บทที่ 334 เจ็บปวดใจ เหตุใดจึงต้องการจะพบเขาอีกครั้ง?
“ทิวทัศน์สวยงามจริง ๆ…”
เมื่อถึงบนยอดเขาท่องนภา หลิ่วจิ่วเต้าก็ทอดสายมองออกไปไกลลิบ ทิวทัศน์ที่ปรากฏช่างงดงามเกินพรรณา
ยอดเขาแห่งนี้สูงเสียดหมู่เมฆ จึงเห็นม่านหมอกแผ่ปกคลุม หลี่จิ่วเต้ารู้สึกราวกับตนเองล่องลอยไปบนท้องฟ้า เพลิดเพลินเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ย
การเดินทางมายังยอดเขาท่องนภาครั้งนี้ช่างคุ้มค่า!
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลิงอิน เซี่ยเหยียน แมวน้อยสีขาวลั่วสุ่ย ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน สือเฟิง อันหลานเสวี่ย และพวกอ้ายฉานต่างอยู่เบื้องหลังของหลี่จิ่วเต้า
พวกอ้ายฉานกำลังเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพรอบด้าน หยอกล้อกันเล่นอย่างมีความสุข
แต่พวกหลิงอินไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ภายในใจของพวกเขาสั่นไหว เต็มไปด้วยความตื่นตะลึงที่มีต่อท่านเซียน!
ท่านเซียนช่างทรงพลังเหลือเกิน!
เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขาพลันสัมผัสได้ถึงความผันผวนของค่ายกลอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกจากที่นี่ หัวใจของพวกเขาหนักอึ้งขึ้นมาทันทีหลังจากรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารที่อัดแน่นเต็มค่ายกล!
ที่นี่มีค่ายกลสังหารขนาดใหญ่อันแสนน่ากลัววางไว้อยู่!
จากการประเมินของหลิงอินแล้ว เกรงว่าแม้กระทั่งระดับสูงสุดของขอบเขตสูงสุดลงมือเต็มกำลังก็ยังไม่อาจต้านทานได้ พลังของค่ายกลสังหารขนาดใหญ่นี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก!
พวกเขาไม่กล้าลังเล เตรียมจะใช้วิธีการทุกอย่างเพื่อทำลายค่ายกลสังหารขนาดใหญ่
ทว่ายามที่พวกเขากำลังจะลงมือ กลับพบว่าเพียงท่านเซียนเหยียบย่างลงมาอย่างแผ่วเบา พลังของค่ายกลที่เล็ดลอดออกมาจากค่ายกลสังการทั้งหมดก็ถูกระงับลงไปทันที!
ท่านเซียน…สมแล้วที่เป็นท่านเซียน!
ทรงพลังจนไม่อาจจินตนาการถึง!
กระทั่งค่ายกลสังหารขนาดใหญ่ที่สามารถกล้ำกรายได้กระทั่งขอบเขตขั้นสูงสุดที่ลงมือเต็มกำลัง ก็ไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ต่อหน้าท่านเซียน!
เพียงท่านเซียนเดินเข้าไปตามปกติ พลังทั้งหมดของค่ายกลสังหารก็ถูกระงับลงไปทันที โดยที่พวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังใด ๆ บนร่างกายของท่านเซียนได้ด้วยซ้ำ
นี่คือวิธีการของท่านเซียนสินะ?
ไม่มีการเคลื่อนไหวของพลังใด ๆ บนร่าง เพียงหนึ่งเท้าเหยียบย่างก็สามารถยับยั้งพลังทั้งหมดของค่ายกลสังหารขนาดใหญ่ได้!
วิธีการเช่นนี้ช่างน่าหวาดเกรงจริง ๆ!
พวกเขาทำได้แต่ถอนหายใจ ขณะที่รู้สึกตกใจจนไม่อาจกล่าวสิ่งใดออกมาได้
ผู้อื่นไม่ว่าใครก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้!
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด อย่างไรเสียก็ต้องมีการโคจรพลัง ต่างจากท่านเซียนที่ไม่จำเป็นต้องทำ ช่างน่าทึ่งและน่าเหลือเชื่ออย่างถึงที่สุด!
“ไปเถอะ พวกเราไปเที่ยวชมที่อื่นกัน“
หลี่จิ่วเต้ายิ้มน้อย ๆ ตั้งตารอว่าจะได้ชื่มชมทิวทัศน์ในภาคกลางให้มากกว่านี้
หายากที่จะได้ออกมาสักครั้ง เขาจึงต้องการตระเวนเที่ยวให้มากเสียหน่อย
หลี่จิ่วเต้าและคนอื่น ๆ พากันเข้าไปในรถม้า ก่อนที่สัตว์อสูรทั้งเก้าตนจะดึงรถม้าให้ลอยขึ้น
พื้นที่ด้านในรถม้าใหญ่กว้างขวาง ทั้งสะดวกสบายและหรูหรา ยามนั่งก็ให้ความรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง
‘ข้าสามารถนั่งรถม้านี้ตามหาซีได้ไหมนะ?’
เขาถอนหายใจออกมาขณะคิดถึงซีอีกครั้ง
หากเขามีรถม้าคันนี้ เขาก็จะสามารถออกเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อตามหาซีได้
‘แต่จะไปตามหาได้จากที่ไหนกัน…’
เขาถอนหายใจขึ้นมาอีกครั้ง เวลาล่วงผ่านมาหลายปีแล้ว แม้ว่าเขาจะอยากไปตามหาซีแต่ก็ไร้ซึ่งความสามารถ
‘ชีวิตนั้นแสนสั้น ข้าเป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่งที่มีอายุขัยจำกัด ซีคือความเจ็บปวดที่ค้างคาอยู่ในใจของข้า สุดท้ายแล้วข้าต้องการจะตามหาและพบหน้านางอีกครั้ง!’
เขาตัดสินขึ้นมาภายในใจ รอจนพวกอ้ายฉานโตและแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขาจะขอให้พวกอ้ายฉานพาเขาไปตามหาซี
ที่แห่งนี้คือโลกแห่งการฝึกตน เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เขาเป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่ง หากเที่ยวเตร็ดเตร่ไปมาก็ไม่อาจรับประกันชีวิตตนเองจากเรื่องราวไม่คาดฝันที่สามารถเกิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
ถ้ามีพวกอ้ายฉานไปด้วยจะเป็นการปลอดภัยกว่ามาก
อย่างไรเสียพวกอ้ายฉานก็แข็งแกร่งมากจนน่าตื่นตะลึงตั้งแต่อายุยังน้อย รอพวกเขาโตขึ้น จะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมแน่
เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรมากมายอีกต่อไป
สำหรับการเอ่ยขอความช่วยเหลือจากเซี่ยเหยียนนั้น เขารู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าเขาอายเกินกว่าจะรบกวนเซี่ยเหยียน
หลังจากติดต่อกันมานานขนาดนี้แล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับเซี่ยเหยียนย่อมต้องไม่มีอะไรจะกล่าว ขอเพียงแค่เขาพูดออกมา เซี่ยเหยียนจะต้องช่วยเหลืออย่างแน่นอน
เพียงแต่เขาต้องการจะตามหาซี
การขอให้เซี่ยเหยียนช่วยตามหาผู้หญิงคนอื่น แม้ว่าตัวของเซี่ยเหยียนอาจไม่คิดอะไรมาก แต่เขาก็ยังรู้สึก…ตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง
รอให้พวกอ้ายฉานโตแล้วมาช่วยเขาน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า
เขาจะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก
สัตว์อสูรเก้าตนลากรถม้า ทะยานออกจากยอดเขาท่องนภาตรงยังสถานที่แห่งอื่น
…
แดนฮวง
ลึกเข้าไปในดงยอดเขาอันสลับซับซ้อน
ลมปราณน่าหวาดผวาและน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายทุกหนแห่ง รอบด้านไร้ซึ่งคนอยู่อาศัย ที่แห่งนี้คือสถานที่อันตรายเลื่องชื่อของแดนฮวง มีสิ่งมีชีวิตเพียงน้อยนิดที่กล้าย่างกรายเข้าไป
ทว่าสถานที่อันตรายแห่งนี้กลับมีสตรีชุดขาวผู้งดงามราวกับเทพธิดาบนภาพวาดเข้ามาโดยไร้ซึ่งความกลัวเกรง
ทันใดนั้นก็พลันเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ตามมาด้วยสมรภูมิครั้งใหญ่
เลือดสาดกระเซ็นทุกหนแห่ง สัตว์ร้ายทรงพลังตัวแล้วตัวเล่าล้มลงไป ในขณะที่สตรีในชุดขาวก้าวย่างต่อไปโดยไร้ซึ่งโลหิตเปรอะบนร่าง
ทันใดนั้น ร่างของนางพลันสั่นสะท้าน ความรู้สึกพิเศษบางอย่างปรากฏขึ้นมาในใจ
“ช่วงนี้ข้าคิดถึงเขาอีกแล้ว…”
นางถอนหายใจ รู้ดีว่าเหตุใดถึงมีความรู้สึกพิเศษปรากฏขึ้นในใจของตนเอง
ใจของนางคะนึงหาเขา ทั้งยังอยากพบหน้าอีกครั้งเป็นอย่างมาก
แต่…นางไม่อาจทำเช่นนั้นได้
นางกลัวว่าตนเองจะไม่ใจแข็งพอจะจากไปหลังจากได้พบกับเขา!
“เหตุใดจึงเอาแต่ร่ำร้องให้ข้าไปพบกับเขา? ข้าไม่อาจอยู่รวมกับเขาได้! สิ่งที่ข้าแบกรับเอาไว้มันมีมากเกินไป ข้า…ไม่อาจหยุดยั้งได้!”
หัวใจของนางเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งจนหยาดน้ำตาไหลคลอ
บนโลกใบนี้ นางเป็นเพียงผู้สัญจรผ่านทางไป ไม่ควรทิ้งห่วงพะวงใดไว้บนโลกใบนี้
ทว่าบางสิ่งก็ไม่อาจควบคุมได้…
นางสงบสติอารมณ์ลง พยายามเลิกคิดถึงเรื่องของเขา สิ่งที่นางจำเป็นจะต้องทำยังมีอีกมาก
“ข้าตามหามาหลายที่ก็ยังไม่พบ ไปอยู่ที่ใดกัน?”
นางกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา “ข้าหาทั่วทั้งแดนหยินและแดนฮวงก็ยังไม่พบ หรือว่ามันจะอยู่ที่แดนฝอกัน?”
…
ณ ยอดเขาท่องนภา
หลังจากที่พวกหลี่จิ่วเต้าขึ้นรถม้าจากไปแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานและบรรพชนเผ่าฉงฉีก็มาถึงยังยอดเขาท่องนภาทันที
ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลหานยังคงไม่ยินยอม เขารู้สึกมาตลอดว่าค่ายกลของเขาไม่มีข้อผิดพลาด
“ไม่มีจุดผิดพลาด”
เขาตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะพบว่าค่ายกลทั้งหมดถูกจัดวางไว้อย่างถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาดแต่อย่างใด
“ปัญหาอยู่ที่การประทับตราเปิดใช้งานหรือ?”
เขาประทับตราออกมาด้วยความสงสัย
ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง ค่ายกลสังการก็ถูกเปิดใช้งาน พลังอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวระดมพุ่งเข้าใส่หมายสังหารพวกเขา
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะสามารถเปิดใช้งานค่ายกลสังหารได้สำเร็จ
พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับพลังมหาศาลที่พุ่งเข้าใส่ ร่างกายพวกเขาทุกคนจึงบาดเจ็บยับเยินทันที
“บัดซบ!”
บรรพชนเผ่าฉงฉีสบถออกมา ใบหน้ากลายเป็นสีเขียวคล้ำ จ้องเขม็งไปทางผู้อาวุโสสูงสุดด้วยโทสะ “เจ้ามันไม่อาจพึ่งพาได้แม้แต่น้อย คนจากไปหมดแล้วถึงเพิ่งมาเปิดใช้งานได้สำเร็จ?”
“ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเปิดใช้งานได้สำเร็จ!”
ผู้อาวุโสสูงสุดตกตะลึง การประทับตราเปิดค่ายกลเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่เขาใช้ในตอนแรก ก่อนหน้านี้ทำไม่สำเร็จ แต่ตอนนี้ไยกลับสำเร็จแล้ว?
ภายในใจของผู้นำตระกูลเองก็เต็มไปด้วยความคับข้องใจ แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาต่อหน้าอีกฝ่าย
ไม่น่าเชี่อถือเลย ไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อย!
กับคนอื่นไม่สามารถเปิดใช้งานได้ แต่กับพวกของตนเอง เพียงครั้งเดียวกลับสามารถเปิดใช้งานได้สำเร็จ!