นายมาทำอะไรที่นี่…]

อินซอบพูดไม่ออก ผู้ชายที่ซ่อนอยู่ข้างประตูหน้าบ้านอีกสองคนเผยตัวให้เห็นตามลำดับ

[เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย แอรอนนายกลับมาเมื่อไร]

[มาหาเพราะคิดถึงน่ะสิ]

[สุขสันต์วันเกิด]

[ไม่ได้เจอกันนานเลย]

ผู้ชายทั้งสามคนห้อมล้อมอินซอบไว้อย่างรวดเร็ว อินซอบทำตัวไม่ถูก เขาทั้งมึนงงและดีใจขณะที่มองหน้าและโอบกอดผู้ชายที่สูงกว่าตัวเองตามลำดับ

[ให้ตายเถอะ ขอดูหน้าหน่อยซิ ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย]

พออินซอบทำท่าจะร้องไห้และเอ่ย คนอื่นๆ ก็สวมกอดเขาอีกครั้งด้วยสีหน้ายินดี

“จะไม่แนะนำให้ผมรู้จักหน่อยเหรอครับว่าเป็นใคร”

อีอูยอนที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่เอ่ยถาม ตอนนั้นเองอินซอบถึงได้เช็ดตาราวกับเพิ่งตั้งสติได้ และแนะนำตัวทีละคน

“พวกน้องชายของผมเองครับ โลแกนกับนาธาน”

อินซอบแนะนำน้องชายฝาแฝดให้อีอูยอนรู้จักก่อน อีอูยอนยิ้มอย่างมีมารยาทและจับมืออีกฝ่าย

“ส่วนนี่แอรอนครับ เป็นน้องชายคนรอง”

อีอูยอนยื่นมือออกไป แอรอนที่เห็นหน้าของอีอูยอนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะจับมือกัน

“แอรอนกำลังเรียนอยู่ที่เยอรมนีน่ะครับ ผมเองก็เพิ่งได้เจอเขาในรอบหนึ่งปีเหมือนกัน”

ต่อให้เขากลับไปที่บ้านก็เจอหน้าของพวกน้องชายไม่ได้ง่ายๆ เพราะน้องชายฝาแฝดเองก็เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่บอสตันเหมือนกัน อินซอบดีใจที่น้องชายมาหาโดยไม่บอกพอๆ กับที่ตกใจ

“ต้องพูดเกาหลีเหรอ”

นาธานเอ่ยถามด้วยสำเนียงที่พูดอย่างตะกุกตะกักต่างจากอินซอบ

“กับพวกนายไม่เป็นไรหรอก แต่ช่วยพูดเกาหลีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย”

อินซอบจงใจพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด ความจริงแล้วมันไม่เป็นอะไรเลยสักนิด แค่ตัวเขาไม่สะดวกที่จะพูดกับอีอูยอนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง เพราะตอนที่เจออีกฝ่ายครั้งแรก พวกเขาพูดคุยกันด้วยภาษาเกาหลี เขาจึงรู้สึกว่าหากใช้ภาษาอังกฤษก็เหมือนเผชิญหน้ากับคนอื่น

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อีอูยอนใช้ภาษาอังกฤษที่หยาบคายบนเตียง สุดท้ายอินซอบก็ร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกเหมือนมีเซ็กซ์กับคนอื่น หลังจากนั้นการพูดด้วยภาษาอังกฤษระหว่างพวกเขาสองคนก็กลายเป็นข้อห้าม

“ยากนะ เพราะผมไม่ค่อยรู้…”

แม้น้องชายฝาแฝดจะทำหน้าหงอย แต่อินซอบก็ส่ายหน้าจนถึงที่สุด

“แล้วจะไม่แนะนำผมเหรอครับ”

อีอูยอนใช้นิ้วแตะกระหม่อมของอินซอบก่อนจะเอ่ยถาม

“คนนี้คือ…”

สถานการณ์ที่ไม่เคยคิดถึงเลยสักครั้งทำให้อินซอบพูดไม่ออก เขาสบตากับอีอูยอน อีอูยอนพยักพเยิดหน้าเบาๆ ราวกับจะบอกว่า “ไหนลองพูดดูซิ”

จะบอกว่าเพื่อน หรือคู่ขา? …แต่จะบอกว่าแฟนไม่ได้เด็ดขาด…รูมเมทเหรอ หรือจะบอกว่าเป็นเพื่อนร่วมบ้านดี

อินซอบลนลานเหงื่อแตก และสุดท้ายก็นึกความสัมพันธ์ที่พอจะใช้ได้ที่สุดออก

“เป็นเจ้านายที่ฉันติดหนี้บุญคุณไว้ตอนที่อยู่เกาหลีน่ะ…แล้วฉันก็กำลังช่วยงานเขาที่นี่”

เสียงที่พูดค่อยๆ เบาลง แม้อีอูยอนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง แต่เขาก็ตั้งใจที่จะไม่พูดความไม่พอใจออกมา

[ว้าว บ้านสวยจริงๆ แล้ววิวก็เยี่ยมมากเลยด้วย ฉันเองก็อยากมีเจ้านายแบบนี้บ้าง]

นาธานที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีที่สุดจากทั้งสามคนผิวปากเบาๆ ก่อนจะหัวเราะ โลแกนก็หัวเราะด้วย

“ว่าแต่มีธุระอะไรกัน”

สิ้นคำถามของอินซอบ โลแกนก็ยื่นกล่องที่ถืออยู่ให้ พออินซอบรับกล่องมาสำรวจดู เขาก็เห็นว่ามีเค้กที่ทำจากช็อกโกแลตชุ่มฉ่ำอยู่ในนั้น เป็นของขวัญที่ไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา

“แม่บอกว่าไปเที่ยวกับพวกป้าๆ นี่”

“แม่ให้ไว้ก่อนไปตอนเช้าน่ะ แล้วก็ฝากมาบอกด้วยว่ารัก”

อินซอบน้ำตาไหล แม่ที่ไม่ได้เจอกันนานหลังมาที่อเมริกาดูแก่ขึ้นมากกว่าแต่ก่อน อาจจะเป็นแบบเรื่องนั้นทำให้ช่วงนี้แค่คิดถึงแม่ เขาก็รู้สึกปวดใจจนน้ำตาคลอแล้ว

[อย่าร้องไห้สิปีเตอร์]

พวกน้องชายล้อมรอบอินซอบไว้ และโอบไหล่เขา

อีอูยอนยิ้มกว้างในขณะที่มองคนทั้งสี่ เขารู้สึกเหมือนได้ดูละครเกี่ยวกับครอบครัวสำหรับคนทุกวัย ซึ่งทั้งน่ารำคาญและน่าเบื่อโคตรๆ

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท