“อ๊ะ…อื้อ…”
อินซอบหอบเพราะหายใจไม่ทันพลางกอดคอของอีอูยอนไว้ อีอูยอนเองก็จูบอย่างตะกละตะกลามและกอดอินซอบไว้เช่นกัน
พิธีแต่งงานนั้นเรียบง่าย ไม่สิ มันกระจอกมากเสียจนคำว่าเรียบง่ายยังไม่พอด้วยซ้ำ พวกเขายืนอยู่ต่อหน้าบาทหลวงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความง่วงนอน และแลกเปลี่ยนคำสาบานกัน เนื่องจากไม่ได้เตรียมแหวนที่จะสวมให้แก่กันไว้ เขาจึงสวมแหวนที่ใส่อยู่ที่นิ้วก้อยให้อินซอบ และสวมมันแทนแหวนที่ตัวเองควรได้รับอีกครั้ง มันไม่มีกระทั่งการจูบสาบาน และงานแต่งงานของพวกเขาก็จบลงแค่นั้น
‘ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอครับ’
อินซอบยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้กับคำถามของอีอูยอน เขาคิดที่จะเช่าเกาะ และเชิญครอบครัวทั้งหมดของอีกฝ่ายมาเพื่อจัดพิธีแต่งงานที่อลังการหากอินซอบต้องการ
‘ถ้าอยากได้อะไร…’
‘ไม่มีครับ’
อินซอบเงยหน้ามองอีอูยอนพลางเอ่ยตอบ ดวงตาคู่นั้นสดใสและจริงใจ ดวงตาที่แสดงความจริงใจไร้ซึ่งการโกหกและเสแสร้งกำลังมองมาที่ตน
‘แต่ผมรู้สึกเสียดายนิดหน่อยครับ’
ตอนที่อินซอบพึมพำและหลุบตามองด้านล่าง อีอูยอนก็เก็บความต้องการไว้ข้างใน ต่อให้อีกฝ่ายเกิดรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้วบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ แต่เขาก็จะไม่ย้อนกลับให้อย่างเด็ดขาด พรุ่งนี้เช้าเขาจะเรียกทนายมา…
‘ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ผมจะใส่เสื้อผ้าดีๆ ออกมาครับ’
อินซอบยิ้มเจื่อนๆ พลางก้มมองชุดนอนที่หลวมโพรกของตัวเอง อีอูยอนกุมมือของอินซอบและพาไปที่โรงแรม ขณะที่ขึ้นมาบนรถเขาก็ไม่ยอมสบตาอีกฝ่ายเลย
‘โกรธเหรอครับ’
อินซอบเอ่ยถามอย่างระมัดระวังในตอนที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก
‘เปล่า’
‘แล้วทำไม…’
เขาไม่ได้ตอบกลับไป และไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้นด้วย เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนหาห้องพักของโรงแรมและเปิดประตูได้อย่างไร
ตอนที่ตั้งสติได้ เขากำลังพรมจูบอินซอบอยู่ เขาดันร่างกายที่ผอมบางเข้ากำแพงราวกับตอกลงไป จากนั้นก็จับต้นขาของอินซอบแยกออกพร้อมกับแทรกขาของตัวเองเข้าไป และเริ่มบดเบียดร่างกายกับอีกฝ่าย เขารู้สึกถึงไอร้อนของกันและกันผ่านร่างกายที่แนบติดกัน
เขากำผมของอินซอบ ลูบคลำเอว และจับก้นของอีกฝ่าย เนื่องจากอยากสัมผัสไปทุกสัดส่วน เขาจึงเอาตัวไปแนบชิดและกอดอีกฝ่ายโดยไม่เหลือช่องว่างแม้แต่น้อย
“ฮ่า…ฮึก…อ๊ะ คุณอูยอน…”
อินซอบเอ่ยเรียกชื่อของอีอูยอนพลางหอบ ลมหายใจกับเสียงที่ถูกกดเอาไว้เล็ดลอดออกมาผ่านริมฝีปากเล็กๆ เขาสั่นระริกไปทั้งตัว อีอูยอนดูดดุนริมฝีปากและเรียวลิ้นของอินซอบ
“คะ คุณอูยอน ดะ เดี๋ยว…”
อินซอบจับเสื้อของอีอูยอนไว้ เพราะการจูบที่ดำเนินต่อไปอย่างรีบเร่งนั้นเกินกำลังของตัวเอง และหยุดอีกฝ่ายไว้อย่างยากลำบาก
“แฮ่ก…แฮ่ก…”
ดวงตาที่เร่าร้อนของอีอูยอนทอดมองอินซอบ
“…อาบน้ำก่อนแล้วค่อย…”
พออินซอบเปิดเผยความตั้งใจของตัวเองออกไปอย่างยากลำบาก อีอูยอนก็หัวเราะสั้นๆ
“เมื่อกี้คุณเพิ่งอาบไปนี่นา”
“แต่…”
เขาอาบน้ำในตอนเช้า อาบน้ำเมื่อกลับมาถึงบ้านหลังจากออกไปข้างนอก อาบน้ำก่อนจะเข้านอน และอาบน้ำก่อนจะมีเซ็กซ์ อีอูยอนมักจะล่วงล้ำนิสัยของอินซอบที่สมกับเป็นนักเรียนดีเด่นอย่างหน้าตาเฉยอยู่บ่อยๆ
“ทำไมล่ะ? อยากอาบเพราะเป็นคืนแรกเหรอ?”
“ครับ?”
อีอูยอนจูบริมฝีปาก แก้ม และซอกคอของอินซอบพลางพูดต่อ
“นี่เป็นคืนแรกไง เพราะเราเพิ่งแต่งงานกันวันนี้”
“เอ่อ…”
อินซอบหน้าแดงในทันที จากนั้นก็บอกว่า “ไม่ใช่ครับ” และส่ายหน้า
“ไม่ใช่แบบนั้น แต่ผมเป็นพวกชอบอาบน้ำก่อนทำอะไร แล้วเมื่อกี้เหงื่อก็ออกก็เยอะ…อ๊ะ!”
อินซอบครางเบาๆ อีอูยอนงับต้นคอของอินซอบเล่นพร้อมกับใช้สันจมูกที่ได้รูปถูไถบนนั้น
“คุณคงจะไม่รู้สินะว่ามีกลิ่นแบบไหนออกมาจากตัวคุณ”
“…อึก…”
เขาไม่เคยสนใจกลิ่นที่ออกมาจากตัวของคนมาก่อน เขาเกลียดการอยู่ใกล้กันถึงขนาดนั้น และไม่คิดที่จะลองดมกลิ่นด้วย แต่อินซอบกลับต่างออกไป ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับร่างกายเป็นพิเศษ แต่ถึงจะใช้ผลิตภัณฑ์แบบเดียวกัน กลิ่นที่ออกมาจากตัวของอินซอบก็พิเศษอยู่ดี
มันเป็นกลิ่นผิว กลิ่นนั้นหอมหวานและนุ่มนวลราวกับออกมาจากเด็กเล็กๆ และเป็นกลิ่นที่ทำให้คนผ่อนคลาย
หากต้องห่างไปหลายวันเพราะการถ่ายละคร เขาจะกลับบ้านมากอดอินซอบและดมกลิ่นของอีกฝ่ายเสมอ ความกังวลที่รุนแรงผ่อนคลายลงได้ด้วยสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียว
“บางครั้งแค่ดมกลิ่นคุณอย่างเดียว ผมก็เหมือนจะแข็งแล้ว ฉิบ”
อีอูยอนกัดและเลียต้นคอนุ่มๆ พลางพึมพำ อินซอบทำตัวไม่ถูก อีอูยอนถูจมูกแรงขึ้นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด
“…อ๊ะ คุณอูยอน เดี๋ยว…อ๊า”
“ต่อไปตอนไปถ่ายงาน ผมจะเอาเสื้อของคุณอินซอบไปด้วยสักตัวครับ ผมจะดมกลิ่นพร้อมกับช่วยตัวเองไปด้วย”
อินซอบหน้าแดงยิ่งขึ้น เขาส่ายหน้าพลางเตือนอีอูยอนว่า “อย่าทำแบบนั้นนะครับ”
“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ”
อีอูยอนสอดมือเข้าไปในชุดนอนของอินซอบพลางเอ่ยถาม
“…ถ้าคนอื่นเห็น…”
อีอูยอนจับก้นของอินซอบมาไว้ตรงหน้าตักของตัวเอง อินซอบกลั้นหายใจดังเฮือก
“ถ้าเห็นแล้วจะยังไงล่ะ”
“…”
“ผมจะเอาเสื้อผ้าของคู่ชีวิตมาช่วยตัวเองสักหน่อย ทำไมจะไม่ได้ ผมทำเรื่องไม่ดีเหรอครับ”
ไม่มีแม้กระทั่งการปลอบโยนที่รุนแรงว่าจะควักลูกตาคนคนนั้นทิ้งด้วยซ้ำ กลับกันเขากลับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมว่าตรงไหนที่เป็นปัญหา อินซอบเงยหน้ามองอีอูยอนด้วยสายตาที่ไม่สบายใจเล็กน้อย อีอูยอนจึงกดจูบบนสันจมูกที่แดงของอินซอบเบาๆ
“ผมชอบกลิ่นของคุณอินซอบครับ”
“ผมก็เหมือนกัน…”
อินซอบตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ชอบกลิ่นที่ออกมาจากร่างกายของตัวเองเหรอ?”
