ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 209 เทียนจื่อผู้แข็งแกร่ง สงครามครั้งที่สอง

ตอนที่ 209 เทียนจื่อผู้แข็งแกร่ง สงครามครั้งที่สอง

ตอนที่ 209 เทียนจื่อผู้แข็งแกร่ง สงครามครั้งที่สอง

เมื่อเห็นเทียนจื่อปรากฏที่ลานสมรภูมิ กึ่งเซียนเผ่านรก กึ่งเซียนเผ่ากลืนนภา และกึ่งเซียนเผ่าฮุ่นตุ้นต่างส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมาในทันที

ทั้งสามคนไม่คิดพูดสิ่งใดให้มากความ เริ่มรวบรวมพลังอันน่าสะพรึงกลัว แล้วพลังจากทั้งสามก็พุ่งตรงไปยังเทียนจื่อหมายจะสังหารฆ่าในคราวเดียว

“หึ! มาได้ดี!”

หากเป็นเทียนจื่อในเมื่อก่อน พลังของคนทั้งสามแห่งเผ่าราชันตรงหน้าไม่แคล้วทำให้เขาเผยความหวาดกลัวออกมาแล้ว แต่ในตอนนี้เทียนจื่อถูกหนิงฝานควบคุมอยู่ จึงทำให้ไม่มีความเกรงกลัวต่อกึ่งเซียนก้าวที่เก้าเลยแม้แต่น้อย ฉับพลันนั้นก็ได้ยินเสียงของเขาตะโกนออกมา ก่อนจะกลายเป็นเงาร่างอันดุร้ายและโต้ตอบกลับทั้งสามคน

ตู้ม!

พลังปราณของทั้งสี่ปะทะกันตรงกลางลานสมรภูมิในทันที ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว!

และด้วยการชนกันของพลังทั้งสี่ ร่างกายของกึ่งเซียนเผ่านรก เผ่ากลืนนภา เผ่าฮุ่นตุ้น ทั้งสามเผ่าถูกสะกดข่มแทบจะในทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเข้ารู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเทียนจื่อแล้ว!

เพียงชั่วอึดใจ จิตสังหารของทั้งสามคนก็ปะทุออก!

“หอกนรก!”

“กลืนนภากัดวิญญาณ!”

“อัสนีปั่นป่วน!”

ทั้งสามคนใช้ออกด้วยพลังเต็มพิกัด หอกยาวรวมเข้าด้วยกัน ปราณภูตผีจากนรกพวยพุ่งออกมาอยู่กลางเวหาฉีกกระชากความว่างเปล่าเป็นเสี่ยง ๆ ขณะที่หลุมดำหลุ่มหนึ่งก่อตัวขึ้นเหนือหัวของเทียนจื่อและทอดเงาบดบังแสง พร้อมเสียงกัมปนาทของสายฟ้ากู่ร้องลั่น ภาพฉากนี้ราวกับโลกามาถึงวันแตกดับ!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เวลานี้ มวลพลังอันน่าสะพรึงกลัวของทั้งสามม้วนตัวขึ้นอย่างน่าเกรงขามก่อนจะโถมเข้าใส่เทียนจื่อ!

“หืม!? แย่แล้ว!”

“บัดซบ! เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนกำลังพยายามฆ่าเทียนจื่อด้วยพลังคราวเดียว!”

“เทียนเสีย เร็ว! ให้เทียนจื่อยอมรับความพ่ายแพ้เร็วเข้า!”

“เทียนจื่อได้ปรับเปลี่ยนสายเลือดมาถึงเก้าครั้ง และถูกกำหนดให้กลายเป็นเซียนธุลีสีชาดผู้แข็งแกร่ง ไม่มีทางพ่ายแพ้หรอก!”

ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเหล่าเผ่าสวรรค์ที่นำโดยผู้อาวุโสใหญ่ก็เปลี่ยนไป บางคนร้องออกมาด้วยความตกใจ บางคนเพียงมองไปยังหนิงฝาน

ชายหนุ่มโบกมือให้ฝูงชนใจเย็นลง

ตอนนี้เอง การโจมตีภายในลานสมรภูมิก็พุ่งเข้าไปใกล้เทียนจื่อ พลังอันบ้าคลั่งที่แข็งแกร่งทั้งสามเพียงแค่ขยับเข้าไปอีกนิดก็ราวกับจะสามารถทำลายเทียนจื่อได้แล้ว

“เคล็ดย้ายโลหิตสวรรค์!”

เทียนจื่อพลันตะโกนออกมาเสียงดัง แล้วปราณโลหิตอันไร้ขอบเขตก็ปะทุออกจากภายในร่างกายของเขา

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เมื่อปราณโลหิตระเบิดออก ไม่ว่าจะเป็นหอกเล่มไหนจากนรก กลืนนภากัดวิญญาณ หรือแม้แต่อัสนีปั่นป่วนล้วนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที

“หืม? นี่!”

ภาพตรงหน้าทำให้ผู้คนทั้งลานสมรภูมิแตกตื่นในบัดดล คาดไม่ถึงว่าเทียนจื่อจะสามารถใช้วิธีที่ง่ายดายเช่นนี้บดขยี้การโจมตีของทั้งสามเผ่าได้

แล้วในเวลาต่อมา เขาก็ยิ่งทำให้ผู้คนตกใจมากยิ่งขึ้น!

ตู้ม!

หลังจากทำลายการโจมตีของคนทั้งสามเผ่าจนหายไปแล้วนั้น ปราณโลหิตทั่วทั้งร่างกายของเทียนจื่อราวกับมังกรที่กลายเป็นแสงสีแดงพร่างพราวพุ่งออกไปยังคนทั้งสามหมายฆ่า!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เห็นเพียงสะบัดพลังฝ่ามือออกไปสามครั้ง แต่ละฝ่ามือบังเกิดแสงสีเลือดทอประกายวาบ แล้วบนรอยประทับฝ่ามือก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่มีพลังทำลายล้าง

ปัง! หน้าอกของกึ่งเซียนเผ่านรกระเบิดออกในทันที

บึ้ม! กึ่งเซียนเผ่าอสูรกลืนนภาศีรษะหายไปครึ่งหนึ่ง

ตู้ม! กึ่งเซียนเผ่าฮุ่นตุ้นแตกตัวออกกลายเป็นแสงอัสนี

ภายใต้ฝ่ามือนั้น คนทั้งสามเผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างที่คาดไม่ถึง

อ๊าก!

เวลานี้ คนของทั้งสามเผ่าร้องออกมาด้วยความโกรธ ด้วยการใช้เคล็ดวิชาลับนี้ ทำให้พวกเขาสามารถฟื้นฟูร่างกายที่สมบูรณ์กลับคืนมาได้

ทันใดนั้น เทียนจื่อก็ลงมือต่อ ทุก ๆ ฝ่ามือยังคงเต็มไปด้วยปราณโลหิตที่พวยพุ่งขึ้นฟ้าและฉีกกระชากความว่างเปล่า

ปัง! ปัง! ปัง!

หลังจากนั้น ไม่ว่าคนของทั้งสามเผ่าจะพยายามต่อต้านเช่นไร แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต่อกรกับเทียนจื่อได้

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตาราวกับแสงไฟที่สว่างและหายไป ร่างของคนทั้งสามเผ่าถูกระเบิดออกเป็นแสน ๆ ครั้ง และด้วยการระเบิดครั้งสุดท้ายนี้ กึ่งเซียนทั้งสามเผ่าก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก แม้แต่วิญญาณยังถูกฝ่ามือปราณโลหิตอันไร้ขอบเขตระเบิดออกไปทั่วทุกสารทิศ

ทั้งสามคนตายตกในทันที!

และการต่อสู้ในลานสมรภูมินี้ก็จบลงไปด้วย

เมื่อเห็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้คนแห่งเผ่าสวรรค์หรืออีกสามเผ่า ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

ขณะเดียวกันนั้น เผ่าราชันบรรพกาลที่เห็นการต่อสู้หนึ่งต่อสามนี้ เทียนจื่อแห่งเผ่าสวรรค์ตรงหน้ากลับสามารถบดขยี้คนทั้งสามเผ่าให้สิ้นซากด้วยพลังอันทรงพลัง

“อ๊าก! บัดซบ!”

“เหตุใดคนของเผ่าสวรรค์ถึงได้แข็งแกร่งเยี่ยงนัก!”

“พรสวรรค์และฝีมือเช่นนี้ หรือคนผู้นี้จะเป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด!”

ใบหน้าเหล่าผู้คนเผ่านรก เผ่ากลืนนภาและเผ่าฮุ่นตุ้นเต็มไปด้วยความซีดเซียว สถานการณ์ตรงหน้าเป็นเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน!

ในทางกลับกันนั้น เผ่าสวรรค์ที่นำโดยผู้อาวุโสต่างมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ

เพราะการแสดงออกของเทียนจื่อนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้เป็นอย่างมาก!

พรสวรรค์และฝีมือเช่นนี้ อนาคตของอีกฝ่ายมิอาจจินตนาการได้แล้ว!

พรึ่บ!

เวลานี้ เทียนจื่อเหาะกลับไปหาหนิงฝานที่เป็นเทียนเสีย ก่อนที่เหล่าผู้คนเผ่าสวรรค์จะพูดขึ้น “ท่านอาจารย์ ผู้อาวุโสทุกท่าน เทียนจื่อโชคดีที่ไม่ทำให้ทุกท่านต้องผิดหวัง และได้รับชัยชนะจากสงครามครั้งนี้กลับมา”

“ดี ๆ ดีมาก!”

“เทียนจื่อแข็งแกร่งขึ้น อนาคตย่อมไร้ขีดจำกัดแล้ว!”

“เทียนเสีย เจ้ามีลูกศิษย์ที่ดีจริง ๆ”

“หลังจากนี้จะต้องปลูกฝังเทียนจื่อให้ดี ๆ เล่า เพราะเขาจะเป็นเซียนธุลีสีชาดคนใหม่ของเผ่าพวกเรา”

“…”

เหล่าผู้คนเผ่าสวรรค์ต่างพากันชื่นชมเทียนจื่อ เทียนจื่อเองก็แสดงออกถึงความปลาบปลื้มปีติและความกล้าหาญ

เห็นเช่นนั้น หนิงฝานก็แอบพยักหน้า เรื่องราวต่าง ๆ กำลังเป็นไปตามที่เขาว่างแผนเอาไว้ทีละขั้นทีละตอน

“เผ่าสวรรค์ เริ่มสงครามครั้งที่สองได้แล้ว”

ด้านข้างของเผ่าสวรรค์มีเสียงดังขึ้นมาท่ามกลางความชื่นมื่นนี้ ผู้คนแห่งเผ่านรก เผ่ากลืนนภา รวมถึงเผ่าฮุ่นตุ้น ทั้งสามเผ่าพลันส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น

ได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนก็เงียบลงและจ้องมองไปยังหนิงฝาน

หากต้องการปกป้องแท่นเซียนก็จะต้องมีผู้ท้าชิงที่ชนะในสงครามได้ถึงสองครั้งเท่านั้น หากในครั้งนี้หนิงฝานพ่ายแพ้ แท่นเซียนนี้จะต้องถูกยึดครองโดยเผ่านรก

“วางใจเถอะ มีข้าอยู่ แท่นเซียนไม่มีทางตกอยู่ในมือของเผ่าพวกนั้นได้หรอก”

หนิงฝานพยักหน้าไปทางฝูงชน จากนั้นก็เหาะเหินไปอย่างรวดเร็ว เข้ามาถึงลานสมรภูมิเรียบร้อย

“สงครามครั้งที่สองนี้ ข้าเทียนเสียแห่งเผ่าสวรรค์ เซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์จะลงมือเอง!”

หลังจากมาถึงลานสมรภูมิ หนิงฝานก็พูดขึ้น และปะทุออกด้วยพลังบ่มเพาะเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์ทันที

เป็นเพราะกฎของสงครามสวรรค์และปฐพีเพื่อจำกัดขอบเขตของพลังในการโจมตี หากผู้ท้าชิงเป็นเซียนธุลีสีชาดหนึ่งทัณฑ์ และผู้ท้าชิงอีกฝั่งเป็นเซียนธุลีสีชาดเก้าทัณฑ์ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสู้แล้ว

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ทว่าในเวลาต่อมา ด้วยการหารือกันเพียงสั้น ๆ เผ่านรก เผ่ากลืนนภา และเผ่าฮุ่นตุ้น ล้วนส่งเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์เหาะออกมาเผ่าละหนึ่งคน

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

บนลานสมรภูมิ ด้วยพลังเซียนธุลีสีชาดเจ็ดทัณฑ์ที่เดือดพล่านอยู่นี้ สงครามครั้งที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌]

Status: Ongoing

หนิงฝาน' ชายหนุ่มผู้เดินทางข้ามสายธารแห่งกาลเวลามาเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีก็คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้อ่อนแอและเกาะภรรยากินไปชั่วชีวิตเสียแล้ว ทว่าจู่ ๆ เขากลับเปิดใช้งานระบบสลากขั้นเทพได้...

นี่เองคือจุดเริ่มต้นใหม่ของผู้ที่ 'เคยอ่อนแอ' มาก่อน!

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ในพระราชวังจักรพรรดินีเสร็จสิ้น และได้ร่างกายของเซียนดาบ!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ยอดเขาสารพัดประโยชน์ได้สำเร็จ และได้รับเสื้อคลุมเร้นลับ!]

หนิงฝานเดินเล่นไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์พร้อมระบบสลากขั้นเทพ ล็อกอินสถานที่อย่างเงียบ ๆ ในฐานะสามีผู้ไร้ค่าของจักรพรรดินี จนกระทั่งหลายปีต่อมา บรรพชนของปีศาจทั้งหลายถือกำเนิดขึ้นและยกกองทัพปีศาจนับล้านบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

จักรพรรดินีผู้เลอโฉมพ่ายแพ้ และทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในภยันตราย! หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปีศาจนับล้านพลันถูกกำจัด! แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มไม่ได้สนใจมากนัก... เพราะเขารู้เพียงว่าเขาได้กลายเป็นตัวตน 'อมตะ' ในโลกนี้แล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท