รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 316 บทเพลงเซียนโบยบินในห้วงนภา ฆ่าฟันศัตรูได้หมดใต้หล้า!

บทที่ 316 บทเพลงเซียนโบยบินในห้วงนภา ฆ่าฟันศัตรูได้หมดใต้หล้า!

บทที่ 316 บทเพลงเซียนโบยบินในห้วงนภา ฆ่าฟันศัตรูได้หมดใต้หล้า!

จ้าวหุบเขาออกโรง ค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณในหุบเขาคงหลิงก็ปล่อยพลังอย่างเต็มกำลัง!

ชั่วพริบตานั้น ทั้งหุบเขาคงหลิงส่องแสงเจิดจ้าประดุจกลางวัน ประกายเจิดจรัสทาบทับออกไปไกลหลายหมื่นลี้ วงแหวนค่ายกลปรากฏออกมาวงแล้ววงเล่า คลื่นพลังอันน่าสยดสยองกระเพื่อมไหว ปกคลุมทั้งหุบเขาคงหลิงเอาไว้!

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ร่างอันทรงพลังมากมายเหินออกจากส่วนลึกของหุบเขาคงหลิง ทั้งหมดนี้คือยอดฝีมือผู้อาวุโสที่ยังอยู่ในหุบเขา แสงเทวะในตัวแต่ละคนเจิดจ้าแยงตาถึงขีดสุด ขอบเขตต่ำที่สุดคือจ้าวเทวา ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขอบเขตราชันเทวา และขอบเขตยอดเทวา!

ค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณในหุบเขาคงหลิงเปล่งพลังเต็มกำลัง พวกเขาต่างรู้ตัวได้ในทันที ตระหนักได้ว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเป็นแน่ จึงรีบร้อนรุดหน้ามาที่นี่!

“นี่ตั้งใจชิงฉินของข้าด้วยหรือ?”

หลิงอินมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนอกสนใจ ทว่ามิได้แตกตื่นแม้แต่น้อย

มีฉินเฟิ่งหมิงที่ท่านเซียนประทานให้ นางไม่มีสิ่งใดต้องตื่นตระหนก

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”

จ้าวหุบเขามีสีหน้าเย็นชา มหาเต๋าทองอร่ามปรากฏใต้เท้า นางย่ำบนมหาเต๋าสีทองจนไต่ขึ้นนภา มองหลิงอินอย่างผู้เหนือกว่า

ก่อนนี้นางต้องไว้หน้าหลิงอิน

ทว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่จำเป็นต้องไว้หน้าหลิงอินอีกต่อไป!

บนท้องนภา นางก้มมองหลิงอินอย่างผู้สูงส่ง “ช่วงเวลาพิเศษ ย่อมรับมือด้วยวิธีการพิเศษ! หากมิใช่ช่วงนี้ ต่อให้เบื้องหลังเจ้าไม่มียอดนิกายคอยสนับสนุนอยู่ ข้าก็มิกล้าหมายหัวเจ้าสุ่มสี่สุ่มห้า! แต่กาลนี้ต่างออกไป! ในกาลนี้ ต่อให้ข้ายึดไว้ทั้งตัวเจ้าและฉินของเจ้าก็ไม่มีทางเกิดปัญหา!”

นางสมกับตำแหน่งจ้าวหุบเขา กล้าหาญทว่าไม่บุ่มบ่าม พินิจไตร่ตรองได้ครบถ้วนทุกด้านโดยไม่ขาดตกบกพร่อง!

นางต้องการชิงฉินมา กระนั้นก็มิได้มีความคิดสังหารหลิงอิน

มิใช่เพราะนางใจดีเมตตาแต่อย่างใด…

ไม่ฆ่าหลิงอิน รั้งหลิงอินไว้ที่นี่ ถึงครานั้นต่อให้ยอดนิกายบุกมาถึง นางก็ไม่เป็นไร

หากรับมือไม่ได้จริง ๆ ยังสามารถคืนทั้งหลิงอินและฉินวิเศษให้

ภัยพิบัติครั้งใหญ่ใกล้มายังยุคนี้แล้ว สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจ้องตาเป็นมัน แต่เดิมอาณาจักรของพวกเขาอ่อนด้วยพลังอยู่แล้ว ไม่สามารถสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้

จ้าวหุบเขาเล็งเห็นจุดนี้ถึงได้กล้าหมายตาหลิงอิน

หุบเขาคงหลิงเป็นถึงกลุ่มอำนาจขั้นสูงสุด ต่อให้ยอดนิกายมาหาถึงที่ก็คงไม่เอาความหุบเขาคงหลิงของพวกนาง

แต่ถ้าฆ่าหลิงอินคงไม่ง่ายเช่นนั้นแล้ว…

เพราะฉะนั้น นางไม่ฆ่าหลิงอิน เพียงแต่จะกักขังหลิงอินไว้ในหุบเขาคงหลิงของพวกนาง

“ไม่เป็นไรหรือ?”

หลิงอินหัวเราะเสียงเย็นยะเยือก “พวกเจ้าคิดเช่นนี้ยิ่งดี ข้าอยากลงไม้ลงมือมานานแล้ว!”

“โอหังยิ่งนัก!”

จ้าวหุบเขาตวาดเสียงเย็น สองมือประสานอินอย่างรวดเร็ว สร้างการเชื่อมต่อกับมหาค่ายกลในหุบเขา

“สะกด!”

นางประสานอินเสร็จ พลังจากมหาค่ายกลปะทุ คลื่นริ้วค่ายกลวูบไหวรุนแรง วงแหวนแสงมากมายถล่มไปหาหลิงอิน!

นี่คือพลังของ ‘สะกด’!

นางต้องการยืมพลังจากมหาค่ายกลในการสะกดหลิงอิน!

หลิงอินเยือกเย็นสุขุม ไม่มีทีท่าตระหนกแม้แต่น้อย นางสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดหวั่นของมหาค่ายกล แม้กระทั่งจ้าวสูงสุดในยุคนี้ก็ไม่แน่ว่าจะต้านทานได้ไหว

ทว่ามีฉินเฟิ่งหมิงอยู่ในมือ นางแข็งแกร่งยิ่งกว่าจ้าวสูงสุดในยุคนี้เสียอีก…

หญิงสาววางมือเรียวบนฉิน ดีดบรรเลงสายฉินแผ่วเบาด้วยท่าทีสงบ

ญาณฉินวิหคเพลิงร่ายรำไปตามเสียงฉิน เปลวเพลิงที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัวดุดันเป็นทวีคูณ มันโผทะยานขึ้นไปด้านบนด้วยบารมีไร้เทียมทาน พลังสุดกล้าแกร่งพวยพุ่งกวาดล้าง วงแหวนแสงซึ่งเป็นพลังคลื่นริ้วค่ายกลที่ถล่มมาหาหลิงอินถูกทำลายลงจนสิ้น!

“อะไรกัน!”

สีหน้าจ้าวหุบเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าหลิงอินสามารถรีดเร้นพลังที่แข็งแกร่งถึงปานนี้ได้!

พลังค่ายกลเปล่งออก แม้กระทั่งจ้าวสูงสุดในยุคนี้ยังไม่อาจต้านทาน หลิงอินดีดสายฉินเบา ๆ กลับต้านไว้ได้ จะมิให้นางตะลึงได้อย่างไร!?

“นางทำได้อย่างไร!”

“สวรรค์!”

บรรดาผู้อาวุโสหุบเขาคงหลิงในที่นี้ต่างศีรษะชาหนึบกันถ้วนหน้า

หลิงอินเป็นเพียงราชันเทวา กลับแสดงแสนยานุภาพของฉินวิเศษได้ถึงเพียงนี้ พลิกโลกทัศน์พวกนางไปอย่างมาก ยากที่พวกนางจะทำใจเชื่อได้ลง!

“แม้เป็นเช่นนั้น เจ้ากับฉินของเจ้าก็ยังต้องถูกจองจำไว้ในหุบเขาคงหลิงแห่งนี้!”

จ้าวหุบเขากัดฟัน ไม่อาจถอดใจไปแบบนี้

นางมิได้ลังเล แต่ควบคุมพลังค่ายกลโบราณ สำแดงอานุภาพทั้งหมดที่ค่ายกลโบราณมีออกมา!

นี่คือค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณอันสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นผ่านการเสริมพลังจากมหาจักรพรรดิแต่ละรุ่นแห่งหุบเขาคงหลิงของพวกนาง แม้แต่มหาจักรพรรดิเมื่อติดอยู่ในค่ายกลแห่งนี้ยังต้องสิ้นชีพลง!

อนิจจา ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในยุคโบราณนั้น มีสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนบุกมาถึงหุบเขาคงหลิงของพวกนาง

ถึงแม้พวกนางใช้พลังจากค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณนี้ต้านการรุกรานของสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนไว้ได้ ภายในหุบเขามิได้รับผลกระทบ กระนั้นพวกนางก็สิ้นเปลืองพลังไปมหาศาล!

การรักษาพลังของค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณระดับนี้ให้ทำงานต่อเนื่อง เป็นการสิ้นเปลืองพลังระดับที่จินตนาการไม่ออก!

แต่เพราะรากฐานหุบเขาคงหลิงของพวกนางมีกำลังมากพอ ถึงทนอัตราสิ้นเปลืองระดับนี้ได้ไหว ต้านทานการรุกรานของสิ่งมีชีวิตอาณาจักรเทียนหยวนได้

ทว่าหลังจากศึกใหญ่ครานั้น รากฐานของพวกนางเสียหายอย่างมาก รากฐานที่เหลืออยู่ในยุคนี้ไม่พอให้เปล่งพลังทั้งหมดของค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณออกมา

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ก็ไม่อาจสบประมาทพวกนางได้

เฉกเช่นตอนนี้

พลังที่ค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณสำแดงอยู่ในยามนี้ ต่อให้เป็นว่าที่จักรพรรดิที่แตะขอบเขตจักรพรรดิแล้วก็ไม่อาจต้านทานได้ไหว!

จ้าวหุบเขาไม่เชื่อว่าหลิงอินจะยังต้านทานได้อีก!

ถึงแม้หลังจากครั้งนี้ คงเป็นการยากที่พวกนางจะสามารถใช้พลังจากค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณได้อีก พวกนางไม่มีทรัพยากรมากกว่านี้ให้ค้ำจุ้นค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณนี้

กระนั้นจ้าวหุบเขาไม่เสียใจ

ขอเพียงจับกุมหลิงอินไว้ได้ และได้มาซึ่งฉินวิเศษในมือหลิงอิน ทุกอย่างที่ได้ทุ่มเทลงไปล้วนคุ้มค่า!

“เจ้าคิดว่าลำพังฉินวิเศษของเจ้าก็สามารถเอาชนะหุบเขาคงหลิงของเราได้หรือ! ขออภัย เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!”

จ้าวหุบเขาเอ่ยพร้อมหัวเราะเสียงเย็น

โฮก โฮก โฮก!

เสียงอสูรคำรามสะท้านเยื่อหูดังขึ้น ค่ายกลมหาจักรพรรดิโบราณสำแดงฤทธิ์เดชรุนแรงยิ่งขึ้น คลื่นริ้วค่ายกลจำนวนนับไม่ถ้วนกระเพื่อมสั่นไหว ก่อนจะหลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นอสูรร้ายตัวมโหฬาร พุ่งเข้าไปหาหลิงอิน!

อสูรร้ายน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่ง คลื่นลมปราณที่แผ่ซ่านออกมาชวนให้อกสั่นขวัญผวา สั่นเทิ้มไปทั้งดวงวิญญาณ!

ทว่าหลิงอินยังคงมีท่าทีสงบ ไม่แตกตื่นแม้เพียงเล็กน้อย

“เจ้าคิดจริงหรือว่าด้วยพลังค่ายกลโบราณแห่งนี้จะสยบข้าได้ ขออภัย ผู้ที่คิดมากเกินไปคือเจ้า…”

หลิงอินบรรเลงเพลงฉิน ‘เซียนโบยบินในห้วงนภา’ ที่ท่านเซียนเรียบเรียงใหม่นั่นเอง!

‘เซียนโบยบินในห้วงนภา’ คือเพลงฉินที่นางประพันธ์เมื่อครั้งบรรลุจ้าวสูงสุดในยุคโบราณ ครานั้น นางองอาจเปี่ยมความทะเยอทะยาน หาญกล้าแม้แต่เรื่องบรรลุเซียน!

อนิจจา ความเป็นจริงนั้นโหดร้าย อย่าว่าแต่เป็นเซียนเลย นางไม่สามารถแตะขอบเขตจักรพรรดิด้วยซ้ำ!

ท้ายที่สุด นางจำต้องเลือกเสี่ยงบนเส้นทางสังสารวัฏด้วยความจนใจ!

เสียงเพลงฉินไพเราะเสนาะหูดังขึ้น จังหวะเริ่มแรกเนิบนาบ ทว่าตอนหลังค่อย ๆ เร็วขึ้น พาให้ผู้ฟังเลือดลมพลุ่งพล่าน ฮึกเหิมเหลือคณา!

คลื่นสีทองมากมายซัดสาดออกมา หลิงอินตั้งอกตั้งใจ ดื่มด่ำอยู่ในภวังค์เพลงฉิน จังหวะแห่งเต๋าแสนพิเศษสูงส่งหลั่งไหลออกมา เสียงฉินปกคลุมทั่วทั้งหุบเขาคงหลิง!

ญาณฉินวิหคเพลิงแหงนหน้ากู่ร้อง เปลวเพลิงซึ่งโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงส่ายไปมา มันเหินกลับเข้าไปในฉินเฟิ่งหมิงเพื่อเสริมพลัง!

“บทเพียง ‘เซียนโบยบินในห้วงนภา’ เรียกเซียนเหนือสวรรค์ ฆ่าฟันศัตรูได้หมดใต้หล้า!”

หลิงอินเอ่ยเสียงแผ่ว จังหวะเพลงฉินเร็วขึ้นอีกครา คลื่นฉินแสนสยดสยองค่อย ๆ คืบคลานออกมา!

มิติทลายลงมาก พลังโกลาหลของมิติทะลักหลั่ง เสียงฟ้าร้องดั่งอยู่ในหุบเขาคงหลิงไม่หยุดหย่อน ราวกับกาลอวสานได้เดินทางมาถึง!

พลังประหลาดบางอย่างกำลังหลอมรวมอยู่ในเพลงฉิน คล้ายว่าต้องการก่อร่างให้เห็นลักษณะบางอย่าง

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท