บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 258 ฟื้น

ตอนที่ 258 ฟื้น

ค่ำคืน​ปกคลุม​ไป​ทั่วเมือง​หลวง​ ​ยามค่ำคืน​นี้​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​นอนหลับ​ได้​อย่างสงบ

ถึงแม้​องค์​รัชทายาท​จะ​ถูก​ฮ่องเต้​เร่งเร้า​ให้​จากไป​ ​แต่​เขา​ไม่ได้​พักผ่อน​แม้แต่น้อย​ ​เขา​ยังคง​ทรง​งาน​อยู่​ด้านนอก​พระตำหนัก​ ​อีกทั้ง​ให้​คน​ไป​ทูล​พระ​ชายา​ว่า​คืนนี้​ไม่​กลับ​ไป​บรรทม

พระ​ชายา​ไม่​แปลกใจ​ที่​องค์​รัชทายาท​ไม่​กลับมา​บรรทม​ ​อีกทั้ง​ไม่​กังวล​สิ่งใด

“​เดิมที​เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยว​ข้อง​อัน​ใด​กับ​องค์​รัชทายาท​”​ ​พระ​ชายา​ตรัส​ ​“​งานเลี้ยง​องค์​รัชทายาท​ไม่ได้​เสด็จ​ไป​ ​เกิดเรื่อง​จะ​โทษ​องค์​รัชทายาท​ได้​อย่างไร​?​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​สับสน​นัก​”

เหยาฝู​ก้มหน้า​ถือ​มื้อ​ดึก​เข้ามา​ ​เพราะว่า​องค์​รัชทายาท​ตรัส​ว่านาง​ยัง​มีประโยชน์​ ​พระ​ชายา​จึง​มีท​่า​ที​ต่อ​เหยาฝู​ดีขึ้น​เล็กน้อย​…​สามารถ​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ได้​แล้ว

เมื่อ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ ​เหยาฝู​พูด​ขึ้น​อย่างระมัดระวัง​ ​“​เกรง​ว่า​จะ​มี​คน​ทูล​คำประสงค์​ร้าย​ ​ใส่ร้าย​ว่า​องค์​รัชทายาท​อิจฉา​องค์​ชาย​สาม​”

พระ​ชายา​หัวเราะ​ ​“​องค์​ชาย​สาม​มีสิ​่ง​ใด​ควรค่า​ให้​องค์​รัชทายาท​อิจฉา​ ​ร่างกาย​ที่​อ่อนแอ​หรือ​”​ ​นาง​รับ​ถ้วย​น้ำแกง​มา​ ​ใช้​ช้อน​คน​เบา​ๆ​ ​“​จะ​บอกว่า​สงสาร​ ​คงจะ​เป็น​ผู้อื่น​ที่​น่าสงสาร​ ​งานเลี้ยง​ดี​ๆ​ ​ถูก​องค์​ชาย​สาม​ทำลาย​ ​ร่างกาย​ของ​เขา​ไม่ดี​ ​ไม่อยู่​เฉยๆ​ ​ยัง​วิ่ง​ออกมา​สร้าง​ปัญหา​ให้​ผู้อื่น​”

เหยาฝู​พยักหน้า​ ​กระซิบ​เสียง​เบา​ ​“​คง​เป็น​เพราะ​เฉิน​ตัน​จู​ ​องค์​ชาย​สาม​จึง​ไป​งานเลี้ยง​นั้น​ ​เพียงแค่​ต้องการ​ไป​พบ​เฉิน​ตัน​จู​เป็นการ​ส่วนตัว​”

ความคิด​ของ​ชายหนุ่ม​ ​นาง​ย่อม​รู้ดี​ที่สุด

พระ​ชายา​ระแวง​ต่อ​ความคิด​ของ​เหยาฝู​มาก​เช่นเดียวกัน​ ​ถือ​ช้อน​ถลึงตา​ใส่​นาง​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถิด​ ​นอกจาก​ครานี​้​องค์​ชาย​สามตาย​ ​มิฉะนั้น​ฮ่องเต้​ไม่มีทาง​ลงโทษ​เฉิน​ตัน​จู​ ​เวลานี้​เฉิน​ตัน​จูมี​แม่ทัพ​หน้ากาก​เหล็ก​เป็น​ที่พึ่ง​”

เหยาฝู​ก้มหน้า​พึมพำ​ ​“​ท่าน​พี่​ ​ข้า​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​”

พระ​ชายา​ไม่​อยากรู้​ว่านา​งมี​ความคิด​นี้​หรือไม่​ ​เพียงแค่​เอ่ย​ไล่​ ​“​ออก​ไป​”

เหยาฝู​ถือ​ถาด​ก้มหน้า​ถอย​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​นาง​ยืน​อยู่​ด้านนอก​ประตู​ ​หลบซ่อน​อยู่​ภายใต้​แสงไฟ​ ​บน​ใบหน้า​ไม่มี​ความอับ​อาย​แม้แต่น้อย​ ​มอง​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​ของ​พระ​ชายา​พร้อม​เบะ​ปาก

เมื่อ​ท้องฟ้า​สดใส​ขึ้น​ ​องค์​รัชทายาท​ที่อยู่​นอก​พระตำหนัก​วาง​พู่กัน​ใน​มือ​ลง​ ​ก่อน​จะ​ยืดตัว​อยู่​ด้านหลัง​กอง​ฎีกา​ ​เคลื่อนไหว​ไหล่​ที่​ปวด​ล้า

ฝู​ชิง​ยก​ชาร้อน​และ​ของว่าง​เข้ามา​ ​ด้านหลัง​ตามมา​ด้วย​ขันที​อีก​หนึ่ง​คน​ ​เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​ของ​องค์​รัชทายาท​ ​เขา​พูด​ด้วย​ความปวด​ใจ​ ​“​องค์​รัชทายาท​ ​รีบ​พัก​เถิด​”

อีก​คน​เป็น​ขันที​ของ​ฮ่องเต้​ ​องค์​รัชทายาท​พยักหน้า​ต่อ​เขา​ ​ถาม​ขึ้น​ ​“​ซิว​หยง​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ขันที​นั้น​รีบ​ทูล​ ​“​ฝ่า​บาท​ให้​กระหม่อม​มาทูล​ว่า​องค์​ชาย​สาม​ฟื้น​แล้ว​ ​องค์​รัชทายาท​ไม่ต้อง​กังวล​”

องค์​รัชทายาท​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ถือ​ชาร้อน​ที่​รับ​มา​ไว้​แน่น​ ​“​ดี​แล้ว​ ​ดี​แล้ว​”​ ​เขา​ลุกขึ้น​ยืน​ ​ก่อน​จะ​นั่งลง​อีกครั้ง​ ​ราวกับ​ต้องการ​ไป​เยี่ยม​องค์​ชาย​สาม​ ​แต่​ก็​ล้มเลิก​ ​“​ซิว​หยง​เพิ่ง​ฟื้น​ ​คง​ยัง​ไม่​พร้อม​พบ​เจอ​ผู้คน​ ​ข้า​ไม่​ไป​เยี่ยม​ดีกว่า​ ​เขา​จะ​ได้​ไม่​เหนื่อย​”

ขันที​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ฝ่า​บาท​ก็​ตรัส​เช่นนี้​ ​องค์​รัชทายาท​กับ​ฝ่า​บาท​ทรง​เป็น​พ่อ​ลูก​กัน​จริงๆ​ ​ความคิด​แบบ​เดียวกัน​”

องค์​รัชทายาท​ยิ้ม​ ​ขันที​นั้น​ทูล​ลา​ ฝู​ชิง​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​ด้วย​ตนเอง​เอง​แล้ว​กลับมา​ ​เห็น​องค์​รัชทายาท​ถือ​ชาร้อน​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ

“​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​”​ ​เขา​ถาม

ฝู​ชิง​ก้มหน้า​ลง​กระซิบ​ ​“​กระหม่อม​ก็​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​”

องค์​รัชทายาท​ขมวดคิ้ว​ ​“​ไม่รู้​?​”

ฝู​ชิง​ก้มลง​กระซิบ​อีกครั้ง​ ​“​ข่าว​จาก​ทาง​เหนียง​เหนียง​คือ​ ​ของ​ถูก​ใส่​เข้าไป​ใน​ชา​แล้ว​ ​แต่​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เสวย​ ​องค์​ชาย​สาม​เสวย​ขนม​แปะก๊วย​จน​อาการ​กำเริบ​เสียก่อน​ ​ช่าง​…​”

องค์​รัชทายาท​ถือ​ชาร้อน​ขึ้น​เสวย​อย่าง​ช้าๆ​ ​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​“​ชา​เล่า​?​”

ฝู​ชิง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​วางใจ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เท​ทิ้ง​แล้ว​ ​ไม่​เหลือ​ร่องรอย​ ​ถึงแม้​เหยือก​ชา​จะ​ถูก​เก็บ​เอาไว้​ ​แต่​ยานั​้​นอยู​่​เพียง​ภายใน​แก้ว​”

องค์​รัชทายาท​ดื่ม​ชา​อย่าง​ช้าๆ​ ​ชาร้อน​ทำให้​ใบหน้า​อัน​เหนื่อยล้า​ของ​เขา​ผ่อนคลาย​ ​“​ขนม​แปะก๊วย​ ​ฝีมือ​ผู้ใด​”

ฝู​ชิง​พูด​ ​“​อาจ​เป็นฝี​มือ​ของ​เหล่า​ชนชั้นสูง​ ​บังเอิญ​ยิ่งนัก​”

องค์​รัชทายาท​ไม่​พูด​สิ่งใด​ ​ยก​ชาดื​่ม​จน​หมด​ถ้วย​ ​ก่อน​จะ​หมุน​แก้ว​ใน​มือ​ ​“​คน​จัดการ​แล้ว​หรือไม่​”

“​คนใน​สำนักพระราชวัง​ตาย​ไป​สอง​คน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ฝู​ชิง​พูด​ ​“​เหนียง​เหนียง​ตรัส​ว่า​ไม่​อาจมี​คนตาย​ได้​อีก​ ​มิฉะนั้น​จะ​เกิด​ปัญหา​ ​เรา​จะ​ต้อง​จัดการ​ใน​ภายหลัง​”

องค์​รัชทายาท​ตอบรับ​ ​วาง​ถ้วย​ชาลง​ ​“​กลับ​ไป​เถิด​ ​เสด็จ​พ่อ​ทรง​เหนื่อย​มาก​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ทำให้​พระองค์​กังวล​ไม่ได้​”

ฝู​ชิง​ตอบรับ​ ​เดินตาม​องค์​รัชทายาท​จากไป​ ​องค์​รัชทายาท​นั่ง​บน​เกี้ยว​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ตำหนัก​ภายใต้​แสง​ใน​ยามเช้า

ภายใน​ตำหนัก​ที่​ถูก​สาดส่อง​ไป​ด้วย​แสงแดด​ ​ฮ่องเต้​เสวย​อาหารเช้า​เสร็จ​ ​นวด​คลึง​หน้าผาก​ด้วย​ความเหนื่อย​ล้า​ ​ก่อน​จะ​ได้ยิน​ขันที​กลับมา​ทูล​ว่า​องค์​รัชทายาท​กลับ​ตำหนัก​ไป​แล้ว

“​ได้ยิน​ว่า​องค์​ชาย​สาม​ทรง​ฟื้น​แล้ว​ ​จึง​กลับ​ไป​พักผ่อน​”​ ​ขันที​จิ้น​จง​ทูล​ ​“​องค์​รัชทายาท​รู้ดี​ที่สุด​ ​ไม่​อยาก​ให้​ฝ่า​บาท​ต้อง​กังวล​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​ ​“​ข้า​บอก​เขา​เสมอ​ตั้งแต่​เด็ก​ว่า​เขา​ต้อง​ปกป้อง​ตัวเอง​ ​อย่า​ทำ​สิ่งใด​ที่จะ​ทำร้ายร่างกาย​ของ​ตนเอง​”

เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เสียง​ไอ​ดัง​ขึ้น​จาก​หลัง​ม่าน​ ​ฮ่องเต้​รีบ​ลุกขึ้น​ ​ขันที​จิ้น​จง​วิ่งเหยาะๆ​ ​ไป​เปิดม่าน​ขึ้น​ก่อน​ ​สิ่ง​แรก​ที่​เห็น​คือ​องค์​ชาย​สาม​ก้มตัว​ไอ​อยู่​ข้าง​เตียง​ ​เสี่ยว​ชวี​ถือ​กระโถน​เอาไว้​ ​หลังจาก​เสียง​กระแอม​ไอ​ ​องค์​ชาย​สาม​อาเจียน​ออกมา​เป็น​เลือด​สีดำ

ฮ่องเต้​ตกใจ​จน​ร้องเรียก​หมอ​หลวง​ ​“​เกิด​สิ่งใด​ขึ้น​”

หมอ​หลวง​สอง​คน​มอง​ไป​ยัง​หญิงสาว​เมือง​ฉี​อย่าง​กระอักกระอ่วน

หญิงสาว​เมือง​ฉี​เดิน​ขึ้นหน้า​คุกเข่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​หม่อมฉัน​ฝังเข็ม​ให้​องค์​ชาย​สาม​ ​กระอัก​เลือด​ดำ​ออกมา​จะ​ดีกว่า​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​มองดู​องค์​ชาย​สาม​ที่นอน​กลับ​ไป​บน​เตียง​ด้วย​สีหน้า​ซีด​ดุจ​กระดาษ​ขาว​ ​ริมฝีปาก​บาง​ไร้​สี​เลือด​ ​ขมวดคิ้ว​ตำหนิ​ ​“​ก่อน​ใช้​เข็ม​ใช้​ยาล​้​วน​ต้อง​ทูล​ก่อน​ ​เจ้า​กระทำ​เอง​ได้​อย่างไร​”

หญิงสาว​เมือง​ฉีก​้​มห​น้า​ตัวสั่น​ ​“​หม่อมฉัน​มีความผิด​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​ต้องการ​พูด​ต่อ​ ​องค์​ชาย​สาม​ที่นอน​หลับตา​พึมพำ​อยู่​บน​เตียง​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​อย่า​โทษ​นาง​…​นาง​ ​ช่วย​กระหม่อม​เอาไว้​…​”

เขา​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ ​ฮ่องเต้​ก็​หยุด​พูด​แล้ว​ ​สีหน้า​ระอา​ ​บุตรชาย​คน​นี้​มีนิ​สัย​ที่​อ่อนโยน​ ​รู้จัก​บุญคุณ​คน​ ​เขา​ก้มตัว​ลง​ข้าง​เตียง​ ​จับมือ​ของ​องค์​ชาย​สาม​เอาไว้​ ​“​ได้​ๆ​ๆ​ ​ข้า​ไม่​โทษ​นาง​”​ ​ก่อน​จะ​มอง​หญิงสาว​เมือง​ฉี​ที่​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​อีกครั้ง​ ​“​รีบ​ลุกขึ้น​เถิด​ ​ขอบใจ​เจ้า​มาก​”

หญิงสาว​เมือง​ฉี​ตอบรับ​ว่า​ไม่กล้า​ ​ขันที​จิ้น​จง​ตักเตือน​ให้​นาง​รับฟัง​พระราช​โองการ​ ​หญิงสาว​เมือง​ฉี​จึง​ลุกขึ้น​อย่าง​เกรงกลัว

“​เสด็จ​พ่อ​”​ ​องค์​ชาย​สาม​ลืมตา​ขึ้น​ ​“​กระหม่อม​ไม่​เป็นอัน​ใด​แล้ว​ ​ให้​กระหม่อม​กลับ​ตำหนัก​เถิด​”

ฮ่องเต้​ตำหนิ​ ​“​เจ้า​รีบร้อน​อัน​ใด​!​ ​พัก​อยู่​ใน​ตำหนัก​ของ​ข้า​ก่อน​”

องค์​ชาย​สาม​ตอบรับ​ ​ก่อน​จะ​พยุง​ตัว​ขึ้น​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​ให้​กระหม่อม​อาบน้ำ​ ​กระหม่อม​อยาก​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​…​”

เกรง​ว่า​จะ​ทำให้​เตียง​มังกร​เปรอะเปื้อน​หรือ​ ​เฮ้อ​ ​ฮ่องเต้​ระอา​ ​“​ร่างกาย​ของ​เจ้า​ยัง​ไม่​หาย​ดี​ ​รีบร้อน​อัน​ใด​”

องค์​ชาย​สาม​ขอร้อง​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ ​มิฉะนั้น​กระหม่อม​ไม่​อาจ​นอน​ได้​”

ฮ่องเต้​ทำได้​เพียง​มอง​หมอ​หลวง​ ​ก่อน​จะ​มอง​ไป​ยัง​หญิงสาว​เมือง​ฉี

เหล่า​หมอ​หลวง​เฉลียว​ยิ่งนัก​ ​จึง​ไม่​พูด

หญิงสาว​เมือง​ฉีก​้​มห​น้า​ทูล​ ​“​องค์​ชาย​สาม​กระอัก​เลือด​ดำ​ออกมา​ ​ไม่​เป็นอัน​ใด​มาก​แล้ว​ ​เพียงแต่​ร่างกาย​ยัง​อ่อนแรง​ ​สามารถ​ถูก​ปรนนิบัติ​ล้าง​ตัว​ได้​แล้ว​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​ ​ถัดจาก​ห้อง​บรรทม​คือ​ห้อง​สรงน้ำ​ ​มีน​้ำ​พุ​ร้อน​ ​สามารถ​อาบ​ได้​ทุกเวลา​ ​เหล่า​ขันที​ก้าว​เข้าไป​ช่วย​พยุง​องค์​ชาย​สาม​เข้า​ห้อง​สรงน้ำ​ ​ฮ่องเต้​มอง​หญิงสาว​เมือง​ฉี​อีกครั้ง​ ​“​เจ้า​ตาม​ไป​ ​ดู​องค์​ชาย​เอาไว้​”

หญิงสาว​เมือง​ฉี​ตอบรับ​ ​ก่อน​จะ​ตาม​ขึ้นไป

หลังจาก​เข้า​ห้อง​สรงน้ำ​ ​หญิงสาว​เมือง​ฉี​เดิน​ขึ้นหน้า​ก็​ช่วย​ปลด​เสื้อผ้า​ ​องค์​ชาย​สาม​กึ่ง​นั่ง​อยู่​ ​ก้ม​มอง​เสื้อนอก​ที่​ถูก​ปลดออก​ ​บริเวณ​แขน​เสื้อ​มี​รอย​น้ำชา​…

“​เสื้อผ้า​เหล่านี้​สกปรก​แล้ว​”​ ​เขา​หลับตา​ลง​แล้ว​พูด​ ​“​เสี่ยว​ชวี​ ​เอา​ไป​ทิ้ง​เสีย​”

เสี่ยว​ชวี​ตอบรับ​ ​ก่อน​จะ​หยิบ​เสื้อนอก​ขึ้น​มา​แล้ว​ม้วน​ขึ้น

ทาง​หญิงสาว​เมือง​ฉี​ยื่นมือ​ปลด​เสื้อ​ด้านใน​ ​สายตา​ของ​องค์​ชาย​สาม​ที่​ถูก​ขันที​สอง​คน​พยุง​ให้​กึ่ง​นั่ง​จ้อง​ไป​ยัง​ด้านหน้า​ของ​หญิงสาว​พอดี​ ​มอง​สร้อย​อิง​รั่ว​บน​คอ​ของ​นาง​ส่าย​ไปมา​ ​เปล่งแสง​ระยิบระยับ

“​เจ้า​เป็น​น้องสาว​ของ​องค์​รัชทายาท​ท่าน​อ๋อง​ฉี​หรือ​?​”​ ​เขา​ถาม

เมื่อ​เห็น​หญิงสาว​แปลกหน้า​ข้าง​กาย​หลังจาก​ตื่น​มา​ ​เสี่ยว​ชวี​จึง​ทูล​ประวัติ​ของ​อีก​ฝ่าย​ต่อ​เขา​แล้ว​ ​แต่​กระทั่ง​เวลานี้​ถึง​ได้​มี​แรง​ถาม

เนื่องจาก​ต้อง​ปลด​เสื้อ​ด้านใน​ ​หญิงสาว​เมือง​ฉี​ต้อง​เข้าใกล้​อย่างมาก​ ​นาง​สัมผัส​ได้​ถึง​ลมหายใจ​ของ​องค์​ชาย​ ​หู​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​นาง​แดง​ระเรื่อ​ ​ก้มหน้า​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​หม่อมฉัน​ไม่กล้า​ถือตัว​เป็น​น้องสาว​ของ​องค์​รัชทายาท​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​เป็น​บุตรสาว​ของ​ตระกูล​พระ​พันปี​ ​ถูก​พระ​พันปี​คัดเลือก​มารับ​ใช้​องค์​รัชทายาท​เพ​คะ​”

เสื้อผ้า​ถูก​ปลดออก​ ​ร่าง​เปลือย​ของ​องค์​ชาย​สาม​ปรากฏ​ขึ้น​ต่อหน้าต่อตา​ ​หญิงสาว​เมือง​ฉีก​้​มห​น้า​ต่ำ​ลง​กว่า​เดิม​ ​คุกเข่า​ลง​ช้าๆ​ ​ปลด​เสื้อผ้า​ด้านล่าง​ ​นาง​ได้ยิน​เสียง​ถาม​จาก​ด้านบน​ ​“​เจ้า​ชื่อ​อัน​ใด​”

หญิงสาว​เมือง​ฉีกึ​่​งคุก​เข่า​อยู่​บน​พื้น​ ​ปลด​เสื้อผ้า​ชิ้น​สุดท้าย​ของ​องค์​ชาย​ออก​ ​มองดู​ข้อเท้า​เรียว​ของ​เขา​พลาง​เอ่ย​ ​“​หม่อมฉัน​ชื่อ​หนิง​หนิง​เพ​คะ​”

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท