ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 339 ต้อนรับแขก(ต้น)

ตอนที่ 339 ต้อนรับแขก(ต้น)

เช้า​วันรุ่งขึ้น​หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​จัดการ​เรื่อง​ใน​เรือน​เสร็จ​เรียบร้อย​ ​ก็​เขียนจดหมาย​ถึง​กานฮู​หยิน​ขอให้​นาง​ช่วย​หา​หมอ​ให้​ชี​เหนียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​พึ่ง​กลับมา​จาก​ห้อง​พระ​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​มาก​็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่เคย​เห็น​คนดู​แล​เรือน​คน​ไหน​ว่าง​เหมือน​เจ้า​เลย​ ​มานั​่ง​เล่น​กับ​ข้า​ได้​ทุกวัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เหล่า​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ต่าง​ก็​มี​ความสามารถ​กัน​ทั้งนั้น​ ​ย่อม​ไม่มี​อะไร​ให้​ข้า​ทำ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ช่วย​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​นั่ง​บน​เก้าอี้​และ​บอก​ไท่ฮู​หยิน​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่จะ​ไป​สกุล​หลิน​ใน​ช่วง​บ่าย

ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​สนใจ​ ​เพียงแต่​ถาม​นาง​ว่า​จะ​กลับมา​ทานข้าว​เย็น​หรือไม่

“​ข้า​จะ​กลับมา​ทานข้าว​เย็น​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​เพียงแค่​ไป​เอา​ภาพวาด​มา​เท่านั้น​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​ถามถึง​การจัดเตรียม​งานเลี้ยงต้อนรับ​นาย​หญิง​เจียง

สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ทีละ​คำถาม​ ​ทานข้าว​เที่ยง​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ปรนนิบัติ​ไท่ฮู​หยิน​พักผ่อน​แล้ว​ค่อย​กลับ​เรือน

กำชับ​สาวใช้​น้อย​ให้​ไป​เชิญ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ส่วนตัว​เอง​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ที่​ห้อง​ชำระ​ ​พอ​ออกมา​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​รอ​อยู่​ใน​ห้อง​แล้ว

นาง​สวม​เสื้อคลุม​ผ้าไหม​แก้วสี​เงิน​ ​สวม​กระโปรง​ผ้าไหม​หังโจว​สีฟ้า​อ่อน​ ​ผม​ของ​นาง​ถูก​หวี​อย่างเป็นระเบียบ​แล้ว​เกล้า​ขึ้น​ ​ปักปิ่น​ปัก​ผม​ชุบ​สีทอง​ดู​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อคลุม​ผ้าไหม​แก้วสีขาว​ดอก​บ๊วย​ ​สวม​กระโปรง​ผ้าไหม​หังโจว​สีชมพู​ลูก​ท้อ​ ​มวยผม​สูง​ ​ปักปิ่น​หงส์​สีทอง​ ​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​ปกติ​เวลา​อยู่​ที่​เรือน​สือ​อี​เหนียง​จะ​แต่งตัว​เรียบง่าย​ ​นาง​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​แต่งตัว​ไป​เยี่ยม​ญาติ​ที่​สกุล​หลิน​เหมือนกับ​ที่​แต่ง​ตามปกติ​ ​ดังนั้น​จึง​ตั้งใจ​แต่งตัว​เพื่อ​ที่​เวลา​ยืน​อยู่​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​จะ​ได้​ไม่​ดู​โดดเด่น​จน​เกินไป

สือ​อี​เหนียง​แค่​รู้สึก​ว่าวั​นนี​้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดู​เรียบง่าย​เป็นพิเศษ​ ​แม้แต่​ต่างหู​อลังการ​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​นาง​ ​วันนี้​ก็​เปลี่ยนเป็น​ต่างหู​เงิน​เล็ก​ๆ​ ​ธรรมดา​

คง​เพราะ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ไป​สกุล​หลิน​กระมัง

นาง​ครุ่นคิด

การปิดบัง​ความ​โง่เขลา​ของ​ตัวเอง​มัก​ดีกว่า​การ​ทำให้​ตัวเอง​โดดเด่น​อย่างไร​้​เหตุผล​

ทั้งสอง​คน​เดินทาง​ไป​สกุล​หลิน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ที่​เห็น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ต้อนรับ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​เรือน​หลัก​อย่าง​เงียบๆ​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยืน​ก้มหน้าก้มตา​อยู่​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง​ ​ท่าทาง​นอบน้อม​เหมือนกับ​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูดคุย​กัน​ไม่​กี่​คำ​ ​จากนั้น​เซ่าจ​้ง​หรา​นก​็​มาถึง​

สือ​อี​เหนียง​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มองดู​เขา​อยู่​หลังฉาก​กั้น

เมื่อ​ได้​มองดู​ใกล้​ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​เซ่าจ​้ง​หรา​นนั​้น​สดใส​และ​อบอุ่น

ทุกคน​ใน​สกุล​เซ่า​ได้​ย้าย​มา​อยู่​ใน​จวน​ที่​ซื้อ​ใหม่​แล้ว​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เอ่ย​ถาม​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​“​จวน​ใหม่​อยู่สบาย​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ

เมื่อ​เซ่าจ​้ง​หราน​จากไป​แล้ว​ ​นาง​ก็​ส่ง​ภาพวาด​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ใช้ได้​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอ​ข้า​นำ​กลับ​ไปดู​ก่อน​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ไม่ได้​ถาม​อะไร​อีก​ ​นาง​เล่าเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ใน​เรือน​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​กล่าว​ลา

​“​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​นาง​ถาม​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ขณะ​อยู่​บน​รถม้า

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พึมพำ​ ​“​คุณชาย​เซ่า​มีมา​รยา​ทยิ​่ง​นัก​ ​รู้จัก​การ​วางตัว​ ​เวลา​ยิ้ม​ก็​ดู​สดใส​ราวกับ​นก​โบยบิน​ก็​ไม่​ปาน​ ​ไม่​เหมือนว่า​ปกปิด​อะไร​เอาไว้​”

หรือ​จะ​บอกว่า​นาง​คิด​ว่านี​่​เป็นนิสัย​ที่แท้​จริง​ของ​เขา​!

“​พวกเรา​คง​ออก​ไป​ไม่ได้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ผู้บัญชาการ​หลี​่​ไม่อยู่​เรือน​ ​ต่อให้​ท่าน​โหว​ออกหน้า​ก็​ต้อง​มีเหตุผล​ที่​เป็นทางการ​จึง​จะ​เหมาะสม​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้​ว่านา​งกำ​ลัง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​ไป​พบ​คุณชาย​หลี​่​จึง​อด​ปวดหัว​ขึ้น​มา​ไม่ได้

ทั้งสอง​คน​เงียบ​ไป​ใน​ชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อ​กลับมา​ถึง​เรือน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็ตาม​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​นั่ง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​อยู่​กับ​ปินจ​วี​๋​ ​ภายใต้​แสงอาทิตย์​ยาม​อัสดง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​สงบนิ่ง​ ​งดงาม​ดุจ​ไข่มุก

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เดิน​มา​พร้อมกัน​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​เดิน​เข้าไป​คำนับ

สือ​อี​เหนียง​ถาม​ปินจ​วี​๋​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​กลับมา​อีก​หรือ​”

“​ยัง​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​ปินจ​วี​๋​ตอบ​อย่างนอบน้อม

สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​หลัก

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เดินตาม​มา​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​เคร่งขรึม​เล็กน้อย​ ​จึง​พูด​ปลอบใจ​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​กังวล​ ​เมื่อก่อน​ท่าน​โหวก​็​เคย​ไม่​กลับ​จวน​ ​ส่วนใหญ่​มักจะ​เป็น​เพราะ​มีเรื่อง​ด่วน​ใน​ราชสำนัก​…​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ​ใบหน้า​ของ​ทั้งสอง​ก็​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความประหลาดใจ

“​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ตอบกลับ​เพราะ​เกรง​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จะ​พูด​ประโยค​ทำนอง​นี้​ขึ้น​มา​อีก​ ​แล้ว​พูด​อีกว่า​ ​“​เรื่อง​คุณชาย​หลี​่​คง​ต้อง​รอ​ให้ท่าน​โหวก​ลับ​มาก​่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​คน​สกุล​หลี​่​รอ​ข่าว​จาก​พวกเรา​อยู่​ตลอด​ ​หาก​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​แล้ว​เกิด​ความเข้าใจผิด​จะ​ทำให้​ลำบาก​ ​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​ไม่อยู่​เรือน​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​กลับ​ไป​ก่อน​เถิด​”

ก่อนหน้านี้​แววตา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความไม่สบายใจ​ ​แต่​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​กลับคืน​สู่​ท่าทาง​ปกติ​ ​ยิ้ม​พลาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

หลังจากนั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​ตอนกลางคืน

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​สีหน้า​นาง​ออก​อย่างชัดเจน​แต่กลับ​ไม่มี​คำอธิบาย​ใดๆ​

สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ใน​วันนี้​ให้​เขา​ฟัง

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ก็​ตกใจ​แล้ว​ถาม​ต่อว่า​ ​“​แล้ว​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​เล่า​คำพูด​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่ใหญ่

สือ​อี​เหนียง​ลอง​เสนอ​ให้​เขา​นัดพบ​หลี​่​จี้

“​ข้า​จะ​ลองดู​”​ ​เขา​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ลังเล

บ่าย​วัน​ต่อมา​ ​ในขณะที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​สั่ง​รายการอาหาร​ใน​งานเลี้ยง​กับ​ป้า​หลี​ที่​ดูแล​ห้องครัว​ ​หลิน​ปัว​ก็​วิ่ง​พรวด​เข้ามา​อย่างรวดเร็ว​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​เชิญ​ท่าน​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​คุย​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​เรียก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ทั้งสอง​คน​พบกัน​ที่​ศาลา​ปี้​อี​แล้วไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​ด้วยกัน

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ประตู​เก๋อ​ซ่าน​ที่​ห้องรับแขก​ถูก​เปิดกว้าง​ ​เมื่อ​เข้าไป​จะ​เห็น​บรรยากาศ​ใน​ห้องโถง​ได้​อย่างชัดเจน

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​ด้านหน้า​มี​เด็กหนุ่ม​สวม​เสื้อ​สีเขียว​ยืน​อยู่

ความสูง​ของ​เขา​พอ​ๆ​ ​กัน​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ร่างกาย​ผอมบาง​ตาม​วัย​ของ​เด็กหนุ่ม

เด็กหนุ่ม​คน​นี้​น่าจะเป็น​หลี​่​จี้

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​เล็กน้อย

อย่า​บอก​นะ​ว่า​จะ​ให้​เดิน​เข้าไป​โต้งๆ​ ​เช่นนี้​?

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ก็​เห็น​หลิน​ปัว​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​คำนับ​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​มา​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​ยืน​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เด็กหนุ่ม​ชุด​เขียว​เบี่ยง​ตัว​หลบ​ถอย​ไป​หลาย​ก้าว​ ​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ ​ยืน​อย่างนอบน้อม​อยู่​ข้าง​เสา​สีดำ

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​จึง​เดิน​เข้าไป​ ​แต่​สายตา​กลับ​เหลือบมอง​หลี​่​จี้​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ไม่​รอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ยปาก​นาง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​โหว​มี​แขก​ ​ขอ​ท่าน​โหว​โปรด​อภัย​ด้วย​เจ้าค่ะ​ ​เพราะ​มีเรื่อง​ด่วน​ต้อง​ขอให้​ท่าน​โหวตัด​สิน​ ​จึง​เดิน​เข้ามา​โดยพลการ​”​ ​พูด​จบ​ก็​ยื่น​รายการอาหาร​ที่​ป้า​หลี​เขียน​เมื่อ​ครู่​ให้​เขา

คง​บอก​ไม่ได้​ว่า​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรียก​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​รายการอาหาร​มา​ ​แนะนำ​หลี​่​จี้​ให้​สือ​อี​เหนียง​รู้จัก​ ​“​บุตรชาย​คน​รอง​ของ​ผู้บัญชาการ​หลี​่​นาม​ว่า​หลี​่​จี้​”

เขา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ ​ดู​สง่างาม​สุขุม

“​คุณชาย​หลี​่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ทักทาย​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ลอบ​สำรวจ​ใบหน้า​ของ​เขา

ผิวพรรณ​ขาวผ่อง​ ​คิ้ว​เรียว​ยาว​ ​จมูกโด่ง​ ​รูปลักษณ์​ไม่​ด้อย​ไป​กว่า​เซ่าจ​้ง​หราน​เลย​ ​แต่​บุคลิก​ของ​ทั้งสอง​คน​แตกต่าง​กัน​อย่างมาก​ ​นาง​สามารถ​มองเห็น​มุม​ที่​เป็นธรรมชาติ​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน​ได้​ ​แต่​หลี​่​จี้​ที่​อายุ​ยังน้อย​กลับ​ดู​เก็บตัว​มาก​ ​ขาด​ลักษณะเฉพาะ​ตัว​ไป​บ้าง​ ​ดังนั้น​ดูแล​้ว​ไม่​โดดเด่น​เท่า​เซ่าจ​้ง​หราน

เขา​โค้ง​คำนับ

สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยังคง​ต้อง​รักษา​สถานะ​ของ​อนุภรรยา​จึง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​อย่าง​เงียบๆ​

สือ​อี​เหนียง​อด​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​ดูรา​ยกา​รอา​หาร​อย่างตั้งใจ​ไม่ได้​ ​“​ทำไม​ท่าน​ถึง​เรียก​คุณชาย​หลี​่​มา​ได้​ ​ใช้​ข้ออ้าง​อะไร​หรือ​เจ้าค่ะ​”

สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับจ้อง​ไป​ที่​รายการอาหาร​พลาง​ตอบ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​เป็น​ผู้บัญชาการ​หลี​่​ที่​เขียนจดหมาย​ถึง​ข้า​ ​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​ข้า​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ใน​ราชสำนัก​ ​จึง​ตั้งใจ​ส่ง​คุณชาย​หลี​่​มา​พบ​ข้า​โดยเฉพาะ​”

สือ​อี​เหนียง​ถาม​อย่าง​มีนัย​ยะ​ว่า​ ​“​ผู้บัญชาการ​หลี​่​มักจะ​เขียนจดหมาย​ถึง​ท่าน​เพื่อ​หารือ​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ใน​ราชสำนัก​หรือ​”

“​ไม่ใช่​เช่นนั้น​หรอก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​อย่าง​มีนัย​ยะ​ว่า​ ​“​บางครั้ง​คนเรา​ก็​ต้อง​ใช้​วิธีการ​บางอย่าง​”​ ​จากนั้น​ก็​หารือ​กับ​นาง​เกี่ยวกับ​รายการอาหาร​ ​“​อาหารเจี​ยง​ซีส​่​วน​ใหญ่​มีน​้ำ​มัน​มาก​ ​รสชาติ​จัดจ้าน​และ​เผ็ดร้อน​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​หาวัต​ถุ​ดิบ​มาทำ​ไก่​ตุ๋น​หน่อไม้​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่านี​่​ไม่ใช่​เวลา​มา​พูดคุย​เรื่อง​นี้​ ​จึง​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ตาม​เขา​ ​“​ก็​ไม่รู้​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ทำ​ออกมา​ได้​รสชาติ​เหมือนกับ​คน​ท้องถิ่น​ทำ​หรือไม่​ ​คง​ทำได้​เพียง​ทำให้​ดีที​่​สุด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ทำตาม​นี้​ไป​ก่อน​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​พร้อมกับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​

“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​หลี​่​…​”​ ​เมื่อมา​ถึง​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​เอ่ย​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​คุณชาย​หลี​่​ไม่ได้​มอง​ท่าน​กับ​ท่าน​โหว​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แต่กลับ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​โดย​ไม่​ขยับตัว​เลย​แม้แต่น้อย​”

โดยทั่วไปแล้ว​ ​คนที​่​อยากรู้อยากเห็น​มักจะ​ชอบ​มอง​สิ่งแปลกใหม่​ที่เกิด​ขึ้น​รอบ​ๆ​ ​ตัว​พวกเขา

“​ถึงแม้ว่า​คุณชาย​หลี​่​จะ​อายุ​เพียง​สิบ​หก​ปี​ ​แต่​คาด​ว่า​เขา​คงมี​ความอดทน​สูง​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความเป็นห่วง

“​เจ้า​คิด​ว่า​ไม่ดี​หรือ​”

แววตา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ฉายแวว​สับสน​ ​“​บอก​ไม่​ถูก​…​แค่​รู้สึก​ว่า​เขา​สงบนิ่ง​เกินไป​เจ้าค่ะ​”

มาก​ไป​ก็​ไม่เหมาะสม​ ​น้อย​ไป​ก็​ไม่ดี

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​มีความรู้สึก​แบบนี้​เช่นกัน

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​อีกว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​พอใจ​คุณชาย​หลี​่​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​เรื่อง​พวก​นี้​คุย​กัน​ง่าย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทุกสิ่ง​บน​โลก​นี้​ไม่แน่​นอน​ ​ย่อม​หา​ข้อบกพร่อง​มา​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​โหว​ได้​เสมอ​ ​เพียงแค่​ไม่รู้​ว่าการ​ทำ​เช่นนี้​ถูกต้อง​หรือไม่​”​ ​พูด​ด้วย​เสียง​กระซิบ

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เม้ม​ริมฝีปาก​แน่น​ ​ทั้งสอง​เดิน​ไป​ถึง​ศาลา​ปี้​อี

คน​หนึ่ง​ไป​ทาง​ตะวันออก​ ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ไป​ทางตะวันตก​ ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​หนง​เซียง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไม่ได้​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​แต่กลับ​หยุด​ฝีเท้า​ลง

“ฮู​หยิน​ ​ข้าว​่า​ท่าน​ควร​ไป​สืบ​รายละเอียด​ของ​คุณชาย​เซ่า​อย่างละเอียด​ดี​หรือไม่​ ​หาก​เขา​ไม่ใช่​คนที​่​เรา​ต้องการ​ ​ไม่​สู้​พวกเรา​ค่อยๆ​ ​ช่วย​คุณหนู​ใหญ่​หา​คนที​่​เหมาะสม​ใหม่​”

หมายความว่า​ไม่​เลือก​หลี​่​จี้​!

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​กับ​ความเด็ดเดี่ยว​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ใน​เรื่อง​นี้

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​บางครั้ง​ความอบอุ่น​เล็กน้อย​ของ​บุรุษ​ก็​เหมือน​เป็น​พร​แก่​สตรี​ไป​ตลอดชีวิต​”

นี่​นาง​กำลัง​เปรียบเทียบ​กับ​ตัวเอง​อยู่​อย่างนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​ที่​ศาลา​ปี้​อี​อยู่นาน​โดย​ไม่​พูด​อะไร

ต่อมา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เป็น​อย่างไร​ ​เด็ก​สกุล​หลี​่​ผู้​นั้น​ไม่เลว​เลย​ใช่​หรือไม่​”

“​ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​แล้ว​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย

“​ข้า​คิด​ว่า​สกุล​หลี​่​นั้น​ใจร้อน​เกินไป​ ​อีกทั้ง​คุณชาย​หลี​่​ก็​สุขุม​เกินไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​เป็น​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​อื่น​ก็​จะ​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​แต่​วัน​ต่อมา​กลับ​ส่ง​คน​ไป​สืบ​เรื่อง​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​สนใจ​อะไร​มาก​ ​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เปิด​คลัง​เพื่อนำ​เครื่องใช้​ใน​ครัว​ออกมา​ ​แล้ว​ส่ง​ป้า​รับใช้​ผู้ดูแล​ไป​สกุล​เจียง​เพื่อ​ตกลง​เวลา​ที่นาย​หญิง​เจียง​กับ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​จะ​มาถึง​ ​จากนั้น​ก็​ต้อง​ไป​ขอลา​หยุด​หนึ่ง​วัน​กับ​อาจารย์​จ้าว​ ​บอก​จุน​เกอ​เพียงแค่​ว่า​จะ​มี​ญาติ​จาก​ทางไกล​มาหา​ ​เมื่อถึง​วันที่​สิบ​หก​ทุกคน​ก็​ไป​ต้อนรับ​นาย​หญิง​เจียง​กับ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​ด้วย​รอยยิ้ม

นาย​หญิง​เจียง​รูปร่าง​ปานกลาง​ ​มองดู​แล้ว​เหมือน​อายุ​ยี่สิบ​เจ็ด​ยี่สิบ​แปด​ปี​ ​ท่าทาง​สะอาดสะอ้าน​ ​ดวงตา​งดงาม​ดุจ​หงส์​ ​จมูกโด่ง​เป็น​สัน​ ​เวลา​ไม่​ปริปาก​พูด​สีหน้า​ดู​เคร่งขรึม​เล็กน้อย​ ​แต่​เวลา​พูด​นั้น​มี​ลักยิ้ม​ ​ไม่เพียงแต่​ทำให้​นาง​ดู​อ่อนโยน​ ​ทั้ง​ยัง​ดู​ขี้เล่น​ขึ้น​ไม่น้อย​อีกด้วย

คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​มี​ใบหน้า​คล้ายคลึง​กับ​ท่าน​แม่​ของ​นาง​มาก​ ​เพียงแต่​นางอายุ​ยังน้อย​ ​ใบหน้า​อ่อนเยาว์​ ​น่าเอ็นดู​อย่างมาก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท