ตอนที่ 239 ตื่นขึ้น เซียนแท้จริงผู้เป็นอมตะ!
เมืองหลวงเทพขนนก วังจักรพรรดินี
“ท่านพ่อ ผ่านมากว่าสองร้อยปี บุตรสาวของท่านสามารถแก้ไขปริศนาแสนอันตรายภายในโลกมนุษย์ใบที่สองเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อไรท่านจะตื่นขึ้นสักที!”
เวลานี้ หนิงหนานหนานในชุดคลุมจักรพรรดินีสีครามกล่าวคำเบาอยู่ข้างเตียง
บนเตียงเป็นหนิงฝานที่ยังคงหลับตา เขาหลับไปเนิ่นนานกว่าสองร้อยปี
และในช่วงสองร้อยปีที่ผ่านมา หลังจากฝึกฝนเสร็จสิ้น หนิงหนานหนานจะมาเยี่ยมหนิงฝานทุกวัน และเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในราชวงศ์เทพขนนก โดยมีความหวังว่าเขาจะตื่นขึ้นในเร็ววัน!
แต่ผ่านไปกว่าสองร้อยปี ไม่ว่าหนิงหนานหนานจะกล่าวคำใด หนิงฝานยังคงเพิกเฉย ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นคืนสติแม้แต่น้อย
“ท่านพ่อ! ข้าทราบว่าท่านย่อมได้ยินเสียงของข้า และข้าก็ทราบว่าท่านโทษตนเองที่ท่านแม่ถูกพาตัวไป แต่เหตุใดท่านยังนอนหลับอยู่อย่างนี้ ทั้งหมดคือพฤติกรรมของคนขลาดเขลา!”
วันนี้น้ำเสียงของหนิงหนานหนานเคร่งขรึม และนี่คือสิ่งที่นางไม่เคยกล่าวออกไปในช่วงสองร้อยปีที่ผ่านมา “ท่านไม่ใช่ท่านพ่อที่ข้ารู้จัก ท่านพ่อของข้าแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ผู้ที่บอกกล่าวว่าตนเองคืออมตะแท้จริง แต่อมตะแท้จริงย่อมไม่นอนเฉยอยู่บนเตียงเช่นนี้!”
พรึ่บ!
เวลานี้เปลือกตาของหนิงฝานเริ่มสั่นไหว
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว หนิงหนานหนานมีความสุขมาก น้ำเสียงของนางยิ่งดังขึ้น “ท่านแม่ถูกพาตัวไปเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านแม่จะตายไปแล้ว ท่านมัวนอนอยู่ตรงนี้จะมีประโยชน์อันใด ในฐานะสามี ท่านควรจะไปช่วยเหลือนาง! หากมีประตูขวางกั้น ท่านก็พังประตูนั้นเสีย… ต่อให้มีสัตว์ประหลาดอยู่หลังประตูเพื่อหยุดยั้งท่าน ท่านก็เพียงสังหารพวกมันเสียให้สิ้น!”
“ข้าเชื่อว่าท่านแม่ต้องอยู่หลังประตูนั้น กำลังรอให้ท่านไปช่วยเหลือ!!!”
พรึ่บ!
สิ้นเสียงของหนิงหนานหนาน ดวงตาของหนิงฝานที่ปิดสนิทมานานกว่าสองร้อยปีพลันลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทะยานสู่ท้องฟ้าอย่างเดือดพล่าน พุ่งตรงออกสู่ห้วงความว่างเปล่านอกโลก ทุบตีดวงดาวภายนอกจนแหลกเป็นผุยผง
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ลำแสงเจิดจ้าเหล่านั้นหายไปหมดสิ้น ในที่สุดหนิงฝานก็ลุกขึ้นจากเตียง
“ท่านพ่อ ในที่สุดท่านก็ตื่นขึ้น!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานตื่นขึ้น หนิงหนานหนานก็เผยความยินดีล้นพ้น นางรีบรุดเข้าหาหนิงฝานก่อนยกยิ้มกว้าง “ท่านพ่อ อย่าได้กล่าวโทษที่ลูกต้องพูดจาเช่นนี้!”
หนิงฝานลูบศีรษะของหนิงหนานหนานด้วยรอยยิ้ม “บุตรสาวข้า ข้าจะกล่าวโทษเจ้าได้อย่างไร หากเจ้าไม่ปลุกข้าให้ตื่นขึ้นมา ข้าเกรงว่าเพียงลำพังตัวข้าคงไม่อาจทำลายพันธนาการในใจนี้ได้!”
“เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว การที่แม่ของเจ้าถูกพาตัวไป ไม่ได้หมายความว่านางต้องตาย ข้าจะไปตามหานางและพานางกลับมา… ดูเถิดว่าผู้ใดจะกล้าหยุดยั้งข้า… ข้าจะสังหารมันให้สิ้น!”
สิ้นคำนี้ ร่างกายของหนิงฝานก็ปลดปล่อยจิตสังหารรุนแรงออกมา
แม้เขาจะหลับใหลไปกว่าสองร้อยปี แต่ความคิดของเขายังคงอยู่ในโลกหลัง ‘ประตู’ เมื่อสองร้อยปีก่อน!
เขาไม่มีวันลืมน้ำตาแห่งความสิ้นหวังของหลัวชิงเซียน และน้ำเสียงที่แหบแห้งของสตรีผู้นั้น!
เขาจะต้องพาหลัวชิงเซียนกลับมา แม้ว่าจะต้องทุบเมฆาเก้าชั้น หรือผ่านพ้นแดนนรกโลกันต์ไร้สิ้นสุด เขาจะไม่หวั่นเกรง!
“อื้ม! ลูกเชื่อว่าท่านพ่อจะตามหาท่านแม่พบแน่!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานตื่นขึ้นมา จิตใจของหนิงหนานหนานพลันมีความสุขอย่างยินดี
ลมหายใจถัดมา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนมุมปากของนาง “ท่านพ่อ ก่อนที่ท่านจะไปตามหาท่านแม่ สิ่งแรกที่เราต้องเผชิญร่วมกันคือทัณฑ์พิบัติเซียน และเหลือเวลาอีกเพียงสามร้อยปีเท่านั้น ทั้งหมดคือเวลาห้าร้อยปีที่สิ่งมีชีวิตหลัง ‘ประตู’ กล่าวเอาไว้ก่อนหน้า”
“ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อ!”
หนิงฝานรับคำอย่างมุ่งมั่น
แม้เขาจะไม่ทราบว่าผู้ใดพาหลัวชิงเซียนไป แต่มันจะต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตด้านหลัง ‘ประตู’ อย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำเพื่อผู้คนนับล้านในโลกใบนี้ หรือเพื่อตามหาหลัวชิงเซียน ในอนาคตภายภาคหน้าเขาจะต้องแก้ปัญหาทัณฑ์พิบัติเซียนที่จะเกิดนี้ให้ได้!
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว หนิงหนานหนานถอนหายใจอย่างโล่งอก
แม้ว่านางจะได้รับความเคารพในฐานะจักรพรรดินีชิงหวง แต่นางก็ทราบดีว่าความสามารถของนางไม่เพียงพอที่จะนำพาผู้คนหลายร้อยล้านผ่านพ้นทัณฑ์พิบัติเซียนนี้ไปได้ ผู้เดียวที่จะสามารถแบกรับสิ่งนี้ได้มีเพียงผู้เดียวคือ… ท่านพ่อ!
ตู้ม!
ลมหายใจถัดมา หนิงฝานก้าวไปด้านหน้าและออกจากวังจักรพรรดินี เขามองดูโลกมนุษย์ตรงหน้า ด้วยร่างเซียนใหญ่โตราวกับยักษาสูงเสียดฟ้า มันดึงดูดความสนใจของสิ่งมีชีวิตนับแสนทันที
“อ๊ะ! ปรมาจารย์หนิงฝาน!”
“ปรมาจารย์หนิงฝานตื่นแล้ว!”
“ผู้พิทักษ์เทพของโลกเรากลับมาแล้ว!”
“ท่านหนิงฝาน ช่วยพวกเราด้วย ช่วยเหลือพวกเราด้วย!”
“ท่านหนิงฝาน ทัณฑ์พิบัติเซียนกำลังจะมา มีเพียงท่านที่ช่วยพวกเราได้!”
“…”
เมื่อเห็นร่างของหนิงฝานปรากฏ สิ่งมีชีวิตภายในโลกทั้งใบพลันเปล่งเสียงกึกก้อง
ในช่วงหลายปีผ่านมา สิ่งมีชีวิตหลายร้อยล้านของโลกใบนี้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของทัณฑ์พิบัติเซียน แม้ว่าราชวงศ์เทพขนนกจะปราบปรามความวุ่นวายทั้งหมดได้ แต่ทัณฑ์พิบัติเซียนไม่เคยเลือนหายไป และนับวันยิ่งทวีคูณความน่าสะพรึงกลายเป็นฝันร้ายที่น่าหวาดกลัวที่สุดของโลก!
“ทุกคน!”
หลังจากมองภาพตรงหน้าแล้ว หนิงฝานเปิดปากพร้อมกล่าวคำทันที เสียงของเขาดังก้องในหูของทุกคนชัดเจน “ข้า หนิงฝานขอสาบานว่า… ข้าจะพาพวกเจ้าทุกคนผ่านพ้นทัณฑ์พิบัติเซียนนี้ให้ได้ เพราะสิ่งมีชีวิตที่อยู่หลัง ‘ประตู’ เหล่านั้นมองว่าพวกเราเป็นเพียงข้าวสาลีหรือวัชพืชที่รอวันเก็บเกี่ยวตามใจชอบ ดังนั้นเราจงเติบโตเป็นวัชพืชที่เต็มไปด้วยหนามพิษ หากพวกมันกล้าหาญแตะต้อง พวกมันจะต้องหลั่งโลหิตเพื่อชดใช้!”
คำพูดของหนิงฝานไม่ใช่แรงจูงใจที่แท้จริง แต่การได้ยินถ้อยคำของเขาทำให้สิ่งมีชีวิตนับล้านบนโลกยิ่งตื่นเต้น!
เพราะคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมาจากปากของหนิงฝาน!
ในสายตาของพวกเขาแล้ว หนิงฝานคือความหวังเดียวที่จะสามารถผ่านพ้นทัณฑ์พิบัติเซียนได้!
“ท่านหนิงฝาน พวกเราเชื่อใจท่าน!”
“ท่านหนิงฝาน พวกเราเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดจะเดินหน้าไปพร้อมกับท่าน!”
“ท่านหนิงฝาน ท่านสามารถนำพาพวกเราทั้งหมดผ่านพ้นทัณฑ์พิบัติเซียนได้แน่!”
สิ่งมีชีวิตหลายล้านบนโลกกล่าวสรรเสริญกึกก้อง ทุกคนคุกเข่าลงต่อหน้าหนิงฝาน และความหวาดกลัวต่อทัณฑ์พิบัติเซียนในใจของพวกเขาจึงค่อยจางหายไปอย่างช้า ๆ!
…
หลังจากปลุกใจนักรบทั่วโลกเสร็จสิ้น หนิงฝานก็หันไปสนใจโลกมนุษย์ใบที่สองด้านบนท้องฟ้า
โลกมนุษย์ใบที่สองในปัจจุบันถูกควบคุมโดยราชวงศ์เทพขนนก และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับหนิงฝาน
“ขัดเกลา!”
ลมหายใจถัดมา หนิงฝานคว้าเอาโลกมนุษย์ใบที่สองยิ่งใหญ่ไว้ด้วยพลังฝ่ามือ ก่อนจะใช้สุดยอดพลังของเขาเพื่อหลอมโลกมนุษย์ใบที่สองนี้กับโลกมนุษย์โดยตรง!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ! ด้วยการหลอมรวมโลกมนุษย์ใบที่สองเข้าสู่โลกมนุษย์ อาณาเขตของโลกจึงขยายออกกว้างอย่างฉับพลัน และพลังต้นกำเนิดก็เข้าสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์!
พลังจิตวิญญาณฟ้าดินในโลกมนุษย์เข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว และสภาพแวดล้อมสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ในโลกใบนี้แทบจะใกล้เคียงกับโลกในสมัยโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อน!
หลังจากกระทำทุกสิ่งเสร็จสิ้น หนิงฝานเดินกลับสู่วังจักรพรรดินี
“อืม!”
“หากข้าต้องการรอดพ้นจากทัณฑ์พิบัติเซียน ข้าจะต้องเข้าสู่ขอบเขตเซียนแท้จริงภายในสามร้อยปี… เป้าหมายของเส้นทางการฝึกฝนของข้าในเวลานี้คือ การเข้าสู่ขอบเขตเซียนแท้จริงผู้เป็นอมตะ!”
หลังจากเข้าสู่วังจักรพรรดินีอีกครั้ง หนิงฝานเริ่มนึกถึงเป้าหมายต่อไปในการฝึกตน!