Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 237 ล็อกอินผิดบัญชี

ตอนที่ 237 ล็อกอินผิดบัญชี

เดือนสิงหาคมมาถึงแล้ว

เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ยอดรับชมของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศหลังจากนั้นลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ยอดรับชมทะลุ 50 ล้านครั้ง การเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ถนัดตาจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก…

ผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อิ่มตัวในช่วงเวลาอันสั้น

หลินเยวียนมั่นใจว่าเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศยังคงมีพื้นที่และศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ทว่ายังต้องใช้เวลาที่นานกว่านี้

ผลงานหลายประเภท ยิ่งบ่มเพาะยิ่งหอมจรุงจิต

และเมื่อกระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้อิ่มตัว ค่าความโด่งดังด้านภาพยนตร์ของหลินเยวียนก็แตะถึง 35,000

ขณะเดียวกัน

นักเขียนบทอย่างเซี่ยนอวี๋ก็เริ่มมีชื่อเสียงเล็กน้อยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์กระแสหลัก

ภาพยนตร์ตลกที่เขาบุกเบิก ซึ่งถูกชาวเน็ตพูดถึงอย่างคึกคัก รับการขนานนามว่าเป็น ‘หนังตลกชวนหัวไร้แก่นสาร’

ต่อให้ไม่มีคำชี้แนะจากตัวหลินเยวียน ‘ชวนหัวไร้แก่นสาร’ ยังคงเป็นคำนิยามประเภทของภาพยนตร์ตลกประเภทนี้ที่เหมาะสมที่สุด

อย่างที่นักวิจารณ์ภาพยนตร์กล่าวไว้…

นักแสดงแนวตลกหลายคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์กระแสหลักได้เริ่มศึกษาลักษณะเด่นของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ

เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ก็คือ

ภายใต้การศึกษาของบุคลากรมากพรสวรรค์ในอุตสาหกรรมหลายคน ภาพยนตร์ชวนหัวไร้แก่นสารอาจกลายเป็นทิศทางใหม่ของการพัฒนาภาพยนตร์ตลกในอนาคต

เป็นเรื่องยากที่จะเลียนแบบโจวซิงฉือ แต่จุดเด่นของภาพยนตร์ชวนหัวไร้แก่นสารกลับสามารถนำมาประยุกต์ใช้และต่อยอดในภาพยนตร์ตลกได้

แน่นอน

อิทธิพลของเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเท่านี้

ในวันนี้

หลินเยวียนกำลังนั่งวาดการ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทพนิสอยู่ในออฟฟิศกับหลัวเวย

ต้องขอบคุณความรวดเร็วของหลินเยวียนและหลัวเวย การ์ตูนเรื่องนี้ทำสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง มิหนำซ้ำกระแสยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ…

แน่นอนว่าจำนวนผู้ติดตามของอิ่งจือก็ทะลุถึง 15 ล้านแล้ว!

อืม…

จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ที่ยอดผู้ติดตามของนามแฝงอย่างอิ่งจือสูงถึงขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นความดีความชอบของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง

ถึงอย่างไรทั้งสามบัญชีผู้ใช้นี้ก็มีกระแสซึ่งเชื่อมโยงถึงกันในระดับหนึ่ง

เมื่อวาดการ์ตูนของวันนี้เสร็จ หลินเยวียนจึงส่งต่อให้หลัวเวยอัปโหลด

หลังจากอัปโหลดเสร็จ

จู่ๆ หลัวเวยก็ผุดยิ้มเอ่ย “อาจารย์ฉู่ขวงเชี่ยวชาญการต่อโคลงใช่ไหมคะ”

หลินเยวียนชะงักไป “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ”

หลัวเวยเองก็ชะงักไปเช่นกัน “คุณไม่รู้เหรอ”

หลินเยวียนนึกสงสัย “รู้อะไรครับ”

หลัวเวยมองท่าทางของหลินเยวียน ก็รู้แล้วว่าปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้เล่นอินเทอร์เน็ต

เธอจึงอธิบายให้หลินเยวียนฟัง “ช่วงนี้มีเกมเกมหนึ่งดังมากเลยค่ะ…”

ที่แท้เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ นับว่าเป็นอิทธิพลจากภาพยนตร์เรื่องนี้

เพราะมีชาวเน็ตหยิบยกโคลงคู่นับไม่ถ้วนจากภาพยนตร์มาเผยแพร่ ฉะนั้นในระยะนี้บนโลกออนไลน์จึงเกิดกระแสโคลงคู่

ดังนั้น มีบริษัทผู้พัฒนาเกมใช้กระแสนี้ สร้างมินิโปรแกรมเกมต่อโคลงคู่ขึ้นมาโดยเฉพาะ

มินิเกมนี้มีชื่อว่า ‘ยอดนักต่อโคลงกลอน’

เกมนี้ได้รับการความนิยมเป็นวงกว้างจากชาวเน็ตหลังจากเปิดตัว

เห็นได้ชัดว่า ‘ยอดนักต่อโคลงกลอน’ เป็นสิ่งที่มาจากในเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ

ในหนัง

เจ้าหน้าที่ทางการของหนิงอ๋องเอ่ยแนะนำตัวว่า [ข้าคือจอหงวนเจ็ดมณฑล ฉายา ‘ยอดนักต่อโคลงกลอน’ ตุ้ยชวนฉาง!]

ดังนั้นทันทีที่ชาวเน็ตเห็นคำว่า ‘ยอดนักต่อโคลงกลอน’ ก็ล้วนหลุดยิ้มออกมา คิดเชื่อมโยงไปถึงฉากพ่นเลือดของพ่อหนุ่มคนนี้โดยอัตโนมัติ

เกมนี้เล่นง่ายมาก

ทุกครั้งที่มีการต่อโคลงกลอน ก็จะเข้าสู่ด่านถัดไป

และทุกครั้งที่ผ่านด่าน ระดับความยากก็จะสูงขึ้น

นั่นทำให้เมื่อใดก็ตามที่ชาวเน็ตต่อโคลงไม่ได้ ก็จะโพสต์ขอความช่วยเหลือทางออนไลน์

โพสต์ขอความช่วยเหลือเหล่านี้ ท้ายที่สุดแล้วจึงมักจะไปปรากฏในพื้นที่แสดงความคิดเห็นของบรรดาตัวท็อปของวงการวรรณกรรม

ตัวท็อปด้านวรรณกรรมเหล่านี้ ย่อมปรารถนาอยากสำแดงฝีมือด้านวรรณศิลป์ของตน ส่วนมากก็มักจะเข้ามาเปิดอ่านและช่วยตอบข้อข้องใจของชาวเน็ต

ฉู่ขวงในฐานะนักเขียนฝีมือโดดเด่นคนหนึ่ง ก็มีแฟนคลับเข้าไปโพสต์ขอความช่วยเหลือให้เขาช่วยต่อโคลงเช่นกัน

ไม่เพียงฉู่ขวง

ในระยะนี้ พื้นที่แสดงความคิดเห็นของเซี่ยนอวี๋ก็มีโพสต์ที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อย

แต่ไม่ว่าฉู่ขวงหรือเซี่ยนอวี๋ ก็คล้ายว่าจะไม่ได้สนใจโพสต์ขอความช่วยเหลือเหล่านี้เลย

ถึงว่าสิ จู่ๆ หลัวเวยถึงได้เอ่ยถึงเรื่องต่อโคลงขึ้นมา

เธอยังให้หลินเยวียนดูพื้นที่แสดงความคิดเห็นของอิ่งจือด้วย

ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นของอิ่งจือ นอกจากโพสต์สนทนาเกี่ยวกับการ์ตูนแล้ว ยังมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งเข้ามาเร่งเร้า

‘รีบให้ฉู่ขวงต่อกลอนเร็ว’

‘ไม่ใช่แค่ฉู่ขวงนะ อิ่งจือก็รู้จักเซี่ยนอวี๋ไม่ใช่เหรอ ให้เซี่ยนอวี๋ช่วยหน่อยได้ไหมง่ะ โคลงคู่ในถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศสุดยอดไปเลย เขานี่สิถึงจะควรคู่กับสมญานามว่ายอดนักต่อโคลงกลอน’

‘กำลังพูดถึงเกมยอดนักต่อโคลงกลอนกันอยู่ใช่มั้ย คือแบบเกมนี้โคตรจะยาก ฉันเพิ่งผ่านถึงด่านแปดเอง’

‘ด่านแปดก็เก่งแล้วครับ ผมถึงด่านสามก็ตายแล้ว ใครไม่เก่งทางนี้เล่นเกมนี้ไม่ไหว’

‘โพสต์ล่างคือตุ้ยชวนฉางในตำนาน?’

‘โคลงคู่พวกนี้ เสิร์ชหาคำตอบในเน็ตก็ได้ เป็นโคลงดังๆ ที่พอจะรู้จักกันอยู่ ตอนเรียนฉันก็เคยท่องตั้งหลายบท’

‘ใช่ครับ ตัวท็อปในวงการวรรณกรรมก็เล่นเกมนี้กันนะ พวกเขาโพสต์คำตอบบนปู้ลั่วด้วย’

‘…’

หลินเยวียนส่ายหน้า

เขารู้ตัวดี ว่าเขาไม่เชี่ยวชาญการต่อโคลงกลอนเอาซะเลย

โคลงคู่ในภาพยนตร์ ล้วนเป็นโคลงคู่ที่ระบบให้มา

หลัวเวยเอ่ยด้วยความอิจฉา “ถ้าต่อได้ครบทุกคู่ก็ดีสิคะ คู่หลังๆ ในเกมยอดนักต่อโคลงกลอนยากขึ้นเรื่อยๆ ศาสตราจารย์มหา’ลัยเมืองหยางต่อได้รวดเดียวยี่สิบสามคู่ ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอีกหกล้าน!”

“เดี๋ยวนะ เท่าไหร่นะครับ”

หลินเยวียนมีท่าทีประหลาดใจ

หลัวเวยตอบ “ต่อไปยี่สิบสามคู่ค่ะ…”

หลินเยวียนส่ายหน้า “ผมหมายถึงจำนวนผู้ติดตามน่ะ”

หลัวเวยหลุดหัวเราะ “หกล้านค่ะ เว่อร์มากเลยใช่ไหมล่ะ! แต่ศาสตราจารย์ท่านนั้นก็ต่อไม่ได้แล้ว โคลงด้านหลังยากเกินไป เป็นเกมออกใหม่ที่บริษัทพัฒนาเกมเชิญคนจากวงการวรรณกรรมมาช่วย หาคำตอบจากหนังสือไม่ได้ เพราะงั้นตอนนี้ทุกคนเลยกำลังระดมความคิด ช่วยกันต่อน่ะ”

“อย่างนี้นี่เอง”

หลินเยวียนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

เขาอยากให้บัญชีผู้ใช้ของฉู่ขวงมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เพราะบัญชีผู้ใช้ของฉู่ขวงนี้มีภารกิจ ทำให้จำนวนแฟนคลับทะลุหนึ่งร้อยล้านอยู่

ปกติแล้วความเร็วของยอดผู้ติดตามจะเพิ่มขึ้นตามการปล่อยหนังสืออยู่แล้ว แต่หลินเยวียนรู้สึกว่ายังเพิ่มขึ้นไม่เร็วพอ ไม่อย่างนั้นครั้งก่อนเขาคงไม่ใช้บัญชีเซี่ยนอวี๋มาเรียกแฟนคลับให้ช่วยติดตามฉู่ขวงหรอก

น่าเสียดาย…

เรื่องต่อโคลงกลอน…

เขาไม่ไหวจริงๆ…

หลัวเวยสนทนากับหลินเยวียนอยู่อีกสักพักก็เลิกงาน เธอจะมาวาดการ์ตูนที่ออฟฟิศทุกวัน เมื่อวาดเสร็จก็เก็บของกลับบ้าน

หลังจากหลัวเวยกลับไป

หลินเยวียนก็เปิดปู้ลั่ว

อย่างที่คาดไว้

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นของฉู่ขวงหรือเซี่ยนอวี๋ ต่างก็มีชาวเน็ตมาโพสต์ขอความช่วยเหลือไม่น้อย แต่โคลงคู่เหล่านี้ หลินเยวียนเองก็ต่อไม่ได้เช่นกัน

และในตอนนั้นเอง

จู่ๆ หลินเยวียนก็เห็นว่าบนปู้ลั่วมีชาวเน็ตจำนวนมากรีโพสต์โคลงคู่บทหนึ่ง ยอดการรีโพสต์สูงมาก

‘โคลงคู่ที่ยากที่สุดในยอดนักต่อโคลงกลอนปรากฏขึ้นแล้ว [เด็กน้อยตากลมมานั่งตากลมเพลาเช้าไม่เพลาลง[1]]’

‘นี่มันกลอนเทพเซียนอะไรเนี่ย’

‘ตากลมตากลมอะไรฟระ แน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เขียนมั่วๆ’

‘ไหนฉันลองต่อหน่อยซิ [หมาป่าอยู่ในป่าร้องว่าว้าวาวา]’

‘ไม่ต่อแล้วว้อย [ทำไมไม่ผ่านเล่นเกมนี้ไม่ผ่านทำไม]’

‘จัดไปอย่าให้เสีย [กองทัพทั้งกองทัพรบพุ่งพุ่งรบโจมตี]’

‘เลิกแกงกันได้แล้ว มีปรมาจารย์ท่านไหนต่อได้บ้าง’

‘ศาสตราจารย์มหาลัยเมืองหยางก็ไปต่อไม่ได้แล้ว’

‘อาจารย์จากสมาคมวรรณศิลป์ยังบอกว่าโคลงคู่นี้ยาก โคลงคู่นี้ออกมาได้สิบกว่านาทีแล้ว ยังไม่มีใครต่อได้ ขิตกันถ้วนหน้า’

‘…’

หลินเยวียนส่ายหน้า

โคลงคู่นี้ง่ายมากเลยไม่ใช่เหรอ

ในโลกเดิมใครๆ ก็ต้องเคยเรียนกันทั้งนั้น

เดี๋ยวนะ…

หลินเยวียนฉุกคิดขึ้นได้

โคลงคู่นี้เป็นของบนโลก บนบลูสตาร์ไม่มีใครเคยเรียนนี่นา!

โชคดีอะไรขนาดนี้ ถึงกับมาเจอโคลงคู่จากบนโลก

ถึงแม้หลินเยวียนจะไม่มีความทรงจำจากบนโลกหลงเหลืออยู่มากนัก แต่โคลงคู่ชื่อดังเช่นนี้ เขากลับจำได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าโคลงคู่จากบนโลกจะมาปรากฏบนบลูสตาร์ได้

จะมัวชักช้าอยู่ไยล่ะ!

นี่คือโอกาสในการเพิ่มแฟนคลับของฉู่ขวง

หลินเยวียนรีบต่อโคลงอย่างรวดเร็ว [สระงามสล้างเสลาอิงเสลาเรียนสระ]

บัญชีผู้ใช้ของฉู่ขวง แฟนคลับไม่น้อย

เขาต่อโคลงกลอน ย่อมมีผู้คนสนใจไม่น้อย

แต่สิ่งที่หลินเยวียนนึกไม่ถึงก็คือ…

หลังจากที่โพสต์ต่อโคลงนี้ไป

คอมเมนต์ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นถึงกับเขียนว่า ‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋ คุณแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้ต่อมั่วๆ’

อาจารย์เซี่ยนอวี๋…

อาจารย์เซี่ยน…

อาจารย์…

อา…

ซวยแล้ว!

ล็อกอินผิดแอค!

……………………………………….

[1] เด็กน้อยตากลมมานั่งตากลมเพลาเช้าไม่เพลาลง ในต้นฉบับภาษาจีนเป็นโคลงคู่ซึ่งใช้คำพ้องรูป ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกเสียงและชนิดของคำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะอ่านอย่างไร

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

  1. Jingjang พูดว่า:

    ขอบคุณค่ะ ติดตามเรื่องนี้อยู่นะคะ😊

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท