หากพูดกันตามตรง เฮ่อเหลียนเวยเวยกำลังคิดว่าหากนางไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้ นางก็คงจะใช้มีดแทงตัวเองไปแล้ว นางไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันช่างน่าอับอายเพียงใดที่นางหยิบยื่นตัวเองให้กับเขา เพียงแค่คิดถึงเหตุการณ์ทำนองนี้ นางก็อยากจะตายไปเสีย
ในตอนแรกนั้น นางจึงยังไม่รู้สึกกลัว แต่ต่อมา ในขณะที่นางยังคงงุนงง นางก็ถูกเขาสวมกอด และได้กลิ่นที่คุ้นเคย ในชั่วขณะหนึ่ง นางยังรู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำ ว่าโชคดีที่เป็นเขา ไม่ใช่คนอื่น
เพราะอย่างน้อย เขาก็เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกับนางมาสักพักหนึ่งแล้ว ไม่ใช่ผู้ชายที่นางไม่รู้จักเลย และเขาก็ไม่ได้รังเกียจนางด้วย
แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร
ในทางตรงกันข้าม ตอนที่เขาเหวี่ยงตัวนางไปรอบๆ มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับนางที่จะตอบโต้ได้อย่างเหมาะสม นางไม่ได้ทุกข์ใจจากการสูญเสีย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางเป็นคนไม่มีเหตุผล และองค์ชายสามก็สามารถถูกใช้เป็นยาถอนพิษได้ เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่า ไม่ว่าอย่างไร นางก็ไม่มีทางพบเจอคนที่นางมีใจให้ที่นี่อยู่แล้ว ในโลกก่อนหน้านี้ที่นางเคยอยู่ เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ไม่เคยหลงรักใครมาก่อน ดังนั้น นางจึงแค่ทำเรื่องอย่างว่ากับเขาก็เท่านั้น
ในทางกลับกัน ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกลับมองนางด้วยความสนใจ เมื่อเห็นว่านางมีท่าทีเช่นไร เขาก็ไม่ได้ขอให้นางทำตัวเขินอายหรือประหม่า แต่กลับพูดกับนางเรื่องเงื่อนไขของการแต่งงานอย่างเปิดเผย
คนที่ไม่รู้ ก็จะคิดว่าเฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นผู้หญิงที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กุลสตรีพึงกระทำ
เขาอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ว่าผู้หญิงตัวแสบคนนี้เป็นอย่างไรเมื่ออยู่บนเตียง
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครรู้เลยว่านางเป็นเหมือนกับเสือกระดาษที่คำราม
การฝึกฝนเสือนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการที่จะต้องสั่งสอนเสืออย่างนาง
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเผยร่องรอยของความชั่วร้ายขึ้นในดวงตา ขาเรียวยาวของเขาไขว้กัน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้ายอมรับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ดีจริงๆ”
“หากข้าไม่ยอมรับแล้วจะทำอย่างไรได้เล่า ฆ่าท่านเช่นนั้นหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยดึงมือกลับ และหาวอย่างเฉยเมย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “หรือว่าข้าควรจะร่ำไห้และกรีดร้องให้ท่านต้องรับผิดชอบ โลกใบนี้เต็มด้วยด้วยสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย แล้วการทำมันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรกันเล่า นอกจากนี้ ความใฝ่ฝันของข้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่”
ความใฝ่ฝันหรือ หึ ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยรู้สึกว่าผู้หญิงคนที่ไม่ระมัดระวังตัวคนนี้มักจะพูดจาแตกต่างจากผู้อื่น “แล้วความใฝ่ฝันของเจ้าคืออะไรหรือ”
“ข้าอยากเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกใบนี้” เฮ่อเหลียนเวยเวยพูดถึงความฝันของตนเองอย่างสดใส ดวงตาของนางเป็นประกาย
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยค่อยๆ ราดน้ำเย็นรดลงบนความทะเยอทะยานของนางอย่างสุขุม “นั่นหมายถึงการมีเงินมากกว่าองค์ชายคนนี้ แล้วเจ้าแน่ใจหรือว่าจะทำได้”
เฮ่อเหลียนเวยเวยสำลัก แต่นางก็ยังคงยิ้มต่อ “หากไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรกันเล่า”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเมินเฉยต่อการยั่วยุของหญิงสาวโดยไม่คาดคิด เขาใช้นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่ศีรษะของนาง ท่าทีอันเย็นชาห่างเหินนั้น ราวกับกำลังมองดูคนโง่เขลา “เฮ่อเหลียนเวยเวย ในศีรษะของเจ้ามีแต่กากเต้าหู้แทนสมองหรืออย่างไรกัน ตอนนี้ เจ้าเป็นพระชายาที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แล้วมันจะแตกต่างกับการเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกตรงไหนกัน”
เฮ่อเหลียนเวยเวยตกตะลึง นางไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยมองท่าทีของนาง และเริ่มเย้ยหยันมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะตอนที่พวกเขาพูดคุยกันเรื่องสัญญาก่อนหน้านี้ หนึ่งในคำสัญญาขององค์ชายคือจะให้นางเป็นคนจัดการทรัพย์สินของเขา
นางลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
แต่มันก็ไม่เหมือนกัน
ตัวอย่างเช่น ไม่ช้าก็เร็ว นางจะต้องออกจากวังหลวงแห่งนี้ และเมื่อถึงเวลานั้น นางก็ต้องคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้เขาไม่ใช่หรือ
ส่วนเรื่องของเงิน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องพึ่งพาคนอื่น นางยังคงต้องพึ่งพาตัวเอง
“ส่วนเรื่องที่เหลือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเคาะม้วนกระดาษในมือ “ทำไมเจ้าไม่อ่านเอกสารสองฉบับนี้ก่อนที่จะพูดอะไรล่ะ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยสงสัยว่านางควรอ่านมันดีหรือไม่ นางขอสำเนาสองฉบับ และหนึ่งในนั้นก็ยังอยู่ในมือของนาง เพราะนางกลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดไป
ถึงอย่างนั้น นางก็ยังคลี่ม้วนกระดาษออกมา อืม มันดูไม่มีปัญหาอะไร
“ตรงนี้” ชายหนุ่มเอื้อมแขนมาพลิกกระดาษ และชี้ไปตรงเงื่อนไขในการสมรส ในย่อหน้าที่เจ็ด “ดูให้ดี”
ความสัมพันธ์เชิงสามีภรรยาไม่มีวัน… สิ้นสุดหรือ
ตอนที่นางกรอกเอกสาร นางไม่ได้เขียนคำว่า ‘สิ้นสุด’ อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้กลับมีคำๆ หนึ่งเพิ่มเติมเข้ามาในส่วนท้ายของประโยคเช่นนี้ ทำให้ความหมายของมันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
เฮ่อเหลียนเวยเวยสะดุ้ง และหันกลับไปมองไป๋หลี่เจียเจวี๋ย นางไม่สงสัยเลยว่านี่เป็นฝีมือของใคร “องค์ชายทำให้ความรู้สึกประทับใจที่ข้ามีต่อท่านหมดสิ้นแล้ว สัญญานี้ เห็นสมควรที่จะต้องยกให้เป็นโมฆะ”
ขณะที่เฮ่อเหลียนเวยเวยพูดเช่นนั้น นางก็ยิ้มและหยิบสัญญาขึ้นมา ก่อนจะฉีกกระดาษแผ่นนั้นออกเป็นชิ้นๆ “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดกันอีก”
การกระทำของหญิงสาวทำให้ดวงตาของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเย็นชาทันที
เขามองดูเศษกระดาษที่ถูกกองรวมกัน ดวงตาของเขาเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“แล้วข้าเคยบอกว่าข้าเป็นคนดีเช่นนั้นหรือ” เขาคลายแขนเสื้อออกช้าๆ ใบหน้าของเขายังคงงดงามราวกับประติมากรรมน้ำแข็ง แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเยือกเย็น แต่การกระทำของเขาก็แสดงออกถึงความโกรธเคืองอย่างมาก
นั่นทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยระวังตัว ก่อนจะหยิบกริชออกมา
แต่เขาจับข้อมือของนางไว้ก่อน และใช้แรงผลักให้นางคุกเข่าลง
“ตั้งแต่ตอนแรก องค์ชายคนนี้ก็คิดหาวิธีที่จะถอดเขี้ยวเล็บของเจ้ามาตลอด” ชายหนุ่มกระซิบจากด้านหลังของหญิงสาว ลมหายใจอันเร่าร้อนของเขากระทบใบหูของนาง “และในที่สุด องค์ชายคนนี้ก็พบวิธีที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว”
เฮ่อเหลียนเวยเวยกัดริมฝีปากล่างของตนเองแน่น นางรู้แล้วว่าตอนนี้ องค์ชายสามกำลังรู้สึกหิวโหยอย่างมาก
ไม่อย่างนั้น มีหรือที่คนอย่างเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้
ดังนั้น นางจึงบังเอิญไปอยู่บนปากกระบอกปืนโดยบังเอิญ เขาช่างเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ!
ก่อนที่เฮ่อเหลียนเวยเวยจะก่นด่าเขาในใจเสร็จ จู่ๆ ผิวอันอ่อนโยนและบอบบางของนางที่ถูกเสื้อผ้าปกคลุมไว้ ก็ถูกนวดคลึง แรงที่นวดนั้นไม่ได้เบาหรือหนักเกินไป แต่มันคือจุดอ่อนของนาง
ความรู้สึกชาวาบที่คุ้นเคยทำให้นางเหยียดคอของตนเอง แต่นางก็ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา นอกจากนี้ นางยังกัดริมฝีปากบางของตนเองจนสีขาวซีด แต่นางก็ยังไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกำลังมองดูนางด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง เขารู้สึกว่ามือของตนเองนั้นหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย
นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกไม่มีใครกล้าเข้ามาเลย แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้าออกเป็นครั้งคราว มันทำให้นางยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นกว่าเดิม เพราะกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นนางในสภาพเช่นนี้
จริงๆ แล้ว ในเรื่องนี้ เฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นฝ่ายคิดมากไปเอง องค์ชายสามเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้ แล้วเขาจะปล่อยให้คนอื่นเห็นนางในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไรกันเล่า
เขาเพียงแค่เชยชมนาง เพราะรูปลักษณ์ของนางเมื่อวานนี้ยังคงตราตรึงในใจของเขาก็เท่านั้น…
ชุดแต่งงานที่เปียกโชกเผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบของร่างกายอันอรชรของหญิงสาว ตั้งแต่ลำคอที่บอบบางไปจนถึงไหล่ที่เรียบเนียน ไล่ลงมาด้านล่าง คือเอวบางและแขนขาที่เรียวยาวของหญิงสาว รวมถึงขาเรียวยาวที่เนียนสวย…
ทุกอย่างดูดีมาก เว้นเพียงแต่ข้อเสียเล็กๆ เพียงอย่างเดียว นั่นคือดวงตาที่ดูขุ่นมัวคู่นั้นไม่เคยสนใจเขาเลย
เช่นเดียวกับที่นางสามารถพูดคุยถึงเรื่องสัญญากับเขาในตอนนี้ได้อย่างเรียบเฉย
นั่นก็เป็นเพราะนางไม่เคยสนใจเขาอย่างจริงจังเลย…