รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 307 น่าชิงชังนัก ปั่นหัวกันเล่นหรือ?

บทที่ 307 น่าชิงชังนัก ปั่นหัวกันเล่นหรือ?

บทที่ 307 น่าชิงชังนัก ปั่นหัวกันเล่นหรือ?

ขายหน้า…ทรมานใจ!

พวกเขาต่อสู้เต็มกำลัง ใช้ทุกวิชาที่มี แต่แล้วยังสู้ไม่ได้ ไม่ใช่คู่มือของพวกอ้ายฉานเลย!

พวกเขาร้องไห้ ร้องด้วยความปวดร้าวเหลือคณา ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพวกเขาจะโดนเด็กกะโปโลอย่างพวกอ้ายฉานบดขยี้ถึงเพียงนี้!

ทว่าพวกเขามิใช่ผู้ที่รู้สึกแย่ที่สุด

ผู้ที่รู้สึกแย่ที่สุดคือชายหนุ่มรูปงามผู้ออกปากเชิญอันหลานเสวี่ยร่วมประลองยุทธ์ อู่เยว่

อู่เยว่มีฝีมือน่าทึ่งยิ่งกว่า เขาเป็นอันดับต้น ๆ ของคนรุ่นราวคราวเดียวกัน จุดเพลิงเทวา สำเร็จความเป็นเทพ

เขารู้ว่าอันหลานเสวี่ยมีภูมิหลังไม่ธรรมดา จึงคิดอยากสานสัมพันธ์กับอันหลานเสวี่ย และจงใจไปเชื้อเชิญนางมาร่วมประลอง

คนหนึ่งขอบเขตเทวา คนหนึ่งขอบเขตพรตเต๋า

เขาชี้แนะอันหลานเสวี่ยได้สบาย

จึงคิดใช้วิธีลับฝีมือเพื่อชี้แนะอันหลานเสวี่ย สร้างความรู้สึกดีให้อันหลานเสวี่ยด้วยการนี้ และเริ่มสานสัมพันธ์

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถต่อสู้กับอันหลานเสวี่ยด้วยพลังขอบเขตเทวา

หากเป็นเช่นนั้นไม่มีทางสู้กันได้เลย

เขาระงับพลังของตนให้อยู่ในขอบเขตพรตเต๋า อยู่ในระดับขั้นเดียวกับอันหลานเสวี่ย

“มาเถิด แม่นางลงมือได้เลย”

รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเขา เชื่อมั่นเหลือเกินว่าตนนั้นไม่ธรรมดา

ถึงแม้เขาระงับพลังลงจนอยู่ในขอบเขตพรตเต๋า แต่ถึงอย่างไรเขาก็จุดเพลิงเทวา ก้าวสู่ขอบเขตเทวาแล้ว เขาจึงอยู่เหนือผู้ฝึกตนและสิ่งมีชีวิตขอบเขตพรตเต๋าไปมาก

อย่าว่าแต่การต่อสู้ในขอบเขตเดียวกันเลย เขาในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามขอบเขตได้ไม่เป็นปัญหา

“ได้”

อันหลานเสวี่ยมีสีหน้าเคร่งเครียด

นางรู้ดีว่าอู่เยว่ระงับพลัง แท้จริงแล้วมีความสามารถกล้าแกร่ง จะสบประมาทไม่ได้ นางจึงไม่ชะล่าใจแม้แต่น้อย

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ประกายเย็นเยียบพวยพุ่งออกจากตัวนาง เจิดจ้าแยงตาเป็นพิเศษ ทันทีที่เริ่มการต่อสู้ นางก็ทุ่มกำลังทั้งหมด เรียกผลึกหิมะจากฟ้า บริเวณที่ยืนถูกสะกดด้วยน้ำแข็งในพริบตา สายลมหนาวเหน็บพัดโชย ประหนึ่งอยู่ในเดือนเก้าช่วงเหมันตฤดู!

“…”

อู่เยว่ตะลึงงันไปในบัดดล

เขาไม่ทันได้ตั้งสติ พลังเยือกแข็งก็ถลาเข้ามาหาเขา เขาถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้น รอยยิ้มเมื่อครู่ยังประดับอยู่บนใบหน้า!

นี่ไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยหรือ!

เหนือความคาดหมายของเขาสุด ๆ!

เขาทะนงเกินไป ทึกทักเอาเองว่าตัวเองเหนือชั้นกว่าอันหลานเสวี่ยไปไกล จึงมิได้ป้องกันแม้แต่น้อย ผลสุดท้ายถึงถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้นเยี่ยงนี้!

ขายหน้าชะมัด!

เขาอึดอัดแทบแย่!

เดิมยังคิดทำให้อันหลานเสวี่ยได้ประจักษ์ความฉกาจของเขา แล้วค่อยชี้แนะอันหลานเสวี่ย เพื่อให้อันหลานเสวี่ยรู้สึกดีกับเขา เช่นนี้เขาจักสร้างสัมพันธ์กับอันหลานเสวี่ยได้พอดี

ทว่าบัดนี้มาถึงเขาก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้น…

อันหลานเสวี่ยจะมองเขาอย่างไร!

“ทลาย!”

เขาคำรามเสียงต่ำ ปลดปล่อยพลังเต็มรูปแบบ หมายจะทลายน้ำแข็งที่เกาะกุมร่างอยู่ กู้ชื่อเสียงกลับมา

ทว่าในไม่ช้า เขาต้องตะลึงงันไปอีกครั้ง…

อันหลานเสวี่ยแข็งแกร่งจนผิดวิสัย เหนือชั้นกว่าคนในขอบเขตเดียวกันไปมาก ต่อให้เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดในตัว ก็ไม่อาจทลายน้ำแข็งนี้ได้

“แค่นี้…เองหรือ?”

อันหลานเสวี่ยมองอู่เยว่ด้วยความฉงน นางคิดว่าอู่เยว่เก่งกาจนักหนา ผลสุดท้ายกลับต้านไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียวหรือ

บัดซบ!

เมื่อเห็นสายตาที่อันหลานเสวี่ยมองมา อู่เยว่สะเทือนใจอย่างยิ่งยวด ระทมใจหนักเข้าไปใหญ่

เสียงดังตึง เสียงที่บ่งบอกถึงความแหลกลาญดังขึ้น แสงเทวะสาดส่องออกจากผิวกายของเขา ทลายสภาวะถูกแช่แข็ง

เขาหยุดยั้งการระงับพลัง ขอบเขตกลับสู่เทวาอีกครั้ง ด้วยพลังในระดับที่ถูกระงับไว้ เขาไม่สามารถทลายน้ำแข็งที่เกาะกุมอยู่ได้

“เมื่อครู่เป็นอุบัติเหตุ พวกเรามาเริ่มกันใหม่”

เขาหัวเราะเสียงแห้ง ระงับขอบเขตอีกครั้ง รักษาพลังให้อยู่ขั้นเดียวกับอันหลานเสวี่ย

“อ้อ”

อันหลานเสวี่ยเอ่ย “เช่นนั้นก็ดี ข้าลงมือต่อแล้ว”

“มาเลย!”

ผิวกายอู่เยว่ส่องแสงเจิดจรัส เขารีดเร้นพลังทั้งหมด ประกายมั่นใจปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง

ก่อนนี้เขาประมาท ทะนงเกินไป ถึงมิได้ตั้งท่าป้องกัน ส่งผลให้ตนเองถูกแช่แข็ง เป็นฝ่ายตั้งรับ คิดจะพลิกสถานการณ์ในตอนหลังก็ไม่ทันแล้ว ไม่สามารถทลายน้ำแข็งที่เกาะกุมได้

ทว่าบัดนี้ต่างออกไป

เขาในตอนนี้ระแวงเต็มที่ทั้งกายใจ เร่งพลังจนถึงระดับสูงสุด ต่อให้อันหลานเสวี่ยคิดแช่แข็งเขาอีกคงไม่ง่ายดายปานนั้นแล้ว!

ตราบใดที่เขาไม่ถูกแช่แข็ง เขาก็มั่นใจว่าเอาชนะอันหลานเสวี่ยได้ ถึงอย่างไรเขาก็จุดเพลิงเทวา สำเร็จเป็นเทพแล้ว!

“หอกน้ำแข็ง!”

อันหลานเสวี่ยคำรามเสียงเบา สำแดงพลังเยือกแข็งในฟ้าดินนี้ นางยืมพลังเยือกแข็งจากปฐพี!

ชั่วพริบตานั้น หิมะขนาดเท่าขนห่านโปรยปราย สายลมเหน็บหนาวเสียดแทงกระดูก อาณาเขตนี้กลายเป็นพื้นที่ฤดูเหมันต์ อันหลานเสวี่ยเหมือนกลายร่างเป็นเทพธิดาสงครามเหมันต์!

นางยื่นมือข้างหนึ่งออกไป แสงอันเยือกเย็นเปล่งประกายออกไปรอบ ๆ หอกน้ำแข็งเล่มหนึ่งก่อร่างอย่างรวดเร็ว อยู่ในกำมือของนาง!

จากนั้น นางบุกเข้าไปหาอู่เยว่ด้วยหอกน้ำแข็งในมือ

นางดุดันเหลือร้าย พริบตาเดียวก็ประชิดตัวอู่เยว่ แทงหอกใส่อู่เยว่!

“!!!”

สีหน้าอู่เยว่เปลี่ยนไปในพริบตา ซีดเซียวเหลือคณา!

พลังที่แฝงไว้ในหอกนี้สยดสยองเกินไป เขารู้สึกว่าด้วยพลังขอบเขตที่เขาระงับลงไม่อาจต้านทานได้เลย

เขาหมดหนทาง รีบกางม่านพลังแสงขึ้นมาป้องกันหอกที่แทงมาหาตน

ใช่แล้ว เขาหยุดยั้งการระงับพลังอีกครั้ง กลับสู่ความสามารถขอบเขตเทวา

“…”

อันหลานเสวี่ยมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าใด ไม่พอใจอย่างมาก อู่เยว่ผู้นี้ปั่นหัวนางเล่นหรือไร

การประลองยุทธ์ระดับขั้นเดียวกันแท้ ๆ อู่เยว่กลับคืนพลังขอบเขตเทวาอยู่เนือง ๆ แล้วจะให้สู้เพื่ออันใด

ไม่อย่างนั้นก็อย่าระงับพลัง และไม่ต้องมาชวนนางประลองยุทธ์สิ!

ที่ทำอยู่ตอนนี้หมายความว่าอย่างไร?

“อู่เยว่ เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่ ยังไหวอยู่หรือไม่ หากไม่ไหวก็รีบถอยกลับมา อย่าได้ทำตัวขายขี้หน้าอยู่ตรงนั้น!”

ซางเจี๋ยมองอู่เยว่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร และเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจนัก

เขาคือบุตรสวรรค์ผู้มีพลังสูงสุดในตระกูลซาง พลังขอบเขตของตนก็ก้าวสู่ขอบเขตเทวาไปนานแล้ว เขาได้เห็นการต่อสู้ด้านอู่เยว่กับอันหลานเสวี่ย และไม่พอใจกับการกระทำของอู่เยว่มาก

“อู่เยว่ เจ้าสู้ได้หรือไม่ หากสู้ได้ก็ระงับพลังให้ถึงที่สุด! หากสู้ไม่ได้ก็ไสหัวกลับมาบัดเดี๋ยวนี้!”

ผู้อาวุโสตระกูลอู่โกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว

เขาโมโหมากจริง ๆ!

อู่เยว่ทำเช่นนี้เท่ากับปั่นหัวอีกฝ่ายเล่นเห็น ๆ!

พวกเขาอยากประจบแทบตาย อู่เยว่กลับบังอาจทำเยี่ยงนี้ เขาอยากจะถลกหนังอู่เยว่ออกมานัก!

“ข้าสู้ไหว!”

อู่เยว่ปากแข็ง หากยอมแพ้และถอยไปทั้งอย่างนี้ มิโดนหัวเราะเยาะไปทั้งชีวิตหรือ

เขาระงับพลังจากขอบเขตเทวาเชียวนะ กลับต้านการโจมตีของอันหลานเสวี่ยไม่ได้แม้แต่น้อย จากนี้ไปเขาจะเอาหน้าที่ไหนไปพบผู้คน?

ไม่ได้!

เขาไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด!

“ไหวใช่หรือไม่ เช่นนั้นเจ้ามาสู้กับข้าเสียโดยดี!”

ผู้อาวุโสตระกูลอู่แค่นเสียงเย็น ยกมือฟาดพลังใส่อู่เยว่ ระงับขอบเขตของอู่เยว่

ด้วยพลังระงับจากเขา จากนี้ไปต่อให้อู่เยว่อยากฟื้นพลังก็ทำไม่ได้

“ข้าหยุดประลองได้หรือไม่…”

เมื่อโดนผู้อาวุโสตระกูลอู่ระงับพลัง อู่เยว่เริ่มสำนึกเสียใจ จึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา

หากเจอกับการโจมตีที่ปัดป้องไม่ได้อีก เขาไม่สามารถป้องกันด้วยการฟื้นพลังขอบเขตแล้ว ได้แต่เข้ารับเต็ม ๆ…

“ไม่ได้!”

ผู้อาวุโสตระกูลอู่ตวาด โมโหจนอวัยวะภายในแทบระเบิด อู่เยว่ขายหน้าพวกเขาตระกูลอู่เสียจริง!

“ข้าเพียงพูดไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดหยุดประลองจริง ๆ”

อู่เยว่จนปัญญา ได้แต่กัดฟันพูดออกไป

เขาหมดทางถอย ศึกนี้จำต้องดำเนินต่อ…

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท