ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 338 เป็นแขก(ปลาย)

ตอนที่ 338 เป็นแขก(ปลาย)

บรรยากาศ​เหมือน​ทุกครั้ง​ ​เยี​่​ยน​หรง​ยก​เก้าอี้​เข้ามา​วางหน้า​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​ ​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​นั่งลง

สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถูก​เลือก​ให้​เป็น​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ฟัง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่ได้​คิด​อะไร​ ​เงียบ​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​เลือก​สกุลจัว​และ​สกุล​หลี​่​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่ใช่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เป็น​แม่สื่อ​ให้​เซ่าจ​้ง​หราน​ให้​นาง​ฟัง​ ​“​…​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​แม้แต่​ข้า​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​ไม่เหมาะสม​ ​ดังนั้น​จึง​อยาก​ปฏิเสธ​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​”​ ​จากนั้น​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​บังเอิญ​เจอ​กับ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​เรื่อง​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​มา​เป็น​แม่สื่อ​อีกครั้ง​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ฟัง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​พลัน​จับ​กระโปรง​ของ​สือ​อี​เหนียง​แน่น​ ​“​เช่นนั้น​จะ​ทำ​อย่างไร​”​ ​นาง​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​คงจะ​ไม่​พูด​อะไร​เหลวไหล​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่​หรอก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​กังวล​เรื่อง​พวก​นี้​ ​“​หาก​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​มี​ความคิด​เช่นนั้น​ ​ก็​คง​ไม่​มา​พูด​กับ​ข้า​เช่นนี้​ ​นาง​แค่​อยาก​จะ​เชิญ​แม่สื่อ​มาสู่​ขอ​อย่างเป็นทางการ​ ​ก่อนที่จะ​เกิดเรื่อง​พัด​ขึ้น​ ​สถานะ​ของ​เซ่าจ​้ง​หรา​นก​็​ถือว่า​เหมาะสม​ ​หาก​ท่าน​โหว​เห็นแก่​สถานการณ์​โดยรวม​ ​เขา​คงจะ​ตอบ​ตกลง​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่​เป็นกังวล​ ​เมื่อ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​สือ​อี​เหนียง​เฉยเมย​ต่อ​อี๋​เหนียง​สอง​สาม​คน​มาต​ลอด​ ​ไม่สนิท​สนม​กับ​ใคร​เป็นพิเศษ​ ​แล้วก็​ไม่​ห่างเหิน​กับ​ใคร​เป็นพิเศษ​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีกลิ่น​อาย​ของ​ความ​น่าเคารพ​ที่​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​เข้าใกล้​ ​ดังนั้น​เมื่อ​ตน​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูดจา​กับ​ตัวเอง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ต้องการ​อยาก​จะ​ปรึกษาหารือ​ ​ก็​คิด​เพียง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มีเรื่อง​ที่​เกี่ยวกับ​บัญชี​ให้​ตน​ช่วย​ ​แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ ​นาง​แค่​อยาก​จะ​พูด​เรื่อง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​ตน​เท่านั้น

นาง​รู้สึก​อุ่นใจ​ขึ้น​มา​ ​แต่​เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​อนาคต​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​และ​สอง​วันก่อน​พี่สะใภ้​สาม​ส่งจดหมาย​มาถาม​เรื่อง​การ​แต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ความ​อุ่นใจ​นั้น​ก็​หายวับ​ไป​อย่างรวดเร็ว

“​เช่นนั้น​ท่าน​คิด​ว่า​?​”​ ​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​ระมัดระวัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​กลับ​เรือน​ทั้งคืน​ ​ต่อมา​ก็​เผา​จดหมาย​ที่​หลิน​ปัว​นำมา​ให้​ต่อหน้า​นาง​ ​ท่ามกลาง​สถานการณ์​เช่นนี้​ยัง​หา​เวลา​ไป​เจอ​กับ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ให้ความสำคัญ​กับ​งานแต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็นอย่างมาก

สิ่ง​นี้​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบายใจ

ความรัก​ของ​ชาย​หญิง​ราวกับ​น้ำดื่ม​ ​เย็น​หรือ​อุ่น​ตัวเอง​รู้อยู่แก่ใจ​ ​คนอื่น​ไม่​สามารถ​รู้สึก​หรือ​มา​แทนที่​ได้​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​บน​โลก​ใบ​นี้​ก็​คงจะ​ไม่มี​ชาย​หญิง​ที่​จม​อยู่​ใน​ความรัก​และ​ความเกลียดชัง​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​หรือว่า​หลี​่​จี้​ ​ก็​ล้วนแต่​เป็น​ดอกไม้​ใน​สายตา​ของ​ทุกคน​ ​นาง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​ดี​ ​แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เล่า

นาง​ชอบ​ผู้ชาย​แบบ​ไหน​กัน

นาง​ยินดี​ที่จะ​อยู่​อย่างสงบ​สุข​กับ​สามี​และ​ลูก​ไป​ตลอดชีวิต​?​ ​หรือว่า​ยินดี​ที่จะ​อดทน​กับ​ความ​เดียวดาย​แต่​กลายเป็น​สตรีที​่​อยู่​เบื้องหลัง​บุรุษ​ที่​ประสบความสำเร็จ​?​ ​ไม่มีใคร​รู้​ ​และ​เรื่อง​นี้​ตน​ก็​พูด​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่ได้​ ​หนึ่ง​คือ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยัง​เด็ก​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​นาง​ยัง​ไม่เข้าใจ​ ​สอง​คือ​มัน​ไม่เหมาะสม​ ​ตน​ไม่​อยาก​ทำลาย​ความรู้​และ​ความเข้าใจ​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้รับ​มา

“​เมื่อวาน​ท่าน​โหว​ไป​เจอ​เซ่าจ​้ง​หรา​นมา​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เขา​ก็​บอกว่า​หน้าตา​เหมาะสม​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​ ​แต่​ทำ​อะไร​ไม่​หนักแน่น​สุขุม​เหมือน​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​ ​บอก​ให้​ข้า​หา​เวลา​ไป​เจอ​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​”

การ​แต่งงาน​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​เหมาะสม​กัน​ ​หาก​ไม่พอใจ​เรื่อง​สถานะ​และ​ภูมิหลัง​ของ​ครอบครัว​ของ​ฝ่าย​ชาย​ก็​สามารถ​ปฏิเสธ​ได้​ ​เมื่อมา​ถึงขั้น​ที่​ต้อง​เจอ​หน้า​กัน​ ​ขั้นตอน​นี้​ก็​คือ​การ​เลือก​เด็ก​ ​แต่ว่า​มัน​คือ​การ​เจอกัน​แค่​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​ปกติ​แล้วจึง​ต้อง​แสดง​ด้าน​ที่​ดีที​่​สุด​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​จะ​มีข้อบกพร่อง​ทาง​ร่างกาย​หรือ​มีนิ​สัย​ที่​ซุกซน​จริงๆ​ ​ไม่เช่นนั้น​ก็​ยาก​ที่จะ​มองออก​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่เคย​เจอ​กับ​หลี​่​จี้​ ​แต่​นาง​เคย​เจอ​กับ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​เมื่อ​พิจารณา​จาก​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​เซ่าจ​้ง​หรา​นอาจ​จะ​หน้าตา​ดีกว่า​หลี​่​จี้​ ​แต่​การ​วางตัว​ต่อ​คนอื่น​อาจจะ​ใจเย็น​ไม่​เท่า​หลี​่​จี้​ ​และ​สาเหตุ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถูกใจ​หลี​่​จี้​ก็​เพราะ​ความสามารถ​ของ​หลี​่​จี้​ ​ไม่ใช่​เพราะ​ภูมิหลัง​ของ​เขา​ ​หาก​นาง​ได้​เจอ​เขา​ ​นาง​ก็​คงจะ​ไม่​สงสัย​อะไร​อีก​กระมัง​

ลูกสะใภ้​ต้อง​เชื่อฟัง​แม่​สามี​ ​ผู้ชาย​มี​อนุภรรยา​คือ​สัญลักษณ์​ความเจริญรุ่งเรือง​ของ​ตระกูล​ ​และ​เป็นการ​แสดงว่า​ตัวเอง​นั้น​มี​ความสามารถ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ทำไม​นักปราชญ์​ที่​ทน​ลำบาก​มาตั​้ง​สิบ​ปี​ ​หลังจากที่​ได้รับ​การ​เสนอชื่อ​เข้า​ชิงตำแหน่ง​ใหญ่โต​แล้ว​ ​เรื่อง​แรก​ที่​พวกเขา​ทำ​ก็​คือ​รับ​อนุภรรยา​?​ ​แต่​ทำไม​ปัญหา​ของ​ภรรยา​เอก​หรือ​ปัญหา​ของ​อนุภรรยา​กลับ​ไม่ใช่​ปัญหา​ใน​สายตา​ของ​ผู้ชาย​ ​พูด​ออกมา​มัน​อาจจะ​ทำให้​ผู้คน​คิด​ว่า​มันต​ลก​ ​แต่​ ​การ​ตีค่า​ตระกูล​และ​ภูมิหลัง​ของ​ครอบครัว​กลับเป็น​เรื่อง​ที่​ถูก​ยอมรับ​ได้มา​กก​ว่า

เรื่อง​พวก​นี้​ผู้ชาย​ไม่มีทาง​เข้าใจ​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​ผู้หญิง​ที่​ขลุก​ตัว​อยู่​กับ​ผู้ใหญ่​ทุกวัน​ ​เรื่อง​นี้​คือ​ปัญหา​ใหญ่​ ​หลีกเลี่ยง​ได้​ก็​ควร​หลีกเลี่ยง​

หลักการ​พวก​นี้​ ​แน่นอน​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้อยู่​แล้ว

สีหน้า​ของ​นาง​สับสน

คนใน​สกุล​สวี​ล้วนแต่​ดูถูก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​เป็น​เพราะ​การ​ยกย่อง​สกุล​นักปราชญ์​และ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ตระกูล​พ่อค้า​ที่​ถูก​ปลูกฝัง​มาตั​้ง​แต่​ใน​อดีต​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ไม่มีความคิด​เช่นนี้​ ​รวมถึง​ช่วงนี้​นาง​ไปมาหาสู่​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​อยู่​บ่อยๆ​ ​เห็น​ว่านาง​ไม่เพียงแต่​ฉลาด​และ​มีไหวพริบ​ ​แล้วยัง​ขยันขันแข็ง​ ​ตั้งใจ​ ​ซื่อสัตย์​และ​รักษาคำพูด​ ​มีคุณ​สมบัติ​ของ​การ​เป็น​ผู้จัดการ​ชั้นสูง​ ​เมื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่าการ​กระทำ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทำให้​นาง​คุ้นเคย​และ​เข้าใจ​มากกว่า​

“​ข้า​เห็น​ว่า​คุณชาย​เซ่า​คน​นั้น​มี​ความสุภาพ​อ่อนโยน​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​บุตรหลาน​สกุล​ขุนนาง​ ​แล้ว​ข้า​ได้ยิน​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พูดถึง​เหตุผล​ที่มา​สู่ขอ​ให้​สกุล​เซ่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​แล้ว​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​ในเมื่อ​เขา​สามารถ​มองเห็น​ความดี​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ผ่าน​เรื่องราว​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​เหล่านี้​ ​ไม่เพียงแต่​เป็น​คน​ใส่ใจ​ ​แต่​ยัง​มีทัศ​นค​ติ​ที่​เป็นมิตร​ใจกว้าง​ต่อ​ผู้อื่น​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​วันนั้น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่งกาย​เรียบง่าย​ ​แล้วยัง​มี​เด็กผู้หญิง​ที่​งดงาม​อย่าง​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ด้วย​ ​หาก​เขา​เป็น​คนที​่​ไม่ดี​ ​คงจะ​คิด​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​เอาใจ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ตระกูล​เป็น​เช่นไร​ก็​สั่งสอน​ลูกหลาน​ออกมา​เช่นนั้น​ ​ข้า​คิด​ว่า​สกุล​เซ่า​คงจะ​เป็น​ตระกูล​ที่​ดี​ ​ต่อมา​ได้ยิน​ท่าน​โหว​พูดถึง​คุณชาย​สกุล​หลี​่​ ​คิด​ว่า​คุณชาย​สกุล​หลี​่​ก็​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​ ​ข้า​จึง​ลังเล​ ​สุภาษิต​ว่า​เอาไว้​ ​คนโง่​เขลา​สาม​คน​ ​หาก​ร่วมแรงร่วมใจ​กัน​ก็​สามารถ​เอาชนะ​ขงเบ้ง​ได้​ ​ข้า​ตัดสินใจ​ไม่ได้​ ​จึง​มาป​รึก​ษา​กับ​เจ้า​ ​เจ้า​มี​ความคิดเห็น​อย่างไร​ ​ก็​พูด​มา​เถิด​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​ลังเล​ที่จะ​พูด

ระหว่าง​พวก​นาง​สอง​คน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​สถานะ​ ​ตำแหน่ง​ ​หรือว่า​อำนาจ​ล้วนแต่​มี​ความแตกต่าง​ ​แล้วยัง​เป็นเรื่อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​หาก​นาง​พูด​อะไร​ออก​ไป​อย่าง​ไม่​คิด​ ​อาจจะ​ทำให้เกิด​ปัญหา​ได้

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​จิบ​ชา​ ​รอ​ให้​นาง​พูด

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​พูด​ขึ้น​อย่าง​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​ ​ให้​ข้า​..​เจอ​กับ​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​ก่อน​ได้​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ด้วย​ความตกใจ​

แต่​สายตา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มี​ความแน่วแน่

“​ข้า​รู้​ว่า​ไม่​ควร​พูด​เช่นนี้​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่กลับ​มี​ความหนักแน่น​ใน​น้ำเสียง​ ​ฟังออก​ว่านาง​ได้​ใคร่ครวญ​คิด​อย่าง​รอบคอบ​แล้ว​ ​“​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​พูด​ออกมา​แล้วก็​ไม่​กลัว​ว่า​ท่าน​จะ​หัวเราะเยาะ​ ​ตอนที่​ข้า​อยู่​ที่​สกุล​เหวิน​ ​ท่าน​ปู่​ชอบ​ข้ามาก​ที่สุด​ ​ตอนนั้น​ข้า​ยัง​เด็ก​ ​มักจะ​อยู่​กับ​ท่าน​ปู่​ตลอด​ ​บางครั้ง​ก็​ออก​ไปดู​ร้าน​กับ​เขา​ ​แล้วยัง​เคย​ไป​จวน​เซ​วี​ยนถ​งค​รั้ง​หนึ่ง​ ​ไม่กล้า​บอกว่า​รู้จัก​ ​แต่​ข้า​เคย​รับคำ​สั่งสอน​ของ​เขา​ ​หาก​ได้​เจอ​กับ​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​ ​ข้า​คงจะ​สบายใจ​ขึ้น​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​อีกครั้ง

อย่างนี้​มัน​ไม่เหมาะสม​จริงๆ​!

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จะ​ไม่รู้​ได้​เช่นไร

นาง​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​ตรงไปตรงมา​ ​“​ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​ ​ทุกวันนี้​ขึ้นอยู่กับ​มนุษย์​ ​แต่​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่ว่า​คน​จะ​ฉลาด​และ​มี​ความสามารถ​มาก​แค่ไหน​ก็​ล้วน​มีด​วง​ชะตา​ ​หาก​เลือก​ถูก​คน​ ​ก็​นับว่า​คือ​โชคชะตา​ที่​ดี​”

สือ​อี​เหนียง​เงียบ

นึกถึง​เรื่อง​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เคย​เจอ

หรือ​นาง​จะ​บอกว่า​โชคชะตา​ไม่​ยุติธรรม​กับ​นาง​เช่นนั้น​หรือ

“​ไม่ว่า​จะ​คุณชาย​เซ่า​หรือว่า​คุณชาย​หลี​่​ ​ล้วนแต่​เป็น​สกุล​ขุนนาง​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​คนที​่​เกิด​จาก​สกุล​เช่นนี้​ ​ตอน​เด็ก​ก็​ต้อง​ฝึก​ประสบการณ์​ที่​ค่ายทหาร​มาก​่อน​ ​แล้ว​ที่​ค่าย​ก็​ไม่​สามารถ​พา​คนใน​ครอบครัว​ไป​ด้วย​…​นอกจาก​จะ​ได้​เป็นรอง​เจ้ากรม​กลาโหม​หรือว่า​อาลักษณ์​”

และ​รอง​เจ้ากรม​กลาโหม​หรือว่า​อาลักษณ์​ล้วนแต่​เป็น​หน้าที่​ของ​ขุนนาง​นักปราชญ์​ ​รอง​เจ้ากรม​คือ​ขุนนาง​ทหาร​ ​อาลักษณ์​คือ​เกียรติยศ

เช่นนั้น​ต้อง​รอ​อีก​กี่​ปี​!

แต่​ทุกคน​ล้วน​มี​จุดบอด​ใน​การ​มอง​ปัญหา

สือ​อี​เหนียง​ตัดสินใจ​หาวิ​ธี​พา​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​เจอ​กับ​เซ่าจ​้ง​หราน​และ​หลี​่​จี้​ทันที

นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​แอบ​ไป​เจอ​คุณชาย​เซ่า​ยัง​พอคิด​หาวิ​ธี​ได้​ ​แต่​แอบ​ไป​เจอ​คุณชาย​หลี​่​…​”​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​ใบหน้า​ของ​หลี​่ฮู​หยิน​ ​“​คงจะ​ไม่​ง่าย​”

เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ตำหนิ​ที่นา​งคิ​ดอะ​ไร​แปลก​ๆ​ ​แบบนี้​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็ดี​ใจ​ ​แต่​หลังจากนั้น​ก็​เป็นกังวล​ ​“​เช่นนั้น​…​เช่นนั้น​จะ​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​คิดไม่ออก

“​ถ้าอย่างนั้น​เรา​แอบ​ไป​เจอ​คุณชาย​เซ่า​ก่อน​ ​ส่วน​คุณชาย​หลี​่​…​ค่อย​คิด​อีกที​”

มัน​คงจะ​ดี​ว่าการ​นั่ง​กังวล​อยู่​แบบนี้

สือ​อี​เหนียง​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลี​่​ ​บอกว่า​อยาก​ให้​คุณชาย​เซ่า​วาดภาพ​ดอก​ซ่อนกลิ่น​ให้​ข้า​ ​พรุ่งนี้​ยาม​บ่าย​ข้า​จะ​ไปรับ​ภาพ​ด้วยตัวเอง​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​มี​เวลา​หรือไม่​”

หู่​พั่ว​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​สอง​ก้านธูป​ ​นาง​ก็​กลับมา​รายงาน​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​บอกว่า​ ​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​ไปรับ​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​ลุกขึ้น​เอ่ย​ขอตัว​ลา

ชิว​หง​เห็น​ว่านาง​ท่าทาง​ดีอกดีใจ​ ​จึง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เมื่อ​ครู่​คุณนาย​สาม​ส่ง​คน​มา​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​ ​มาถาม​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​ตอนนี้​กิจการ​ของ​สกุล​เหวิน​เติบโต​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เงิน​ก็​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​หาก​เรื่อง​แต่งงาน​สำเร็จ​ ​ฝั่ง​ชาย​สัญญา​ว่า​จะ​มอบ​เงิน​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ให้​สกุล​เหวิน​เป็นเวลา​หนึ่ง​ปี​โดย​ไม่มี​ดอกเบี้ย​ ​เช่นนี้​ ​เงิน​หนึ่ง​แสน​แปด​หมื่น​ตำลึง​ที่​ติดค้าง​ท่าน​อยู่​ก็​จะ​คืนให้​ท่าน​ทันที​เจ้าค่ะ​!​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ ​ขัดจังหวะ​พูด​ของ​ชิว​หง​ ​“​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีกต่อไป​ ​ไม่ว่า​สกุล​เหวิน​จะ​ยากจน​แค่ไหน​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​ขาดแคลน​เงิน​หนึ่ง​แสน​แปด​หมื่น​ตำลึง​ของ​ข้า​ ​หาก​พวกเขา​พูดถึง​แค่​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​ ​ข้า​เกรง​ว่ายัง​จะ​คิด​ว่า​พวกเขา​มี​ความจริงใจ​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ตอนนี้​กลับ​พูด​สอง​เรื่อง​นี้​ด้วยกัน​ ​พวกเขา​ต้องการ​อะไร​ ​ถึงแม้​ข้า​จะ​เป็น​คนตาบอด​ก็​ยัง​มองออก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เดิมที​ข้า​เห็น​ว่าฮู​หยิน​ไม่ธรรมดา​ ​กลัว​ว่านาง​จะ​ขัดขวาง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​…​”​ ​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​ ​“​แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ ​นาง​เป็น​คน​แยกแยะ​ออก​ ​เป็นมิตร​ง่าย​!​”

ชิว​หง​ได้ยิน​นาง​พูดเป็นนัย​ ​นาง​พูด​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“ฮู​หยิน​พูด​อะไร​กับ​ท่าน​หรือ​เจ้า​คะ​”

ถึงแม้​จะ​เห็นอกเห็นใจ​นาง​ ​แต่​เรื่อง​นี้​สำคัญ​เกินไป​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​ไม่​ตอบ​นาง​ ​เพียงแค่​พูด​กับ​ชิว​หง​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​เจ้า​อย่า​ลืม​เขียนจดหมาย​ไป​ให้​คุณนาย​สาม​สกุล​เหวิน​ ​บอกว่า​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​ข้า​ตัดสินใจ​เอง​ไม่ได้​ ​บอก​ให้​นาง​ไปหา​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​แทน​เถิด​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มีทุก​วันนี้​ได้​ ​ก็​เพราะ​สกุล​เหวิน

ชิว​หง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เป็นห่วง​ ​“​หาก​คุณนาย​สาม​…​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​โบกมือ​ขัดจังหวะ​นาง​ ​“​หาก​คุณหนู​ใหญ่​ได้​แต่งงาน​กับ​คนดี​ ​ข้า​ยัง​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่​ต้อง​ร้องขอ​สกุล​เหวิ​นอีก​ ​สำหรับ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหวิน​ ​เจ้า​ทำตาม​ที่​ข้า​บอก​เถิด​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​ชิว​หง​ยิ้ม​หน้าบาน​ ​“​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​เช้า​บ่าว​จะ​ไปรา​ยงา​นคุณ​นาย​สาม​สกุล​เหวิน​เจ้าค่ะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท