นอกจากนี้ ยังมีจานถั่วลิสงและเกาลัดอีกสองสามจานนั้นก็ดูดีอย่างมาก และแน่นอนว่ามีแก้วเหล้าแสงจันทร์ด้วยเช่นกัน
เฮ่อเหลียนเวยเวยยืนขึ้นเพื่อรินเหล้าให้ตนเอง หลังจากนั้น ก็แกะถั่วลิสงเข้าปาก
ในขณะที่นางกำลังเคี้ยวถั่วอยู่นั้น นางก็ถอดมงกุฎหงส์บนศีรษะออก ก่อนจะปล่อยผมสีดำยาวสยายจนปกคลุมชุดแต่งงาน และเดินเท้าเปล่าเข้าไปในห้องน้ำ เท้าของนางงดงาม เล็บเท้าของนางนั้นเป็นทรงมนและมีสีใส
เฮ่อเหลียนเวยเวยเอื้อมมือเข้าไปในอ่างน้ำเพื่อทดสอบความอุ่นของน้ำร้อน เมื่อพบว่าอุณหภูมิของมันกำลังพอดี นางจึงใส่น้ำยาบำรุงผมและล้างออกจนสะอาด หลังจากใช้เปลวไฟจากธูปเทียนในการทำผมให้แห้งแล้ว นางก็เดินกลับเข้าไปในห้อง
เฮ่อเหลียนเวยเวยเอนตัวพิงเก้าอี้บุนวมที่ทำมาจากไม้จันทน์แกะสลัก ผมสีดำดุจไหมของนางคลอเคล้าอยู่ตรงแขนของนาง
หญิงสาวคิดว่าคืนนี้ องค์ชายสามคงจะไม่มาที่นี่แล้ว นางจึงอ่านหนังสือเพื่อฆ่าเวลา นางหาวเป็นครั้งคราวและรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ
เฮ่อเหลียนเวยเวยสวมกระโปรงบานพลิ้วที่ประดับด้วยดอกกุหลาบและมีผ้าฝ้ายสีแดงอยู่ระหว่างแขน นางไม่ได้สวมเสื้อตัวนอกให้ยุ่งยาก ในขณะที่นางดมกลิ่นธูปหอมนั้น นางก็รู้สึกง่วงนอนอย่างยิ่ง
ในตอนแรกนั้นนางยังรู้สึกปกติดี แต่เนื่องจากว่าในวังหลวงแห่งนี้เงียบสงบอย่างมาก ทำให้ผล็อยหลับได้ง่าย
หลังจากนั้น นางก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ตนเองรู้สึกว่าแผ่นหลังของนางสั่นระริกอย่างที่ไม่เคยเป็นนั้น เป็นเพราะขนสัตว์สีดำที่อยู่ด้านล่างตัวของนางหรือไม่และผิวที่ขาวกระจ่างใสของนางก็มีเหงื่อผุดออกมาบางๆ เลือดในกายของนางสูบฉีดอย่างรวดเร็ว ทั้งมือและเท้าของนางรู้สึกอ่อนแรงอย่างมาก
เกิดอะไรขึ้น
ขณะที่เฮ่อเหลียนเวยเวยขมวดคิ้ว นางก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านนอก
“องค์ชาย” ไป๋เหมยที่อยู่ด้านนอกห้องโถงไม่คิดว่าองค์ชายจะกลับมาเร็วขนาดนี้ นางคุกเข่าลงบนพื้น
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาคลายปกคอชุดแต่งงานของตนเอง และพูดอย่างเหนื่อยล้า “พวกเจ้าทุกคนออกไป”
ไป๋เหมยเงยหน้ามองเงาทมิฬ เมื่อเงาทมิฬพยักหน้าให้ พวกเขาทั้งสองคนก็ตอบกลับด้วยความเคารพ “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยต้องการที่จะลุกขึ้น แต่นางไม่มีเรี่ยวแรง นางยังคงมีท่าทีเกียจคร้านและเลิกคิ้วขึ้นขณะมองดูไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเดินเข้ามา
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะนี้ นางดูเย้ายวนเพียงใด คิ้วของนางสวยได้รูป แก้มแดง และดวงตากลมโตที่ดูหยาดเยิ้ม
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเลิกคิ้วขณะเดินเข้าไปหานางช้าๆ
เฮ่อเหลียนเวยเวยวางหนังสือในมือลงและยิ้มให้ “ข้านอนกับนาง และท่านนอนบนเตียงจะดีหรือไม่”
เมื่อไป๋หลี่เจียเจวี๋ยได้ยินเช่นนั้นก็เผยสายตาเย็นชาออกมา จนถึงตอนนี้แล้ว นางยังต้องการที่จะรักษาระยะห่างกับเขาอีกหรือ
