ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < A Love Marriage > 2-6

Side Story < A Love Marriage > 2-6

“ฮื้อ…อึก…อ๊ะ…ฮึก”

ส่วนอ่อนไหวของอินซอบเริ่มแข็งตัวขึ้นมาทีละนิด สันกรามของอีอูยอนเกร็งแน่น

อีอูยอนเคยหัวเราะเยาะตอนที่ได้ยินเรื่องที่ว่าคนเราจะรู้สึกสุขใจหากได้มีเซ็กซ์กับคนที่ชอบจริงๆ เป็นครั้งแรก เขาคิดว่ามันเป็นชัยชนะทางใจของพวกคนที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือไม่มั่นใจในขนาดของตัวเอง

กลไกของเซ็กซ์นั้นง่ายดาย มันเป็นกิจกรรมทางร่างกาย เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เคยสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอย่างละเอียด หรือมีอารมณ์กับมันเลย เพราะแค่สอดใส่เข้าไปและเสร็จก็จบแล้ว เขาไม่คิดถึงเรื่องการเข้าใจซึ่งกันและกันในด้านอารมณ์ และสายสัมพันธ์ทางอารมณ์เลย

แต่เซ็กซ์กับชเวอินซอบนั้น…

“ฮ้า…อื้อ…ฮึก”

เขามองอินซอบ ชเวอินซอบที่มีใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา และหอบหายใจในสภาพที่อ้าขาออกเพื่อรับตัวตนของเขาเข้าไปให้ได้ทั้งหมด…

อีอูยอนกอดราวกับกดร่างกายของอินซอบลงไปอย่างแรง และกระแทกแก่นกายเข้าไปราวกับเสียสติ

เขาชอบ เขาชอบปฏิกิริยาของอินซอบที่แสดงออกทุกครั้งที่เขาสอดใส่แก่นกายเข้าไป เสียงครางที่ปนเสียงร้องไห้ เสียงลมหายใจเหนื่อยหอบ ร่างกายขาวผอมที่สั่นระริก ผิวนุ่มหยุ่นที่เฉียดผ่านฝ่ามือ รสชาติที่รับรู้ได้เมื่อเอาเข้าไปในปาก และกลิ่นเหงื่อที่แตะปลายจมูก…

เขารู้สึกว่าสัมผัสทั้งหมดที่ตัวเองมีถูกเติมเต็ม และไม่ใช่เพียงเท่านั้น

“ผะ ผม…ชอบ…ชอบคุณอูยอนครับ”

อินซอบสารภาพความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างตั้งใจในระหว่างที่แลกจูบดูดดื่ม มันไม่ใช่คำพูดโกหก แม้จะเป็นแค่การพูดว่า “ผมชอบครับ” ด้วยการออกเสียงที่ถูกบดขยี้จากการที่ริมฝีปากประกบกัน แต่เขาก็ชอบมันมาก เขารู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ประสาทสัมผัสถูกเผาไหม้

เซ็กซ์ที่ทำกับชเวอินซอบให้ความรู้สึกพึงพอใจที่เกินกว่าความสุขทางเพศ อีอูยอนไม่สามารถตั้งสติได้เลย

“แฮ่ก…อึก…”

“อื้อ…อือ…ฮึก”

“คุณอินซอบ…คะ…คุณอินซอบ…ฮ้า…”

พอเอ่ยเรียกชื่อ อินซอบก็กระชับอ้อมแขนที่กอดเขาราวกับตอบรับ เส้นประสาททุกส่วนในร่างกายของอีอูยอนตอบสนองกับแรงที่อ่อนแอนั้น

“คุณอินซอบ ฉิบ…ผมชอบคุณ…ชอบมาก”

“ผมเองก็…ชอบคุณอูยอน…อ๊า”

เขามองทะลุเข้าไปในดวงตาที่อ่อนโยน บางครั้งก็รู้สึกว่าเขาเกาะติดร่างกายเล็กๆ นี้เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ได้อย่างยากลำบาก

“…รักนะครับ”

อินซอบกระซิบที่หูของอีอูยอน อีอูยอนดูดริมฝีปากของอินซอบและขยับเอวราวกับเป็นบ้า อินซอบปลดปล่อยออกมา แม้หน้าท้องจะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรัก แต่อีอูยอนก็ไม่ทันได้สังเกต หัวของอินซอบกระแทกกับหัวเตียงจนเกิดเสียงดัง ปัก เขาหลงลืมตัวตน และรู้สึกเหมือนจะตาย ไม่สิ ต่อให้ตายก็ไม่เป็นไร

อีอูยอนกอดอินซอบราวกับจะทำให้แตกเป็นชิ้นๆ ต้นขาแข็งแกร่งของเขาเกร็งแน่นและปลดปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในช่องทางเล็กๆ รวดเดียว ตัวของอินซอบเองก็สั่นระริกจากความรู้สึกที่ยังเหลืออยู่ของการถึงจุดสุดยอด อีอูยอนจูบปากของอินซอบและขยับเอวต่ออีกสองสามครั้ง น้ำเชื้อที่ยังเหลืออยู่ถูกฉีดพ่นออกมา

คนทั้งคู่กอดกันโดยไม่พูดอะไรอยู่สักพัก อีอูยอนเงยหน้าขึ้นปัดผมของอินซอบที่เละเทะไปด้วยเหงื่อขึ้นไป

“คุณอูยอน…รักนะครับ”

อินซอบสารภาพรักราวกับพึมพำ ช่วงนี้อินซอบเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้แม้จะไม่ได้สั่งและมันน่ารักจนเขาไม่สามารถพูดออกมาได้หมด

“แค่ไหน”

“…ครับ?”

“ผมถามว่ารักผมแค่ไหน”

“มากๆ เลยครับ”

“มากๆ นี่แค่ไหนล่ะ”

“ที่สุดในโลกครับ”

“แล้วที่สุดในโลกมันชอบมากขนาดไหนล่ะ”

ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรถึงได้เอ่ยถามคำถามที่ก่อนหน้านี้ต่อให้โดนยิงขากดดันก็ไม่คิดที่จะถามออกไป

“เอ่อ…คือ…”

“ไม่เอาคำตอบที่ไม่สำคัญอะไรพวกนั้นนะ ว่าไง?”

อีอูยอนจงใจแกล้ง เพราะชอบที่อินซอบตอบคำถามที่ไร้สาระราวกับเป็นขยะด้วยคำตอบที่จริงจัง

อินซอบจมอยู่ในความคิดพลางกะพริบตาที่กลมโต

สวยอะไรขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นคำตอบหรืออะไรก็…

“…มากเท่าที่คุณอีอูยอนชอบผมครับ”

“…”

คำตอบของอินซอบทำให้อีอูยอนทำหน้าเหมือนโดนจี้จุดอ่อนและหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆ คุณชอบผมขนาดนั้นได้ยังไง แย่แล้วล่ะคุณชเวอินซอบ”

อินซอบหัวเราะแหะๆ เบาๆ อีอูยอนกอดอินซอบแน่นและสูดลมหายใจเข้าไป ไออุ่นเล็กๆ ที่ชื้นไปด้วยเหงื่อถูกส่งมาหา

เท่าที่ผมชอบคุณ

เขารู้สึกราวกับสกปรกของตัวเองได้รับการให้อภัยด้วยคำพูดนั้น

“คุณอินซอบ”

“ครับ”

พวกเขาสบตากัน

ความรู้สึกเอ่อล้นขึ้นมาในช่องว่างที่ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถเติมเต็มได้ ความรู้สึกที่รู้สึกทุกครั้งที่ได้มองใบหน้าขาวซีด ความรู้สึกที่รู้สึกทุกครั้งที่ได้สบตากับดวงตาที่ติดตราตรึงใจ ความรู้สึกที่รู้สึกทุกครั้งที่อีกฝ่ายเรียกชื่อของตน ความรู้สึกที่รู้สึกทุกครั้งที่จับมือ…และความรู้สึกที่รู้สึกทุกเวลาที่มีอินซอบ…

“ผมรักคุณ”

เขาพูดความรู้สึกที่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วออกมา

คำพูดที่ไม่ได้เพิ่มเติมถ้อยคำที่สวยงามอะไรลงไปทำให้อินซอบเบิกตาโตราวกับตกใจ จากนั้นน้ำตาก็เอ่อขึ้นมาในดวงตากลมโตคู่นั้นทันที

“ร้องไห้ทำไม ผมพูดอะไรที่ไม่ควรพูดเหรอครับ”

“…เปล่าครับ…เปล่า…”

อินซอบส่ายหน้าและฝังหน้าลงในอ้อมกอดของอีอูยอน อีอูยอนโอบกอดอินซอบและกดจูบลงบนผมที่ชื้นเหงื่อ พวกเขาแลกเปลี่ยนคำพูดที่ไร้สาระในขณะที่กอดกันพร้อมกับจูบเมื่อสบตา และลูบไล้ใบหน้าของกันและกัน นี่คือช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวาย เป็นช่วงเวลาที่มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีได้

“ว่าแต่เป็นแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ”

“อะไรเหรอครับ”

“พิธีแต่งงาน แล้วก็คืนแรกด้วย”

อินซอบหัวเราะเบาๆ ให้กับคำพูดที่พูดเสริมขึ้นมาอย่างขี้เล่นว่า “มันธรรมดามากเลยนะ” เสียงหัวเราะนั้นไร้เดียงสาและน่ารัก

“ผมชอบครับ”

พูดจบ อินซอบก็จมอยู่ในความคิดและเอ่ยถาม

“งั้นคุณอูยอนมีเรื่องที่ต้องการหรือเปล่าครับ”

อีอูยอนก้มมองอินซอบ เขาไม่เคยมีสิ่งที่ต้องการ หรือคาดหวัง เพราะต่อให้มีของพวกนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเติมเต็มช่องว่างได้

“สิ่งที่คุณอยากทำ หรือสิ่งที่คุณอยากได้น่ะ”

ดวงตากลมโตเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน อีอูยอนมองคนคนเดียวที่ตัวเองปรารถนา และหัวเราะออกมาทันที

“ผมจะลองคิดดูครับ”

“ครับ ต้องบอกนะครับ”

อีอูยอนกอดอินซอบ ความรู้สึกถูกเติมเต็มที่เหมือนจะทำให้หายใจไม่ออกถาโถมเข้ามา นี่เป็นค่ำคืนที่มีความสุขจนต่อให้โลกจะสิ้นสุดลงแบบนี้เขาก็ไม่ว่าอะไร

***

“ขอโทษครับ”

[ไม่ครับ ไม่เป็นไรครับ]

อินซอบถือโทรศัพท์และขอโทษอย่างต่อเนื่อง

“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่รู้เลยครับว่าจะเป็นแบบนี้”

จู่ๆ อาการของคุณยายที่ยังดีอยู่จนถึงเมื่อเช้าก็แย่ลงอย่างกะทันหัน

[ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องแบบนั้นนี่ครับ]

“…เพราะเหมือนผมจะผิดสัญญาอยู่เรื่อยเลยครับ”

[ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้สนใจจริงๆ]

ความเงียบดำเนินต่อไปพักหนึ่ง

[อาการของคุณยายเป็นยังไงบ้างครับ]

“…ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”

[ท่านจะต้องดีขึ้นแน่นอนครับ]

แม้จะได้รับคำปลอบใจ แต่ก็ยังรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างน่าประหลาด อินซอบเกร็งมือที่ถือโทรศัพท์

“…คุณอูยอน ตอนนี้คุณอยู่คนเดียวใช่ไหมครับ”

[เปล่า ผมอยู่กับจอห์น]

คำตอบขี้เล่นถูกส่งกลับมา

“…ไม่นับจอห์นสิครับ คุณอยู่คนเดียวในวันแบบนี้ได้ยังไงครับ”

นี่เป็นวันคริสต์มาสแรกที่ได้อยู่ด้วยกันหลังจากมาที่อเมริกา เขาไม่สบายใจกับการทิ้งอีอูยอนให้อยู่คนเดียวในวันแบบนั้นเป็นอย่างมาก

[งั้นคริสต์มาสปีหน้าต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันนะครับ]

“ครับ ได้ครับ ต่อให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นผมก็จะทำแบบนั้นครับ”

อินซอบพยักหน้าพลางตอบแบบนั้นราวกับให้คำมั่นสัญญา

[งั้นผมจะวางแล้วนะครับ]

อินซอบเอ่ยเรียกว่า “คุณอูยอนครับ” อย่างรีบร้อนเพราะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เอ่ยคำอวยพรในวันคริสต์มาส

[ครับ พูดมาเลยครับ]

“มะ เมอร์รี่คริสต์มาสครับ”

เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังมาจากปลายสาย …เขาต้องทำหน้าเหมือนเด็กหนุ่มและยิ้มอยู่แน่ๆ…อยากเห็นจัง

[รู้แล้วครับ เมอร์รี่คริสต์มาสครับ หลับฝันดีนะครับ]

อินซอบวางสายและเดินกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย คุณยายกำลังหลับอยู่ กระเช้าดอกไม้ที่วางอยู่ตรงหน้าต่างโผล่เข้ามาในสายตา มันคือกระเช้าที่อีอูยอนส่งมาให้

ดอกกุหลาบสีชมพู

ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ที่คุณยายชอบที่สุด เขาเคยพูดกับอีอูยอนผ่านๆ ก่อนหน้านี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ฟังคำพูดของตนอย่างผ่านๆ เขาจดจำคำพูดที่ไม่สลักสำคัญอะไรเอาไว้ และส่งสิ่งเหล่านั้นกลับคืนมาให้ ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นจะเป็นความอ่อนหวานอย่างขอไปทีที่เป็นการแสร้งทำตัวเป็นคนปกติ…

พวกเขาสัญญาว่าจะใช้เวลาในวันคริสต์มาสด้วยกัน แต่พอเป็นแบบนี้ อีกฝ่ายจะต้องอารมณ์เสียอย่างแน่นอน…คิดถึงจัง

อินซอบลูบกลีบกุหลายพลางถอนหายใจเบาๆ

“เป็นดอกไม้ที่สวยนะ”

เสียงที่ได้ยินจากด้านหลังเรียกให้อินซอบหันหน้าไป คุณยายที่ตื่นขึ้นมาตอนไหนไม่รู้กำลังมองมาทางนี้

“ตื่นแล้วเหรอครับ รู้สึกยังไงบ้างครับ”

“ก็รู้สึกเยี่ยมยอดอย่างที่เคยรู้สึกมาตลอดนั่นแหละ”

อินซอบหัวเราะกับคำตอบที่มีชีวิตชีวาของคุณยาย โรคของคุณยายตรวจเจอเมื่อสิบปีก่อน มันเรียกว่ามะเร็ง

‘โชคดีมากเลยที่แก่แล้ว เซลล์มะเร็งเลยแพร่อย่างช้าๆ’

คุณยายยิ้มพลางเอ่ยตอบอย่างเด็ดเดี่ยว ท่านเป็นคนที่เข้มแข็งและกล้าหาญที่สุดในบรรดาคนที่เขารู้จัก อินซอบรักและนับถือคุณยายจากใจจริง

สุขภาพของคุณยายแย่ลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่คุณตาจากไป บางครั้งคุณยายก็หลงลืม แต่บางวันก็นึกถึงเรื่องราวในอดีตได้อย่างชัดเจนกว่าใคร

“ว่าแต่ใครเป็นคนส่งดอกไม้นั้นมาล่ะ พวกผู้ชายที่จะให้ดอกไม้ยายไม่น่าจะมีอยู่บนโลกนี้แล้วนะ”

อินซอบยิ้มราวกับเขินอายเล็กน้อยพลางตอบว่า “เพื่อนของผมเองครับ”

“เป็นดอกไม้ที่งดงามจริงๆ”

“ครับ”

บางทีอีกฝ่ายคงจะขอให้ร้านเลือกดอกไม้ที่ดีที่สุดและส่งมาให้

อินซอบมองกุหลาบที่บานสะพรั่งพลางอมยิ้ม

“เป็นคนที่ชอบสินะ”

“ครับ?”

อินซอบถามกลับด้วยความตกใจ

“ ‘เพื่อน’ ที่ส่งดอกไม้นั้นมาให้น่ะ’ ”

มีรอยยิ้มติดอยู่ในดวงตาสีฟ้าของคุณยาย อินซอบลังเลก่อนจะพยักหน้าเบาๆ คุณยายยื่นมือออกมา อินซอบจึงถูแก้มของตัวเองกับมือของคุณยายราวกับออดอ้อน

“เด็กน้อยของฉันโตแล้วสินะ มีคนที่ชอบแล้วด้วย”

มือเหี่ยวย่นของคุณยายลูบแก้มของอินซอบ

“เป็นคนแบบไหนล่ะ”

“ก็แค่…เป็นคนที่ผมชอบมากน่ะครับ”

อินซอบกะพริบดวงตาที่กลมโตพลางเอ่ยตอบ

เขาชอบอีอูยอน แม้บางครั้งอีกฝ่ายจะพูดจาไม่ดีกับตน และทำเรื่องที่ตนไม่เข้าใจ…แต่เขาก็ชอบอีกฝ่ายที่พยายามแสดงความอ่อนโยนออกมาอย่างสุดความสามารถมากจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ต้องรีบหายแล้วล่ะ ถ้าทนอีกหน่อยก็อาจจะได้เห็นเด็กเล็กๆ ก็ได้”

อินซอบไม่สามารถหัวเราะกับคำพูดล้อเล่นของคุณยายได้ แม้จะสามารถตอบว่าใช่และปล่อยให้มันผ่านไป และสามารถแบ่งรับแบ่งสู้ได้ แต่เขากลับทำแบบนั้นไม่ได้

“…ขอโทษครับ”

“เรื่องอะไร”

อินซอบก้มหน้าและกำชายเสื้อไว้แน่น นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถพูดกับใครได้ แต่เขาไม่อยากหลอกคุณยาย ความคิดที่ว่าอาจจะทำให้คนที่ตัวเองชอบเดือดร้อนได้ทำให้มือสั่นเทา

“…ที่ผมไม่สามารถทำตามที่คุณยายต้องการได้…”

“ยายต้องการอะไรเหรอ”

คุณยายถามซ้ำด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“ผมแต่งงาน…มีลูก…เหมือนคนธรรมดา…”

ลำคอของเขาตีบตัน น้ำตาอุ่นๆ เอ่อล้นบริเวณดวงตา อินซอบรีบเช็ดน้ำตาที่หยดลงมา นิ้วของคุณยายดีดปลายจมูกของอินซอบอย่างหยอกล้อ

“ยายบอกตอนไหนว่าต้องการของพวกนั้น”

“ครับ? เมื่อกี้…”

“ปีเตอร์”

คุณยายเช็ดน้ำตาให้หลานของตัวเองและพูดต่อ

“ดอกกุหลาบที่บานอยู่ในสวนที่บ้านของยายน่ะ ฌอนปลูกให้ทั้งหมดเลยนะ”

ฌอนคือชื่ออเมริกาของคุณตา

“เขาเป็นคนนิ่งๆ หลานก็รู้ใช่ไหม”

อินซอบพยักหน้า คุณตาเป็นคนเงียบๆ และพูดน้อย

“คนแบบนั้นรู้ว่ายายชอบดอกกุหลาบ เลยให้ของขวัญเป็นดอกไม้ตลอดเลย เขาทำหน้าตาเขินอายแล้วก็ยื่นดอกไม้ให้ทุกวัน พอย้ายไปที่บ้านหลังนั้น เรื่องที่ฌอนทำเป็นอย่างแรกก็คือปลูกต้นกุหลาบให้”

อินซอบรีบพยักหน้าให้กับคำถามที่ว่า “ยอดเยี่ยมจริงๆ เลยใช่ไหม” คุณตารักคุณยายชั่วชีวิต คุณยายเองก็เช่นเดียวกัน เพราะแบบนั้นหรือเปล่านะ หลังจากที่คุณตาจากไป คุณยายถึงรู้สึกยอมแพ้ให้กับการต่อสู้กับโรคร้าย

“เราก็ทำได้แค่รักคนที่มอบดอกไม้สวยๆ ให้เป็นของขวัญนั่นแหละ”

คุณยายมองดอกไม้ที่วางอยู่ตรงหน้าต่างและยิ้ม

“เด็กน้อย” อินซอบตอบว่า “ครับ” ให้กับเสียงเรียกที่อ่อนโยนของคุณยาย

“ยายอยากให้หลานมีความสุขนะ”

อินซอบไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เขาร้องไห้น้ำตาไหลพรากเหมือนเด็กเล็กๆ และซุกหน้าลงในอ้อมกอดของคุณยาย

ปีเตอร์ในวัยเด็กมักจะพูดความลับที่ไม่สามารถบอกแม่ได้ให้คุณยายฟังเสมอ คุณยายเป็นทั้งผู้ใหญ่ที่โตที่สุดสำหรับเขา และเป็นผู้ช่วยเหลือด้วย คนที่สนับสนุนความตั้งใจของปีเตอร์ในตอนที่จะไปเกาหลีเป็นคนแรกก็คือคุณยาย

ยายครับ คนที่ผมชอบน่ะ นอกจากจะเป็นผู้ชายเหมือนผมแล้ว เขายังทำเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยมาตรฐานของคนทั่วไป และไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นด้วยครับ แต่…ผมก็ชอบคนคนนั้นมาก…ผมชอบเขาที่สุดในโลก…ชอบจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย…

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท