รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 339 ก้าวข้ามพระอมิตาภะพุทธเจ้า พระเก้าประทีปพุทธเจ้าจะกลายมาเป็นพระพุทธองค์ใหม่!

บทที่ 339 ก้าวข้ามพระอมิตาภะพุทธเจ้า พระเก้าประทีปพุทธเจ้าจะกลายมาเป็นพระพุทธองค์ใหม่!

บทที่ 339 ก้าวข้ามพระอมิตาภะพุทธเจ้า พระเก้าประทีปพุทธเจ้าจะกลายมาเป็นพระพุทธองค์ใหม่!

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

ข้างนอกห้องโถงใหญ่มีเลือดกระเซ็นไปทั่วสารทิศ กลุ่มพระเวทโพธิสัตว์ล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย

ร่างแปลงของสามเณรน้อยโออ่าเปี่ยมด้วยพลังศรัทธา เขาจัดการผู้คนทั้งหมด!

“นี่…เป็นไปได้อย่างไร!?”

“แข็งแกร่งปานนี้เลยหรือ!”

บนใบหน้าพระเวทโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์รูปอื่นแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ

สามเณรน้อยยังไม่ได้ฟื้นพลังมากนัก ปัจจุบันอยู่เพียงขอบเขตสูงสุดเท่านั้น

พวกเขายังไม่ใช่คนแก่ยังไม่ถึงวัยชรา พลังความแข็งแกร่งไม่กระจอก แต่เมื่อเทียบกับร่างแปลงของสามเณรน้อยแล้วนั้นยังห่างชั้นอยู่มาก เช่นนี้แล้วจะให้พวกเขาเชื่อได้อย่างไร?

“นี่บอกถึงวิชาอภินิหารและพลังความศรัทธา!”

สามเณรน้อยเอ่ยปากกล่าว “จากนี้ข้าจะสอนอภินิหารและพลังความศรัทธาให้กับพวกเจ้า นำทางพุทธศาสนาไปสู่หนทางแห่งความรุ่งโรจน์สูงสุดอย่างแท้จริง!”

ภายในห้องโถง

วิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อกับวิญญาณของสามเณรน้อยยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ทั่วร่างเปี่ยมด้วยพลังความศรัทธา แต่ตำแหน่งสามเณรน้อยยังไร้วี่แววแพ้พ่าย ไม่ว่าวิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อจะโจมตีอย่างไร เขาก็ไม่อาจทำร้ายวิญญาณสามเณรน้อยได้

และทุกครั้งที่ถูกวิญญาณสามเณรน้อยโจมตี วิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อจะได้รับบาดเจ็บสาหัสทุกครั้ง!

เลือดวิญญาณสาดกระเด็นทั่วสารทิศ เลือดที่หลั่งอออกมาจากร่างวิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อทั้งหมดกลายเป็นจิงชี่เสิน ทุกหยาดหยดเลือดในวิญญาณถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

“ช่างหัวรั้นยิ่งนัก!”

สามเณรน้อยตะโกนเสียงดังว่า “ข้าฝึกบำเพ็ญพุทธะมาหลายปี กำจัดความชั่วร้ายในใจได้แล้ว เจ้าเป็นเพียงส่วนชั่วร้ายของข้า เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมาต่อสู้กับข้าได้อย่างไร?”

เขากล่าวต่อไปว่า “นี่เป็นความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้า ข้าเป็นนาย ส่วนเจ้าเป็นบ่าว

เพียงข้าตื่นขึ้นก็สะเทือนสวรรค์ ส่วนเจ้ายังต้องใช้เวลาสั่งสมอยู่อีกนานโข!”

เสียงดังโครมคราม วิญญาณของเขาออกฝ่ามือซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณแข็งแกร่งตบวิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อลอยกระเด็นออกไป!

วิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อกระอักเลือดออกมาหลายคำ ร่างวิญญาณหดเล็กลงหลายครั้ง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ลมหายใจของต้าเต๋อพลันเริ่มรวยริน

จำต้องรู้ว่า พลังความศรัทธานั้นช่างน่าสะพรึงยิ่ง ไม่เพียงส่งผลกับกฎแห่งเต๋าและกายเนื้อเท่านั้น ทว่ายังส่งผลกับวิญญาณด้วย ช่างฝืนฟ้าท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก!

ด้วยพลังความศรัทธานี้ สามเณรน้อยเปิดฉากโจมตีทุกสารทิศ ภายในวิหาร วิญญาณสามเณรน้อยกดดันวิญญาณเณรน้อยต้าเต๋อ ขณะที่นอกวิหารกลุ่มพระเวทโพธิสัตว์ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น!

“กลับมารวมกัน!”

สามเณรน้อยเอ่ยเสียงเบา พลันด้ายวิญญาณพันรอบวิญญาณของต้าเต๋อ ก่อนจะหลอมรวมวิญญาณของต้าเต๋อ!

อีกด้านหนึ่ง มือของเขาที่จับร่างของต้าเต๋อไว้ก็เริ่มดูดกลืน หลอมรวมกายเนื้อของต้าเต๋อเช่นกัน!

“อ๊ากกก!”

ต้าเต๋อกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถบรรยายได้ ทั้งกายเนื้อและวิญญาณของเขาราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เจ็บปวดจนเกือบสิ้นสติ

“เหตุใดต้องทนทุกข์เช่นนี้ด้วย เจ้ากับข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ตราบใดที่เจ้าเลิกต่อต้าน ความเจ็บปวดทั้งหมดของเจ้าจะหายไป”

สามเณรน้อยกล่าวอย่างเฉยชา

“ไปโลงศพยายเจ้าน่ะสิ!”

ต้าเต๋อกัดฟันพลางสาปแช่ง “ไอ้สารเลว ท่านภิกษุน้อยจะไม่ปล่อยสารเลวอย่างเจ้าไปแน่!”

เขายังคงต่อต้าน แม้ว่ามันจะเจ็บปวดอย่างยิ่ง ทว่าดวงตาของเขากลับไม่มีวี่แววยอมจำนน

“หากเจ้ายังคงดื้อรั้น เช่นนั้นก็หายไปพร้อมกับความเจ็บปวดเถิด” สามเณรน้อยกล่าว

หลังจากนั้น เขาเพิ่มกำลังและเร่งความเร็วของการดูดกลืนหลอมรวม พลันกายเนื้อกับจิตวิญญาณของต้าเต๋อเริ่มสลาย หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ต้าเต๋อย่อมอยู่ได้อีกไม่นาน

พลังความศรัทธาช่างน่ากลัวนัก!

หากไม่มีพลังความศรัทธา ต้าเต๋อคงไม่พ่ายแพ้เร็วเช่นนี้ อย่างน้อยเขาก็ยังทนอยู่สู้ได้อีกนาน จิตวิญญาณสูงสุดกับกายเนื้อสูงสุดนั้นไม่ง่ายจะถูกดูดกลืน!

“อ๊ากกก!”

ต้าเต๋อยังคงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่นานนัก เสียงของต้าเต๋อก็ค่อย ๆ หายไป

กายเนื้อกับวิญญาณของเขาสลายไปทีละน้อย ก่อนจะกลายเป็นผุยผง

เห็นดังนั้น บนใบหน้าของสามเณรน้อยฉายรอยยิ้มสดใส

กายเนื้อกับวิญญาณของต้าเต๋อสลายไปทีละน้อยกลายเป็นฝุ่นผง ทำให้เขาสามารถดูดกลืนและหลอมรวมต้าเต๋อได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นร่างกายของเขาย่อมฟื้นคืน ถึงตอนนั้นเขาจะกลายผู้สมบูรณ์เพรียบพร้อม สามารถก้าวไปสู่ขอบเขตที่สูงกว่านี้ได้!

“ชีวิตนี้ของข้าช่างเจิดจ้ายิ่งนัก!”

เขาหัวเราะไม่หยุด ทั้งตื่นเต้นและดีใจยิ่ง วิธีการกลับชาติมาเกิดแห่งนิพพานประสบความสำเร็จ นี่หมายความว่าชีวิตใหม่ของเขามีอนาคตอันรุ่งโรจน์รออยู่!

“พระอมิตาภะพุทธเจ้าตายแล้วหรือ ข้าว่าไม่…”

เขาหรี่ตาพลางนึกถึงพระอมิตาภะพุทธเจ้า

พระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นผู้ก่อตั้งพลังความศรัทธา และพลังความศรัทธาที่เขาครอบครองนั้นก็อยู่เหนือจินตนาการไปแล้ว

แม้เขาจะถูกคนศาสนาพุทธมองเป็นที่สอง รองพระอมิตาภะพุทธเจ้า แต่เมื่อเทียบกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าแล้ว เขายังคงห่างชั้นกันเกินไป!

นี่เป็นเรื่องจริง เขาไม่อาจเทียบกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้

พระอมิตาภะพุทธเจ้า!

ผู้คนศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นใครล้วนแต่กล่าว “พระอมิตาภะพุทธเจ้า” จากปากของตนเองทั้งสิ้นและยังเป็นเป็นเช่นนี้เสมอมานับตั้งแต่ก่อตั้งพระพุทธศาสนาจนถึงปัจจุบัน

มีผู้คนศรัทธามากมายยาวนาน เขาไม่กล้านึกจินตนาการว่าพลังความศรัทธาที่พระอมิตาภะพุทธเจ้ามีอยู่จะมากเพียงใด

เขาครองครองพลังความศรัทธามหาศาล แต่เขาเชื่อว่าพลังความศรัทธาที่พระอมิตตาภะพุทธเจ้าครอบครองอยู่นั้นต้องมีมากกว่าของเขาหลายเท่าอย่างแน่นอน!

เขาได้สัมผัสกับพลังความศรัทธาอันเลิศล้ำ จึงรู้ดีว่าพลังศรัทธามีความอัศจรรย์เพียงใด พระอมิตาภะพุทธเจ้าย่อมมีพลังความศรัทธามหาศาลเหนือจินตนาการ ในความคิดของเขาแม้ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าคิดจะตายก็ยังยากจะทำ!

“หรือกลายเป็นเซียนไปแล้ว?”

เขาพึมพำกับตัวเอง แอบรู้สึกได้ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าจากโลกใบนี้ไป ก้าวสู่แดนสวรรค์และกลายเป็นเซียนโพธิสัตว์!

“วางใจเถอะ ขอเพียงข้ามีเวลาตรัสรู้ ชาตินี้ย่อมได้กลายเป็นเซียนอย่างแน่นอน!”

แววตาของเขาทอประกายแสงแห่งความทะเยอทะยาน

นิพพานหนึ่งครั้งทำให้เขามีชีวิตใหม่ และทำให้เขาสามารถเข้าใจถึงพลังอันล้ำเลิศแห่งศรัทธาได้มากขึ้น ในชาตินี้เขามั่นใจว่าตนเองสามารถกลายเป็นเซียน และก้าวเข้าสู่แดนสวรรค์ได้!

หลังเข้าสู่แดนเซียน เขาจะสามารถรู้ได้ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้กลายเป็นเซียนจริง ๆ หรือไม่!

“ช่างโง่เขลานัก พลังศรัทธาเป็นสิ่งมหัศจรรย์และอยู่เหนือธรรมชาติ ทว่ากลับไม่อนุญาตให้แสดงพลังที่แท้จริงของมัน หากได้ใช้พลังความศรัทธาที่แท้จริงก่อนหน้านี้ เซียนจะเป็นแค่ตำนานได้อย่างไร? พระพุทธศาสนาไม่ได้บอกว่าสามารถสอนให้เป็นเซียนได้ แต่อย่างน้อยยังสามารถให้กำเนิดเซียนจำนวนมากได้!”

เขากล่าวต่อว่า เพราะคิดว่าแนวทางของพระอมิตาภะพุทธเจ้านั้นใช้การไม่ได้ ไม่ยอมถ่ายทอดวิธีใช้พลังความศรัทธาที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นพระพุทธศาสนาคงยิ่งใหญ่เหนือทุกสรรพสิ่ง ในขณะเดียวกันก็กำเนิดเซียนได้มากมาย!

“ข้าเริ่มได้หนึ่งก้าวแล้ว ในชาตินี้ข้าจะข่มพระอมิตาภะพุทธเจ้า นำพระพุทธศาสนาไปสู่เส้นทางใหม่!”

ดวงตาของเขาเป็นประกาย นับแต่ได้ทำลายข้อห้ามลงไป เขาก็ไม่นับถือพระอมิตาภะพุทธเจ้าอีกต่อไป ในชาตินี้เขาจะเหนือกว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้า กลายเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใหม่ของศาสนาพุทธ

“ต่อไปผู้ศรัทธาในศาสนาพุทธจะท่อง ‘พระเก้าประทีปพุทธเจ้า’ สุดท้ายพระอมิตาภะพุทธเจ้าก็จะกลายเป็นอดีต ถูกคนรุ่นหลังลืมเลือนไป!”

เขากล่าวอย่างมั่นใจ

เวลานี้ ร่างกายและวิญญาณของต้าเต๋อแตกสลายไปจนหมดสิ้นแล้ว และพวกมันทั้งหมดก็ถูกทำให้เล็กลงจนเหลือแต่อนุภาค

“มาเถอะ หลอมรวมเสีย!”

สามเณรน้อยหัวเราะเสียงดัง เรี่ยวแรงของเขาเพิ่มพูนและเขาก็เริ่มดูดกลืน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท