รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 332 ไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย จะทำอะไรก็ล้วนเป็นความผิดข้า?

บทที่ 332 ไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย จะทำอะไรก็ล้วนเป็นความผิดข้า?

บทที่ 332 ไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย จะทำอะไรก็ล้วนเป็นความผิดข้า?

หนทางขึ้นยอดเขาท่องนภานั้นทั้งสูงและอันตราย ทว่าทิวทัศน์ระหว่างทางนับว่าโดดเด่น เต็มไปด้วยหินแปลก ประหลาดเรียงราย พืชพรรณสีเขียวสูงตระหง่าน สร้างบรรยากาศชวนดื่มด่ำเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่เลว ไม่เลว”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยชมจากใจจริง

โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ตรงไปบนยอดเขาทันที ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะอดเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันงดงามแล้ว

ขณะเดียวกันบนยอดเขาอีกลูก ผู้นำตระกูลหานกำลังก่นด่าในใจไม่หยุด จะช้าเกินไปแล้ว! เดินทางไปหยุดแวะข้างทางไป เมื่อไหร่จะถึงยอดเขาเสียที!

ที่ยอดเขาคือตำแหน่งศูนย์กลางของค่ายกลสังหาร

ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดว่าพวกหลี่จิ่วเต้าจะขึ้นไปบนยอดเขาโดยตรง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินเท้าขึ้นไป จึงวางค่ายกลสังหารโดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บนยอดเขา

เวลาค่อย ๆ คล้อยผ่าน หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงในที่สุดพวกหลี่จิ่วเต้าก็เดินทางถึงยอดเขา

“เยี่ยมมาก! ท่านผู้อาวุโสลงมือได้เลย!”

หลังจากเห็นพวกหลี่จิ่วเต้าขึ้นไปถึงบนยอดเขาแล้ว ผู้นำตระกูลหานก็กล่าวออกมากับผู้อาวุโสสูงสุดทันทีหลังจากผ่านการเฝ้ารออันน่าเบื่อหน่าย

“ลงมือ!”

ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานทวนคำ ใช้สองมือประทับตรา ต้องการจะเปิดค่ายกลสังหารบนยอดเขาท่องนภา

แต่เพียงไม่นาน สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็น…สับสนงุนงง!

ใช่แล้ว สีหน้าสับสนงุนงงง!

เขาวาดค่ายกลลงไปเสร็จสิ้นแล้ว แค่กระตุ้นค่ายกลสังหารบนยอดเขาท่องนภาก็ควรจะเริ่มทำงานขึ้น

แต่เหตุใดจึงค่ายกลสังสารจึงไม่มีการเคลื่อนไหว!?

“ผู้อาวุโส ท่านลงมือแล้วหรือยัง?”

ผู้นำตระกูลหานมองไปทางผู้อาวุโสสูงสุดด้วยความสงสัย

บรรพชนเผ่าฉงฉีเองก็มองไปทางผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหาน ภายในใจเอ่ยออกมาว่าเจ้ามัวทำอะไรอยู่เสียนาน? ไม่เห็นจะมีอะไรเกินขึ้นสักนิด!

หากมันไม่เห็นแก่หน้าผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานแล้วละก็ มันคงพูดออกมาเป็นคำแล้ว!

ผู้อาวุโสสูงสุดหน้าแดงก่ำด้วยความรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

“ข้าอาจหลับใหลมานานเกินไป จนจำขั้นตอนประทับตราผิดไป ให้ข้าลองอีกครั้ง”

เขากล่าวออกมา

บรรพชนเผ่าฉงฉีไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องค่ายกล ต่างกับเขาที่ศึกษาในด้านนี้อย่างลึกซึ้ง

ค่ายกลในครั้งนี้ เขาจึงรับหน้าที่หลักในการวางค่ายกล ส่วนบรรพชนเผ่าฉงฉีมีหน้าที่ในการสนับสนุนเขา

หลังจากการจบแล้ว เขาก็กระตุ้นค่ายกลขึ้นมาอีกครั้ง

“ท่านผู้อาวุโส?”

เมื่อเห็นผู้อาวุโสสูงสุดหยุดนิ่งไป ผู้นำตระกูลหานก็ถามออกมาด้วยความสงสัย

บนยอดเขาท่องนภายังคงไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใด…

มุมปากบรรพชนเผ่าฉงฉีอดแอบกระตุกขึ้นมาไม่ได้

มันเอ่ยในใจว่าเสียแรงที่ใช้เวลาวางค่ายกลไปเสียตั้งครึ่งค่อนวัน!

ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานช่างไม่อาจเชื่อถือได้!

“อีกครั้ง!”

ผู้อาวุโสสูงสุดใช้สองมือประทับตรา พร้อมตะโกนออกมา “เปิด!”

ผู้นำตระกูลหานและบรรพชนเผ่าฉงฉีมองตรงไปยังยอดเขาท่องนภา

ทว่าบนยอดเขายังคงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใด ๆ!

สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดกลายเป็นย่ำแย่ ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าข้อผิดพลาดอยู่ตรงไหน!

เขาทำสัญลักษณ์ขึ้นมาหลายรูปแบบ ทุกรูปแบบล้วนเป็นการเปิดค่ายกล ทว่ากลับยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใด!

“ท่านผู้อาวุโส เป็นไปได้ไหมว่าค่ายกลที่วางเอาไว้บนยอดเขาท่องนภาจะมีข้อผิดพลาด?”

ผู้นำตระกูลหานกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ

“น่ารำคาญ หยุดพูดไปเสีย! เจ้าเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระอยู่ข้าง ๆ ทำให้ข้ารำคาญจนทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า!”

ผู้อาวุโสสูงสุดตบผู้นำตระกูลหานจนกระเด็นไปอีกทาง แล้วกล่าวออกมาอย่างฉุนเฉียว

ทว่าครู่ต่อมาภายในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา

หรือว่าค่ายกลบนยอดเขาท่องนภาจะมีข้อผิดพลาดอยู่จริง ๆ!

ค่ายกลนี่เป็นของเขา อีกทั้งตัวเขาเองยังมีหน้าที่หลักในการรับผิดชอบ…

เพื่อจัดเตรียมค่ายกลนี้ บรรพชนเผ่าฉงฉีไม่เพียงแต่จะต้องใช้ทั้งความพยายามและเวลาเท่านั้น ยังต้องนำวัตถุดิบหายากออกมาจำนวนมาก

หากมีข้อผิดพลาดจริง บรรพชนเผ่าฉงฉีจะไม่หมดหวังในตัวเขาเลยหรือ?

หลังจากนั้นเขาก็หวนนึกถึงตราที่ใช้เปิดการทำงานของค่ายกลอีกหลายรูปแบบ หวังจะสามารถเปิดการทำงานของค่ายกลสังหารบนยอดเขาท่องนภา

“…”

ผู้นำตระกูลหานที่โดนตบกระเด็นไปอีกทางรู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก

เป็นเขาที่พูดมากอะไรกัน?

ทุกครั้งที่เขาพูดก็พูดออกมาหลังจากที่ผู้อาวุโสสูงสุดประทับตราเสร็จแล้วไม่ใช่หรือ?

ไฉนการล้มเหลวในครั้งนี้ถึงเกี่ยวข้องกับเขา!

เช่นนั้นก็ไม่พูดแล้ว!

สักคำหนึ่งข้าก็จะไม่พูดออกมา!

ผู้นำตระกูลหานเดินกลับไปที่เดิม พร้อมกับปากที่ปิดแน่นสนิท

แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่า ทันทีที่เขาเดินไปถึง กลับถูกผู้อาวุโสสูงสุดตบเข้าอีกครั้งจนกระเด็นกลับไปอยู่ที่เดิม

“???”

ผู้นำตระกูลหานอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก เขาทำอะไรผิดอีก?

คราวนี้เขายังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาสักคำเลยนะ!

“เจ้าจะเดินเผ่นพ่านทำไม! เสียงฝีเท้าของเจ้ารบกวนข้า!”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวออกมาอย่างดุดัน

คราวนี้ภายในใจเขายิ่งรู้สึกผิด…

มารดามันเถอะ ดูเหมือนว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับค่ายกลบนยอดเขาท่องนภาจริง ๆ

เขาใช้รูปแบบการประทับตราทั้งหมดเท่าที่คิดได้ออกมาแล้ว ทว่าบนยอดเขาท่องนภาก็ยังคงไร้การเคลื่อนไหว!

“ข้าหรือ!!!”

ผู้นำตระกูลหานกราดเกรี้ยวขึ้นมาในทันที ภายในแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

อะไรอะไรก็ข้า!

มารดามันเถอะ!

เขาเพิ่งเคยจะได้ยินเป็นครั้งแรกว่าเสียงฝีเท้าสามารถรบกวนการประทับตรา!

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการโยนความผิดให้กับเขา!

เขาโกรธจนหัวใจกับปอดร้อนขึ้นจนแทบระเบิด หากไม่ใช่เพราะสถานะและขอบเขตสูงกว่าแล้วละก็… เขาจะต้องแยกร่างของผู้อาวุโสสูงสุดออกเป็นแปดส่วน!

ตั้งแต่เขาเริ่มฝึกตนมาก็ไม่เคยต้องมาอดทนกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้!

“ไม่ต้องกังวลไป ค่ายกลจะต้องไม่มีข้อผิดพลาดอย่างแน่นอน ให้ข้าลองอีกครั้งหนึ่ง”

หลังจากสัมผัสได้ถึงจิตสังหารในแววตาของบรรพชนเผ่าฉงฉี ผู้อาวุโสสูงสุดจึงรีบเอ่ยขึ้นมา

หลังจากนั้นเขาก็ประทับตราขึ้นมาอีกครั้ง

ทันทีที่บรรพชนเผ่าฉงฉีเห็นตราประทับของผู้อาวุโสสูงสุด สีหน้าของมันก็ดำคล้ำทันที

“เจ้าพาข้ามาที่นี่เพื่อดูเรื่องตลกหรืออย่างไร!?”

มันจ้องเขม็งไปทางผู้อาวุโสสูงสุดด้วยความเกรี้ยวกราด “เจ้ากำลังประทับตราบ้าบออะไรอยู่! นี่มันตราประทับเปิดค่ายกลที่ไหนกัน???”

แม้ว่ามันจะไม่เชี่ยวชาญในด้านค่ายกล แต่มันก็ยังคงเป็นสัตว์ร้ายผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่มานานตนหนึ่ง ย่อมต้องมีความรู้หลายอย่างติดตัวอยู่บ้าง

รูปแบบตราประทับที่ผู้อาวุโสสูงสุดทำขึ้นมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายกลแม้แต้น้อย เป็นรูปแบบที่ทำขึ้นมาอย่างส่งเดช!

“ข้าผิดเอง…แต่ตัวข้าก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวออกมาด้วยความหดหู่

เขาครุ่นคิดดูแล้วก็พบว่าตราประทับเปิดค่ายกลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด!

แต่เหตุใดจึงไม่มีการตอบสนอง?

หลังจากวางค่ายกลแล้ว เขาจำได้ว่าเขายังตรวจสอบค่ายกลอย่างถี่ถ้วน ทุกอย่างล้วนแต่ปกติเรียบร้อยดี

ตราประทับเปิดค่ายเองก็ถูกเขาตรวจตรามาอย่างรอบคอบแล้ว

“เจ้าไม่รู้???”

บรรพชนเผ่าฉงฉีโมโหจนจมูกยู่

มันรู้สึกว่าการตอบตกลงร่วมมือกับตระกูลหานเป็นความผิดพลาด ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานเองก็ดูไม่สามารถเชื่อถือได้แม้แต่น้อย

ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน!

ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานหลับใหลนานเกินไปจนสมองไม่ทำงานแล้วหรือ!

จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่!

คนผู้นี้เอาแต่โยนความผิดมาที่ข้า!

ขณะเดียวกันผู้นำตระกูลหานเอ่ยขึ้นมาในใจด้วยความทุกข์ตรม ผู้อาวุโสสูงสุดไม่แยแสเขาแม้แต่น้อย ทั้งยังใช้เขาเป็นที่ระบายความผิดอีก!

‘อยากจะทำอะไรก็เชิญเถอะ ข้าจะไม่พูดอะไรให้มาความอีก! จะได้ไม่ต้องถูกโยนความผิดใส่อีกครั้ง!’

ผู้นำเผ่าหานกล่าวขึ้นมาในใจ ขณะปิดปากตนเองแน่น

ทว่าจู่ ๆ ก็เกิดเสียงตบดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง จนเขาถูกกระแทกไปอีกด้าน

“ไอ้สารเลว! ตอนที่ควรพูดกลับไม่พูดจา เจ้าเป็นผู้นำตระกูลภาษาอะไร?”

ผู้อาวุโสสูงสุดตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “จะทำอะไรต่อไปก็ว่ามาเสีย ตอนนี้เลิกมาหวังพึ่งค่ายกลสังหารได้แล้ว พวกเราจะยังคงเดินหน้าต่อหรือถอนตัว? เจ้ายังไม่ตัดสินใจอีก!”

“!!!”

ภายในใจผู้นำตระกูลโมโหอย่างถึงที่สุด

เขาไม่ควรจะมาที่นี่เลย!

พูดก็ผิด ไม่พูดก็ผิด กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ไปเรียบร้อย!

เขาร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีน้ำตา ตัวเขาช่างน่าเวทนาเสียจริง! ส่วนผู้อาวุโสสูงสุดก็ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท