รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 326 ชั่วช้าสามานย์ ทั้งชีวิตนี้ได้มาจากการลักขโมย!

บทที่ 326 ชั่วช้าสามานย์ ทั้งชีวิตนี้ได้มาจากการลักขโมย!

บทที่ 326 ชั่วช้าสามานย์ ทั้งชีวิตนี้ได้มาจากการลักขโมย!

นี่มันของเหลวกระไร!

น่าตกใจถึงเพียงนี้เชียว!

หลิงอินใจสะท้าน สายตาทอดมองของเหลวสีนิลดั่งน้ำหมึกอันน่าพิศวงในโลงศพหินโดยไม่รู้ตัว

ยุคโบราณผ่านมานานนม ต่อให้ใช้โอสถมหาจักรพรรดิต่อชีวิตอีกภพชาติก็ยากจะมีชีวิตตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงยุคนี้

ของเหลวสีดำชวนพิศวงนี้ช่วยให้จักรพรรดิบุปผามีชีวิตยืดยาวจากยุคโบราณมาจนถึงยุคปัจจุบันได้ ซ้ำยังคืนพลังให้จักรพรรดิบุปผาเทียบเท่ายุครุ่งเรืองที่สุด ทะเลต้องห้ามลึกล้ำเกินหยั่ง น่าหวาดหวั่นนัก!

แต่เท่านี้ยังไม่พอให้นางกลัว!

นางในตอนนี้ยังพัฒนาไม่เต็มที่เลย

นางได้อยู่ข้างกายท่านเซียนเสมอ ประโยชน์ที่ได้รับมากเกินจินตนาการ นางยังย่อยซึมผลประโยชน์เหล่านี้ได้ไม่ถึงหนึ่งในพันด้วยซ้ำ เมื่อใดที่นางย่อยซึมผลประโยชน์เหล่านี้ได้ทั้งหมด นางจักอยู่ในระดับสูงเหลือแสน!

ถึงครานั้น นางย่อมอยู่เหนือขอบเขตมหาจักรพรรดิขึ้นไปอีกหลายขั้น!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางมีท่านเซียนหนุนหลัง!

ทะเลต้องห้ามน่าหวาดหวั่นเพียงใดแล้วอย่างไร?

เทียบกับเส้นทางสังสารวัฏได้หรือ?

เส้นทางสังสารวัฏยังไร้พิษสงใด ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเซียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทะเลต้องห้าม

มาภาคกลางครานี้ ท่านเซียนตั้งใจพานางมาด้วย

จิตของท่านเซียนล่วงรู้ทุกอย่างตั้งแต่ก่อนกาลจวบจนยุคปัจจุบัน ที่พานางมาภาคกลางด้วย ก็เพราะต้องการให้นางแก้แค้นแทนเสี่ยวหยาด้วยตนเอง!

จักรพรรดิบุปผาคิดใช้ทะเลต้องห้ามมาขู่นางจนต้องยอมปล่อยนางไป เพ้อฝันชัด ๆ!

“ทะเลต้องห้ามชวนสยดสยอง น่ากลัวเหลือคณา กระนั้นมันไม่อาจคุ้มหัวเจ้าได้ วันนี้เจ้าต้องตายอยู่ที่นี่!”

หลิงอินตะเบ็งเสียงเย็น ดึงคันยิงศรอีกครั้งเพื่อผลาญพลังของจักรพรรดิบุปผา

“เจ้า!”

จักรพรรดิบุปผากริ้วหนัก นางยกทะเลต้องห้ามออกมาอ้างแล้ว ไฉนหลิงอินถึงยังกล้าฆ่านางอีก!

หรือหลิงอินยังไม่เชื่อว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเลต้องห้าม

นางไม่เชื่อว่าหลิงอินไม่กลัวทะเลต้องห้าม

น่าขัน ราชวงศ์อวี่ฮว่ารุ่งเรืองยิ่งใหญ่ ปกครองอาณาจักรยุคโบราณไว้ทั้งปวงยังยำเกรงในเก้าแดนต้องห้ามเหลือแสน มิกล้าเฉียดใกล้ หลิงอินไฉนเลยจะไม่กลัว!

ใช่แล้ว!

หลิงอินยังไม่เชื่อว่านางมีความเกี่ยวข้องกับทะเลต้องห้าม!

หลังคิดข้อนี้ตก นางรีบเอ่ยขึ้น “ข้ารู้ว่าเรื่องที่ข้ามีความเกี่ยวข้องกับทะเลต้องห้ามเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเจ้า ถึงอย่างไรแดนต้องห้ามเป็นสถานที่ที่เข้าไปแล้วจักไม่ได้กลับออกมาอีก ทว่าข้าได้ไปเยือนทะเลต้องห้ามมาแล้วจริง ๆ และมีข้อตกลงบางอย่างกับทะเลต้องห้าม!”

นางเล่าเรื่องราวที่ตนได้ไปเยือนทะเลต้องห้าม เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่นางพูดนั้นมิใช่ความเท็จ

บัดนี้ นางเหลือทางรอดเพียงทางเดียว นอกจากใช้ทะเลต้องห้ามข่มขวัญหลิงอินแล้ว นางไม่เหลือหนทางอื่นอีก

“ข้าสำเร็จเป็นมหาจักรพรรดิด้วยพลังจากกระดูกจักรพรรดิ ทว่าอย่างไรข้าก็ไม่อาจผสานเป็นหนึ่งกับกระดูกจักรพรรดิ หลังบรรลุเป็นมหาจักรพรรดิแล้ว ข้าไม่อาจก้าวหน้าได้อีก ไม่อาจก้าวพ้นวิถีของตน!”

จักรพรรดิบุปผากล่าว “ข้าละทิ้งกระดูกจักรพรรดิ หลอมกระดูกของตัวเองขึ้นใหม่ หมายจะหวังพึ่งตัวเองเพื่อก้าวเดินบนเส้นทางวิถีของตัวเองจริง ๆ…”

แต่นางประเมินตนเองสูงไป

กระดูกจักรพรรดิมอบพลังทั้งปวงแก่นาง ความน่าทึ่งและความสำเร็จทั้งหมดที่ผ่านมาของนางล้วนมีที่มาจากกระดูกจักรพรรดิ บรรลุขอบเขตด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ ตระหนักรู้มหาเต๋าได้ง่ายดายประดุจดื่มน้ำ สำเร็จวิชาอภินิหารทุกชนิดได้ในรอบเดียว!

ทว่าหลังนางสูญเสียกระดูกจักรพรรดิ ทั้งหมดนี้ก็หายตามไปด้วย!

นางคิดว่าตนเองเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปนานแล้ว แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย

เมื่อไร้ซึ่งกระดูกจักรพรรดิ นางสูญเสียพรสวรรค์น่าทึ่งในอดีต นางกลับสู่ช่วงเวลาที่ศักยภาพดาด ๆ ไม่มีพรสวรรค์เลยสักนิด

อย่าว่าแต่แสวงหาหนทางบรรลุเลย แม้แต่ขอบเขตมหาจักรพรรดินี้นางก็เกือบรักษาไว้ไม่ได้!

ปรมัตถ์ของขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นซับซ้อนยากจะเข้าใจได้สำหรับนาง นางไม่อาจรู้แจ้งได้เลย!

ครานั้น เป็นช่วงเวลาที่สับสนท้อแท้ที่สุดของนาง

เดิมนางคิดว่าชะตากรรมของตนได้เปลี่ยนไปแล้ว หารู้ไม่ ทั้งหมดเป็นเพียงความว่างเปล่า!

นางอยากบรรจุกระดูกจักรพรรดิกลับมาอีกครั้ง แต่นางนั้นเจ็บใจที่ไม่อาจผสานเป็นหนึ่งกับกระดูกจักรพรรดิ ต่อให้บรรจุกระดูกจักรพรรดิกลับมาก็ทำได้เพียงรักษาขอบเขตมหาจักรพรรดิไว้เท่านั้น นางไม่อาจบรรลุไปไกลกว่านี้

ยามนั้น นางยังอ่อนเยาว์มาก ไฉนเลยจะยอมติดอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิไปตลอด!

นางเริ่มออกเดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ หวังว่าสามารถค้นพบสมบัติล้ำค่าในปฐพีนี้ที่ช่วยเปลี่ยนศักยภาพของนางได้

การเปลี่ยนกระดูกจักรพรรดิเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ปัญหาต้นเหตุนั้นยังอยู่ นางต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างแท้จริง

ทว่าศักยภาพนั้นถูกกำหนดโดยสวรรค์ ไฉนเลยจะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ นางตามหาอยู่หลายร้อยปีกลับไม่ได้อะไรเลย

ยามนั้น นางร่วงจากขอบเขตมหาจักรพรรดิลงมาแล้ว

นางอยากถอดใจ อยากบรรจุกระดูกจักรพรรดิกลับมา

แต่ในตอนนั้นเอง นางได้ยินข่าวลือเรื่องหนึ่ง ว่ากันว่าในทะเลต้องห้ามมีดอกจื่อจี๋ซึ่งถือกำเนิดจากพลังปราณฟ้าดิน หลังนำไปหลอมละลายแล้วจักสามารถชำระเอ็นล้างกระดูก ฝืนกฎสวรรค์เปลี่ยนชะตาชีวิต!

สุดท้ายนางจึงตัดสินใจเข้าไปเสี่ยงที่ทะเลต้องห้าม!

เป้าหมายของนางนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ต้องการติดอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ และไม่ต้องการหวังพึ่งกระดูกจักรพรรดินี้ไปตลอด!

“ข้าเข้าไปถึงทะเลต้องห้าม ได้พบสิ่งมีชีวิตในทะเลต้องห้าม ถึงได้รู้ว่าดอกจื่อจี๋ที่ว่าเป็นเพียงข่าวลือ เป็นสิ่งที่มนุษย์จินตนาการขึ้นมาเอง!”

ศักยภาพนั้นยากจะเปลี่ยนแปลง ในปฐพีนี้ไม่มีสมบัติล้ำค่าเยี่ยงนั้น มนุษย์จึงจินตนาการดอกจื่อจี๋ขึ้นมา เก้าแดนต้องห้ามลึกล้ำเกินหยั่ง น่ากลัวเหลือคณา มนุษย์จึงคิดว่าสมบัติล้ำค่าในปฐพีนี้ต้องอยู่ในแดนต้องห้าม

“แม้ว่าดอกจื่อจี๋ไม่มีอยู่จริง แต่ข้าก็ได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตน! ทะเลต้องห้ามมีวิชาลับบางอย่าง ช่วยให้ข้าสามารถสลับศักยภาพของผู้อื่น!”

นางลักพาตัวธิดาสวรรค์ระบือนามในยุคนั้น พาตัวกลับไปยังทะเลต้องห้าม ยืมพลังวิชาลับของทะเลต้อมห้ามจนเปลี่ยนแปลงศักยภาพของนางได้สำเร็จ!

แน่นอนว่าทะเลต้องห้ามมิได้ช่วยเหลือนางเปล่า ๆ ทะเลต้องห้ามมีข้อตกลงกับนางว่า ตราบชั่วชีวิตของนางจักต้องเชื่อฟังทะเลต้องห้าม

“นี่คือเหตุผลที่ต่อมาข้ากลายเป็นตำนานมหัศจรรย์ยิ่งกว่ายามข้าได้ครอบครองกระดูกจักรพรรดิเสียอีก!”

จักรพรรดิบุปผามองหลิงอินพลางตวาด “กระดูกจักรพรรดิธรรมชาติเนรมิตอัศจรรย์ปานใด หลังจากข้าละทิ้งกระดูกจักรพรรดินั้นแล้วกลับทรงพลังน่าทึ่งยิ่งกว่าครั้งครอบครองกระดูกจักรพรรดิเสียอีก หากมิได้รับแรงสนับสนุนจากทะเลต้องห้าม มีหรือที่ข้าสามารถทำได้ถึงขั้นนี้! คราวนี้เจ้าเชื่อได้หรือยัง!”

“เจ้าช่างน่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน เดิมคิดว่าความสำเร็จในตอนหลังของเจ้าเกิดจากฝีมือของเจ้าเอง หารู้ไม่ว่าทั้งหมดนี้เจ้าก็ยังขโมยจากผู้อื่นมาตามเดิม!”

หลิงอินชิงชังอย่างยิ่ง

หลังนางได้รู้ว่าจักรพรรดิบุปผาสละกระดูกจักรพรรดิไปแล้วแต่ยังมีพลังน่าทึ่งถึงเพียงนี้ก็นึกประหลาดใจ คิดว่าไม่ควรเป็นเช่นนี้

บัดนี้ทุกอย่างแจ่มชัดแล้ว

ทั้งชีวิตของจักรพรรดิบุปผาล้วนมีที่มาจากการลักขโมย ตัวนางเองหาได้มีความสามารถไม่!

“ชั่วช้าสามานย์ ยิ่งไม่อาจละเว้นโทษเจ้าได้!”

หลิงอินดึงคันยิงศรออกไปอีกครั้ง

จักรพรรดิบุปผาอารามร้อนใจ รีบเอ่ยขึ้น “โลงศพหิน ของเหลวสีดำ เหตุผลที่ต่อมาข้าเปลี่ยนไปจนน่าทึ่งและเป็นตำนานยิ่งกว่าเดิม เท่านี้ยังไม่พอให้เจ้าเชื่ออีกหรือว่าข้ามีความเกี่ยวข้องกับทะเลต้องห้าม”

“ผู้ใดบอกว่าข้าไม่เชื่อ?”

หลิงอินหัวเราะเสียงเย็น จิตสังหารพลุ่งพล่านล้นฟ้า “ข้าบอกไปแล้ว ทะเลต้องห้ามคุ้มหัวเจ้าไม่ได้!”

“เจ้ายอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อผู้ที่ตายสนิทไปแล้วช้านานเช่นนี้คุ้มแล้วหรือ!?”

จักรพรรดิบุปผาคำราม

“คุ้ม!”

สายตาหลิงอินแน่วแน่ ต่อให้เบื้องหลังของนางไม่มีท่านเซียน ต่อให้ทะเลต้องห้ามจักเอาชีวิตของนาง นางก็ไม่มีทางปล่อยจักรพรรดิบุปผาไปเด็ดขาด นางจักล้างแค้นแทนเสี่ยวหยาให้ได้!

พรวด พรวด พรวด!

เลือดสาดกระเซ็น จักรพรรดิบุปผาเริ่มต้านไม่ไหว บาดแผลเริ่มปรากฏบนตัวนาง พลังปราณก็อ่อนแรงเรื่อย ๆ

หลิงอินตาเป็นประกาย เพิ่มพลังโจมตีให้หนักข้อขึ้น หมายจะกำราบจักรพรรดิบุปผาให้ได้อย่างอดรนทนไม่ไหว แล้วให้จักรพรรดิบุปผาประสบความเจ็บปวดเฉกเช่นเดียวกับที่เสี่ยวหยาต้องเจอในครานั้น!

นางไม่มีทางยอมปล่อยจักรพรรดิบุปผาไปง่าย ๆ จักให้จักรพรรดิบุปผาต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท