เหล่าเด็กๆ ที่รายล้อมอยู่รอบขาถูกพาลงไป ในมือของพระชายายังคงถือห่วงกลมทั้งเก้าเอาไว้ มันส่งเสียงดังตามการขยับของนาง เสียงนั้นวุ่นวายเซ็งแซ่ ทำให้นางในที่ยืนรับใช้ทั้งสองข้างต่างกลั้นหายใจเงียบเสียงเอาไว้
นางในคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นสีหน้าของพระชายา นางชะงักฝีเท้า ก่อนจะโบกมือให้นางในที่อยู่รายรอบ เหล่านางในรีบก้มหน้าถอยออกไป
“คุณหนู” สาวใช้ส่วนตัวที่พามาจากตระกูลเดินมาตรงหน้าของพระชายา เรียกขานนางด้วยคำเรียกที่มีแต่นางเรียกได้ เกลี้ยกล่อมเสียงเบา “ท่านอย่าโกรธเลย”
พระชายายังคงดึงห่วงกลมทั้งเก้าอย่างตั้งใจ “พูด!”
สาวใช้ก้มหน้าพูด “องค์รัชทายาท เหลือเพียงเหยาฝูในห้องทรงพระอักษร ส่วนคนในห้องต่างถอยออกมาแล้ว”
เก็บเหยาฝูไว้ทำสิ่งใด ไม่ต้องพูดทุกคนย่อมรู้ดีแก่ใจ
พระชายาจับห่วงกลมทั้งเก้าโยนลงพื้นอย่างแรง สาวรับใช้รีบคุกเข่ากอดขาของนางเอาไว้ “คุณหนู คุณหนู พวกเราไม่โกรธ” พูดจบก่อนจะเสริมขึ้นอีกครั้ง “โกรธไม่ได้เพคะ”
เหยาหมิ่นทั้งเศร้าทั้งโกรธในเวลาเดียวกัน สาวรับใช้บอกว่าอย่าโกรธ ก่อนจะบอกว่าโกรธไม่ได้ ความหมายของทั้งสองคำแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในฐานะคุณหนูแห่งตระกูลเหยา พระชายาในปัจจุบัน สิ่งแรกที่นางต้องคำนึงไม่ใช่โกรธหรือไม่ หากแต่เป็นทำได้หรือไม่…
นางจะโกรธองค์รัชทายาทได้อย่างไร
เพราะว่าองค์รัชทายาทร่วมหลับนอนกับน้องสาวของนาง?
ในสายตาคนทั้งแผ่นดิน ในสายตาของฮ่องเต้ องค์รัชทายาทนั้นเป็นผู้ซื่อสัตย์สุขุม ไม่หลงใหลในความงามของหญิงสาว หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จะมีประโยชน์ต่อผู้ใด
องค์ชายสามกำลังรุ่งโรจน์ องค์ชายห้าและฮองเฮาถูกกักบริเวณ ฮ่องเต้เย็นชาต่อองค์รัชทายาท เวลานี้หากนางไปตบหน้าขององค์รัชทายาทอีก…นางจะได้ประโยชน์อันใด!
สามีภรรยาเป็นร่างเดียวกัน เกียรติยศและอัปยศต้องแบกรับร่วมกัน
เหยาหมิ่นนั่งลงปิดหน้าร่ำไห้ นางเติบโตมาด้วยความราบรื่นเสมอมา ไม่เคยประสบกับสถานการณ์น่าอับอายเช่นนี้ รู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
เหล่านางในยืนอยู่ด้านนอก ไม่มีความตระหนกเหมือนอยู่ภายใน แต่ละคนมองหน้ากัน อีกทั้งยังมีคนแอบยิ้มเล็กน้อย
พระชายามีชีวิตสุขสบายมานานเกินไป ไม่รู้ความลำบากของโลกภายนอก
อย่างไรกัน นางคิดว่าองค์รัชทายาทจะมีนางคนเดียวตลอดชีวิตหรือ เดิมทีก็เพื่อให้กำเนิดบุตร นางคิดว่าองค์รัชทายาทรักใคร่นางมากหรือ
องค์รัชทายาทมีนางคนเดียวมานานหลายปีก็ทำให้คนประหลาดใจมากแล้ว
อีกอย่าง น้องสาวรูปงามคนนี้ถูกพระชายารั้งไว้ข้างกายเอง นางเดินไปเดินมาต่อหน้าองค์รัชทายาททั้งวันทั้งคืนก็เพื่อเป้าหมายนี้ไม่ใช่หรือ
อีกทั้ง ได้ยินว่าตอนที่เหยาหมิ่นแต่งงานกับองค์รัชทายาท ตระกูลเหยาก็รับคุณหนูสี่นี้มาเพื่อเป็นอนุ เวลานี้จะร้องไห้เพื่ออันใด!