“มะ ไม่ใช่ครับ ผมเองก็ชอบกลิ่นของคุณอีอูยอน…”
อินซอบรีบเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นอีอูยอนที่ยิ้มอย่างขี้เล่น เขาก็ปิดปากเงียบ
“กลิ่นอะไรเหรอครับ”
“…”
“กลิ่นน้ำหอมที่ผมใช้เหรอ”
อีอูยอนเอาตัวเข้าไปใกล้กับใบหน้าของอินซอบพลางเอ่ยถาม อีอูยอนไม่ยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ เขาไม่ยอมแพ้จนถึงขนาดดื้อรั้นกับสิ่งที่ตัวเองตั้งใจค้นหา ในขณะเดียวกันส่วนที่ไม่สนใจเขาก็ไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว แม้กรรมการผู้จัดการคิมจะบอกว่ามันเป็นคุณสมบัติพิเศษของคนที่ออกกำลังกาย แต่อินซอบกลับไม่เห็นด้วย
“กลิ่นโคโลญจน์อาบน้ำ? กลิ่นแชมพู?”
อีอูยอนดันร่างของอีกฝ่ายราวกับจะกดเข้าไปในผนังพลางถามต่อ ความดื้อรั้นของอีกฝ่ายเป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และความดื้อรั้นนั้นจะเปล่งประกายเป็นพิเศษตอนที่ทำเรื่องลามก
“ชอบกลิ่นอะไรเหรอ”
อีอูยอนดันต้นขาที่แข็งแรงของตนเข้าไปตรงหว่างขาของอินซอบและถูไถพลางเอ่ยถาม ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น ปลายเท้าของอินซอบจะลอยขึ้นเพราะความต่างทางส่วนสูงของคนทั้งคู่
“บอกให้รู้หน่อยสิครับว่าชอบกลิ่นอะไร ผมสงสัยจริงๆ นะ”
อินซอบเอ่ยตอบด้วยเสียวราวกับจะร้องไห้
“ผมชอบกลิ่นตัวของคุณอูยอน…ครับ”
รอยยิ้มประดับอยู่ที่ริมฝีปากได้รูปของอีอูยอน เพราะเป็นคำตอบที่ต้องการ การจูบที่หอมหวานและรุนแรงดำเนินต่อไป
…ไม่ว่ายังไงการอาบน้ำก็ล้มเหลวสินะ
อินซอบถอนหายใจเบาๆ พลางโอบคอของอีอูยอน เขารู้สึกถึงรอยยิ้มจางๆ ของอีอูยอนผ่านริมฝีปากที่เชื่อมติดกัน
“งั้นวันนี้ก็ดมกลิ่นที่ชอบให้เต็มที่เลยนะครับ”
เขาไม่สามารถเอ่ยถามได้ว่าจะดมมากกว่านี้ได้อย่างไร อีอูยอนกำผมของอินซอบไว้และจูบอย่างรุนแรงจนเทียบไม่ได้เลยกับก่อนหน้านี้
อีอูยอนกอดเอวอินซอบก่อนจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้น เขาจับขาที่แยกออกให้เกี่ยวเอวของตัวเองไว้ และขยับร่างกายส่วนล่างขึ้นราวกับคนที่กำลังมีอะไรกัน
“อ๊ะ…ฮ่า…อึก”
ทุกครั้งที่อีอูยอนขยับสวนขึ้นมา เสียงลมหายใจที่ขาดห้วงจะเล็ดลอดออกมาจากปากของอินซอบ มือคู่ใหญ่ของอีอูยอนจับก้นของอินซอบด้วยแรงทั้งหมดที่มี ความมีอารมณ์ของชายหนุ่มถูกส่งผ่านผ้าเนื้อบางออกมาอย่างเห็นได้ชัด แก่นกายที่มีเลือดมารวมตัวกันถูกถูกับเนื้อผ้าจนเจ็บ แม้อินซอบจะพูดราวกับพึมพำว่า “เจ็บครับ” แต่อีอูยอนก็ไม่แม้แต่จะทำเป็นได้ยิน
“คุณ…อูยอน…”
อินซอบสะอื้นและเอ่ยเรียกอีอูยอน ยิ่งเขาทำแบบนั้น อีอูยอนก็ยิ่งบดเบียดร่างกายส่วนล่างแรงขึ้น ผ่านไปไม่นานตรงส่วหน้าของกางเกงของอินซอบก็เปียกไปด้วยของเหลวอุ่นๆ ก้นของอินซอบแยกออกจากกันเพราะขาถูกยกขึ้นไปข้างบน และน้ำหล่อลื่นก็หยดลงด้านล่าง ดวงตากลมโตของอินซอบมีน้ำตาคลอทันที
“ร้องไห้ทำไม”
อีอูยอนถามราวกับเขาไม่เข้าใจจริงๆ
“…เพราะกางเกง…เปียก…”
พอเห็นอินซอบทำตัวไม่ถูกเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ทำเรื่องไม่สุภาพกับชุดนอน อีอูยอนก็ยิ้ม
น่ารัก อีกฝ่ายน่ารักซะจนเขาอยากถามว่าตอนนี้เรื่องอื่นมันสำคัญเหรอและอมไอ้นั่นให้
“ผมจะเอาไปฝากซัก…”
“ไม่ว่าจะกางเกง หรือของอย่างอื่น ผมจะซื้อแม่งให้ร้อยชิ้นเลย…”
อีอูยอนวางอินซอบลง และดึงกางเกงชุดนอนลงมาครึ่งหนึ่ง พอเห็นกางเกงชั้นในที่เปียกกับต้นขาที่มีน้ำเชื้อไหลลงมา เขาก็รู้สึกมีอารมณ์อย่างถึงที่สุด
อีอูยอนล้วงท่อนเนื้อของตัวเองออกมาและเริ่มรูดชัก
“คุณอินซอบ…ฟัค คุณอินซอบ…”
อินซอบรู้สึกจั๊กจี้ในท้องและตัวสั่นสะท้านทุกครั้งที่น้ำเสียงที่เร่าร้อนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจเรียกหาตัวเอง
“อินซอบ…แฮ่ก…ฉิบ”
ไหล่ที่กว้างใหญ่ของชายหนุ่มหยุดขยับชั่วขณะ น้ำรักสีขาวขุ่นกระเซ็นมาโดนหว่างขาของอินซอบ อินซอบไม่สามารถขยับได้เลย พออีอูยอนกัดริมฝีปากและขยับมือต่ออีกสองสามครั้ง น้ำรักนั้นก็พุ่งออกมาจากแก่นกาย
“แฮ่ก…”
อีอูยอนควบคุมลมหายใจและก้มมองอินซอบ หรือจะพูดให้ชัดเจนก็คือก้มมองขาของอินซอบที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำเชื้อของตัวเอง
ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความพึงพอใจ บางครั้งอีอูยอนก็ยิงน้ำเชื้อของตัวเองลงบนตัวของอินซอบแบบนี้และมองอยู่พักหนึ่ง ราวกับสัตว์ที่ยืนยันการแสดงอาณาเขตของตัวเอง
พออินซอบกำลังจะดึงกางเกงขึ้นมาอีกครั้งอย่างลังเล อีอูยอนก็คว้าข้อมือของเขาไว้
“จะใส่มันอีกครั้งเหรอครับ”
“เอ่อ…ครับ”
อินซอบหลุบตามองด้านล่าง
เขาไม่ได้อยากใส่เสื้อผ้าที่เปื้อนด้วยน้ำกาม แต่เป็นเพราะกลัวสายตาของอีอูยอนที่มองร่างกายเปลือยเปล่าไม่เลิกต่างหาก
แต่เขาไม่กล้าพูดแบบนั้นออกไป
“รู้ไหมครับว่าข้อดีอย่างเดียวของชุดนอนที่ใส่วันนี้คืออะไร”
“…คืออะไรเหรอครับ”
“ถอดง่ายไงครับ”
อีอูยอนใช้เท้าเหยียบตรงกลางกางเกงของอินซอบและดึงลงมาตามเดิม จากนั้นก็รีบอุ้มอินซอบไปที่เตียง อีอูยอนวางอินซอบลงบนเตียง และถอดเสื้อยืดโยนทิ้งไป กล้ามเนื้อแน่นๆ ของร่างกายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ไหล่ลงมาปรากฏให้เห็นในทันที
