ฉู่ขวง ผู้ที่พรสวรรค์ด้านวรรณกรรมเป็นเลิศ !
เขาทั้งเขียนนิยายขนาดยาวยอดนิยม ครองตลาดหนังสือในอย่างมั่นคงในฐานะผู้บุกเบิก แถมยังเขียนเรื่องสั้นสุดคลาสสิก จนหลายคนยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเขียนของวงการเรื่องสั้นซึ่งเข้าใกล้สามอาชาไนยมากที่สุด
ฉะนั้นในใจของหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ฝีมือด้านวรรณกรรมของฉู่ขวงเหนือกว่าเซี่ยนอวี๋
ถึงขั้นที่ไม่มีใครเคยเกิดความคิดจะเปรียบเทียบฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋มาก่อน
เดิมทีก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปรียบเทียบอยู่แล้ว
ฉู่ขวงเป็นนักเขียนพรสวรรค์โดดเด่น ส่วนฉู่ขวงเป็นนักประพันธ์เพลงฝีมือล้ำเลิศ
การนำทั้งสองวงการมาเปรียบเทียบกันจึงไม่มีความหมายอะไร
กล่าวได้เพียงว่าพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมของฉู่ขวงชนะเซี่ยนอวี๋ขาดลอย และการประพันธ์เพลงของเซี่ยนอวี๋ก็ชนะฉู่ขวงขาดลอยเช่นเดียวกัน?
ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งสองคนติดตามซึ่งกันและกัน แถมยังมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ แฟนคลับทั้งสองฝั่งไม่มีวันมาพานพบกันได้หรอก
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ด้วยความนิยมของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ฝีมือด้านวรรณกรรมของเซี่ยนอวี๋ได้สำแดงออกมาอย่างเต็มที่ จึงมีแฟนคลับบางส่วนยกเรื่องนี้ขึ้นมาหยอกล้อ
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย
ทุกคนต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่าเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันถึงขั้นที่ใส่กางเกงตัวเดียวกันได้ พวกเขาไม่มีทางตั้งตัวเป็นอริกันหรอก
อ้อ แล้วก็ยังมีอิ่งจือ
นี่คือ ‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ’ ทั้งสามคน
แต่อิ่งจือเป็นหน้าใหม่ในวงการการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นสถานะในวงการ หรือฐานแฟนคลับ ก็ล้วนเทียบไม่ได้กับฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋ ฉะนั้นทุกคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจอิ่งจือกันสักเท่าไหร่
ก็เหมือนกับเสี่ยวหูตุ้ย[1] ทุกคนรู้จักแต่เหล่าอู๋กับเหล่าซู แต่น้อยคนนักที่จะสนใจคนที่สามเหมือนกัน…
อิ่งจือก็เป็นเพียงเงาจืดจาง โดยปกติแล้วจะปรากฏตัวในที่ที่มีฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋เท่านั้น
สรุปได้ว่า
เมื่อฝีมือด้านวรรณกรรมของเซี่ยนอวี๋กลายเป็นที่จดจำของแฟนคลับ บวกกับการเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ เป็นการเขียนเรื่องเหมือนกัน…
ในที่สุดทุกคนก็เกิดความคิดนึกอยากเปรียบเทียบทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัว
ปรากฏว่าเมื่อเทียบกันเช่นนี้แล้ว น่าสนใจมากทีเดียว
ความสามารถของเซี่ยนอวี๋คล้ายกับว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่ขวงเลยจริงๆ?
ถึงขั้นที่มีแฟนคลับรู้สึกว่าตนเข้าใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้นแล้ว…หรือเพราะว่าฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋ต่างก็มีฝีมือด้านวรรณกรรมที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
ช่างเถอะๆ เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ กลับเป็นอิทธิพลอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งมาพร้อมกับเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ!
หลังจากสัปดาห์ที่สองจบลง บวกกับบทวิเคราะห์เชิงลึกนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ กระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นไปอีกขั้น!
เริ่มมีสื่อรายงานเรื่องนี้แล้ว!
[การอุบัติของกระแสหนังออนไลน์ ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ หนังทุนต่ำ ทำยอดทะลุ 150 ล้านในสองสัปดาห์!]
[เซี่ยนอวี๋: จากนักประพันธ์เพลงมือทอง สู่ผู้เขียนบท ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’]
[ก้าวแรกในวงการภาพยนตร์ของเซี่ยนอวี๋ ในบทบาทนักเขียนบท ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ซึ่งโด่งดังไปทั่วทั้งโลกออนไลน์!]
[ฤดูร้อนกำลังจะมาถึง ภาพยนตร์ออนไลน์เบ่งบาน ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ นำทัพภาพยนตร์เข้าฉาย!]
[หนังทำเงินได้ 150 ล้านหยวน ทั้งที่ใช้เงินทุนเพียงเก้าล้าน? ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ใช้เงินน้อยเดิมพันครั้งใหญ่ เซี่ยนอวี๋ใช้พรสวรรค์สร้างปาฏิหาริย์!]
นอกจากนี้ยังมีข่าวซึ่งเผยแพร่บทวิจารณ์ภาพยนตร์จากสตาร์เน็ตด้วย
แน่นอน บทความของเติ้งฉือก็ถูกสื่อเผยแพร่ต่อไปเช่นเดียวกัน
นี่เป็นสถานการณ์ที่แปลกเหลือเกิน…
คนที่ไม่รู้จะคิดว่า ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ก็เป็นหนังชนโรงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเรื่องหนึ่งเช่นกัน
เพราะช่วงปิดเทอมฤดูร้อนซึ่งเต็มไปด้วยกระแสร้อนแรงเช่นนี้ โดยทั่วไปสื่อไม่มีทางมุ่งความสนใจไปที่ภาพยนตร์ออนไลน์ และยิ่งไม่มีแฟนคลับสนใจพวกเขาเลย
ในช่วงนี้ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์แน่นขนัด ภาพยนตร์เงินทุนแค่ไม่กี่ล้านมีอะไรให้เอ่ยถึงกัน?
แต่ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศกลับทำให้สายตาของผู้คนจับจ้องมาได้!
ถึงกับที่มีสื่อบางราย วาดภาพการ์ตูนสี่ช่องเพื่ออธิบายภาพยนตร์ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนไว้อย่างน่าสนใจมากทีเดียว
สื่อรายนี้มีชื่อว่า ‘ขำขันนิวส์’ ชอบใช้การ์ตูนเพื่อนำเสนอข่าว
การ์ตูนช่องแรก
เป็นเพียงสนามแข่งรถหรูหราแห่งหนึ่ง
รถสปอร์ตรูปทรงองอาจหยิ่งผยอง กำลังเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่งให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
และด้านนอกสนามแข่งขัน มีจักรยานคันหนึ่ง กำลังเร่งปั่นสุดแรงเกิดเช่นกัน
ชื่อของภาพยนตร์เรื่องดังในช่วงฤดูร้อนเดือนกรกฎาคมแปะอยู่บนหัวของรถแข่ง รวมไปถึงเรื่องอัสนีบาตของสตาร์ไลท์
ส่วนจักรยานนอกสนามแข่งคันนี้ กลับแปะข้อความตัวโตว่า ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’
การ์ตูนช่องที่สอง
รถแข่งพุ่งออกไป จักรยานเองก็พุ่งออกไปเช่นกัน…
การ์ตูนช่องที่สาม
รถแข่งหลายคันกำลังวิ่งนำ รถแข่งหลายคันรั้งท้าย ในหมู่รถแข่งที่รั้งท้ายก็รวมไปถึงเรื่องอัสนีบาตของสตาร์ไลท์
และด้านข้างอัสนีบาต ก็คือจักรยาน
ด้านหน้าของจักรยานเขียนประโยคหนึ่งว่า ‘เดี๋ยวฉันไปรอข้างหน้านะ’
เห็นได้ชัดว่ากำลังพูดกับเพื่อนร่วมสังกัดอย่างเรื่องอัสนีบาต
การ์ตูนช่องที่สี่
จักรยานเท้าถีบ เคียงข้างรถแข่งซึ่งวิ่งนำมา และข้างรถแข่งหลายคันนี้ ก็มีเม็ดเหงื่อเย็นผุดขึ้นมา…
ในวงการภาพยนตร์ออนไลน์ หลายคนหลุดยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ในใจ
เพราะการ์ตูนนี้จริงซะยิ่งกว่าจริง!
ความจริงก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ
ภาพยนตร์ชนโรง ก็คือรถแข่งสุดหรูในสนามแข่งเหล่านั้น
ภาพยนตร์ออนไลน์ซึ่งใช้เงินลงทุนเก้าล้านหยวน เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ซึ่งเข้าฉายในโรงแล้ว อย่างมากก็เป็นได้แค่จักรยาน
ปรากฏว่า…
กระแสความร้อนแรงของภาพยนตร์ออนไลน์ ถึงกับตีเสมอภาพยนตร์ในโรงได้เลย!
จักรยานคันนี้ สุดยอดไปเลย!
ไม่ใช่ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศสุดยอด…
ในแง่ของยอดบ็อกซ์ออฟฟิศ ภาพยนตร์ช่วงฤดูร้อนเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วยอดบ็อกซ์ออฟฟิศล้วนนับหน่วยต่ำที่สุดเป็นหลักร้อยล้าน
แต่ก็ไม่อาจสู้กับเงินทุนอันต่ำเตี้ยของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศได้
อุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุน
สมมติว่าภาพยนตร์ของคุณใช้เงินทุน 200 ล้านหยวน บ็อกซ์ออฟฟิศจะต้องทำรายได้ถึง 600-700 ล้านหยวนก่อน ผู้ผลิตจึงจะสามารถถอนเงินทุนได้
คนเขาลงทุนไปเก้าล้าน ทำเงินได้ 150 ล้าน
นั่นหมายความว่า เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ทำให้ผู้ผลิตได้กำไรสูงกว่า 70 ล้านหยวน…
ถึงอย่างไรวิธีการแบ่งรายได้ของภาพยนตร์ออนไลน์นั้นแตกต่างจากภาพยนตร์ซึ่งเข้าฉายในโรง
รายได้ของภาพยนตร์ออนไลน์ ฝั่งผู้ผลิตได้รับเงินครึ่งหนึ่ง ส่วนรายได้ของภาพยนตร์ซึ่งฉายในโรง ฝั่งผู้ผลิตจะได้รับหนึ่งในสาม
สนามแข่งขันแห่งนี้ไม่ได้เปรียบเทียบยอดออฟฟิศ แต่เป็นการเปรียบเทียบความสามารถในการทำเงิน!
และเมื่อเทียบกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของวงการภาพยนตร์ออนไลน์ สภาพจิตใจของวงการภาพยนตร์กระแสหลักนั้นใกล้แตกสลายอยู่รอมร่อ
ขับรถแข่งอยู่แท้ๆ แต่กลับถูกจักรยานตามทันซะแล้ว…
จะไม่ให้แตกสลายได้ยังไงล่ะ
จักรยานบ้านแกติดเทอร์โบหรือไงฮะ
เป็นหนังออนไลน์ ก็ทำตัวให้เหมือนหนังออนไลน์หน่อยได้มั้ยล่ะ!
ดูเอาก็แล้วกัน…
สตาร์ไลท์โชคหล่นทับชัดๆ!
เดิมทียอดบ็อกซ์ออฟฟิศของเรื่องอัสนีบาตธรรมดาไม่โดดเด่น จึงไม่มีใครจับตามองสตาร์ไลท์สักเท่าไหร่
ใครจะไปคิดว่าในมุมมืดไม่สะดุดตาของสตาร์ไลท์ ภาพยนตร์ออนไลน์เรื่องหนึ่งจะเปล่งประกายขึ้นมาโดยลำพัง
ใช่แล้ว
ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนเดือนกรกฎาคม อัสนีบาตนับเป็นศึกครั้งแรกของสตาร์ไลท์
สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ในศึกครั้งแรกนี้ สตาร์ไลท์ทำผลงานได้ธรรมดา
ทว่าโชคดีที่สตาร์ไลท์ปล่อยเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศออกมาด้วย!
สำหรับโชคก้อนใหญ่ที่หล่นทับสตาร์ไลท์น่ะหรือ…
ก็แน่นอนอยู่แล้ว!
ที่ปล่อยฉายออนไลน์ เห็นได้ชัดว่าสตาร์ไลท์ไม่ได้เห็นความสำคัญกับเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศเลยสักนิด!
ปรากฏว่าภาพยนตร์ที่สตาร์ไลท์ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้แหละ ที่กอบกู้ศึกครั้งแรกของสตาร์ไลท์!
สิ่งที่โลกภายนอกไม่รู้ก็คือ เรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศได้ถูกขายให้กับหลินเยวียนไปแล้ว
ทุกคนต่างคิดว่า ในตอนนี้สตาร์ไลท์กำลังสำราญใจ แต่กลับไม่รู้เลยว่า แผนกภาพยนตร์ของสตาร์ไลท์กำลังอยู่ในสภาพมืดมนทีเดียว
คนในย่อมรู้เรื่องราวภายใน
อันที่จริงความสำเร็จในครั้งนี้ของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสตาร์ไลท์เลย
เหล่าโจวหัวเราะไม่ออกแล้ว…
จะนั่งคิดนอนคิดก็เป็นความผิดของเซี่ยนอวี๋ล้วนๆ เลย…
……………………………………………..
[1] เสี่ยวหูตุ้ย (The Little Tiger) วงบอยแบนด์สัญชาติไต้หวัน ทำกิจกรรมในปี 1989-1992 และปี 1993-1996 ประกอบไปด้วยสมาชิกสามคน ได้แก่ อู๋ฉีหลง เฉินจื้อเผิง และ ซูโหย่วเผิง