รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 268 พวกต่ำทรามที่ซ่อนตัวในความมืดของยุคนี้ต้องออกมาอยู่กลางแจ้งทั้งหมด

บทที่ 268 พวกต่ำทรามที่ซ่อนตัวในความมืดของยุคนี้ต้องออกมาอยู่กลางแจ้งทั้งหมด

บทที่ 268 พวกต่ำทรามที่ซ่อนตัวในความมืดของยุคนี้ต้องออกมาอยู่กลางแจ้งทั้งหมด

พวกเขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่มาส่งเทียบเชิญ

เทียบเชิญถูกห่อหุ้มด้วยพลังแกร่งกล้า ตรงเข้ามาถึงสถานที่พำนักของพวกเขา ราวกับม่านพลังไม่มีอยู่ บนเทียบเชิญมีข้อความเชื้อเชิญเด็กรุ่นหลังผู้มีฝีมือโดดเด่นของกลุ่มอำนาจพวกเขาไปเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ที่ภาคกลาง

จะให้พวกเขาเปิดเผยตัวตนหรือ?

กลุ่มอำนาจลับทั้งหลายเดือดดาลถึงขีดสุด จิตสังหารพลุ่งพล่าน ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของพวกเขาสูญเปล่า บัดนี้ถูกเปิดโปงอย่างสมบูรณ์

ไม่ไปหรือ?

เป็นไปได้เยี่ยงไร

ผู้ส่งเทียบเชิญส่งมาถึงด้านในสถานที่พำนักของพวกเขาได้ง่ายดายปานนี้ ราวกับม่านพลังไม่มีอยู่ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายมีความสามารถกล้าแกร่ง เกินกว่าที่พวกเขาจะต้านทานได้ไหว

หากไม่ไป…เท่ากับรนหาที่ตาย

“ลัทธิไท่เสวียน…สมควรตายนัก!”

“ฆ่า!”

พวกเขาล้วนโกรธจัด ทนไม่ไหวอีกต่อไป เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะลัทธิไท่เสวียน พวกเขาต้องการให้ลัทธิไท่เสวียนชดใช้อย่างสาสม

พวกเขาตั้งใจหลบซ่อนตัวมาตั้งแต่ยุคโบราณ มิกล้าเผยตัวแม้แต่น้อยในยุคนี้ บัดนี้ทุกอย่างสูญเปล่า โทสะในใจพวกเขาพวยพุ่งในระดับที่ระงับไม่ได้อีกต่อไป!

พวกเขาออกโรงอย่างพร้อมเพรียง ส่งยอดฝีมือทั้งหมดในสำนักบุกไปยังสถานที่ตั้งลัทธิไท่เสวียน

บัดนี้พวกเขาปราศจากความกังวล เพราะทุกอย่างหมดสิ้นประโยชน์แล้ว

พวกเขาจำต้องเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อไปถึงงานชุมนุมใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขาไม่อาจหลบซ่อนปิดบังได้อีก พวกเขาจักเผยตัวสู่ธารกำนัลอย่างสิ้นเชิง

ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงสถานที่ตั้งของลัทธิไท่เสวียน

พวกเขามองหน้ากันและกัน ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใดไปมากกว่านี้ ทุกคนต่างมีความในใจเดียวกัน จากจิตสังหารรุนแรงที่แผ่ซ่านออกมาจากแต่ละคน พวกเขาก็เข้าใจแล้วทุกอย่าง

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

พวกเขาจู่โจมทันที อาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ และแม้กระทั่งอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงกู่ร้อง เปล่งพลานุภาพแสนสยดสยอง อสนีบาตแปลบปลาบ มิติบิดเบี้ยว ทุกสิ่งถล่มใส่ม่านพลังของลัทธิไท่เสวียน หมายจะบุกเข้าไป!

“อ๊ากกก! เฮ่อเหยียน ข้าต้องซวยเพราะเจ้า!”

ภายในลัทธิไท่เสวียน เจ้าลัทธิไท่เสวียนคำรามอย่างเดือดดาล

เขาเข้าใจว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน เฮ่อเหยียนเป็นผู้เปิดเผยเรื่องราวของกลุ่มอำนาจลับอย่างพวกเขาออกไป

เวลานั้น เสียงม่านพลังแหลกลาญดังขึ้น ยอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับต่าง ๆ บุกเข้ามา พวกเขาลงมือด้วยความเคียดแค้น ทั้งยังลงมืออย่างพร้อมเพรียง ม่านพลังของลัทธิไท่เสวียนไม่อาจกีดขวางพวกเขาได้เลย ไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

“ทุกท่าน โปรดฟังข้าก่อน ข้าเอง…ก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน!”

หยวนเซิ่ง เจ้าลัทธิไท่เสวียนร่ำไห้ตะโกนบอก

เขาไฉนเลยเคยคิดอยากพาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนไปยังสถานที่ตั้งของกลุ่มอำนาจลับต่าง ๆ

แต่เขา…ไม่มีทางเลือก!

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนแข็งแกร่งเกินไป หากไม่พาไป เขาคงต้องตายตั้งแต่ครานั้น ลัทธิไท่เสวียนของพวกเขาก็ต้องถึงคราวจบสิ้นตั้งแต่ครานั้น!

“เหยื่อบ้าเหยื่อบออันใด!”

“วันนี้ลัทธิไท่เสวียนจักถูกลบล้าง!”

จิตสังหารของยอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับต่าง ๆ มิได้ลดทอนไปแต่อย่างใด พวกเขาล้อมหยวนเซิ่งไว้ หากไม่ล้างบางทั้งลัทธิไท่เสวียน ยากจะสาสมต่อความแค้นของพวกเขา

ถึงอย่างไรอีกไม่นานพวกเขาก็ต้องเผยตัวอยู่ดี มิต้องกลัวจะเอิกเกริกเกินไป

“ล้างแค้นต้องล้างกับตัวการ พวกเจ้าไปหาเฮ่อเหยียนสิ ข้าเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์จำยอมเช่นกัน!”

หยวนเซิ่งตื่นตระหนก วันนี้ลัทธิไท่เสวียนของพวกเขาคงหนีไม่พ้นเคราะห์ร้าย ต้องถูกล้างบาง!

เขาสังหรณ์ใจมานานแล้วว่าจะเกิดเรื่อง จึงปิดผนึกม่านพลังของลัทธิไท่เสวียน และคิดเคลื่อนย้ายสมาชิกลัทธิไท่เสวียนออกไปให้หมด

การเคลื่อนย้ายอาจเปิดเผยตัวตนของลัทธิไท่เสวียน กระนั้นยังดีกว่าถูกล้างบางอย่างสิ้นเชิง!

ทว่ากลุ่มอำนาจลับทั้งหลายล้อมลัทธิไท่เสวียนไว้หมดแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสเคลื่อนย้ายได้เลย

บัดนี้ ลางสังหรณ์ของเขากลายเป็นจริง กาลอวสานของลัทธิไท่เสวียนมาถึงแล้วจริง ๆ!

“ฆ่า!”

“อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”

ยอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับต่าง ๆ สายตาเย็นยะเยือก ไม่เปลี่ยนความคิดแม้แต่น้อย ยังคงต้องการล้างบางทั้งลัทธิไท่เสวียน

ส่วนการคิดบัญชีกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนนั้น…

คิดอันใดอยู่ หากพวกเขาสามารถถึงเพียงนั้น มีหรือจะปล่อยให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนทำตามอำเภอใจในสำนักลัทธิของพวกเขา

ไปคิดบัญชีกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน เท่ากับรนหาที่ตาย!

พวกเขาลงมือ สุดยอดวิชาทั้งหลายถูกปล่อยออกมาพร้อมกัน หยวนเซิ่งไม่มีความคิดแม้แต่จะป้องกันตน เขาหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง

ให้ป้องกันอย่างไร?

ยอดฝีมือที่ลงมือนั้นล้วนแต่แกร่งกล้ากว่าเขา ไม่มีทางเลยที่เขาจะป้องกันได้

พรวด พรวด พรวด!

ขณะนั้นเอง พลังแสนน่ากลัวมวลหนึ่งพลันปรากฏ น่ากลัวจนสั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ ยอดฝีมือกลุ่มอำนาจลับต่าง ๆ ล้วนสะเทือนจนกระเด็นออกไป ปากกระอักเลือด โลหิตกระเซ็นอยู่บนพื้น

“ความสมัครสมานนั้นสำคัญที่สุด มัวต่อสู้ห้ำหั่นกันไปไย ทุกท่านกลับไปเตรียมตัวดีกว่า จักได้พาโอรสสวรรค์ผู้มีสามารถโดดเด่นในแต่ละกลุ่มอำนาจเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากกลางอากาศ สีหน้าราบเรียบ ผมสีทองยาวถึงเอว ดวงตาวาวโรจน์ บุคลิกสูงส่งไม่ธรรมดา

“งานชุมนุมใหญ่?”

“เจ้าคือคนส่งเทียบเชิญหรือ?”

สีหน้ายอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับทั้งหลายเปลี่ยนไปฉับพลัน ปราณของเด็กหนุ่มเหนือกว่าขอบเขตพรตเต๋าทั้งเก้าขั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เกริกไกร หรืออาจแข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น!

“ถูกต้อง”

เด็กหนุ่มหัวเราะเบา ๆ “หนูต่ำทรามเช่นพวกเจ้าชินกับการหลบซ่อนตัว ขืนไม่จับตาดูไว้หน่อย ประเดี๋ยวหนูต่ำทรามอย่างพวกเจ้าจะเผ่นไปอีก”

หนู?

ดูแคลนกันปานนี้…ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาหรือ!?

เหล่ายอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับเดือดดาล ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นถึงตระกูลนักบุญจากยุคโบราณ อีกฝ่ายกลับเรียกขานพวกเขาดั่งหนู หากมิใช่ว่าพวกเขามีกำลังไม่พอ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารเด็กหนุ่มผู้นี้ลง ณ ที่นี้!

“แม้เป็นเพียงฝูงหนูต่ำทราม ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ของยุคนี้ก็นับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง…เอาเถิด เลิกคิดเรื่องห้ำหั่นกันเองเสียที อยู่เฉย ๆ เสีย!”

เด็กหนุ่มปรายตามองเหล่ายอดฝีมือจากกลุ่มอำนาจลับทั้งหลายด้วยความรังเกียจ จากนั้นร่างของเขาก็สลายไปจากที่แห่งนี้เสียแล้ว

วาสนาการเปลี่ยนแปลงสะท้านนภากำลังจะปรากฏในดินแดนหยินอย่างนั้นหรือ

นั่นหาใช่วาสนาการเปลี่ยนแปลงไม่…

เด็กหนุ่มล่วงรู้ความจริง สิ่งที่กำลังจะปรากฏในดินแดนหยินคือหายนะครั้งใหญ่ คือภัยพิบัติที่เรื้อรังมาตั้งแต่ยุคโบราณ ภัยพิบัติที่พร้อมถล่มใส่สิ่งมีชีวิตทั้งแดน…

หากมิใช่เพราะเหตุนี้ เขาไม่มีทางออกหน้าช่วยลัทธิไท่เสวียน

เขาอาจล้างบางกลุ่มอำนาจลับทั้งหมดนี้ด้วยซ้ำ

สิ่งที่เขาดูแคลนมากที่สุดก็คือพวกเห็นแก่ตัว มองแต่ตนเอง…

เรื่องนี้มิใช่ความปลอดภัยส่วนบุคคลอีกแล้ว หากแต่เป็นภัยพิบัติที่ทั้งแดนต้องเผชิญ การเห็นแก่ตัวไม่เพียงแต่เป็นภัยต่อผู้อื่น ยังบ่อนทำลายตัวเองอีกด้วย!

“พวกเจ้าคิดจริงหรือว่าแค่ซ่อนตัวไว้ก็มิมีผู้ใดล่วงรู้ ครั้งยุคโบราณ ข้าเพียงแต่ไม่ว่างจัดการพวกเจ้า ที่ไม่จัดการพวกเจ้าในยุคนี้ ก็เพื่อให้พวกเจ้าได้เปล่งประกายในยามนี้!”

เด็กหนุ่มพึมพำเสียงเบา “พวกต่ำทรามที่ซ่อนตัวในความมืดของยุคนี้ ต้องออกมาอยู่กลางแจ้งทั้งหมด เข้าร่วมมหาสงครามที่มิได้เข้าร่วมในยุคโบราณ!”

ไม่เพียงแต่เหยียนโจวเท่านั้นที่มีกลุ่มอำนาจเห็นแก่ตัว หนีสงครามเอาตัวรอด แคว้นอื่นในดินแดนหยิน รวมถึงดินแดนฮวงล้วนมีกลุ่มอำนาจลับเห็นแก่ตัวเยี่ยงนี้อยู่

กลับเป็นดินแดนฝอที่ไม่มี ดินแดนฝอเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก มหาสงครามยุคโบราณครานั้น พุทธศาสนาเป็นกำลังสำคัญทีเดียว

กลุ่มอำนาจลับทั้งปวงในอาณาจักรนี้ต่างคิดว่าพวกเขาซ่อนตัวได้ดีเยี่ยม หารู้ไม่ พวกเขาหนีไม่พ้นสักคน ถูกสืบจนเจอตัวกันนานแล้ว

ที่ก่อนหน้านี้มิได้เอาเรื่องกลุ่มอำนาจลับเหล่านี้ มีเหตุผลดังที่เด็กหนุ่มว่า เก็บกลุ่มอำนาจลับเหล่านี้ไว้เพื่อเวลาที่ภัยพิบัติจุติลงมาในยุคนี้อีกครั้ง กลุ่มอำนาจลับเหล่านี้ยังสามารถเข้าร่วมสงครามได้

สำนักไท่หัว

“คุณชายต้องการเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ที่ภาคกลางถือเป็นเรื่องใหญ่!”

เซี่ยเหยียนรายงานเรื่องนี้ต่อผู้อาวุโสเวิงอู๋โยว

“ผู้อาวุโส เราแยกย้ายกันไปเตรียมการ ท่านไปเตรียมรถลาก ข้าไปเตรียมสัตว์อสูรมาลากรถ!”

นางกล่าวกับผู้อาวุโส แล้วออกจากสำนักไท่หัว

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท