รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 338 ข้าไม่ลงนรกแล้วใครลงนรก ให้โอกาสกันสักครั้งมิได้หรือ?

บทที่ 338 ข้าไม่ลงนรกแล้วใครลงนรก ให้โอกาสกันสักครั้งมิได้หรือ?

บทที่ 338 ข้าไม่ลงนรกแล้วใครลงนรก ให้โอกาสกันสักครั้งมิได้หรือ?

นอกวิหาร พระสังฆราชตะเบ็งเสียง อยากจะพุ่งเข้าไปช่วยต้าเต๋อ

ทว่าเขากลับทำไม่ได้ เขาเพิ่งบรรลุขอบเขตนักบุญเท่านั้น ไม่อาจต่อกรกับพลังระดับจ้าวสูงสุดได้เลย

“อาตมาจะไปขอให้พระโพธิสัตว์ออกโรงช่วย!”

เขาไปจากที่แห่งนี้เพื่ออัญเชิญพระโพธิสัตว์ในเขาญาณที่อยู่รอดมาตั้งแต่ยุคโบราณออกหน้าช่วยเหลือ

เขามีจิตสงสาร ไม่อาจทนดูต้าเต๋อหายไปทั้งอย่างนี้จริง ๆ

พระโพธิสัตว์ที่อยู่รอดมาตั้งแต่ยุคโบราณล้วนเป็นจ้าวสูงสุดเฒ่ากันทั้งหมด หากพวกท่านยอมออกหน้า น่าจะช่วยต้าเต๋อไว้ได้

ภายในวิหาร

สามเณรน้อยขมวดคิ้ว เรื่องราวเกินความคาดหมายของเขาไปนิดหน่อย เขาดันพบแรงต่อต้าน!

“ร่างจ้าวสูงสุดหมื่นอมตะ!”

เขามิใคร่อยากเชื่อนัก ต้าเต๋อผู้อยู่ขอบเขตพรตเต๋าไยจึงมีกายเนื้อล้ำหน้าเยี่ยงนี้ ได้ครอบครองกายาที่เทียบชั้นขอบเขตจ้าวสูงสุดเลยหรือ?

มันเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากสำหรับเขา เขาจำต้องใช้เวลามากกว่านี้

ภายใต้มือใหญ่ข้างนั้น ต้าเต๋อยังกระเสือกกระสนดิ้นรนสุดชีวิต แต่ไม่ว่าเขาจะปล่อยพลังออกไปเท่าใดก็ไม่ได้ผล มือใหญ่ข้างนั้นพันธนาการเขาไว้อย่างแน่นหนา

เห็นได้ชัดว่าสามเณรน้อยผู้นี้น่ากลัวเป็นที่สุด พลังเหนือกว่าจ้าวสูงสุดตนอื่นมาก

หากมิใช่เช่นนี้ ต้าเต๋อผู้มีร่างหมื่นอมตะไม่มีทางต้านทานไม่ได้แม้แต่น้อย!

รู้หรือไม่ ร่างหมื่นอมตะคือขอบเขตกายาที่อยู่คู่กับขอบเขตจ้าวสูงสุด เขาสามารถทานการโจมตีของจ้าวสูงสุดได้โดยไม่เป็นอันใด ทว่าบัดนี้เขากลับไม่มีกำลังพอจะต่อต้านแม้แต่น้อย พลังของสามเณรน้อยเหนือกว่าจ้าวสูงสุดตนอื่นเห็น ๆ

“กู่ฝอ!”

“โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย!”

มีเสียงดังมาจากด้านนอกวิหาร พระสังฆราชทำสำเร็จ อัญเชิญพระโพธิสัตว์จากยุคโบราณมาได้

พระเวทโพธิสัตว์ พระอากาศครรภมหาโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์อีกแปดรูปจากยุคโบราณล้วนเดินทางมายังที่นี่

“ยุ่งยากปานนี้เลยหรือ?”

สามเณรน้อยขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะเจอแรงต้านมากมายขนาดนี้

เขาแสดงตัวตนไปชัดเจนแล้ว ซ้ำต้าเต๋อยังก่อเรื่องสร้างความในพุทธศาสนาตามอำเภอใจ ไม่รักษาศีล เหตุใดถึงยังมีคนมากมายต้องการปกป้องต้าเต๋อ?

“พวกเจ้าต้องการสิ่งใด!”

เขาตะคอกเสียง แยกร่างแปลงหนึ่งร่างออกมานอกวิหาร

“อาตมาทั้งหลายประจักษ์ในทุกอย่างที่ต้าเต๋อเป็น แม้นเขาจะเกเร กระนั้นพื้นเพจิตใจมิได้เลวร้าย”

พระเวทโพธิสัตว์ก้าวออกไปด้านหน้า รูปร่างสูงใหญ่ ประกายพุทธะครอบคลุมทั่วร่าง

พลังปราณของเขามิได้อ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตตนอื่นที่มีชีวิตรอดจากยุคโบราณ แต่ละตนล้วนใกล้สิ้นอายุขัย พลังชีวิตเบาบาง เหลือเพียงกลิ่นอายเป็นส่วนมาก

พระโพธิสัตว์อีกเจ็ดรูปก็เป็นเช่นเดียวกับพระเวทโพธิสัตว์ มิได้ชราภาพ พลังที่ยังเหลืออยู่ต่างรุนแรงแกร่งกล้า

นี่คือความแตกต่างระหว่างหลักธรรมและพลังอื่น

และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความอัศจรรย์ของพลังความศรัทธา

พวกเขาล้วนมีพลังความศรัทธาอย่างล้นหลามอยู่ในดินแดนฝอ พลังความศรัทธาระดับนี้ช่วยให้พวกเขาได้ประโยชน์มากขึ้น จนยืดชีวิตออกไปได้อีก

“อมิตาภพุทธ”

พระอากาศครรภมหาโพธิสัตว์ก้าวออกมาด้านหน้าหนึ่งก้าว พลางกล่าว “พระพุทธของเราเน้นย้ำความเมตตา ต่อให้อู้เต๋อเป็นดวงจิตมุ่งร้าย ทว่ามุ่งร้ายก็ต้องหมดโอกาสด้วยหรือ ขอกู่ฝอโปรดให้โอกาสอู้เต๋อสักครั้ง”

ต้าเต๋อเคยขโมยสุราจากเขาไปหนึ่งไห ทว่านี่คือหลักฐานบ่งบอกว่าเขาเอ็นดูต้าเต๋อ

หากเขามิเต็มใจ ต้าเต๋อย่อมไม่มีทางขโมยสุราไปจากเขาได้

“พวกเจ้ากำลังสนับสนุนการก่อกรรมทำเข็ญ!”

ร่างแปลงของสามเณรน้อยตวาด “ก่อนข้านิพพานกลับชาติมาเกิด ข้าได้ตัดความชั่วร้ายทั้งปวงออกจากใจไปแล้ว ทว่ายามข้าได้นิพพานเวียนว่าย กลับมีดวงจิตมุ่งร้ายกำเนิดขึ้นมา นี่คือจิตมุ่งร้ายที่แยกตัวจากจิตด้านดีของข้า เสี้ยวหนึ่งของจิงชี่เสิน*[1]ของข้าติดไปด้วย จิตมุ่งร้ายนี้จำต้องถูกเรียกคืน มิฉะนั้น ข้าไม่อาจคืนร่างสมบูรณ์ได้”

“ขอบเขตพลังของกู่ฝอย่อมลึกล้ำกว่าอาตมาทั้งหลายมาก ทว่าอาตมาขอบังอาจเอ่ยสักประโยค”

พระเวทโพธิสัตว์เอ่ย “ก่อนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ปรินิพพานเคยตัดเนื้อของตนเป็นอาหารเหยี่ยว ข้าไม่ลงนรกแล้วใครลงนรก กู่ฝอให้โอกาสอู้เต๋อสักครั้งมิได้หรือ?”

“แต่เดิมเขาคือเสี้ยวหนึ่งของดวงจิตข้าอยู่แล้ว ไยพวกเจ้าถึงต้องวุ่นวาย!”

ร่างแปลงสามเณรน้อยตวาดลั่น “พวกเจ้ามาที่แห่งนี้เพื่อการใดกันแน่ คิดจะลงมือกับข้าหรือ!?”

“หากถึงคราวจำเป็น เหลือเพียงต้องลงมือเท่านั้น”

“อมิตาภพุทธ กู่ฝอผิดแล้ว กู่ฝอโปรดกลับตัวขึ้นฝั่งเถิด!”

พระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่นพากันกล่าวขึ้น

“กลับตัวขึ้นฝั่ง? ข้าต้องให้พวกเจ้ามาสั่งสอนข้าด้วยหรือ!”

ร่างแปลงสามเณรน้อยตะโกน แสงพุทธะเจิดจรัสออกมา ฝ่ามือฟาดลงมาเสียงดังครืนคราน แม้แต่มิติยังเกิดการระเบิด

เขานั้นน่ากลัวยิ่ง แม้ว่านี่เป็นเพียงร่างแปลงหนึ่งของเขา แต่ยังครอบครองพลังล้นฟ้า สยดสยองเป็นที่สุด!

พระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่นลงมือ ใช้เคล็ดวิชายิ่งใหญ่ในพุทธศาสนาออกมามากมาย ประกายพุทธะทะยานสู่นภา กระนั้นยังยากจะต้านทานพลังจากร่างแปลงของสามเณรน้อย!

“พลังความศรัทธาที่แท้จริงมีกำลังเพียงเท่านี้ที่ไหน? พวกเจ้าได้สัมผัสเพียงผิวเผินเท่านั้น!”

ร่างแปลงสามเณรน้อยตวาด พลังธรรมะซัดสาด เข้าห้ำหั่นกับพระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่น หมายจะกำราบพระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่นลง

เห็นได้ชัดว่ายังมีพลังอื่นไหลเวียนอยู่ในตัวเขา มิใช่เพียงพลังธรรมะ พระเวทโพธิสัตว์ได้เห็นพลังเยี่ยงนี้ก็ต้องสะท้านใจ

นี่คือพลังความศรัทธา!

ช่างเป็นพลังความศรัทธาที่ทรงพลังยิ่ง!

เขาสูดปาก มิน่า…ลำพังร่างแปลงยังน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนี้ ร่างแปลงของสามเณรน้อยมีพลังความศรัทธาไหลเวียนมากกว่าพวกเขาเป็นหลายเท่าตัว!

นี่หรือคือตัวตนกู่ฝอที่เป็นรองเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้า?

จากพลังความศรัทธามากล้นเกินหยั่งเช่นนี้พอจินตนาการออกได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ศรัทธาในพระเก้าประทีปพุทธเจ้านั้นมีมากปานใด!

ภายในวิหาร

“ไปตายเสีย วันนี้ท่านภิกษุน้อยผู้นี้ขอกำจัดเจ้าให้สิ้นซาก!”

ต้าเต๋อคำราม ลำแสงหนึ่งพวยพุ่งออกจากหน้าผาก ทิ่มแทงไปหาสามเณรน้อยอย่างรวดเร็ว

สามเณรน้อยแยกร่างแปลงออกมาร่างหนึ่งเพื่อออกไปต่อสู้ด้านนอก ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!

“วิญญาณจ้าวสูงสุด?”

สามเณรน้อยเปลี่ยนสีหน้าไป ก่อนหน้านี้ต้าเต๋อประสบอะไรมาบ้าง

นอกจากมีร่างจ้าวสูงสุดหมื่นอมตะซึ่งอยู่คู่กับขอบเขตจ้าวสูงสุดมาแล้ว ยังครอบครองวิญญาณจ้าวสูงสุดที่อยู่คู่กับขอบเขตจ้าวสูงสุดมาอีก!

เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก!

แต่ไม่นานเขาก็ได้สติ ตอนนี้มิใช่เวลามาใคร่ครวญเรื่องเหล่านี้

หน้าผากของเขาเปล่งแสง มีลำแสงพวยพุ่งออกมาเช่นกัน

พลังวิญญาณจำต้องหักล้างด้วยพลังวิญญาณ วิธีการอื่นไม่เป็นผล

หากเป็นพลังวิญญาณธรรมดายังสามารถต่อกรด้วยวิธีอื่น

ทว่าพลังวิญญาณของต้าเต๋อเห็นได้ชัดว่ามิใช่พลังวิญญาณธรรมดา

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

ลำแสงวิญญาณสองลำปะทะ ประกายเจิดจ้ารุนแรงปะทุออกมา สามเณรน้อยขมวดคิ้ว วิญญาณจ้าวสูงสุดของต้าเต๋อทรงพลังอย่างยิ่ง เหนือกว่าจ้าวสูงสุดตนอื่นมาก

การปะทะในครานี้ เขามิได้เป็นฝ่ายได้เปรียบ

“ฆ่า!”

ลำแสงวิญญาณอีกลำพวยพุ่งออกจากหน้าผากต้าเต๋อ ทว่าหนนี้ต่างจากหนก่อน ภายในลำแสงวิญญาณนั้นห่อหุ้มร่างย่อวิญญาณของเขาไว้ คราวนี้เขาสู้สุดชีวิต จักเข้าปะทะด้วยกำลังทั้งหมดที่มี!

“ความพิเศษในตัวเจ้ามีไม่น้อยทีเดียว ทว่าเช่นนี้กำลังดี ช่วยให้ร่างสมบูรณ์ของข้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”

สามเณรน้อยตะคอกเสียงเบา ร่างย่อวิญญาณของเขาบุกออกจากวิญญาณด้วย เข้าห้ำหั่นกับร่างย่อวิญญาณของต้าเต๋อ

แต่เห็นได้ชัดว่าร่างย่อวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่า การต่อสู้มิได้ดำเนินไปนานเท่าใด ร่างย่อวิญญาณของต้าเต๋อก็โดนเขากำราบ กระอักเลือดวิญญาณออกมามากมาย

“ถึงแม้วิญญาณของข้าฟื้นพลังได้ถึงขอบเขตจ้าวสูงสุดเท่านั้น ทว่าข้ามิได้มีพลังเพียงเท่านี้”

สามเณรน้อยกล่าว

บนร่างย่อวิญญาณของเขามีพลังพิเศษปกคลุมอยู่เช่นกัน และพลังพิเศษนี้เองที่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างย่อวิญญาณของเขา จนกำราบร่างย่อวิญญาณของต้าเต๋อลงได้

หากพระเวทโพธิสัตว์ยังอยู่ที่นี่ พระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่นย่อมดูพลังพิเศษนี้ออก

พลังพิเศษนี้ก็คือพลังความศรัทธา!

[1] จิงชี่เสิน (精气神) ประกอบด้วยแก่น ชี่ และวิญญาณ

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท