ภายในห้องไม่ได้เงียบเป็นเวลานานนักก็มีเสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นอีกครั้ง อาเถียนหันไปมอง พบว่าเฉินตันจูที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือกดโจวเสวียนเอาไว้…
ชิงเฟิงนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านข้าง ไม่แม้แต่จะมอง เขาถือขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมากินอย่างสำราญใจ พูดอู้อี้ “ไม่เป็นอันใด ไม่ต้องกังวล” ก่อนจะดันถาดมาทางอาเถียน “แม่หญิงอาเถียน เจ้าลองชิม อร่อยมาก”
อาเถียนส่ายหัวไม่สนใจเขา ด้านในจะตีกันรอบที่สองแล้ว ไม่รู้เวลาใดคุณหนูอาจต้องการให้นางเข้าไปช่วยเหลือ
หลังจากโจวเสวียนพูดประโยคนี้ออกมา เฉินตันจูลุกขึ้นเอามือปิดปากของเขาอีกครั้ง ครานี้โจวเสวียนนอนคว่ำอยู่ ไม่ได้ถูกนางทับเอาไว้อีก
เมื่อถูกปิดปากอีกครั้ง โจวเสวียนไม่ดิ้นรน เพียงแต่มองนางอย่างเฉยชา
“ท่านโหวโจว” เฉินตันจูพูดเสียงต่ำ “ท่านอย่าพูดเหลวไหล ข้าเคย…ทอดทิ้งท่านตอนไหนกัน”
ปากของโจวเสวียนถูกมือของนางปิดเอาไว้ ทำได้เพียงส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมา
เฉินตันจูชักมือกลับ “ข้ามาครานี้ เพราะต้องการอธิบายเรื่องนี้กับท่าน”
“อธิบายอันใด ท่านเป็นคนให้ข้าสาบานไม่ใช่หรือ” โจวเสวียนหัวเราะเสียงเย็น
“ใข่” เฉินตันจูพูดเสียงเบา “แต่ท่านลองคิดดู ตอนนั้นระหว่างพวกเราเป็นอย่างไร ข้าตีท่าน ท่านตีข้า…”
โจวเสวียนพูดขัดนาง “ข้าไม่ได้ตีท่าน”
เฉินตันจูรีบพยักหน้า “ใช่ๆๆ ท่านไม่ได้ตีข้า ข้าลงมือก่อน ท่านดูบรรยากาศตึงเครียดระหว่างพวกเราในเวลานั้น ข้ากำลังโกรธ ที่ข้าพูดออกไปเพราะข้าได้ยินว่าฝ่าบาททรงประสงค์ให้ท่านกับองค์หญิงจินเหยาแต่งงานกัน ส่วนข้าสนิทกับองค์หญิงจินเหยา ข้าไม่ชอบท่าน รู้สึกว่าท่านเป็นคนไม่ดี…”
โจวเสวียนส่งเสียงขัดนาง “ข้าเป็นคนไม่ดี? คุณหนูตันจู ท่านลองไปถามคนในเมือง ข้าโจวเสวียนเคยทำเรื่องผิดอันใด ผู้ใดรู้สึกว่าข้าเป็นคนไม่ดี อย่างมากก็มีคนอิจฉาที่ข้ามีอำนาจแม้อายุยังน้อย บอกว่าข้าเหิมเกริม แต่ถึงแม้ข้ามีอำนาจแม้อายุยังน้อย หนึ่งแลกมาจากชีวิตของท่านพ่อข้า สองข้าใช้ชีวิตของข้าแลกมา! สิ่งที่พวกข้าแลกมาไม่เพียงแต่เป็นเกียรติยศของตนเอง แต่เป็นความรุ่งเรืองของราชวงศ์ ความมั่นคงของราษฎร…”
สมกับเป็นแม่ทัพที่มีต้นกำเนิดมาจากบัณฑิต เหตุผลที่เขาพูดทำให้คนฟังอับอาย เฉินตันจูรีบพูด “ใช่ๆ ท่านพูดถูก ข้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ท่านโหวโจวย่อมเป็นผู้ที่เที่ยงตรงมีคุณงามความดี ความหมายของข้าคือ ท่านเป็นคนไม่ดีสำหรับข้า”
โจวเสวียนได้ฟังจึงยิ่งโกรธ พยุงตัวขึ้นจ้องมองนาง “เฉินตันจู เหตุใดข้าจึงกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาท่าน”
เฉินตันจูมองเขา “ยังต้องพูดอีกหรือ ท่านลองคิดดู ระหว่างท่านกับข้า…”
โจวเสวียนพูดขัดนาง “ได้ ลองคิดดู ข้ารู้ว่าท่านเป็นผู้ใดตั้งแต่แรก ครั้งแรกที่พบท่าน ท่านกระทำการร้ายกาจอยู่บนภูเขาดอกท้อ ข้าเคยทำให้ท่านลำบากใจหรือ อีกทั้งข้ายังเป็นกำลังใจให้ท่าน ข้าเป็นคนไม่ดีหรือ”
เฉินตันจูอ้าปาก หากพูดเช่นนี้ก็ไม่ใช่จริงๆ
“อีกอย่าง งานเลี้ยงตระกูลฉาง ข้าไปเพื่อทำให้ท่านอับอายก็จริง แต่ข้าให้บุตรสาวของแม่ทัพเช่นเดียวกับท่านลงประลอง หากข้าเป็นคนไม่ดี ข้าโจมตีท่านต่อหน้าทุกคนจะเป็นอันใดไป” โจวเสวียนถามอีกครั้ง
เฉินตันจูอ้าปากอีกครั้ง เขาทำเช่นนั้นได้จริง
“สำหรับจวนของท่าน” โจวเสวียนพูด “ข้าหารืออย่างดี ท่านต้องการเงิน ข้าก็ให้เงิน ท่านให้ข้าสาบานว่าจะคืนจวนให้หลังจากข้าตาย ข้าจะลงนามสัญญา หากข้าเป็นคนไม่ดีจะทำเช่นนี้หรือ”
เฉินตันจูก้มหน้าถอนหายใจเบา คนเลวคงไม่สุภาพเพียงนี้…เจ้าคนชั่วร้าย นางเกือบถูกเขาหลอก เฉินตันจูเงยหน้าขึ้นหลังจากดึงสติกลับมา นางถลึงตามองโจวเสวียน “ท่านโหวโจว มันไม่เกี่ยวกับว่าท่านใจร้ายกับข้าแค่ไหนแต่สิ่งที่ท่านพูดไม่ควรเกิดขึ้นแต่แรก เรื่องเหล่านี้ข้าล้วนไม่อยากประสบพบเจอ ท่านไม่ได้ใจร้ายกับข้า แต่ท่านแค่บังคับข้า”
สีหน้าของโจวเสวียนผงะ มองนางนิ่งงัน
เฉินตันจูมองเขากลับอย่างไม่หลบหลีก
โจวเสวียนพูดขึ้นก่อน “ใช่ ท่านพูดถูก แต่เวลานั้นข้ายังไม่รู้จักท่านดีนัก ถือว่าเราจะไม่รู้จักกันหากไม่เป็นศัตรูกัน ไม่ได้หรือ”
พูดอันใดกัน เฉินตันจูขบขันกับคำพูดของเขา
“อีกอย่าง เรื่องของกั๋วจื่อเจี้ยน ท่านก็พูดเองว่าขอบคุณข้า” โจวเสวียนพูดอีกครั้ง “ข้าช่วยท่าน”
ในที่สุดโจวเสวียนก็ยอมรับเรื่องนี้ เขาออกมาเสนอการแข่งขันในเวลานั้นเพื่อช่วยนาง หากตอนนั้นเขาไม่พูด สวีลั่วจือและเหล่าบัณฑิตในกั๋วจื่อเจี้ยนไม่มีทางสนใจนาง เรื่องที่จะแก้ตัวให้จางเหยาก็ไม่อาจดำเนินการต่อไปได้
อันที่จริงเขาไม่ยอมรับ เฉินตันจูก็รู้ ด้วยเหตุนี้ นางจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อโจวเสวียน จนต้องเดินทางไปขอบคุณด้วยตนเอง
โจวเสวียนมองนาง พูดเสียงเบา “เฉินตันจู ข้าไม่ใช่คนเลว”
เสียงของชายหนุ่มราวกับอ้อนวอน เฉินตันจูใจสั่นสะท้าน มองไปที่โจวเสวียน
โจวเสวียนมองนาง พูดเสียงต่ำลงกว่าเดิม “ท่านไม่อาจไม่ชอบข้าได้”
เฉินตันจูไม่เพียงแต่ใจสั่น คนก็กระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว นางโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า “ไม่ๆ ท่านพูดเช่นนี้ไม่ได้ ท่านไม่ใช่คนเลว ไม่ได้หมายความว่าข้าต้องชอบท่าน”
โจวเสวียนก้มหน้าลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเย้ยหยัน “ไม่ชอบข้า เหตุใดท่านจึงไม่ให้ข้าแต่งงานกับผู้อื่น”
หัวข้อนี้วนกลับมาอีกครั้ง เฉินตันจูกระทืบเท้า “ข้าไม่ใช่ไม่ให้ท่านแต่งงาน ความหมายของข้าในเวลานั้นคือต้องการให้ท่านครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าท่านต้องการจะแต่งงานหรือไม่”
โจวเสวียนเอ่ยเสียงเบา “ข้าคิดแล้ว”
“ดังนั้น มันเป็นการตัดสินใจของท่านเอง” เฉินตันจูรีบพูด
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง
โจวเสวียนเย้ยหยัน “อย่าแม้แต่จะคิด ถ้าไม่มีท่าน ข้าจะคิดได้อย่างไร ข้าจะตัดสินใจอย่างไร เฉินตันจู ท่านอย่าพูดเหลวไหลกับข้า ท่านแค่ได้แล้วทิ้ง”
เฉินตันจูก็ใจร้อนเช่นกัน “ท่านต่างหากที่เอาแต่ใจ” นางพูด “แล้วแต่ท่านจะคิดอย่างไร อย่างไรข้าก็ไม่ชอบท่าน ท่านไม่แต่งงานกับองค์หญิงจินเหยา ข้าก็ไม่แต่งงานกับท่านเช่นกัน”
โจวเสวียนยิ้ม “ท่านคิดเรื่องแต่งงานกับข้าแล้วหรือ เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน”
เฉินตันจูโกรธ “ท่านโหวโจว พูดดีๆ ท่านไม่เข้าใจ อย่างไรข้ามาเพื่อบอกท่าน ถึงข้าให้ท่านสาบาน แต่ไม่ใช่เพราะข้าชอบท่าน ท่านอย่าเข้าใจผิด ท่านจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานกับผู้ใดก็ไม่เกี่ยวกับข้า”
พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อ หมุนตัวเดินออกไป
“อาเถียนไปกันเถิด”
อาเถียนรีบตอบรับ ชิงเฟิงยกขนมลุกขึ้นมา “คุณหนูตันจู จะไปแล้วหรือ ชิมขนมก่อนหรือไม่”
เฉินตันจูยิ้มให้เขา “ไม่ต้องหรอก คราวที่แล้วที่ข้าเข้าไปในวัง องค์ชายสามและท่านแม่ทัพให้ข้ามามาก ข้ายังกินไม่หมด”
ชิงเฟิงตอบรับ มองเฉินตันจูพาอาเถียนจากไปด้วยความขุ่นเคือง เขาชะเง้อหน้ามองเข้าไปด้านใน โจวเสวียนไม่ได้ลุกขึ้นไล่ตาม หรือให้คนรั้งเอาไว้ เขานอนคว่ำลงบนเตียงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
ชิงเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณหนูตันจู ข้าเดินไปส่งท่าน”
เขาวางถาดลง ก่อนจะวิ่งตามเฉินตันจูไป เมื่อส่งเฉินตันจูจากไปแล้ว กลับมายังคงเห็นโจวเสวียนนอนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ แต่เขาก็ไม่ได้นอนหลับ ดวงตาของเขาดุจดั่งหินแกะสลัก
“คุณชาย” ชิงเฟิงยื่นถาดในมือให้ “คุณหนูตันจูไม่ได้กิน ท่านกินหรือไม่”
โจวเสวียนถลึงตามองเขา จากนั้นมีชีวิตขึ้นมา หันหน้าเข้าด้านใน “อย่าเสียงดัง ข้าจะนอน”
ชิงเฟิงวางถาดลงด้วยความโล่งใจ ก่อนจะนำผ้าปูเตียงที่เฉินตันจูช่วยเปลี่ยนให้ออกไป ส่งต่อให้บ่าวรับใช้
องค์ชายสองที่อยู่หน้าประตูจวนโหวมองรถม้าที่เคลื่อนตัวจากไปของเฉินตันจูด้วยความโล่งใจเช่นเดียวกัน เอาล่ะ ปลอดภัยไร้ปัญหา
แต่ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว…เฉินตันจูบุกจวนโหวตีโจวเสวียน
“โจวเสวียนมีความแค้นกับเฉินตันจู”
“โจวเสวียนหมดความโปรดปราน เฉินตันจูรีบไปแสดงอำนาจแก้แค้นด้วยความได้ใจ”
“ไม่มีผู้ใดกล้ารั้งเอาไว้ บุกเข้าไปโดยตรง”
“ได้ข่าวว่าตีเกือบตาย เลือดไหลนองเป็นสายน้ำ บ่าวรับใช้ของจวนโหวตกใจจนเป็นลมเมื่อเห็นผ้าปูเตียง”