อินซอบเงยหน้ามองร่างกายของอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอย อีอูยอนที่รับรู้ถึงสายตาทำตายิ้ม
“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ครับ? เอ่อ…ขอโทษครับ”
“ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ การชอบร่างกายของผมเป็นเรื่องที่น่าขอโทษเหรอ”
‘ใบหน้าที่ดูศีลธรรมกับร่างกายที่ไม่ได้มีศีลธรรม’ คือหนึ่งในคำพูดที่ใช้ขยายความอีอูยอน
รูปร่างของอีอูยอนดีมาก แม้ร่างกายจะดีเยี่ยมมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว แต่เขาก็เป็นคนที่ได้ชื่อว่ารู้จักดูแลตัวเอง แม้แต่ช่วงพักที่ไม่มีงานอะไร เขาก็ยังรักษาร่างกายที่ได้รับการดูแลไปทุกสัดส่วนเอาไว้ ถึงขนาดที่แม้แต่กรรมการผู้จัดการคิมเองยังบอกให้นักแสดงคนอื่นๆ ในสังกัดเรียนรู้จากอีอูยอนไว้
ยิ่งเวลาผ่านไป หลายๆ คนก็เอ่ยชมกล้ามเนื้อที่ดูดีของเขากันไม่ขาดปาก หากมีฉากถอดเสื้อปรากฏในละคร คนก็จะตัดฉากนั้นออกมาเป็นหน่วยวินาทีและลงพร้อมกับข้อความชื่นชมร่างกายของเขา
“เปล่าครับ ผมไม่ได้ขอโทษเรื่องนั้น แต่เพราะผมมองมากไป ไม่สิ ผมหมายถึง…”
อินซอบมักจะพูดวกไปวนมาในตอนที่ลนลาน แม้จะเป็นเพราะนิสัยที่ชอบเก็บตัวอยู่แล้ว แต่อีอูยอนก็รับบทบาทในการแกล้งต้อนอินซอบที่เป็นแบบนั้นให้จนมุมอย่างเต็มที่
“อ๋อ หรือว่าเป็นแบบนั้นเพราะชอบแค่ร่างกายของผมเหรอครับ?”
“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้ชอบแค่ร่างกายนะ ผมชอบทั้งหมดเลยครับ”
อินซอบสารภาพความรักของตัวเองออกมาเต็มที่ อีอูยอนพูดว่า “โล่งอกไปทีนะครับ” และทำตายิ้ม
“ผมเองก็ชอบทุกอย่างของคุณอินซอบเหมือนกัน”
“…ขอบคุณครับ”
อินซอบก้มมองร่างกายของตัวเองที่ดูผอมแห้งเมื่อเทียบกับอีอูยอนพลางพึมพำเสียงเบา
“ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ คิดว่าผมโกหกเหรอ”
อีอูยอนก้มตัวลงไปจูบแก้มของอินซอบพลางเอ่ยถาม อินซอบส่ายหน้า
“ก็แค่…ถ้าเทียบกับคุณอีอูยอนแล้ว ผม… …ผมจะออกกำลังกายครับ”
อินซอบพูดเสริมอย่างขลาดกลัว เขามีร่างกายที่ผอมและอ่อนแอเพราะไม่ได้เจอแสงแดด และเนื่องจากมีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดอยู่ที่หน้าอก นี่จึงเป็นร่างกายที่ไม่น่าให้ใครเห็น
“…”
อีอูยอนก้มมองอินซอบโดยไม่พูดอะไร
“ถะ ถึงออกกำลังกายแล้วจะไม่ได้มีร่างกายที่ยอดเยี่ยมเหมือนคุณอูยอน แต่ผม…”
“ผมไม่ชอบผู้ชายครับ”