ตอนที่ 287 หนิงฝานออกมา กระบี่เฉือนขั้นสุด!
หลังจากที่หนิงฝานออกมา สายตาของผู้คนล้วนจ้องมองไปยังร่างของเขา
ท่าทีของทุกคนดูเหมือนกัน เหล่าวังเซียนที่นำโดยจวินเต้าหลินมีท่าทีดูตกใจ ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง
ขณะที่ผู้คนวังมารรวมถึงนิกายเทพโบราณกลับมีสีหน้าหนักอึ้ง โดยเฉพาะผู้คนของวังมารที่ภายในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ดี
แต่พวกเขารู้ดีว่าพลังของหนิงฝานมิใช่ขอบเขตที่จะสามารถวัดได้ ตั้งแต่เรื่องที่กระบี่เล่มเดียวสามารถทำลายฝ่ามือมารลงได้ก็เป็นเรื่องที่พบเจอได้น้อยยิ่งแล้ว
พรึ่บ!
หลังจากที่เขาออกมา ชายหนุ่มก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของจวินเต้าหลินในทันที ก่อนที่จะนำเม็ดยารักษาอาการบาดเจ็บที่ได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ส่งให้อีกฝ่ายกิน
ฟู่ว!
ทันทีที่เม็ดยารักษาอาการบาดเจ็บเข้าไปในปาก อาการบาดเจ็บของจวินเต้าหลินก็ดีขึ้นมาจนพ้นจากขีดอันตราย
“หนิงฝาน…”
จวินเต้าหลินต้องการที่จะพูดบางสิ่ง แต่กลับถูกหนิงฝานห้ามไว้ก่อน “ท่านเจ้าวังลำบากมามากแล้ว ต่อไปให้เป็นหน้าที่ข้าเถิด!”
ได้ยินเช่นนั้น จวินเต้าหลินก็พยักหน้า เขาเชื่อใจหนิงฝานจึงมิได้ถามอะไรให้มากความ
พรึ่บ!
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็หันไปมองโม๋จิ่วโยวและกู่เสินเยว่ นัยน์ตาลึกล้ำคู่นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาอันไร้สิ้นสุด
“หนิงฝาน!!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องมองมา โม๋จิ่วโยวก็ตะโกนขึ้น ภายในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
เดิมที หนิงฝานก็สามารถฆ่าราชาเซียนขั้นสูงได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเขาบรรลุเป็นราชาเซียนในวันนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นราชาเซียนขั้นสุดก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาอีกต่อไป
แน่นอนว่าเขามิได้เกรงกลัวมากจนเกินไป เพราะภายในลานสมรภูมิสัประยุทธ์ไม่ได้มีเพียงเขาที่เป็นราชาเซียนขั้นสุด แต่ยังมีกูเซินเย่ด้วย
หนิงฝานแข็งแกร่งมากขึ้นก็จริง แต่เขาจะสามารถรับมือกับราชาเซียนขั้นสุดสองคนได้หรือไม่?!
เทียบกับโม๋จิ่วโยวแล้ว ใบหน้าของกู่เสินเยว่กลับเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“กระบี่จงมา!”
กับสองคนนี้ หนิงฝานไม่มีอะไรให้พูดมาก เขาเพียงเอ่ยขึ้นเบา ๆ กระบี่ต้าหลัวก็ปรากฏขึ้นในมือ
ตู้มมมม!
เขาสับฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว พลันแสงกระบี่ทลายฟ้าปรากฏขึ้น แล้ววิถีก็พุ่งตรงเข้าใส่โม๋จิ่วโยว
“เคล็ดปีศาจจิ่วโยว!”
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว โม๋จิ่วโยวก็ไม่ประมาท เขาตะโกนขึ้นมา ทั่วร่างกายเดือดพล่านไปด้วยปราณมารที่ท่วมท้นฟ้า ก่อนที่เขาจะผลักมันออกไป พริบตานั้น พลังอันไร้ขอบเขตราวกับทะเลอันบ้าคลั่งก็ม้วนตัวขึ้น
ตู้ม! ฟู่ว!
เมื่อพลังทั้งสองปะทะกันในความว่างเปล่า แสงกระบี่ตัดผ่านพลังทะเลคลั่ง ก่อนจะยังคงพุ่งตรงไปหาโม๋จิ่วโยว!
“โล่ขุนมาร!”
เห็นเช่นนั้นแล้ว ภายในใจของโม๋จิ่วโยวก็บังเกิดความรู้สึกกลัวอย่างอดไม่ได้ เขารีบใช้ออกด้วยโล่มาร พลันตอนนั้นเองก็เกิดขุนเขามารโบราณขวางไว้ด้านหน้าในบัดดล
ตู้มมม!
เมื่อโล่และกระบี่ปะทะกันก็ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณ แต่หลังจากนั้นไม่นาน โล่ขุนมารก็แตกร้าวออกจากกัน
ปัง! ปัง!
ขณะที่พลังของกระบี่สั่นไหว โม๋จิ่วโยวกระอักเลือดออกมาก่อนจะรีบเหาะเหินออกไปพร้อมกับโลหิตเซียนสาดกระเซ็นไปตลอดทาง
“อ๊า!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนที่อยู่ในลานสมรภูมิสัประยุทธ์ต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ
ผู้คนของวังเซียนร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ ขณะที่วังมารและนิกายเทพโบราณกลับถอดสีหน้าด้วยความตกใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าโม๋จิ่วโยวผู้เป็นขอบเขตราชาเซียนขั้นสุดจะไม่สามารถต่อกรกับกระบี่ของหนิงฝานได้
“นี่มัน…!”
แม้แต่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของกู่เสินเยว่ตอนนี้ก็แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน
ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดโม๋จิ่วโยวถึงได้เน้นย้ำถึงความไม่ธรรมดาของหนิงฝานนัก!
คนที่เพิ่งจะทะลวงขั้นเป็นราชาเซียนกลับทำให้ราชาเซียนขั้นสุดล่าถอยไปได้ พลังรบเช่นนี้นับว่าน่าตกใจยิ่งนัก
ฉัวะ!
ขณะที่เหล่าผู้คนกำลังแตกตื่นตกใจ หนิงฝานกลับยกกระบี่ต้าหลัวขึ้น แล้วฟาดฟันไปยังโม๋จิ่วโยวอีกครั้ง
ตู้มมม!
เมื่อกระบี่นี้ปรากฏขึ้น ฟ้าดินพลันแปรเปลี่ยน สุริยันและจันทราคล้ายอับแสง เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มต้องการเอาชีวิตโม๋จิ่วโยวในทันที!
“อ๊าก! กู่เสินเยว่ รีบช่วยข้าเร็ว!”
ตอนนี้ใบหน้าของโม๋จิ่วโยวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่จะร้องขอให้กู่เสินเยว่เข้ามาช่วย
“หึ! ข้าไม่เชื่อว่าผู้ที่เพิ่งทะลวงขั้นเป็นราชาเซียนจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้!”
กู่เสินเยว่พูดขึ้นอย่างเย็นชา แม้จะรู้สึกประหลาดใจในพลังรบของหนิงฝาน แต่กระนั้นก็มิได้สนใจในตัวชายหนุ่มมากนัก อย่างไรแล้ว ขอบเขตราชาเซียนขั้นสุดก็ยังมีการแบ่งความแข็งแกร่งและอ่อนแอ อีกทั้งตัวเขาเองก็อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตราชาเซียนขั้นสุด
ตู้ม!
ทันใดนั้น เขาก็เหวี่ยงกำปั้นออก กำปั้นนั้นราวกับภูเขาสูงใหญ่ มันแหวกอากาศเข้าปะทะกับแสงกระบี่ในแนวนอน!
ตู้มมมม!
เมื่อกำปั้นปะทะเข้ากับแสงกระบี่ ก็บังเกิดเสียงระเบิดดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน จากนั้นแสงกระบี่อันไร้ขอบเขตก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งวังเซียน
ปัง!
เพียงชั่วลมหายใจเดียว ภายในแสงสว่างอันไร้ขอบเขตกลับมีเสียงหนักหน่วงดังขึ้น หลังจากนั้นร่าง ๆ หนึ่งก็ถอยร่นออกไปไกลถึงหลายพันลี้ ทุก ๆ ก้าวราวกับจะบดขยี้ความว่างเปล่า ทำให้เกิดระลอกคลื่นพลังงานอย่างหนักหน่วง
ผู้คนจ้องมองไป มิใช่ใครที่ไหนแต่เป็นกู่เสินเยว่ที่ถูกบีบให้ต้องถอย!
ทั่วร่างของเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง กำปั้นสั่นเทาอย่างมิอาจควบคุมได้ เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บไม่น้อย
“กู่เสินเยว่ เป็นอย่างไรบ้าง!”
เห็นเช่นนั้น โม๋จิ่วโยวก็รีบหายตัวมาหากู่เสินเยว่อย่างรีบร้อน
“บัดซบ!”
“เขามิได้เพิ่งเป็นราชาเซียนหรอกหรือ เหตุใดจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”
สีหน้าของกู่เสินเยว่มืดมนเป็นอย่างมาก ท่าทีไม่แยแสหายไปราวกับเมฆที่กระจายตัว ออก
“เฮ้ย!”
เห็นเช่นนั้นโม๋จิ่วโยวก็ถอนหายใจ ทว่าภายในใจกลับรู้สึกตำหนิอีกฝ่าย
ร้อยปีก่อนเขาเคยเตือนกู่เสินเยว่เอาไว้แล้วว่า หากต้องการทำลายหนิงฝานก็จำต้องเร่งลงมือ ไม่อาจปล่อยเวลาให้อีกฝ่ายได้พัฒนาตนเอง!
ทว่ากู่เสินเยว่กลับคัดค้าน
มาตอนนี้ หนิงฝานพัฒนาตนเองจนมาถึงจุดที่ห้ำหั่นกับราชาเซียนขั้นสุดได้!
