รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 269 จะฆ่าจะหยามแล้วแต่ท่าน อย่างไรข้าก็ขอเป็นให้ได้!

บทที่ 269 จะฆ่าจะหยามแล้วแต่ท่าน อย่างไรข้าก็ขอเป็นให้ได้!

บทที่ 269 จะฆ่าจะหยามแล้วแต่ท่าน อย่างไรข้าก็ขอเป็นให้ได้!

เหยียนโจวมีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ทั้งห้าภูมิภาคต่างกว้างขวาง การเดินทางระหว่างภาคมิใช่เรื่องเล็ก จำต้องใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่จึงจะส่งไปถึง

ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่เยี่ยงนี้ กลุ่มอำนาจฝึกตนที่ครอบครองนั้นมีเป็นส่วนน้อย ซึ่งสำนักไท่หัวไม่มี

การที่พวกเขาต้องเดินทางจากแดนบูรพาทิศไปยังภาคกลาง จำต้องค่อย ๆ รุดหน้าไป

เวิงอู๋โยวกับเซี่ยเหยียนแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ คนหนึ่งไปเตรียมรถ คนหนึ่งไปตามหาสัตว์อสูรลากรถ

รถนั้นหาง่าย

เวิงอู๋โยวจำได้ว่าเคยเห็นจากร้านประมูลว่ามีการเปิดประมูลรถลาก เพียงแต่รถลากนั้นมีประโยชน์ใช้สอยน้อยนิด อีกทั้งราคายังสูงลิ่ว จึงหลุดประมูลไปในตอนนั้น มิมีผู้ใดเสนอราคา

รถลากคั้นนั้นเป็นของจากยุคโบราณ ภายนอกดูมิได้วิเศษวิโสใด ๆ ขนาดก็ไม่ใหญ่ ทว่าภายในนั้นมีความยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ ด้านในหรูหราสบายอย่างยิ่ง

ทว่า…ก็ได้เพียงแค่นั้น

รถลากโบราณคันนี้ นอกจากความหรูหราภายใน มันไม่เหลือประโยชน์อื่นใดอีก บินเหินไม่ได้ โจมตีไม่ได้ และไม่มีกลไกป้องกันใด ๆ…

ทว่าเนื่องด้วยเป็นรถลากในยุคโบราณ อยู่มานานนม ราคาจึงสูงยิ่ง

ไม่มีผู้ใดเต็มใจซื้อรถลากที่ใช้ประโยชน์ไม่ค่อยจะได้เยี่ยงนี้ด้วยราคาสูง เพราะอย่างนั้นครานั้นจึงหลุดประมูล ไม่มีคนเสนอราคาสักคน

เวิงอู๋โยวมาถึง สอบถามไปว่ารถลากโบราณคันนั้นยังอยู่หรือไม่

รถลากคันนั้นแทบจะเปิดประมูลทุกครั้งที่มีงาน ทว่าไม่เคยมีผู้ใดเสนอราคา

หนนี้ก็เช่นกัน

เมื่อรถลากโบราณถูกยกขึ้นมาบนแท่นประมูล ไม่มีผู้ใดในที่นี้เสนอราคา เวิงอู๋โยวจึงประมูลรถลากคันนี้ได้สบาย

หลังจากนั้น เขาออกจากร้านประมูล นำรถลากกลับไปที่สำนักไท่หัว รอคอยการกลับมาของเซี่ยเหยียน

รถคันนี้เตรียมไว้ให้ท่านเซียนนั่ง นั่งสบายก็พอ ประโยชน์ใช้สอยอื่นมีหรือไม่ก็ไม่ต่าง

อีกด้าน เซี่ยเหยียนมาอยู่บนเขาอสูรแห่งหนึ่ง

ผู้ฝึกตนในปฐพีนี้มีอยู่ถมเถ จำนวนสัตว์อสูรก็ไม่น้อยเช่นกัน

หรือหากย้อนกลับไปถึงยุคสมัยอันเก่าแก่ที่สุด ครานั้นยังเป็นอาณานิคมของอสูรเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มนุษย์ยังมิใช่เจ้านายของที่แห่งนี้

เทียบกันแล้ว อสูรมีกายเนื้อแข็งแรง สายเลือดทรงพลัง มนุษย์นั้นเทียบไม่ได้เลย ทั้งกายเนื้ออ่อนแอ สายเลือดก็เทียบไม่ได้

ทว่ามนุษย์ใฝ่เรียน ซ้ำยังมีพรสวรรค์สูงส่ง คล้อยตามการพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นเจ้านายของอาณาจักรแห่งนี้

อย่างเขาอสูรที่เซี่ยเหยียนมานี้ มีอยู่มากมายในแดนบูรพาทิศ มีสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ภายใน

เวลาเพียงสองเดือนกว่า ระดับพลังของเซี่ยเหยียนก้าวกระโดดอีกครั้ง นางจุดประกายเพลิงเทวาในกาย บรรลุขอบเขตเทวาสำเร็จ

เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี นางบรรลุจากขอบเขตประสานวิญญาณจนถึงขอบเขตเทวา กลายเป็นเทพเจ้าตนหนึ่ง ความเร็วนี้เรียกได้ว่าผิดปกติ หากผู้อื่นรู้เข้า ย่อมต้องตกตะลึงจนกรามค้าง!

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้นางได้ขลุกอยู่กับท่านเซียนบ่อย ๆ เล่า

ประโยชน์ที่นางได้รับนั้นมหาศาล!

นี่ขนาดนางมิได้ตั้งใจฝึกฝนเท่าใด หากนางเก็บตัวบำเพ็ญโดยไม่สนสิ่งอื่น ขอบเขตของนางย่อมสูงส่งกว่านี้ กลายเป็นนักบุญยังมิใช่ปัญหา

“หาเจอแล้ว”

นางเปิดประสาทสัมผัสเทวา พริบตาเดียวจิตก็ครอบคลุมทั้งเขาอสูร หยั่งรู้สถานการณ์ทั้งหมดในเขาอสูร

เสียงดัง ‘ฟึ่บ!’ นางมาอยู่ตรงหน้าสัตว์อสูรตนหนึ่ง

มันคือราชสีห์ตัวสีเหลืองทอง ทั้งเนื้อทั้งตัวราวกับหล่อด้วยทองคำ เจิดจ้าแยงตา ขนาดตัวเท่าภูเขาลูกเล็ก ไอเลือดชั่วร้ายดุดันน่าหวาดหวั่น

“โฮก!”

ราชสีห์ตัวสีเหลืองทองคำราม ดวงตาสิงโตของมันจ้องมองเซี่ยเหยียนด้วยความระแวง พลางส่งเสียงถาม “เจ้าเป็นใคร!?”

ขนทั้งตัวของมันตั้งชัน สีหน้าเคร่งเครียดกังวล มันสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงจากตัวเซี่ยเหยียน

เด็กสาวที่ดูอายุไม่มากผู้นี้ มีพลังพอจะปลิดชีพมันได้สบาย!

“ไปกับข้าเถิด ข้าจักมอบวาสนาการเปลี่ยนแปลงให้เจ้า ให้เจ้าได้ลากรถให้ผู้อาวุโสท่านหนึ่ง”

เซี่ยเหยียนกล่าว

หา?

ลากรถ?

เป็นสัตว์พาหนะรึ?

ทันทีที่ราชสีห์ตัวสีเหลืองทองได้ยินก็บันดาลโทสะในบัดดล

มันเป็นถึงจ้าวอสูรในถิ่นนี้ มีศักดิ์ศรีของตน ต่อให้มันมีพลังไม่สู้เด็กสาวตรงหน้า กระนั้นมันไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีไปเป็นสัตว์พาหนะให้ผู้อื่นเด็ดขาด!

“เจ้าฆ่าข้าเถิด!”

มันจ้องเซี่ยเหยียนด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว “เผ่ามนุษย์ของเจ้ามีวาจาหนึ่ง ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้ ข้าเองก็เป็นเช่นนั้น ยอมตายเสียดีกว่าเป็นสัตว์พาหนะ!”

“อย่างนั้นหรือ”

เซี่ยเหยียนคลี่ยิ้ม มิได้โมโหแต่อย่างใด

นางหยิบแตงกวาเขียวชอุ่มออกมาลูกหนึ่ง หักท่อนหนึ่งแล้ววางบนก้อนหิน ส่งสัญญาณให้ราชสีห์สีเหลืองทองไปกิน

นี่คือแตงกวาที่ท่านเซียนมอบให้นาง

ท่านเซียนไม่เพียงแต่มอบแตงกวาให้นางจำนวนหนึ่ง แล้วยังมีมะเขือเทศอีกจำนวน ท่านเซียนบอกว่าแตงกวากับมะเขือเทศกินดิบ ๆ ก็อร่อย

“โฮก!”

ราชสีห์สีเหลืองทองคำรามกราดเกรี้ยว ดวงตาสิงโตมองเซี่ยเหยียนด้วยความชิงชัง “ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ เมื่อครู่เจ้ามิได้ฟังที่ข้าบอกหรือ หยามเหยียดข้าถึงเพียงนี้!?”

มันโกรธจนแทบระงับโทสะไม่ไหว อวัยวะภายในเกือบจะระเบิดออกมา

หักแตงกวาท่อนเล็ก ๆ ให้มันกิน เซี่ยเหยียนเห็นมันเป็นตัวอะไร?

มันเป็นถึงราชสีห์!

กินเนื้อ!

มิได้กินเจ!

เซี่ยเหยียนรังแกสิงโตเกินไปแล้ว!

บัดซบ หากมิใช่ว่ามันสู้เซี่ยเหยียนไม่ได้ มันต้องกลืนกินเซี่ยเหยียนลงไปทั้งเป็นแน่!

“เจ้าจงดูให้ดี นี่คือวาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ทั้งชีวิตนี้ของเจ้าก็ไม่อาจได้มา”

เซี่ยเหยียนกล่าว

แม้นเป็นแตงกวาท่อนเล็ก ขนาดใหญ่สู้เล็บยังไม่ได้ ทว่านี่คือแตงกวาที่ท่านเซียนปลูกด้วยตนเอง ล้ำค่าหายากยิ่งกว่าโอสถจักรพรรดิเสียอีก ระดับมหาจักรพรรดิยังใช่ว่าจะมีโอกาสได้รับ

นางกล่าวว่านี่คือวาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ชั่วชีวิตของราชสีห์สีเหลืองทองมิอาจได้รับ หาได้เป็นการเหยียดหยามราชสีห์สีเหลืองทองไม่ แต่เป็นการพูดถึงข้อเท็จจริงเท่านั้น

“เจ้าหลอกข้าเหมือนข้าโง่หรือ!”

ราชสีห์สีเหลืองทองคำราม โกรธจนควันออกจมูก

ไปตายซะ ให้แตงกวาขนาดเล็กกว่าเล็บมาแล้วบอกว่าเป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ชั่วชีวิตของมันก็ไม่อาจได้รับหรือ ย่ำยีกันเกินไปแล้ว!

มันกินเนื้อไม่กินเจ หากมันกินเจแล้วอยากกินแตงกวาขึ้นมา สามารถหาแตงกวามาเองได้เป็นตัน!

เจ้ากำลังสบประมาทผู้ใดอยู่!

ทว่าตอนนั้นเอง สายลมบางเบาพัดโชย กลิ่นหอมสดชื่นของแตงกวาแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูหัวใจ

จากนั้น มันสูดจมูกอย่างแรง สูดดมกลิ่นหอมสดชื่นนี้อย่างละโมบ

หอมเหลือเกิน!

เพียงแวบเดียวมันก็ดื่มด่ำติดอยู่ในภวังค์ มันไม่เคยได้กลิ่นเช่นนี้มาก่อน หอมกว่าทุกกลิ่นที่มันเคยได้สูดดม!

“อายุขัยของข้า…เพิ่มพูนขึ้น!?”

เพียงครู่เดียว มันก็เบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

หลังจากได้กลิ่นหอมสดชื่นของแตงกวา มันกลับรู้สึกได้ว่าแก่นกำเนิดชีวิตในตัวมันกำลังทวีคูณอย่างรวดเร็ว!

เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

แก่นกำเนิดชีวิตทวีคูณ บ่งบอกว่ามันสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น!

เสียงดัง ‘ฟิ้ว!’ มันพุ่งไปอยู่ตรงก้อนหินอย่างรวดเร็ว กลืนแตงกวาที่มีขนาดเท่าเล็บเข้าไป กลัวเหลือเกินว่าเซี่ยเหยียนจะเปลี่ยนใจดึงกลับ!

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

แทบจะพริบตาที่มันกลืนกินลงไป ร่างกายของมันก็ส่องแสงเจิดจ้า มีเสียงครืนครานดังออกมาจากตัว อายุขัยและขอบเขตพลังล้วนเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว!

ทรงพลังยิ่ง!

นี่…นี่คือโอสถจักรพรรดิหรือ!?

ร่างราชสีห์สีเหลืองทองสั่นสะท้านรุนแรง วิญญาณสะเทือน สะท้านอย่างยิ่งยวด!

“ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ช่างเถิด ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจถึงเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่อาจฝืน”

เซี่ยเหยียนสั่นศีรษะเบา ๆ หมุนกายทำท่าจะไป

“อย่า ๆๆ! นางเซียน ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเคยกล่าวว่าลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ตั้งแต่เมื่อใดกันเล่า เปล่าเลย!”

ราชสีห์สีเหลืองทองรีบวิ่งเข้าไปหาเซี่ยเหยียนท่าทางประดุจสุนัข ส่ายหัวกระดิกหางใส่เซี่ยเหยียน เอ่ยอย่างพะเน้าพะนอ “สิ่งที่ข้ากล่าวคือ จะฆ่าจะหยามแล้วแต่ท่าน อย่างไรข้าต้องเป็นสัตว์พาหนะให้ได้! ต่อให้ท่านฆ่าข้า หยามข้า ข้าก็จะเป็น!”

ให้ตายสิ ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ?

เซี่ยเหยียนได้ยินแล้วได้แต่อุทานว่าสุดยอด ราชสีห์สีเหลืองทองช่างกล้าลั่นวาจาจริง ๆ!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท