ตอนที่ 216 ถงเทียนเต้าเหริน การทดสอบทั้งสาม!
ภายในแดนลับ โลกใบเล็กนี้ช่างกว้างขวางและไร้ขอบเขต แต่กลับไม่มีการปรากฏขึ้นของหอสมบัติตำหนักเซียนภายนอกมิติลับนี้เลย ฉากที่ควรจะเป็นภูเขาและสายน้ำอันงดงามกลับเต็มไปด้วยซากปรักหักพังที่เก่าและทรุดโทรม บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่เมฆสีดำทมิฬ ภายในนั้นมีเสียงของอัสนีที่ดังขึ้น ทำให้เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ทุกคนรู้สึกได้ถึงความน่าหวาดกลัว!
“สถานที่แห่งนี้มิอาจนำไปสู่สรวงสวรรค์ได้อย่างแน่นอน”
ในตอนนี้ ภายในแดนลับ หนิงฝานในร่างเทียนจื่อยืนอยู่บนซากปรักหักพังและมองไปยังทิวทัศน์รอบ ๆ ภายในแดนลับ คิ้วเข้มค่อย ๆ ขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่ได้!
และเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์ในวัยเยาว์ที่เหลืออยู่ต่างก็เลิกคิ้วขึ้น แม้แต่เหล่ายอดฝีมือแห่งเผ่าบรรพกาลที่อยู่ภายนอก ซึ่งกำลังใช้กระจกส่องนภาเพื่อส่องเข้ามาดูทิวทัศน์ในแดนลับก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วแน่น!
เห็นได้ชัดว่าแดนลับกับทิวทัศน์ในจินตนาการของทุกคนนั้นช่างแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
และทันใดนั้นเองก็บังเกิดเสียงที่ดังกึกก้องไปจนทั่วทั้งภายในแดนลับ
“หึ! เวลาผ่านมาถึงสองล้านปี ในที่สุดก็มีคนบุกเข้ามาในดินแดนแห่งนี้แล้ว!” เสียงนี้ดังก้องกังวานจนทำให้ผู้คนต้องตื่นตกใจ!
“มีคนอยู่!”
“คาดไม่ถึงว่าภายในแดนลับแห่งนี้จะยังมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่!”
“สองล้านปี? ต่อให้เป็นพลังขอบเขตที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลกนี้อย่างขอบเขตคงกระพันก็ยังไม่สามารถมีชีวิตที่ยาวนานได้ถึงปานนั้น!”
“มันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเราคิด หรือว่าคนผู้นี้จะสามารถฝ่าด่านเคราะห์เซียนมาได้ ทำให้ไม่สามารถแตกสลายหรือตายตกได้ จนกลายเป็นเซียนแท้จริง!!”
ได้ยินเช่นนั้น ผู้คนภายนอกแดนลับก็ล้วนแตกตื่นตกใจ!
ขณะที่ผู้คนต่างพากันเดาไปต่าง ๆ นานานั้น เสียงกึกก้องในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ข้ามีนามว่าถงเทียนเต้าเหริน อย่างที่พวกเจ้าเห็น ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำให้ข้าสามารถพ้นเคราะห์เซียนได้ พลังเซียนจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอแตกต่างกันไปตามบุคคล แต่พลังเซียนของข้าทั้งหมดมีเก้ารอบ น่าเสียดายที่ข้าได้ข้ามเคราะห์ทัณฑ์มาถึงแปดรอบแล้ว การเผชิญหน้ากันรอบสุดท้ายนี้ ข้าไม่มีพลังมากพอ ทำได้เพียงแค่รอให้พลังเซียนรอบที่เก้าเวียนมาถึง ร่างกายและจิตวิญญาณของข้าก็คงจะต้องแตกสลายไป ดังนั้นสุดท้ายแล้วข้าจึงมีความคิดริเริ่มที่จะสลายร่างของตัวข้าเองให้เหลือเพียงวิญญาณเซียน สิ่งสำคัญเพียงหนึ่งเดียวคือ ข้าต้องการรอคนที่มีโชคชะตาต้องกัน เพื่อมาสืบทอดมรดกของข้า!”
ด้วยเสียงที่ดูชราดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดินนี้ เหล่าผู้คนก็เข้าใจถึงสาเหตุและผลลัพธ์ของทั้งหมด!
วิถีของข้าสามารถทะลวงสวรรค์ ผ่าแยกปฐพี ควบคุมหยินหยาง และบดบังความลับแห่งสวรรค์… หากต้องการสืบทอดมรดกต่อจากข้า พวกเจ้าต้องผ่านการทดสอบทั้งสามนี้ให้ได้ ทว่าการทดสอบนี้ยากเย็นแสนเข็ญ ซึ่งอาจนำพาไปสู่ความตายได้ทุกเมื่อ หากไม่ผ่านการทดสอบ พวกเจ้าทุกคนจะถูกส่งออกจากแดนลับนี้ทันที
“ข้าให้เวลาพวกเจ้าเพียงสิบลมหายใจในการตัดสินใจ หลังจากสิบลมหายใจนี้และยังมีผู้ที่คงอยู่ ก็จะถือว่ายอมรับการทดสอบทั้งสามของข้า! สิบ…เก้า…แปด…”
ตู้มมมม!
เสียงก้องกังวานราวกับการหมุนตัวของอัสนีบนท้องฟ้าที่ดังกึกก้องไปทั่วถึงหูของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ ด้วยการนับถอยหลังครั้งสุดท้ายนี้ทำให้สีหน้าของผู้คนมากมายเปลี่ยนไปอย่างมาก!
ท้ายที่สุด ผู้คนมากมายเข้าสู่แดนลับก็เพื่อจะแสวงหาโชคและโอกาส แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาต้องข้ามผ่านความเป็นความตาย ผู้คนมากมายก็ล่าถอยในทันที!
ครืด ครืด ครืด!
แน่นอนว่าในช่วงเวลาต่อมา บางคนพุ่งออกจากแดนลับทันที แต่อย่างไรก็ยังมีผู้คนอีกมากที่อยู่ต่อ ความภาคภูมิแห่งสวรรค์ของทั้งสิบเผ่าพันธุ์ราชันบรรพกาลหาได้มีผู้ใดล่าถอย ในฐานะของสิบเผ่าราชัน พวกเขามีความหยิ่งทะนงและความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม จึงไม่ได้เกรงกลัวต่อคำข่มขู่ใด ๆ!
“หมดเวลาแล้ว! ผู้คนที่เหลืออยู่คือเหล่าคนที่ยอมรับการทดสอบทั้งสามของข้า!”
เสียงพูดพลันดังกึกก้องไปทั่วอีกครั้ง ทิวทัศน์รอบตัวเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์ที่อยู่ภายในแดนลับก็แปรเปลี่ยนไป แล้วทุกคนก็มาถึงดินแดนอันโกลาหล!
หลังจากนั้นเสียงดังกึกก้องก็ดังขึ้น “การทดสอบที่หนึ่งคือ การทดสอบร่างกาย ร่างกายของผู้ที่เข้าร่วมรอบนี้จะได้รับพลังการกดทับอันมหึมา พวกเจ้าจะต้องอดทนและผ่านการทดสอบนี้ด้วยเวลาหนึ่งก้านธูปดับ!”
“อะไร! พลังกดทับอันมหึมานับพันล้าน?”
สวรรค์! พลังกดทับอันมหึมานับพันล้าน เกรงว่าจะมีเพียงความหนักของดวงดาวแล้วล่ะ!”
“ไม่ ๆๆ! ข้าจะถอย ข้าขอล่าถอย!”
“…”
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก มีเหล่าผู้คนที่ยังฝึกฝนได้ไม่เก่งมากนักต่างต้องการที่จะล่าถอย!
ตู้ม!
ทว่าในเวลาต่อมานั้น กลับมิได้มีการตอบกลับจากเสียงนั้นเลย เสียงระเบิดพลันดังขึ้น พลังอันน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ได้บดขยี้ลง พลังโถมทับมหาศาลราวกับดวงดาราตกลงมาจากฟากฟ้า!
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
ในเวลานี้ เหล่าความภาคภูมิแห่งสวรรค์วัยเยาว์มากมายไม่แม้แต่จะได้ส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมา ร่างกายก็แตกออกจนกลายเป็นหมอกโลหิต เหลือเพียงวิญญาณเซียนที่กำลังสั่นสะเทือน!
และเมื่อเห็นเช่นนั้น เหล่าเซียนธุลีสีชาดผู้แข็งแกร่งที่อยู่ภายนอกมิติลับก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ผู้คนของเผ่าบรรพกาลรวมถึงผู้คนของเผ่าราชาบรรพกาลต่างมีสีหน้าที่ซีดลง มีเพียงยอดฝีมือแห่งเผ่าราชันบรรพกาลทั้งสิบที่ยังคงดูเป็นปกติ!
“หึ! การทดสอบนี้คือ การใช้พลังเพื่อก้าวผ่านความปรารถนาที่มีเพียงสุดยอดผู้แข็งแกร่งจะทดสอบได้ แค่การทดสอบแรกก็แสนโหดเหี้ยมแล้ว!”
“พลังโถมทับมหาศาลราวกับดวงดาราที่ตกลงมา หากร่างกายไม่แข็งแรงมากพอก็ไม่มีทางรับแรงได้ไหว!”
“ฮ่า ๆ ก็พอได้ ร่างกายเผ่ามังกรของข้าแข็งแกร่งอย่างไม่มีผู้ใดเทียบได้ การทดสอบรอบแรกนี้สำหรับเผ่ามังกรของข้าแล้วนั้นก็มิได้มีอะไรมากมาย!”
“หึ! เผ่ากิเลนของข้าก็มีร่างกายที่ไม่เป็นสองรองผู้ใด แค่แบกดวงดาวเพียงดวงเดียวก็คงไม่มีปัญหาอันใด!”
“เผ่าฮุ่นตุ้นอัสนีของข้าฝึกฝนร่างกายโดยการใช้สายอสนีบาตตลอดทั้งปี ต่อให้เป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ เผ่าของข้าก็มิเคยเกรงกลัว!”
“…”
เหล่ายอดฝีมือแห่งสิบเผ่าพันธุ์ราชันบรรพกาลต่างพูดคุยกัน และยิ้มด้วยความมั่นใจ!
ด้วยกระจกส่องนภาที่ส่องแสงออกมาทีละดวง ๆ มังกรหยิ่งผยอง หงส์เพลิง กิเลน ปีศาจ และร่างกายของเหล่าราชันที่เป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ก็ค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นต่อ ๆ กัน แม้ว่าพลังกดทับอันมหึมานับพันล้านนั้นจะน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก แต่เหล่าเผ่าราชันที่เป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์ล้วนพยายามที่จะยกมันขึ้นมา
“เผ่าสวรรค์เป็นเช่นไรบ้าง?”
“ความแข็งแกร่งของเผ่าสวรรค์ก็คือเลือด แต่ร่างกายเรียกได้ว่าอ่อนแอเป็นอย่างมาก เกรงว่าเทียนจื่อแห่งเผ่าสวรรค์คงจะถูกพลังบดขยี้ร่างกายจนตายตกแล้ว!”
“ฮ่า ๆๆ! รีบเร่งใช้งานกระจกส่องนภาเสียเถอะ ให้พวกข้าได้ดูฉากอันน่าสมเพชเวทนาของเผ่าสวรรค์!”
ในเวลานี้ เผ่านรก เผ่ากลืนนภา เผ่าฮุ่นตุ้นอัสนี และเหล่าผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ต่างก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยให้กับหนิงฝาน ทั้งใช้กระจกส่องนภาเพื่อดูเทียนจื่อหนิงฝาน!
เห็นเช่นนั้น เทียนเสียหนิงฝานยิ้มขึ้นด้วยความเหยียดหยาม
ร่างกายเผ่าสวรรค์อ่อนแอเป็นเรื่องจริง แต่หลายปีมานี้เทียนจื่อหนิงฝานได้ฝึกฝนวิชาโลหิตจักรพรรดิสวรรค์อยู่เสมอ เขาสามารถรวบรวมร่างกายแห่งจักรวรรดิสวรรค์อันน่าเกรงขามมาได้นานแล้ว ร่างกายที่ไม่เป็นสองลองผู้ใด ดังนั้นความตั้งใจของคนเหล่านี้ก็คงจะต้องผิดหวัง!
และในเวลาต่อมา ด้วยกระจกส่องนภาที่ส่องภาพของเทียนจื่อออกมา รอยยิ้มของทุกคนปรากฏขึ้นบนในหน้า!
ในภาพนั้น เทียนจื่อหนิงฝานไม่เพียงไม่ได้ระเบิดตัวออกและกลายเป็นหมอกโลหิตตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ แต่ยังเดินราวกับกำลังเหาะอยู่บนพื้นที่การทดสอบพร้อมกับกระโดดไปมา…
เห็นเช่นนั้น ผู้คนต่างพากันสบถออกมาเป็นคำหยาบ แม้แต่เผ่ามังกร เผ่ากิเลน หรือผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ สีหน้าล้วนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างผิดธรรมชาติ!
ผู้ใดจะล่วงรู้ว่าพลังมหาศาลที่ตกลงมา เผ่ามังกร เผ่ากิเลน และคนอื่น ๆ แม้ว่าจะสามารถอดทนได้ แต่ก็ล้วนถูกกดทับให้อยู่กับที่จนไม่สามารถขยันตัวหรือเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตาม เทียนจื่อแห่งเผ่าสวรรค์ยังคงกระโดดไปมา… ความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เมื่อครู่นี้ของเขา อีกนิดเดียวก็จะถูกทำลายลงแล้ว!
และความคิดของเหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ภายนอกมิติลับนี้ก็เกือบจะแตกสลายออก ในไม่ช้า เวลาหนึ่งก้านธูปก็หมดลง!
“เวลาหนึ่งการธูปหมดลงแล้ว ตอนนี้เริ่มต้นแบบทดสอบที่สองได้!”