อย่างไรก็ตามเรื่องราวมาถึงจุดนี้แล้ว เขาเองก็ไม่มีอะไรให้พูดมากความ ทำได้เพียงกล่าวว่า “เจ้าอย่าได้ตื่นตระหนกไป ต่อให้เขาแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ยังคงเป็นเพียงราชาเซียนขั้นต้น เจ้าและข้าสองคนร่วมมือกันจะต้องสามารถสังหารเขาได้แน่!”
“ผู้ใดตื่นตระหนกกัน!”
กู่เสินเยว่เริ่มบันดาลโทสะมากยิ่งขึ้น แต่กลับมิได้ปฏิเสธคำกล่าวของโม๋จิ่วโยว
ตู้ม! ตู้ม!
เวลาต่อมา กู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวต่างมองตากันและระเบิดพลังของตนเองออกมา แสงเทวะและปราณมารเดือดพล่านอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นทั้งสองร่วมมือการโจมตีไปยังหนิงฝาน!
“หึ!”
เมื่อเห็นท่าสังหารของที่พุ่งมา หนิงฝานเพียงยิ้มเย็นชา ใบหน้าไร้ความหวาดกลัว
เมื่อเขาทะลวงขั้นเป็นราชาเซียนได้สำเร็จ ในขอบเขตราชาเซียนก็ไม่มีผู้ใดต่อกรกับเขาได้แล้ว!
ตู้มมม!
พลันกระบี่ต้าหลัวในมือของเขากลายเป็นแสงกระบี่อันแพรวพราวและพุ่งเข้าไปหาพลังสังหารของทั้งสอง
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
แสงเทวะ พลังมาร เจตจำนงแห่งกระบี่ พลังที่แตกต่างกันของทั้งสามโถมทับ ก่อนจะม้วนตัวปะทะกัน ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน ซ้ำยังเกิดแสงสว่างหลากหลายสีขึ้นในความว่างเปล่า
และเมื่อพลังเริ่มกระจายตัวราวกับระลอกคลื่นยักษ์ ฟ้าดินทั้งสี่ทิศ โลกและสวรรค์ทั้งแปดทิศคล้ายจะทลายสิ้น ทำให้ผู้คนของทั้งสองฝ่ายต่างล่าถอยออกไป
หลังจากนั้น…
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของการต่อสู้นี้ กู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวพลันเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่ว่าทั้งสองคนจะระเบิดพลังออกไปเช่นไรก็ไม่สามารถต่อกรกับหนิงฝานได้เลย
ปัง! ปัง! ปัง!
แสงกะบี่กระพริบ โลหิตหลั่งริน หลังจากนั้น ร่างของทั้งสองก็เต็มไปด้วยรอยแผล ก่อนจะกลายเป็นมนุษย์เลือดเดินได้!
“อ๊าก! บัดซบ!”
“สู้ต่อไป!”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นบ้าคลั่งขึ้นมา!
“เทพโบราณจุติ!”
“อาณาจักรมารจิ่วโยว!”
ทั้งสองคนร้องตะโกนเพื่อปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมา
ฟู่! ฟู่!
ร่างของกู่เสินเยว่สั่นเทิ้มอย่างรุนแรง พลังอันไร้ขอบเขตเอ่อล้นออกมา ทันใดนั้น ด้านหลังของเขาก็ก่อร่างที่เป็นภาพลวงตาสูงกว่าพันจั้ง ขณะที่ด้านหน้าของโม๋จิ่วโยวก็เกิดหลุมดำที่เป็นดังกระแสน้ำวนทั้งเก้าทิศ รวมตัวเข้าหากันและพร้อมที่จะกลืนกินทุกสรรพสิ่ง
ทั้งสองเรียกสุดยอดพลังของตนเองมาก่อนจะโจมตีไปยังหนิงฝานอย่างอุกอาจ!
ตู้ม! ตู้ม!
ร่างมายาของเทพโบราณเงยหน้าคำรามฟ้า อาณาจักรมารจิ่วโยวกลืนกินทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด โลก ความว่างเปล่า วังเซียน ทุกอย่างถูกทำลายล้างจนสิ้น!
“หึ!”
“กระบี่ราชันจักรพรรดิเซียน!”
เห็นเช่นแล้ว หนิงฝานก็ตะโกนขึ้น เขาเปิดใช้งานคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน พลันพลังเซียนไร้เทียมทานระเบิดออก กระบี่ต้าหลัวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ภาพร่างเงาเลือนของราชันจักรพรรดิเซียนก่อตัวขึ้น และกระบี่ต้าหลัวในมือก็ฟาดฟันออกไปอย่างแรง
ตู้มมมม!
เมื่อกระบี่ราชันจักรพรรดิเซียนสับฟันออกไป แสงกระบี่อันไร้เทียมทานนี้โถมทับแสงทั้งหมดในทันที ก่อนที่แสงกระบี่นี้จะทะลวงผ่านร่างลวงตาและหลุมดำ ทุกอย่างพังทลายลงและพินาศสิ้น
“อ๊าก!”
“ไม่!”
ในที่สุด หลังจากเสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง ร่างของของกู่เสินเยว่และโม๋จิ่วโยวก็ทรุดฮวบลงในความว่างเปล่า