ดูเหมือนนางจะไม่รู้ว่าวันนี้คือวันอะไร
โธ่ ช่างเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยที่มุ่งมั่นอะไรเช่นนี้
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยกริมฝีปากขึ้น และเดินไปหาพร้อมกับเผยรอยยิ้มบนใบหน้า “ไม่จำเป็น ที่นี่ข้ามีเตียงสองเตียง”
“จริงหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกกระหายน้ำจึงจิบชาก่อนจะพูดต่อ “ทำไมข้าถึงไม่เห็นเล่า”
“หลังจากที่พวกเราดื่มเหล้ากันสักสองสามแก้วแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปดูเอง” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยืนขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วเรียวยาวปลดแขนเสื้อของตนเองออก มันเป็นท่วงท่าที่สง่างามอย่างยิ่ง จนทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกอยากจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
นางสะบัดศีรษะ และรินน้ำชาให้กับตนเองอีกถ้วย
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยที่อยู่ด้านข้างเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าหิวน้ำมากเลยหรือ”
“นิดหน่อย” เฮ่อเหลียนเวยเวยเลียริมฝีปากบางของตนเอง ความรู้สึกชาวาบที่แปลกประหลาดนี้ทำให้นางไม่สามารถควบคุมมือของตนเองได้ หญิงสาวยกกระโปรงของตนเองขึ้น เผยให้เห็นผิวขาวผ่อง ใบหน้าของนางแดงก่ำ
ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยดูเคร่งขรึม และเขาก็หยุดชะงักการเคลื่อนไหวลง ชายหนุ่มหรี่ตามองหญิงสาวพร้อมกับยิ้มให้อย่างชั่วร้าย “เจ้ากำลัง…พยายามจะยั่วยวนข้าเช่นนั้นหรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยกำลังจะปฏิเสธ แต่ก็รู้สึกถึงเก้าอี้ไม้ที่ขยับ ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเข้ามานั่งข้างๆ และกำลังก้มมองนางอยู่ ดวงตาสีเข้มของเขาเผยให้เห็นประกายเล็กน้อย “เช่นนั้นหรือ”
เขามีกลิ่นเหล้า และลมหายใจอันเยือกเย็นของเขาก็แทรกซึมเข้าไปในลมหายใจของหญิงสาว น้ำเสียงที่ชัดเจนตามปกติของเขาฟังดูแหบพร่าเล็กน้อย เฮ่อเหลียนเวยเวยเดาว่าเขาคงจะเมา
ท่าทางของพวกเขาในตอนนี้ช่างน่ากระอักกระอ่วนเกินไป ราวกับว่าทุกอณูในร่างกายของนางสัมผัสได้ถึงลมหายใจของชายหนุ่ม และนางก็หดตัวลงเล็กน้อย
เฮ่อเหลียนเวยเวยทนกับสิ่งนี้ไม่ได้ จึงหันศีรษะกลับมาเล็กน้อย
และทันใดนั้น ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็เอื้อมมือออกไปรวบผมของนางที่กระจายอยู่บนหมอนผ้าไหม กลิ่นหอมของธูปและกลิ่นเหล้ากระทบลงบนใบหน้าของเฮ่อเหลียนเวยเวย
ความร้อนที่หาคำอธิบายไม่ได้นั้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงมีสติชัดเจน และนางกลัวว่าองค์ชายสามจะเข้าใจการกระทำในตอนนี้ของนางผิดไป แล้วมันจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ที่จะต้องร่วมมือกันในอนาคตของพวกเขา นางยกริมฝีปากขึ้นและยิ้มให้ “ข้าเพียงแค่รู้สึกร้อนนิดหน่อยเท่านั้น องค์ชายช่วยเรียกสาวใช้เข้ามาในนี้ และให้พวกนางเอาอ่างน้ำเย็นมาล้างหน้าให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”
“เจ้าสระผมแล้วไม่ใช่หรือ น้ำเย็นอยู่ในห้องน้ำ” จากคำพูดของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ยอมแพ้
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่รีบร้อนและหยิบหนังสือขึ้นมา ขณะที่นางกำลังอ่าน นางก็จิบชาที่เย็นชืดสองสามคำ ราวกับจะบอกว่าเขาสามารถไปทำสิ่งที่เขาต้องการได้
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองนางอย่างเคร่งขรึม เขาไม่ชอบทำอะไรก่อนอาบน้ำ เขาเอื้อมมือไปปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดคลุมออก และโยนมันทิ้งด้านข้างอย่างไม่สนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ขาเรียวยาวของเขาอยู่ด้านหลังฉากกั้น ดูเหมือนว่าเขากำลังใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
เมื่อไม่มีลมหายใจของเขาที่กระทบตัวนาง เฮ่อเหลียนเวยเวยก็รู้สึกกระหายน้ำน้อยลง และสามารถผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกก่อนหน้านี้ทำให้นางรู้สึกอึดอัดอย่างมาก
นางรู้สึกราวกับว่าตัวเองอยู่ในทะเลทรายและกำลังจะตายเพราะขาดน้ำ เมื่อองค์ชายสามปรากฏตัวขึ้นในตอนนั้น นางก็รู้สึกอยากจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาเพื่อดับกระหาย!
โชคดีที่ความรู้สึกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา มิเช่นนั้น เฮ่อเหลียนเวยเวยก็จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม แขนและขาของนางยังคงอ่อนแรงอยู่
นางจิบชาอีกครั้ง และทันใดนั้น นางก็นึกขึ้นได้ว่านางสามารถเห็นรูปลักษณ์ขององค์ชายสามได้หลังจากที่เขาถอดหน้ากาก
ก่อนหน้านี้ องค์ชายสามเคยบอกว่า ใครก็ตามที่ถอดหน้ากากของเขา จะมีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น คือหนึ่ง ตาย และอีกทางเลือกคือต้องเข้าไปเป็นทาสรับใช้ในวังหลวง นอกเสียจากว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนของเขา
ในเมื่อตอนนี้ พวกเขาแต่งงานกันแล้ว องค์ชายสามจึงไม่น่าจะรู้สึกเขินอายกับนาง นอกจากนี้ เขาก็ไม่สามารถสวมหน้ากากนอนได้ สำหรับคนที่พิถีพิถันในเรื่องของความสะอาด เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกันกับนางที่ต้องล้างคราบดำบนใบหน้าออกทุกคืนก่อนนอน เพื่อให้นางนอนหลับสนิท มิเช่นนั้นแล้ว มันก็จะส่งผลเสียต่อผิวพรรณของนาง
เมื่อเฮ่อเหลียนเวยเวยคิดเช่นนั้น นางก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น หญิงสาวพยายามลุกขึ้นยืนพร้อมกับผ้าที่คลุมตัวของนางอยู่
“เจ้าจะไปไหนหรือ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลังของหญิงสาว เฮ่อเหลียนเวยเวยหมุนตัวไปและเห็นว่าไป๋หลี่เจียเจวี๋ยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาแล้ว เขาถือเหยือกเหล้าสีขาวเคลือบแก้วไว้ในมือ และร่างสูงโปร่งของเขาก็สวมใส่ชุดคลุมสีแดง เขาเดินออกมาอย่างไม่รีบร้อน