บทที่ 342 อนาคตถูกทำลายสิ้น ช่างน่าเวทนาเกินไปแล้ว!
วิญญาณของต้าเต๋อลงมืออย่าดุร้าย ไม่ปล่อยให้วิญญาณของสามเณรน้อยได้โต้ตอบ ทุบตีจนวิญญาณของสามเณรน้อยแหลกละเอียดโลหิตวิญญาณจำนวนมากหลั่งไหลออกมา
วิถีสวรรค์ที่ห่อหุ้มวิญญาณของต้าเต๋อเอาไว้น่าหวาดกลัวเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถต่อกรกับต้าเต๋อได้อย่างเต็มที่ ไม่อาจแม้กระทั่งจะต่อต้านเสียด้วยซ้ำ
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องถูกต้าเต๋อสังหารลงภายในไม่ช้าแน่นอน!
เขาไม่กล้ารีรออีกต่อไป จิตวิญญาณที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ รีบพุ่งกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว
“อ๊ากกก!”
สามเณรน้อยจับจ้องไปทางต้าเต๋อด้วยดวงตาแดงก่ำ ดึงพลังจากพระธาตุภายในร่างกายของเขาออกมาอย่างไม่เต็มใจ
นี่เป็นพระธาตุของเขาเอง และด้านในมีเต๋าของกู่ฝอซึ่งเป็นชาติก่อนของเขาอยู่
ก่อนที่เขาจะนิพพานและกลับชาติมาเกิดใหม่ เขาได้บรรจุพลังหลอมรวมเข้ากับพระธาตุ จากนั้นก็นำพระธาตุไปเกิดใหม่ด้วย
สิ่งที่เรียกว่านิพพานคือการเริ่มต้นใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตล้วนไม่มีอยู่อีกต่อไป
เขาบีบอัดหลอมหลวมพลังให้กลายเป็นพระธาตุก่อนจะนำมันติดกายไปด้วยหลังนิพพาน หลังจากนั้นเขาก็สามารถพึ่งพาพระธาตุเพื่อฟื้นฟูขอบเขตของกู่ฝอกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
ที่เขาสามารถหวนคืนสู่ขอบเขตสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว ก็เป็นเพราะพระธาตุที่อยู่ภายในร่างกาย
หากไม่มีพระธาตุ เขาคงไม่สามารถกลับคืนสู่ขอบเขตสูงสุดได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
แต่พระธาตุก็เป็นเพียงมรดกที่ตกทอดมา อย่างไรเสียเขาในตอนนี้ก็เป็นร่างใหม่ ไม่ใช่กู่ฝอคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
มิหนำซ้ำนอกจากนี้ เขายังมีความคิดแยกตัวออกไป แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อเขาอย่างใหญ่หลวง ขัดขวางไม่ให้เขาสามารถสืบทอดเต๋าของกู่ฝอโดยตรง
ในตอนนี้เพื่อรักษาชีวิตตนเองเอาไว้ เขาจึงฝืนดึงพลังออกจากพระธาตุมาใช้ ทำให้สภาพของเขาแย่ลงอย่างไม่ต้องสงสัย
การฝืนดึงพลังที่อยู่ในสภาวะหลอมรวมอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้เต๋าในพระธาตุพร่องไป และทำให้เขาไม่อาจใช้พระธาตุเพื่อฟื้นคืนกลับไปยังขอบเขตของกู่ฝอได้
อีกทั้งยังมีความคิดส่วนหนึ่งแยกตัวออกไป ทำให้ตัวตนไม่สมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงการฟื้นกลับสู่ขอบเขตกู่ฝอในชาติก่อนเลย กระทั่งการใช้พระธาตุฟื้นฟูขอบเขตมหาจักรพรรดิกลับมายังยากยิ่ง!
สิ่งนี้ทำให้เขาไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง!
จะให้เขายินยอมได้อย่างไร?
เพื่อนิพพานและกลับชาติมาเกิดใหม่ เขาได้ก้าวเดินไปยังเส้นทางต้องห้าม ฝ่าฝืนบัญญัติที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าได้กำหนดเอาไว้ เปลี่ยนพลังความศรัทธาให้ตนเองได้รับผลประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว ส่วนผู้ที่ศรัทธาในตัวเขานั้นก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์จากพลังความศรัทธาอีกต่อไป
การที่เขาได้รับผลประโยชน์จากพลังความศรัทธาเพียงผู้เดียว ทำให้เขาได้ลิ้มรสความหอมหวานและรับรู้ว่าพลังความศรัทธาน่าหวาดหวั่นและน่าทึ่งเพียงใด!
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถนิพพานและเกิดใหม่ได้ เขารู้สึกว่าตนเองยังมีพลังความศรัทธาไม่มากพอ!
ตัวเขาต้องการจะเพิ่มพูนพลังความศรัทธา จึงต้องการให้สิ่งมีชีวิตจำนวนมากมาศรัทธาในตัวเขาเพิ่ม
ทว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะได้รับพลังความศรัทธาจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ
ในตอนนั้นเขาจึงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
เขาได้ลักพาตัวสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังจำนวนมาก และเปลี่ยนพวกมันให้กลายมาเป็นหุ่นเชิดที่เชื่อฟังเพียงคำสั่งของเขาเท่านั้น
หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้หุ่นเชิดเหล่านี้ออกไปสร้างหายนะทั่วทุกหนแห่ง สังหารผู้คนไปมากมาย ก่อภัยพิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า
ตามบันทึกโบราณต่าง ๆ กล่าวว่า ยุคโบราณกาลวุ่นวายอลม่านยิ่งกว่ายุคใด ๆ เกิดภัยพิบัติขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือคนสร้างก็ตาม
มีชีวิตต้องสูญสิ้นไปนับไม่ถ้วน ทุกคืนวันต่างต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว
และต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดก็มีเขาเป็นผู้ริเริ่ม
ท่ามกลางภัยพิบัติ สิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่ต้องการสิ่งศรัทธายึดเหนี่ยว
นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น!
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มปรากฏตัวบ่อยครั้ง ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากทุกหนแห่ง สังหารหุ่นเชิดที่ก่อให้เกิดหายนะ
แผนการของเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง เขาได้รับความศรัทธาจำนวนมาก ทำให้ในยามนั้นไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงเขาได้
ขณะเดียวกันพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น ความเมตตาของศาสนาพุทธได้ซึมซาบเข้าสู่จิตใจของสรรพชีวิตจำนวนมาก
เขาจึงได้รับชื่อว่าเป็นกู่ฝอที่เป็นรองเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้า!
เขามาถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
จำนวนผู้ที่ศรัทธาในตัวเขามีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ผู้ใดก็ไม่อาจเทียบได้ พลังศรัทธาที่เขามีอยู่ก็มาถึงระดับมหาศาลจนเกินกว่าจะจินตาการถึง!
สุดท้ายเมื่อเขารู้สึกว่าตนสามารถทำได้แล้วก็เริ่มการนิพพาน แล้วใช้พลังความศรัทธาชักนำให้กลับชาติมาเกิดใหม่
แต่มันก็มีสิ่งที่เขาไม่คาดคิดเกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการนิพพานและกลับชาติมาเกิด ทว่ากลับมีจิตส่วนหนึ่งแยกตัวออกไป ทำให้พลังส่วนหนึ่งของเขาหายไปด้วย ส่งผลให้สภาพของเขาไม่สมบูรณ์
สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงยิ่งกว่านั่นก็คือ ตัวเขานั้นได้พ่ายแพ้ให้กับจิตที่แยกตัวออกไป ไม่ต้องพูดถึงการบรรลุขอบเขตที่สูงขึ้นเลย เขาไม่อาจทำได้กระทั่งฟื้นคืนกลับไปยังจุดเดิมด้วยซ้ำ!
“ข้าไม่เชื่อว่าวิถีสวรรค์จะปกป้องเจ้าไปได้ตลอด! หากวิถีสวรรค์เปิดช่องว่างเมื่อใด เมื่อนั้นจะเป็นเวลาตายของเจ้า!”
เขามองไปทางต้าเต๋อด้วยความคับแค้นอย่างถึงที่สุด จนถึงขนาดได้ยินเสียงกัดฟันกรอด
ครั้งนี้เขาน่าเวทนาจริง ๆ ถึงกับพ่ายแพ้ยับเยิน!
พลังจากพระธาตุพร่องไป ทำให้เขาไม่มีสิ่งเกื้อหนุนให้ไปยังขอบเขตที่สูงยิ่งขึ้น หลังจากนี้ทำได้เพียงแต่พึ่งพาตนเองเท่านั้นแล้ว
ในท้ายที่สุดเขาฉีกมิติออกแล้วหนีจากที่นี่ไป
ต้าเต๋อต้องการจะหยุดสามเณรน้อยเอาไว้ แต่ก็ล้มเหลว เณรน้อยดึงพลังจากพระธาตุของกู่ฝอมาใช้ ทำให้พลังทะลวงผ่านขั้นสูงสุด ขึ้นไปอยู่เหนือยิ่งกว่านภาสูงสุด จนไม่สามารถรั้งตัวเอาไว้ได้
เหนือขึ้นไปจากขั้นสูงสุดเป็นขั้นนภาสูงสุด เหนือจากขั้นนภาสูงสุดก็ยังมีขั้นวิถีสูงสุด
หลังจากทะลวงผ่านขั้นวิถีสูงสุดแล้วก็จะไปถึงขอบเขตจักรพรรดิ กลายเป็นกึ่งจักรพรรดิ
“สมกับเป็นกู่ฝอ!”
ต้าเต๋อหรี่ตาลง ในสถานการณ์เช่นนี้ สามเณรน้อยยังสามารถหนีไปได้ กู่ฝอนพประทีปเป็นรองเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่อาจดูแคลนได้จริง ๆ
แต่เขาก็ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าสามเณรน้อยจะต้องจ่ายราคามหาศาลในการหลบหนีไปครั้งนี้
ถ้าไม่ต้องจ่ายราคามหาศาล สามเณรน้อยคงจะเลือกหนีไปนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมาหนีหลังจากถูกเขาทุบตีอย่างหนักจนบาดเจ็บสาหัส
เห็นได้ชัดเจนว่า การหลบหนีครั้งนี้มีราคาต้องแลกมาสูงมากจนสามเณรน้อยไม่กล้าใช้ออกมา เว้นแต่จะไร้ทางเลือก
“ข้าจะรอให้เจ้ากลับมาหาข้า!”
ต้าเต๋อไร้ซึ่งความหวาดกลัว หนทางในอนาคตของเขาช่างสดใส หากสามเณรน้อยกลับมาก็ไม่ต่างจากมาถวายหัวให้เขา!
หลังจากนั้น จิตวิญญาณของต้าเต๋อก็กลับเข้าร่างเดิม พลังวิถีสวรรค์ค่อย ๆ สลายไป ทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบสงบ
“อู้เต๋อ…”
“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
พวกพระสังฆราชเเละเหล่าพระเวทโพธิสัตว์รีบเข้ามาทันที
พลังที่ปะทุขึ้นมาจากที่นี่สับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน
พวกเขารู้เพียงว่ามีพลังของวิถีสวรรค์ลงมา หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ
หลังจากสถานการณ์สงบลงแล้ว ร่างแยกของสามเณรน้อยที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็หายไปในทันที ทำให้พวกเขาสามารถเข้ามาด้านในได้
ต้าเต๋อเปิดปากออกต้องการจะพูด แต่ยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรออกมา พระสังฆราชก็ชิงเปิดปากพูดก่อน
“หรือว่าเจ้าจะทำสำเร็จแล้ว”
หยาดน้ำตาปรากฏขึ้นในดวงตาของพระสังฆราชขณะจับจ้องต้าเต๋อ “เจ้า…เจ้าไม่คู่ควรกับชื่อฝอ! อู้เต๋อก็เป็นคนผู้หนึ่งที่มีเลือดเนื้อ เจ้ากลับสังหารอู้เต๋อลงไปเช่นนี้ได้อย่างไร!?
“กู่ฝอ ครั้งนี้เจ้าทำเรื่องผิดไปแล้ว!”
“อมิตาภพุทธ นับตั้งแต่นี้ไป พระพุทธศาสนาจะไม่นับถือเจ้าเป็นฝออีกต่อไป”
เหล่าพระโพธิสัตว์กล่าวออกมา
ที่นี่เหลือต้าเต๋ออยู่เพียงผู้เดียว พวกเขาจึงคิดว่าสามเณรน้อยทำให้ทั้งสองคนรวมกันได้สำเร็จแล้ว