ตอนที่ 330 ทวงเงินถึงบ้าน
พ่อหรงถูกตบจนถอยไปข้างหลังหลายก้าว พูดเสียงค่อย “พวก… พวกเราไม่มีแม้แต่งานทำ จะไปเอาเงินมาจากไหนให้พวกคุณกัน?”
แม่เฒ่าตู้ได้ยินดังนั้นก็ปิดประตูบ้านลง แล้วพูดอย่างเย็นชาด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “พวกแกก็มีน้องสาวที่ทำงานอยู่คณะระบำไม่ใช่เหรอ? หล่อนแต่งงานกับหัวหน้ารัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ไปขอยืมเงินมาจากหล่อนสักพันสองพันหยวนก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก”
แม่หรงรักสามีของตนอย่างสุดหัวใจ หล่อนเดินเข้าไปพยุงพ่อหรง แล้วอธิบายด้วยสีหน้าขมขื่น
“อาหญิงของเด็กมักจะอุดหนุนเงินพวกเราบ่อย อาเขยของเด็กโกรธขึ้นมา ก็เลยเอาเงินและบัญชีเก็บไว้ที่ตัวเองหมด ถึงอาหญิงของเด็กอยากให้เรายืมเงินยังไงก็ให้ไม่ได้หรอกค่ะ”
แม่ตู้ถลึงตาเอ่ยตะคอก “เหตุผลเยอะขนาดนี้ คงจะไม่อยากชดใช้ให้พวกเราอย่างนั้นสินะ?”
แม่หรงตัวสั่นเทิ้ม “มะ ไม่ใช่นะคะ”
“ในเมื่อไม่ใช่ แล้วเงินของพวกแกล่ะอยู่ไหน!” พี่สาวทั้งสองของตู้กวงฮุยผลัดกันตบหน้าแม่หรงคนละฉาด
ไม่นาน ใบหน้าของแม่หรงก็บวมช้ำ พร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
หวังหรงมองอย่างตะลึงงันอยู่ในห้องรับแขก
ทำไมหล่อนถึงไม่ได้คิดเลย ว่าตอนที่หล่อนกับกวนหย่งหัวเที่ยวเล่นเดินช้อปปิ้ง เพลิดเพลินกับชีวิตนั้น พ่อแม่ของหล่อนจะถูกคนด่าทอทุบตีแบบนี้
ต่อให้เธอจะเห็นแก่ตัวแค่ไหน ก็ยังไม่อาจหักใจไม่มองได้
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร คนที่ถูกด่าถูกทุบตีอยู่นั้นก็เป็นพ่อแม่ของหล่อน นอกจากนี้ยังเป็นเพราะหล่อนดึงพวกเขาเข้ามาติดร่างแหรับกรรมไปด้วย…
หล่อนรวบรวมความกล้าเดินเข้าไป พูดกับผู้หญิงตระกูลตู้และพ่อของหลูจ้าวซิ่ง
“แค่ชดใช้ให้ก็พอใช่ไหม วันนี้พวกเรามาเจรจาเรื่องจำนวนเงินชดเชยกันค่ะ ให้เวลาฉัน 10 วัน แล้วฉันจะเอาเงินให้พวกคุณอย่างแน่นอน!”
พี่หญิงใหญ่ตู้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันยากจะคาดเดา “นึกว่าใครเสียอีก? ที่แท้ก็คุณหนูหวังนี่เอง คราวก่อนหลอกพวกเรา บอกว่าอีกสิบวันจะชดใช้เงินให้เรา แล้วได้ใช้หรือยัง? ไม่ใช่แค่ไม่ได้ชดใช้ ยังเห็นพวกเราแล้ววิ่งหนีอีกต่างหาก! ตอนนี้จะขอเวลาพวกเราอีก 10 วัน นี่เธอคิดจะหลอกกันอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ?”
หวังหรงมองพี่หญิงใหญ่ตู้สาวเท้าเข้ามาทีละก้าวๆ ในใจก็เกิดความกลัว คำพูดคำจาเริ่มตะกุกตะกัก “พะ… พวกคุณเชื่อฉันอีกสักครั้งเถอะนะคะ ครั้งนี้ฉันไม่ได้โกหกแน่นอน!”
ตระกูลตู้และตระกูลหลูหารือกันอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจจะเชื่อหล่อนสักครั้ง
ไม่เชื่อแล้วจะทำอย่างไรได้? จะทุบตีพวกหล่อนทั้งครอบครัวให้ตายจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?
พวกเขาต้องการแค่เงิน ไม่ได้ต้องการชีวิต
ต่อให้ทุบตีคนทั้งบ้านของหวังหรงจนตาย พวกเขาเองก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายเช่นกัน
ทุกคนต่างนั่งลง แล้วเจรจากันเรื่องเงินค่าชดเชย
พ่อหลูแม่หลูไม่ได้ต้องการอะไรอื่น ต้องการเพียงรักษาอาการของลูกชายให้หายดีเท่านั้น ดังนั้นขอแค่ครอบครัวหวังหรงออกค่าผ่าตัด 600 หยวนก็พอแล้ว
เพื่อให้ได้เงินชดเชย พวกผู้หญิงตระกูลตู้จึงมาก่อกวนถึงหน้าบ้านทุกวี่ทุกวัน
ทั้งยังจ่ายเงินขอให้พวกเพื่อนนักเลงหัวไม้ของตู้กวงฮุยแอบย่องเข้ามาในบ้านแม่เฒ่าหวังตอนกลางคืน
จับพ่อหรงแม่หรงคลุมใส่กระสอบแล้วทุบตีพวกเขาอยู่หลายครั้ง เพื่อต้องการบีบบังคับให้พวกเขาจ่ายเงินชดเชยให้
แต่หลังจากลงทุนลงแรงไปขนาดนี้ ก็ยังเอามาไม่ได้เลยสักเฟินเดียว บางทีพวกเขาอาจจะไม่มีเงินจะจ่ายจริงๆ ก็ได้
ฉะนั้นถึงจะไม่ได้เท่าสิงโตอ้าปากเขมือบ ก็ขอแค่หนึ่งพันหยวนก็พอ
อยากได้มากไปก็เท่านั้น ไม่สู้เอาแค่จำนวนเงินที่พอจะเอามาได้ดีกว่า
ทว่าพวกผู้หญิงตระกูลตู้นั้นนอกจากต้องการเงินแล้ว ยังต้องการคนด้วย
แม่เฒ่าตู้พูดกับหวังหรงด้วยสีหน้าดำทะมึน “หลานชายที่น่ารักของฉันต้องติดคุกเพราะรับโทษแทนเธอ พอเขาออกมาจากคุกแล้ว เธอจะต้องแต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้น ตอนที่เขาออกจากคุกมาแล้ว เขาจะมาหาเธอพร้อมมีดขาวแล้วออกไปด้วยมีดแดง เธอก็จัดการตัวเองให้ดีก็แล้วกัน”
พ่อหลูแม่หลูได้ยินคำพูดของแม่เฒ่าตู้ก็นึกเสียดายขึ้นมา
ทำไมพวกเขาถึงไม่นึกที่จะเอาทั้งเงินเอาทั้งคนบ้างนะ?
บางทีหากการผ่าตัดของลูกชายเกิดล้มเหลวขึ้นมาจนเขากลายเป็นคนปัญญาอ่อนและหาลูกสะใภ้ไม่ได้ ก็บีบให้หวังหรงแต่งงานกับเขาได้พอดี พวกเขาสองสามีภรรยาจะได้ไม่ต้องกังวลกับเหตุการณ์สำคัญชั่วชีวิตของลูกชายแล้ว
แม้พวกเขาจะเป็นญาติกัน แต่ก็เป็นเพียงญาติห่างๆ เด็กสองคนก็ไม่ใช่ว่าจะแต่งงานกันไม่ได้
แต่ตอนนี้ถูกตระกูลตู้ชิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว จะพูดอะไรก็สายไปแล้ว
แม้ว่าพ่อหลูแม่หลูจะมีความขุ่นเคืองอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ระเบิดออกมาทันที
พวกเขาวางแผนว่ารอให้ลูกชายได้รับการผ่าตัดแล้วค่อยว่ากัน ถ้าการผ่าตัดสำเร็จด้วยดี ไม่ได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อน อย่างนั้นก็ปล่อยเรื่องนี้ไปทั้งอย่างนี้แหละ
ถึงอย่างไรก็เป็นญาติกัน พวกเขาเองก็ไม่อยากจะสร้างความเดือดร้อนจนเกินไป
แต่ถ้าหากการผ่าตัดล้มเหลว ถึงตอนนั้น ต่อให้ต้องบังคับก็ต้องให้ตระกูลหวังหาทางออกเรื่องเหตุการณ์สำคัญชั่วชีวิตของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพวกเขาให้ได้
เหล่าคนตระกูลหวังนั้นไม่มีใครสังเกตถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างซับซ้อนของพ่อหลูแม่หลูเลย ทั้งหมดล้วนกำลังตกใจกับคำพูดของแม่เฒ่าตู้ ทั้งโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
จะเอาทั้งเงินทั้งคน ตระกูลพวกเขาช่วยมียางอายสักนิดบ้างได้ไหม!
หลังจากส่งคนของตระกูลหลูและตระกูลตู้ไปแล้ว แม่หรงก็ปิดประตู กลับมาที่ห้องรับแขกก็ร้อนใจจนร้องไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหว
หล่อนเดินไปตีหวังหรงอย่างแรงสองที “เจ้าลูกคนนี้ทำไมถึงได้เลอะเลือนขนาดนี้ ทำไมต้องเข้าไปพัวพันกับไอ้สารเลวสกุลตู้ด้วย? ตอนนี้จบแล้ว แม้แต่แต่งงานก็แต่งไม่ได้ จะแต่งก็แต่งได้แค่กับไอ้นักโทษนั่น แล้วต่อไปแกจะมีชีวิตอยู่ยังไง!”
พ่อหรงนั้นแม้ว่าช่วงนี้จะฉุนเฉียวไร้เหตุผลเพราะหวังหรง จนแทบอยากจะตีหล่อนให้ตาย แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นลูกสาวที่ตนหวงแหนดั่งสมบัติล้ำค่า เขาก็ยังหวังให้หล่อนมีความสุขตลอดชีวิต
นอกจากนี้หากหล่อนได้มีชีวิตที่สุขสบาย พวกเขาเองก็สามารถเสวยสุขไปด้วยได้บ้าง
ลูกของตนตนรู้จักดี แม้จะเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่ก็ไม่มีทางไม่เหลียวแลพวกเขาทั้งสอง
อย่างน้อยถ้าหล่อนได้กินเนื้อ พวกเขาก็ได้ดื่มน้ำแกง
เขาขมวดคิ้ว พูดกับแม่หรงด้วยเสียงแผ่วเบา “มันถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดซะเมื่อไหร่ คุณจะร้องไห้ทำไม? เดี๋ยวโชคในบ้านก็ถูกคุณร้องไห้ใส่จนหนีหายไปหรอก”
เมื่อนั้นแม่หรงถึงกลั้นน้ำตา แล้วพูดเสียงสะอื้น “ใครบอกยังไม่ถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดกัน? คุณไม่ได้ยินที่ยัยแก่หนังเหี่ยวสกุลตู้นั่นพูดเหรอ ถ้าในอนาคตหวังหรงไม่แต่งงานกับไอ้สารเลวสกุลตู้นั่น เขาจะมาเอาชีวิตของหรงหรงน่ะ!”
หวังหรงรู้ดี ด้วยนิสัยโหดเหี้ยมของตู้กวงฮุยแล้ว ถ้าหล่อนไม่แต่งงานด้วย หลังออกจากคุกเขาคงจะมาฆ่าหล่อนจริงๆ
ไม่ใช่ว่าเขาโดนโทษร้ายแรงหรอกเหรอ แล้วทำไมถึงถูกตัดสินจำคุกแค่ 5 ปีเองล่ะ น่าจะให้เขานอนคุกไปไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันไปเลยถึงจะถูก
มีเพียงเป็นแบบนั้นเท่านั้น หล่อนถึงจะปลอดภัย ไม่อย่างนั้นให้โดนยิงเป้าไปเลยก็ได้
พ่อหรงโบกมือ “ไอ้คนสกุลตู้นั่นยังต้องติดอยู่ในคุก 5 ปีไม่ใช่เหรอ?
หรงหรงก็คบกับแฟนหนุ่มฮ่องกงอยู่แล้วนี่ ถึงตอนนั้นหรงหรงแต่งงานไปอยู่ฮ่องกงแล้ว ก็ค่อยพาพวกเราไปอยู่ฮ่องกงด้วย ต่อให้ไอ้คนสกุลตู้นั่นออกจากคุกมาแล้ว มันก็เหนือบ่ากว่าแรงเขา ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก”
แม่หรงหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางถาม “แล้วถ้าหรงหรงไม่ได้แต่งไปฮ่องกงล่ะ?”
พ่อหรงถลึงตาใส่หล่อน “คุณนี่โง่จริงๆ ต่อให้หรงหรงไม่ได้แต่งไปฮ่องกง ก็ยังแต่งไปที่เมืองอื่นได้ พวกเราเองก็ตามไปด้วย ใช้ชีวิตแบบปกปิดชื่อเสียงเรียงนาม ไอ้สารเลวสกุลตู้นั่นหาพวกเราไม่เจอด้วยซ้ำ พวกเรายังต้องเป็นห่วงว่าเขาจะมาแก้แค้นหรงหรงอีกเหรอ?”
แม่หรงเห็นว่าพ่อหรงได้คลี่คลายเรื่องที่กังวลที่สุดได้แล้ว เจ้าตัวก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย
หล่อนดึงมือของหวังหรง แล้วเอ่ยกำชับอย่างจริงจัง “แกต้องจับแฟนหนุ่มฮ่องกงคนนั้นเอาไว้ให้ได้นะ”
หวังหรงพยักหน้า
แม่เฒ่าหวังที่นิ่งเงียบไม่พูดจามาตลอดพูดขึ้น “ไอ้สารเลวสกุลตู้นั่นยังอยู่ในคุกอีก 5 ปี ตอนนี้หรงหรงก็ยังปลอดภัย เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ คือพวกเธอต้องหาเงิน 1600 หยวนมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นพวกสกุลหลูกับสกุลตู้จะก็ยังมาทวงถึงบ้าน”
แม่หรงพูดเรื่องเดิมซ้ำอีกครั้ง หล่อนถามหวังหรงอย่างคาดหวัง “แกไปขอเงิน 1600 หยวนมาจากแฟนฮ่องกงของแกจะได้ไหม จะได้ไล่พวกสกุลหลูสกุลตู้พวกนั้นไปเสียที ฉันกับพ่อแกโดนทุบตีจนหวาดผวาไปหมดแล้วจริงๆ”
หวังหรงลังเลอยู่นาน แล้วจึงพยักหน้าเอ่ย “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะติดต่อกับคุณกวน แล้วขอเงินเขาค่ะ”
ที่จริงแล้วเธอไม่อยากจะไปขอเงินจากเขาก่อนเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาเกิดภาพจำว่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน
หล่อนชอบให้เขาออกเงินให้ตนเองมากกว่า แล้วหล่อนก็ค่อยทำทีปฏิเสธแล้วรับไว้
แต่ว่า… หล่อนไม่สามารถมองพ่อแม่ถูกทุบตีอยู่ต่อหน้าต่อตาได้อีก
ในตอนนั้นเองแม่เฒ่าหวังก็พูดขึ้นเสียงเบาอีกครั้ง “หรงหรง หลานไปทำอะไรกับนังชั้นต่ำหลินม่ายนั่นอีก?”
พ่อแม่หรงเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ทั้งหมดหันไปมองหวังหรงอย่างไม่พอใจ พลันเอ่ยตำหนิติติง
“บอกแกตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าอย่าไปหาเรื่องนังชั้นต่ำหลินม่ายนั่นอีก แล้วทำไมแกถึงยังไปแส่หาเรื่องหล่อนอีก? แกยังจะให้คนอื่นเขามีชีวิตอยู่หรือเปล่า?”
หวังหรงตกตะลึง แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นงุนงง หล่อนเบิกตากว้าง แกล้งทำท่าทางราวกับผู้บริสุทธิ์ “ฉันไม่ได้หาเรื่องหล่อนเลยนะ หลายวันมานี้ฉันอยู่กับคุณกวนตลอด แล้วจะมีเวลาไปหาเรื่องหล่อนได้ยังไง?”
พ่อหรงแม่หรงมองหน้ากัน
แม่หรงพูดอย่างสงสัย “ถ้างั้นจั๋วเยวี่ยจะมาบอกว่าแกไปหาเรื่องหล่อนได้ยังไง? แถมยังบอกว่า พี่ใหญ่ของเขาโกรธมาก และจะเปิดโปงวีดีโอเทปอนาจารของแกด้วย?”
หวังหรงได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็ขาวซีดด้วยความตกใจ
แม่เฒ่าหวังเฉลียวฉลาดด้วยวัยวุฒิ นางเห็นสีหน้าของหล่อนทั้งหมด “ได้ไปหาเรื่องนังชั้นต่ำหลินม่ายนั่นหรือไม่ตัวหลานเองรู้ดีที่สุด ครั้งนี้ฟางจั๋วหรานยังไม่ได้ลงมืออะไรรุนแรง ต่อไปหลานห้ามไปก่อเรื่องอีกเป็นอันขาด ถึงตอนนั้นพวกเราจะพัวพันไปด้วยก็เป็นเรื่องเล็ก กลัวเสียแต่ฟางจั๋วหรานจะแก้แค้นหลาน แล้วหลานจะรับมือไม่อยู่”
หวังหรงนิ่งเงียบ ลอบกัดฟันอย่างลับๆ
นังสารเลวหลินม่ายนั่นช่างเลวทรามจริงๆ ตนก็ควักเงินซื้อเสื้อผ้าที่เสียหายไปแล้ว แต่หล่อนกลับไม่เลิกไม่รา ไม่นึกว่าจะยุยงให้จั๋วเยวี่ยมาก่อกวนคุณยายและพ่อแม่ของตนถึงที่นี่อีก
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ภารกิจชิ้นใหญ่เลยนะยัยหรง จะทำได้ไหม ทำได้เท่ากับได้ปลดหนี้ให้ครอบครัวเลยนะเอ้า
ไหหม่า(海馬)