ตอนที่ 269 พื้นที่หลัก ปราการราชาเซียน
ตู้ม!
ปราณกระบี่กว่าหนึ่งพันจั้งสับฟันลงมา ตามด้วยเสียงคำรามลือลั่น บุรุษหัวขาดและม้าศึกล้มทรุด ก่อนจะสลายหายไปเหลือเพียงความว่างเปล่า
ทันใดนั้น ท้องฟ้าทั้งหมดพลันปลอดโปร่ง อากาศกลับมาสดใสอีกครา!
หลังจากสังหารบุรุษหัวขาดบนหลังม้าเสร็จสิ้น ใบหน้าของหนิงฝานสงบราวกับว่าเขาเพียงกระทำบางสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญนัก
พรึ่บ!
เขาเหลือบมองซากศพนับพัน และทันทีที่สะบัดมือแผ่วเบา แหวนเก็บของทั้งหมดก็พุ่งเข้าหาเขาทันที แต่ละวงล้วนมากด้วยทรัพยากรล้ำค่า
“เฮ้อ! ไม่แปลกใจเลยที่มหาสงครามหมื่นเขตคือ ต้นเหตุการล่มสลายของกลุ่มเขตเซียนในอีกหมื่นปีข้างหน้า ยังไม่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ที่จะรับหลังจากได้รับชัยชนะ เพียงแค่ปล้นทรัพยากรของเขตเซียนอื่น ๆ ในสนามรบนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขตเซียนให้สูงขึ้น!”
หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ
ดังคำกล่าวที่ว่า ฆ่าแล้วเผาอย่าให้เหลือ!
แน่นอนหนิงฝานไม่คิดริเริ่มที่จะปล้นผู้อื่นเพราะเหตุผลเพียงเท่านี้ และเขาไม่สนใจที่จะทำเช่นนั้นด้วย
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
หลังจากเก็บรวบรวมแหวนเก็บของทั้งหมดแล้ว หนิงฝานรวบรวมธงเขตเซียนกว่าหนึ่งโหลในที่แห่งนี้เข้ากับธงเขตเซียนขนนก เมื่อหนิงฝานรวบรวมธงเหล่านี้เข้าด้วยกัน เขาจึงมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าสู่พื้นที่หลักของสนามรบโบราณแล้ว!
“มุ่งหน้าสู่พื้นที่หลัก!”
เมื่อเห็นว่าไม่หลงเหลือของมีค่าใดในสถานที่แห่งนี้แล้ว หนิงฝานก็เร่งรีบเข้าสู่พื้นที่หลักพร้อมกับธงเขตเซียนขนนกในมือทันที
ระหว่างทาง ภายในวงในแห่งนี้อันตรายยิ่งกว่าด้านนอกโดยธรรมชาติ และหนิงฝานมักจะพบเจออันตรายจากสนามรบโบราณร่วมกับเขตเซียนกลุ่มอื่น ๆ
แต่ท้ายที่สุด เขาก็สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ไม่นานหลังจากผ่านพ้นไปกว่าสองเดือน ในที่สุดหนิงฝานสามารถเข้าสู่พื้นที่หลักได้
นับตั้งแต่เข้าสู่สนามรบโบราณก็ผ่านมากว่าสองเดือนแล้ว เขาเหลือเวลาอีกสิบวันก่อนที่สงครามหมื่นเขตจะสิ้นสุด
ตู้ม!
วันนี้เอง บังเกิดเสียงคำรามสนั่นหวั่นไหวบนท้องฟ้าระยะไกล ลำแสงพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวในทุกทิศทาง
“หืม?!”
“เรื่องเช่นนี้… จะต้องมีแดนลับถือกำเนิดแน่!”
“อืม! นอกจากอันตรายรอบตัว สนามรบโบราณแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยโอกาส!”
“เร็ว! รีบไปดู!”
“…”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ทำให้เขตเซียนหลายกลุ่มตื่นตระหนก ทุกกลุ่มรีบตรงไปยังทิศทางของสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น
‘นั่นเป็นทิศทางเดียวที่จะไปยังขุนเขาเบิกสวรรค์อยู่แล้ว เช่นนั้นก็ลองไปดูสักหน่อยแล้วกัน!’
หนิงฝานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบออกไป
ไม่ช้า เขาก็มาถึงเทือกเขาแห่งหนึ่ง บนยอดเขามีปราการตระหง่านสูงใหญ่ ปราการแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังต้องห้ามโบราณส่องแสงสว่างเรืองรองไม่รู้จบ
เวลานี้รอบ ๆ ปราการ มีกลุ่มเขตเซียนมากกว่าหนึ่งโหลมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว และธงของเขตเซียนต่าง ๆ ก็โบกสะบัดอยู่ท่ามกลางอากาศ โดยมีธงเก้าตะวัน มังกรวิญญาณ กระบี่สวรรค์ อัคคีสายฟ้า และอื่น ๆ อยู่
เขตเซียนแต่ละกลุ่มมีผู้คนกว่าหลายร้อย และเขตเซียนเก้าตะวันมีจำนวนผู้คนมากที่สุด พวกเขารวมกลุ่มกันได้กว่าหลายพันคน และความแข็งแกร่งที่ต่ำที่สุดในกลุ่มคือ ขอบเขตจ้าวเซียนขั้นต้น!
“ทุกท่าน!”
เวลานี้ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันกล่าวคำ เขาเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีดำ ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับคมมีด แต่กลับไม่ดุร้ายและยังสง่างาม กลิ่นอายแห่งราชาเซียนแผ่ขยายออกอย่างทรงอำนาจ แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้ผู้มองสั่นสะท้านได้… นี่คือพลังครึ่งก้าวราชาเซียน!
กึ่งราชาเซียนเป็นขอบเขตที่อยู่ระหว่างจ้าวเซียนขั้นสุดกับราชาเซียน และสามารถแบ่งออกเป็นสี่ระดับย่อยคือ ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง ขั้นสุด!
และผู้นำของเขตเก้าตะวันอยู่ในขั้นต้นของกึ่งราชาเซียน!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
เมื่อผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันเปิดปาก ดวงตาของทุกคนที่อยู่ภายในกลุ่มเขตเซียนอื่นโดยรอบหันมองพวกเขาทันที เมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันจึงกล่าวต่อ “ทุกท่าน ตามความเข้าใจของข้าเกี่ยวกับสนามรบโบราณนี้ ปราการแห่งนี้สมควรจะเป็นปราการราชาเซียนที่หลงเหลืออยู่นับตั้งแต่สมัยบรรพกาล จะต้องมีสมบัติเซียนมากมายภายในนั้น และเป็นไปได้ว่าจะมีมรดกของราชาเซียนเหลืออยู่!”
โอ้!
สิ้นเสียงนี้ ทุกคนพลันเผยใบหน้าตื่นตระหนก
“โอ้! ปราการราชาเซียน! มรดกของราชาเซียน!!!”
“หืม! เช่นนั้น… มูลค่าของสถานที่แห่งนี้ก็มิอาจประเมินค่าได้แล้ว!”
“มรดกของราชาเซียน หากสามารถครอบครองมัน สิ่งนี้ย่อมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขตเซียนของข้าได้แน่”
“…”
ยามนี้ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด ใบหน้าของพวกเขาเผยความละโมบอย่างไม่ปิดบัง
ท้ายที่สุดแล้ว มรดกของราชาเซียนนั้นเป็นสิ่งล่อใจยิ่งใหญ่สำหรับจ้าวเซียนและกึ่งราชาเซียน
เวลานี้ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันยังคงกล่าวต่อ “แต่ทุกท่านอย่าได้ดีใจเกินไปนัก รอบปราการราชาเซียนแห่งนี้มีข้อห้ามมากมายอยู่ ซึ่งมันถูกกำหนดไว้โดยราชาเซียน แม้พลังของมันจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขตเซียนหนึ่งหรือสองกลุ่มจะสามารถทำลายได้โดยง่าย!”
“เช่นนั้น ข้าขอแนะนำให้พวกเราทุกกลุ่มเขตเซียนร่วมมือกันชั่วคราวเพื่อเปิดปราการราชาเซียนแห่งนี้ คิดเห็นอย่างไร?” หลังกล่าวจบ ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันมองไปรอบ ๆ
“ดี!”
“เป็นเช่นนั้น!”
“ข้าเห็นด้วย!”
แน่นอนว่าไม่มีใครภายในกลุ่มเขตเซียนคิดคัดค้านเรื่องนี้ ทุกคนพยักหน้าทันที
“อืม!”
“เช่นนั้นตามข้ามา!”
ตู้ม!
ทันทีที่ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันกล่าวจบ เขาก็เปิดฉากโจมตีทันที ขณะร่างกายสั่นสะเทือนรุนแรง กลิ่นอายยิ่งใหญ่ของกึ่งราชาเซียนก็พวยพุ่งอย่างรุนแรง เขาปล่อยหมัดตรงออกไป กำปั้นดุดันสง่างามควบแน่นในอากาศก่อนจะกลายเป็นลำแสงยักษ์ราวดวงอาทิตย์ปะทะกับพลังต้องห้ามโบราณ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หลังจากที่ผู้นำเขตเซียนเก้าตะวัน มังกรวิญญาณ กระบี่สวรรค์ อัคคีสายฟ้า และกลุ่มอื่น ๆ เริ่มระเบิดพลังทั้งหมดที่มี แต่ละคนเริ่มเผยคลื่นพลังงานอันน่าสะพรึงออก
ตู้ม ตู้ม! บังเกิดเสียงระเบิดลือลั่น
เมื่อค่ายกลต้องห้ามถูกโจมตีอย่างรุนแรง เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมปลดปล่อยคลื่นพลังระลอกใหญ่ออกเป็นวงกว้าง
แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก!
เสียงแตกร้าวดังขึ้นภายในอาคมต้องห้าม รอยแตกค่อย ๆ ร้าวกระจายออกไปคล้ายใยแมงมุม มันกำลังจะแตกออกในไม่ช้า
“โจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี! ทำลายอาคมต้องห้ามนี้เสีย!”
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายทันที พวกเขาโคจรพลังควบแน่นอีกครั้ง
แกร๊ก! แกร๊ก!
เกิดเสียงแตกร้าวขึ้นอีกครั้ง แต่มันยังไม่พังทลายลง ดูเหมือนยังขาดพลังในจังหวะสุดท้าย
“บัดซบ!”
“ทุกคนร่วมมือกันแล้วยังไม่สามารถทำลายอาคมต้องห้ามนี้ได้อีกหรือ?”
“พลังไม่เพียงพอ ควรทำเช่นไร?”
“พวกเราจะต้องพ่ายแพ้ง่ายดายเช่นนี้หรือ? บ้าไปแล้ว!”
“…”
เมื่อเห็นภาพนี้ ใบหน้าของเซียนทั้งหมดภายในกลุ่มเขตเซียนที่นำโดยผู้นำเขตเซียนเก้าตะวันกลายเป็นมืดมน แววตาของเขาคล้ายกับสิ้นหวังเต็มประดา
พรึ่บ!
เวลานี้ ขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี ร่างในชุดคลุมธรรมดาชุดหนึ่งก็ทะยานขึ้นเหนือเวหาพร้อมปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมา
ตู้ม!
ปราณกระบี่นี้โจมตีอาคมต้องห้ามในคราเดียว ภายใต้อำนาจทรงพลังบังเกิดเสียงระเบิดลือลั่น ค่ายกลที่เคยแข็งแกร่ง… แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!