เหล่านางในใช้สายตาสื่อสารอยู่ด้านนอก
ภายในห้อง สาวรับใช้ของเหยาหมิ่นร้องไห้เกลี้ยกล่อมนางด้วยเหตุผล เหยาหมิ่นย่อมรู้ดีแก่ใจ แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว หญิงสาวคนใดจะไม่เสียใจ
“คุณหนูสี่นาง…” สาวรับใช้พูดเสียงเบา
พูดยังไม่ทันจบก็ถูกเหยาหมิ่นขัด “อย่าเรียกคุณหนูสี่ นางเป็นคุณหนูสี่อันใดกัน! นางบ่าวชั้นต่ำ!”
“ใช่ บ่าวชั้นต่ำนี้” สาวรับใช้รีบคล้อยตาม ก่อนจะลูบไหล่ของเหยาหมิ่นเป็นการปลอบประโลม “ตอนนั้นเห็นความงามของนาง องค์รัชทายาทไม่ได้รั้งนางเอาไว้ ต่อมารั้งนางเอาไว้เพื่อใช้ในการหลอกล่อผู้อื่น องค์รัชทายาทไม่มีความรู้สึกที่แท้จริงต่อนาง”
เหยาหมิ่นสูดลมหายใจเข้าหลายที คำพูดนี้ปลอบประโลมนางได้อย่างมาก แต่เมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ใช้หลอกล่อผู้อื่น องค์รัชทายาทยังดึงขึ้นเตียงได้…
นางกุมหน้าอกเอาไว้ ทั้งเจ็บทั้งโกรธ
“คุณหนู คุณหนู” สาวรับใช้กอดนางเอาไว้ ปลอบประโลม “พวกเราไม่โกรธเพคะ ไม่โกรธ ถึงแม้องค์รัชทายาทจะเก็บนางเอาไว้ แต่นางก็เป็นเพียงแค่ของเล่น คุณหนูย่อมสามารถทำอันใดกับนางได้ตามใจไม่ใช่หรือ องค์รัชทายาทไม่มีทางเป็นปรปักษ์กับคุณหนูเพื่อนาง”
เหยาหมิ่นสูดลมหายใจเข้าออกหลายครั้ง ใช่ ไม่ผิด เบื้องหลังของเหยาฝูผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่นางรู้ดีที่สุด แม้แต่ของเล่นยังไม่ใช่เสียด้วยซ้ำ!
“ดี นางบ่าวต่ำช้าคนนี้” นางพูดกัดฟัน “ข้าจะทำให้นางรู้ว่าชีวิตที่ดีคือสิ่งใด!”
…
บนเตียงเล็กหลังชั้นตำรา ผ้าม่านที่ทอดยาวลงมาอยู่ถูกยกขึ้น แขนเรียวงามข้างหนึ่งเหยียดยาวออกมาควานหาเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นรอบด้าน
หยิบผ้าชิ้นหนึ่งขึ้น คนบนเตียงก็ลุกขึ้นนั่ง ปิดบังข้างหน้าเอาไว้ หันแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าให้คนบนเตียง
องค์รัชทายาทยื่นมือออกมาลูบไล้แผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของหญิงสาวแผ่วเบา
เหยาฝูหันกลับมายิ้ม กอดเสื้อผ้าแนบชิดบนแผ่นอกอันเปลือยเปล่าของเขา “องค์รัชทายาท ให้หม่อมฉันป้อนน้ำให้หรือไม่เพคะ”
องค์รัชทายาทยิ้ม “ป้อนอย่างไร”
เหยาฝูหัวเราะคิกคัก ใช้นิ้วเขี่ยไปมาที่หน้าอก
องค์รัชทายาทจับนิ้วของนางเอาไว้ “วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี”
เหยาฝูเงยหน้าขึ้นมองเขา พูดเสียงเบา “น่าเสียดายที่หม่อมฉันไม่สามารถคลายความกังวลแทนองค์รัชทายาทได้เพคะ”
องค์รัชทายาทยิ้ม “เจ้าฉลาดมาก” ได้ยินว่าเขาอารมณ์เสีย ดังนั้นจึงพานางขึ้นเตียงระบายอารมณ์ ไม่ได้พูดเรื่องโศกเศร้าหรือประจบสอพลอเหมือนหญิงสาวคนอื่น
“องค์รัชทายาท อย่ากังวลไปเลยเพคะ” เหยาฝูเอ่ยอีกครั้ง “ท่านเป็นคนสำคัญที่สุดในพระทัยของฝ่าบาทเพคะ”
องค์รัชทายาทพยักหน้า “ข้ารู้ เสด็จพ่อข้าบอกเรื่องนี้แก่ข้าในวันนี้ เขาอธิบายว่าเหตุใดจึงต้องให้องค์ชายสามทำสิ่งนี้” เขามองดูใบหน้าที่งดงามของเหยาฝู “เพราะว่าต้องการชักนำความแค้นไปที่อื่นแทนข้า เพื่อให้ข้าสามารถได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องออกแรง”
เหยาฝูดีใจทันที “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” ก่อนจะถามด้วยความสับสน “เหตุใดองค์รัชทายาทจึงยังอารมณ์ไม่ดีเพคะ”
องค์รัชทายาทหนุนแขน ฉีกยิ้มมุมปากแสดงออกถึงความเย้ยหยัน “เมื่อเขาทำงานนี้สำเร็จ เสด็จพ่อยังต้องการให้ข้าซาบซึ้งต่อเขา ดูแลเขา ปฏิบัติต่อเขาดุจดั่งผู้มีพระคุณไปตลอดชีวิต น่าขันสิ้นดี”
เหยาฝูเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ช่างน่าขันเสียจริง ในเมื่อเขาทำงานเสร็จแล้ว เขาก็สมควรตาย เหลือไว้ให้ลำบากใจผู้ใดกัน”
ใช่ ในอนาคตเขาเป็นฮ่องเต้ ก่อนหน้านี้เขาอาศัยเสด็จพ่อ เวลานี้อาศัยพี่น้อง เขาถือเป็นอันใด คนไร้ความสามารถหรือ
ทั้งที่เขาทำเรื่องมากมาย แต่เวลานี้กลับไม่มีคนรู้ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีคนรู้ มีคนรู้ว่าคดีหมู่บ้านซ่างเหอเป็นเพราะเขาไร้ความสามารถ ถูกท่านอ๋องฉีวางแผนทำลาย จากนั้นอาศัยองค์ชายสามไปจัดการทุกสิ่งเหล่านี้
องค์รัชทายาทยิ้มเย้ยหยัน ทั้งที่เขาทำเรื่องมากมาย อาทิเรียกคืนเมืองอู๋…หากไม่ใช่เพราะเฉินตันจูนั้น!
“เจ้าต้องการสิ่งใด” เขาถามขึ้น
เหยาฝูกำลังนวดคลึงหน้าผากให้เขาอย่างเชื่อฟัง ได้ยินจึงสงสัย “หม่อมฉันมีองค์รัชทายาทแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ต้องการอีกเพคะ”
องค์รัชทายาทหัวเราะขึ้นอีกครั้ง ผลักมือของนางออก ลุกขึ้นนั่ง “อย่าใช้ไม้นี้กับข้า ข้าไม่ใช่หลี่เหลียง เจ้าอยากอยู่ข้างข้าหรือไม่”
เหยาฝูคลุมเสื้อครึ่งหนึ่งลุกขึ้น ก่อนจะคุกเข่าลง “องค์รัชทายาท หม่อมฉันไม่ต้องการอยู่ข้างกายองค์รัชทายาทเพคะ”
คำตอบนี้น่าสนใจ องค์รัชทายาทมองนาง
“องค์รัชทายาท” เหยาฝูเงยหน้าขึ้นมองเขา “หม่อมฉันอยู่ด้านนอก สามารถทำงานให้องค์รัชทายาท ได้มากกว่า อยู่ภายในวังมีแต่จะทำให้ท่านเดือดร้อน อีกทั้ง อยู่ด้านนอก หม่อมฉันก็สามารถครอบครององค์รัชทายาทได้เช่นกันเพคะ”
องค์รัชทายาทหัวเราะร่า “พูดไม่ผิด” เขาลุกขึ้นเดินผ่านเหยาฝูไป “ลุกขึ้นมาเถิด เตรียมไปรับบุตรชายของเจ้ากลับมา ข้าจะขอโปรดเกล้าความดีความชอบให้แก่หลี่เหลียง”
ความดีความชอบของหลี่เหลียงคือการซื่อสัตย์ต่อราชสำนัก ความดีความชอบนี้มาจากการช่วยเหลือของนาง หลี่เหลียงมีความดีความชอบ นางย่อมได้รับด้วย เหยาฝูดีใจอย่างยิ่ง คุกเข่าก้มคำนับ “ขอบพระทัยองค์รัชทายาทเพคะ”
เสียงฝีเท้าเดินออกไปแล้ว ทันใดนั้นมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาจากข้างนอก สามารถได้ยินเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกัน มันเป็นเสียงที่เหล่าขันทีกำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้องค์รัชทายาท หลังจากนั้นไม่นาน เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง คนกลุ่มหนึ่งเดินออกไป ภายในห้องทรงพระอักษรกลับสู่ความเงียบ
เหยาฝูที่คุกเข่าอยู่บนพื้นลุกขึ้นยืน นางเดินออกมาด้วยเสื้อผ้าที่ใส่ไว้เพียงครึ่งหนึ่ง ก่อนจะเห็นเสื้อผ้าชุดใหม่ที่วางอยู่ข้างนอก
นางโยนชุดที่ถูกฉีกขาดทิ้ง หยิบชุดใหม่ขึ้นมาสวมใส่บนร่างที่เปลือยเปล่าอย่างเชื่องช้า มุมปากยกยิ้ม
อยู่ข้างกายองค์รัชทายาท? แย่งชิงกับพระชายาช่างเป็นเรื่องที่โง่เขลายิ่งนัก จะเทียบได้กับการออกไปเสวยสุขด้านนอกได้อย่างไร ถึงแม้ไม่มีตำแหน่งนางสนม แต่ภายในใจขององค์รัชทายาท ตำแหน่งของนางก็ไม่มีทางต่ำต้อย
สิ่งที่ขโมยมาย่อมหอมหวานกว่าเสมอ