ตอนที่ 267 เมฆาอสูร ปีศาจบรรพกาล วิญญาณเซียน!
“อ๊าก!”
“นายท่าน!”
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทุกคนพลันกรีดร้องออกมาด้วยความสยดสยอง
เขาคือผู้นำของเขตเซียนฉยงชาง เป็นจ้าวเซียนผู้แข็งแกร่งขั้นสุด!
ทว่าเวลานี้เขากลับถูกจ้าวเซียนขั้นสูงตรงหน้าสังหารในพริบตา
“หนี!”
ทุกคนตกใจจนถุงน้ำดีแทบแตก ทั้งหมดคิดหันหลังวิ่งหนีทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทว่าเพียงชั่วลมหายใจต่อมา ปราณกระบี่พุ่งทะยานออกเป็นรูปกากบาท ศีรษะของทุกคนกระเด็นกระดอนออกไป ในพริบตาผู้คนทั้งหมดของเขตเซียนฉยงชางพลันล้มลง ซากศพไร้ศีรษะนอนเกลื่อนกลาด
พรึ่บ!
หลังจากทำลายเขตเซียนฉยงชางแล้ว หนิงฝานก็สะบัดมือเพื่อรวบรวมแหวนเก็บของจากทุกคน เพราะทุกคนอยู่ในขอบเขตเซียน จึงมีทรัพยากรมากมายอยู่ภายในนั้น
พรึ่บ!
ท้ายที่สุด หนิงฝานก้าวขึ้นไปหยิบธงขนาดใหญ่ที่สลักคำว่า ฉยงชาง ก่อนจะเคลื่อนธงของขนนกเข้าไปใกล้ เวลานี้ธงฉยงชางเปล่งประกายเจิดจ้าก่อนจะหายลับไป มันหลอมรวมเข้ากับธงขนนกอย่างรวดเร็ว
ตามกฎของสนามรบโบราณ หากทุกคนต้องการจะเป็นผู้ชนะภายในมหาสงครามหมื่นเขต สิ่งสำคัญคือต้องรวบรวมธงเขตให้มากที่สุด
“ไปต่อดีกว่า… ข้าเชื่อว่าจะมีพวกโง่บางคนคิดส่งธงมาให้ข้าถึงหน้าประตูบ้านแน่นอน”
หนิงฝานยกยิ้มบาง ก่อนจะเดินทางเข้าสู่วงในต่อไป
ล้านลี้!
สิบล้านลี้!
หลายร้อยล้านลี้!
…
สนามรบโบราณนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต หนิงฝานเดินทางมากว่าสิบวัน แต่ยังไม่ถึงวงในของสนามรบแห่งนี้เลย
ในช่วงเวลานี้ มันเป็นไปตามที่เขาคาดเดาเอาไว้ หลายคนจากเขตเซียนอื่น ๆ พยายามขัดขวางและคิดสังหารเขาเพื่อยึดเอาธงสัญญลักษณ์ แต่ทั้งหมดกลับถูกหนิงฝานโต้กลับอย่างง่ายดาย
หลังจากจัดการรวมธงของเขตเซียนต่าง ๆ ในที่สุดชายหนุ่มก็เข้าใกล้วงในขึ้นอีกขั้น
เมื่อมองจากระยะไกล ม่านแสงปรากฏขึ้นระหว่างสวรรค์และโลก ม่านแสงเหล่านี้เปรียบเสมือนกำแพงระหว่างสวรรค์และโลกที่ทอดยาวข้ามผ่าน มันปิดกั้นทุกสิ่ง
“ดูเหมือนว่าตราบใดที่สามารถผ่านม่านแสงนี้ไปได้ ก็จะสามารถเข้าสู่วงในของสนามรบโบราณได้”
หนิงฝานมาถึงม่านแสงและพยายามจะผ่านไป แต่พบว่าพลังต้องห้ามที่อยู่บนธงทั้งเจ็ดไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ เขาขาดไปสามธง!
“โอ้!”
“ฮ่าฮ่า!”
“มีปลามาอีกแล้ว!”
ทันใดนั้น เสียงเย้ยหยันดังขึ้นสามครั้ง กลิ่นอายทั้งสามอยู่ไม่ไกลนัก
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ในช่วงเวลาต่อมา ผู้คนจากสามฝ่ายมารวมตัวกัน แต่ละฝ่ายมีกว่าหลายร้อยคน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นต่ำที่สุดล้วนแต่อยู่ในจ้าวเซียนขั้นต้น และผู้นำทั้งสามอยู่ในขอบเขตจ้าวเซียนขั้นสุด
ในบรรดาทั้งสามมีธงเขตสามผืนโบกสะบัด แต่ละอันมีอักษรสลักไว้ว่า เมฆาอสูร ปีศาจบรรพกาล และวิญญาณเซียน!
“เขตเซียนขนนก? ไม่เคยได้ยิน!”
“ฮ่าฮ่า จ้าวเซียนขั้นสูง?”
“ดูเหมือนจะเป็นเพียงเขตเซียนที่ไร้ชื่อเสียง!”
ทันทีที่เขตเซียนยิ่งใหญ่ทั้งสามมาถึง จ้าวเซียนขั้นสุดทั้งสามก็พูดคุยกัน ทั้งหมดเอ่ยพร้อมเผยใบหน้าเหยียดหยามอย่างไม่คิดปกปิด
“ยอดเยี่ยม!”
ดวงตาของหนิงฝานสว่างวาบทันทีเมื่อกองกำลังทั้งสามปรากฏตัวขึ้น
ตอนนี้เขาขาดธงสามผืนเพื่อจะเข้าสู่วงใน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีเขตเซียนสามเขตมาปรากฏอย่างพร้อมเพรียง!
ทันใดนั้น เขากล่าวคำเย็นชากับเขตทั้งสาม “พวกเจ้า เขตเซียนทั้งสามเอ๋ย มอบธงเขตของพวกเจ้ามาเสีย แล้วข้าจะไว้ชีวิต!”
“…”
เขตเซียนทั้งสามที่กำลังจะคุกคามหนิงฝานถึงกับตกตะลึงทันที
ยอมจำนน? นั่นไม่ใช่พวกเราหรอกหรือที่ควรจะพูดคำนั้น!
“ฮ่าฮ่า! น่าสนใจ! น่าสนใจจริง ๆ!”
“จ้าวเซียนขั้นสูงกำลังคุกคามเขตเซียนยิ่งใหญ่ทั้งสามแห่ง!”
“นับว่ากล้าหาญอย่างแท้จริง เป็นบุรุษที่บ้าระห่ำไม่น้อย!”
“…”
เวลานี้ผู้คนจากเมฆาอสูร ปีศาจบรรพกาล และวิญญาณเซียนยิ่งใหญ่ ทั้งสามต่างระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
ทว่าหนิงฝานไม่สนใจ เขายังคงกล่าวอย่างเย็นชาอีกครั้ง “หากไม่ยินยอมแต่โดยดี อย่าได้กล่าวโทษว่าข้าหยาบคาย!”
“ฮ่าฮ่า… ฮ่าฮ่าฮ่า…”
คนจากเขตเซียนทั้งสามดูเหมือนจะขบขันในการกระทำของหนิงฝาน และพวกเขาหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นผู้นำเขตเซียนทั้งสามจึงกล่าวคำ “มา มาเถิด มาเอาธงเขตเซียนของพวกเราไปเสีย! หากมีความสามารถก็จงมารับเอาไป!”
“อืม!”
หนิงฝานพยักหน้าอย่างจริงจัง ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไปฉกชิงธงพร้อมกับกระบี่ในมือ
“พวกเราได้พบเจอคนโง่เขลาแล้วงั้นหรือ?”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานคิดบุกเข้ามา ผู้นำทั้งสามถึงกับส่ายศีรษะอย่างพูดไม่ออก ก่อนจะกล่าวว่า “ฆ่ามันซะ!”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
สิ้นคำสั่ง เซียนกว่าหนึ่งโหลทะยานออกจากกองทัพเขตเซียนทั้งสาม ขอบเขตการฝึกฝนของพวกเขาอยู่ในขั้นต้นจนถึงขั้นสูง ใบหน้าของพวกเขาล้วนเผยความเย้ยหยันเด่นชัด
อ๊าก! อ๊าก! หลังจากเสียงคำรามดังขึ้น จ้าวเซียนกว่าหนึ่งโหลพุ่งทะยานออกไปด้วยพลังยิ่งใหญ่ ทั้งหมดระดมโจมตีใส่หนิงฝาน หมายจะสังหารเขาในกระบวนท่าเดียว
“หึ!”
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หนิงฝานพลันยกยิ้มเย็นชา ก่อนจะยกกระบี่ในมือแล้วสับฟันออกไปทันที
ตู้ม!
ทันใดนั้น แสงพร่างพราวพุ่งออกจากท้องฟ้า ทำลายพลังทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนจะกลืนกินร่างของเซียนทุกคนที่บุกโจมตี!
ปัง ปัง ปัง!
ท่ามกลางปราณกระบี่รุนแรง ร่างของเซียนนับสิบแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเลือดเนื้อ หรือจิตวิญญาณเซียน ทั้งหมดสูญสลายหายไปในความว่างเปล่า
“อ๊ะ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้คนจากเขตเซียนยิ่งใหญ่ทั้งสามที่เคยเย้ยหยันถึงกับเผยสีหน้าตกตะลึง
ใบหน้าของพวกเขาพลันมืดมนในพริบตา โดยเฉพาะผู้นำเขตเซียนทั้งสาม เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจ้าวเซียนขั้นสูงจะสังหารเซียนกว่าหนึ่งโหลได้ภายในการโจมตีนี้!
“แย่แล้ว!”
“บุรุษผู้นี้ไม่เหมือนคนอื่น ๆ!”
“รีบสังหารมันเร็วเข้า!”
ลมหายใจถัดมา ผู้นำทั้งสามออกคำสั่งอย่างเย็นชา!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
คราวนี้ผู้คนจากเขตเซียนทั้งสามไม่กล้าประมาทอีกต่อไป คนกว่าหลายร้อยระเบิดพลังของตนเองออกมาทันที ก่อตัวเป็นคลื่นสังหารพุ่งเข้าหาหนิงฝาน!
“เฉือน!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคลื่นสังหาร หนิงฝานยังสงบนิ่ง ไม่มีท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย เขาอัดฉีดพลังเซียนไร้เทียมทานในกายใส่กระบี่พร้อมกับปลดปล่อยปราณกระบี่น่าสะพรึงออก
ตู้ม!
หลังจากปราณกระบี่ของร่างต้นกระบี่สับฟันออกไปในอากาศ คลื่นสังหารในอากาศพลันหายไปทันที จากนั้นเขาจึงยกกระบี่ขึ้นพร้อมพุ่งเข้าหาฝูงชนโดยตรง
ตู้ม!
หนิงฝานกลายเป็นลำแสงกระบี่พุ่งทะยานเข้าหาฝูงชน ก่อนจะสับฟันออกไปหนึ่งครั้ง ศีรษะของบุคคลตรงหน้าถูกตัดขาดทันที
เขาเหมือนกับหมาป่าดุร้ายที่พุ่งเข้าหาฝูงแกะ การสังหารหมู่เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่เซียนนับร้อยถูกสังหารจนหมดสิ้น
“ไอ้บัดซบ!”
“ไอ้สารเลว!”
“ไอ้ชาติชั่ว!”
เมื่อเห็นฉากอันยอดเยี่ยมนี้ ผู้นำทั้งสามคำรามด้วยความขุ่นเคือง ใบหน้าของทุกคนเผยความตื่นตระหนกฉายชัด
พวกเขาทราบดีว่าคราวนี้ตนเองประมาทเกินไป แม้หนิงฝานผู้นี้จะอยู่ในขอบเขตจ้าวเซียนขั้นสูง แต่กลับมีพลังอำนาจเทียบเท่าจ้าวเซียนขั้นสุด
“ไป ร่วมมือกันสังหารมันผู้นั้น!”
ท้ายที่สุด ผู้นำทั้งสามมองหน้ากันพร้อมระเบิดพลังอันน่าสะพรึงของขอบเขตจ้าวเซียนขั้นสุด และทั้งสามก็ร่วมมือกันโจมตีหนิงฝาน!