ตอนที่ 302 องค์ราชันเซียนฮวงเทียน พัฒนาพลังอันไร้เทียมทาน!
ปัง!
จักรพรรดิอวี่พาหนิงฝานทะยานไปในความว่างเปล่า ตลอดทางก้อนเมฆอันหนาแน่นแยกออกจากกันเป็นเส้นทาง
พรึ่บ!
จนกระทั่งมาถึงสุดปลายท้องฟ้า ทันใดนั้น ตรงหน้าก็ปรากฏวังขนาดใหญ่ขึ้น
ที่แห่งนี้เป็นวังอันโอ่อ่า รอบ ๆ รายล้อมไปด้วยหมอกเซียน ราวกับเป็นวังเซียนที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ
บนวังมีป้ายโลหะประดับอยู่ ตัวอักษรขนาดใหญ่ถูกแกะสลักเอาไว้ว่า ‘วังเซียนฮวงเทียน’
“องค์ราชัน ข้าอวี่รั่วเสวียน พาหนิงฝานมาขอเข้าพบท่าน!”
ทันทีที่มาถึง จักรพรรดิอวี่ก็พูดกับวังใหญ่ด้วยความเคารพ
อย่างไรก็ตาม ภายในวังใหญ่กลับเงียบสงบ
เห็นเช่นนั้น จักรพรรดิอวี่ราวกับเดาออกนานแล้วจึงได้พูดต่อ “องค์ราชัน หนิงฝานเข้าร่วมกับราชวงศ์เซียนฮวงเทียนเมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน เจ็ดร้อยปีมานี้ เขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นลำดับที่สี่ร้อยแปดสิบจากสามพันคนได้ ทั้งยังเป็นราชาเซียนขั้นสูงที่สังหารจักรพรรดิเซียนขั้นต้นได้ เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งใช้ขอบเขตราชาเซียนขั้นสุดสังหารจักรพรรดิเซียนขั้นกลางไปสี่คน พลังบ่มเพาะของเขานับได้ว่าเป็นความภาคภูมิแห่งสวรรค์อันไร้เทียมทานที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน!”
จักรพรรดิอวี่เล่าถึงเรื่องราวความสำเร็จตั้งแต่ที่หนิงฝานเข้าร่วมราชวงศ์เซียนฮวงเทียนมา
ทว่าภายในวังยังคงไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
จักรพรรดิอวี่ขมวดคิ้ว ท้ายที่สุดก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “องค์ราชัน เขายังเป็นเซียนไร้เทียมทานในตำนานอีกด้วย!”
ครืน!
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ภายในวังก็บังเกิดคลื่นความผันผวน
“ให้เขาเข้ามา!” ทันใดนั้นก็มีสุรเสียงดังขึ้นมาจากภายใน
“ขอบคุณองค์ราชัน!”
จักรพรรดิอวี่กล่าวขอบคุณ จากนั้นก็พูดกับหนิงฝานว่า “หนิงฝาน เข้าไปเถิด!”
“ทราบแล้ว!”
หนิงฝานพยักหน้า ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับใช้มือผลักประตูเข้าไป
แอ๊ด!
หนิงฝานก้าวเข้ามา เมื่อมองไปรอบ ๆ ภายในวังกว้างใหญ่อันไร้ขอบเขต รอบ ๆ เต็มไปด้วยเสาเซียนอันสูงส่ง มันมีประมาณสามพันเสา และทุก ๆ เสาก็เป็นลายที่เหมือนกับมังกรตัวจริง ในปากของมังกรพ่นปราณเซียนอันไร้ขอบเขตออกมา
“หืม? นี่มัน… เส้นชีพจรเซียนสามพันสาย!”
เห็นเช่นนั้นหนิงฝานอดประหลาดใจไม่ได้ เสาเซียนมังกรสามพันเสาตรงหน้า นั่นคือเส้นชีพจรเซียนสามพันสายแห่งโลกภายนอก
หลังจากความประหลาดใจหายไป สายตาของหนิงฝานก็จับจ้องไปยังศูนย์กลางภายในวังอีกครั้ง
บนนั้นมีชายวัยกลางคนร่างกำยำนั่งขัดสมาธิอยู่ ใบหน้าของชายวัยกลางคนรายล้อมไปด้วยปราณเซียนโกลาหลอันหนาแน่นจนมองเห็นใบหน้าไม่ชัด เสาสีดำลอยอยู่เหนือศีรษะ เศษมิติเวลาห้อยลงมาหลายพันล้านเกลียว
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแสงวูบไหว มีสุริยัน จันทรา และดวงดาราที่ถูกทำลาย มีการเปลี่ยนแปลงสรรพสิ่งในฟ้าดิน มีเหล่าเซียนกว่าหมื่นคนที่กำลังคุกเข่าทำความเคารพอยู่
องค์ราชัน!
ประมุขแห่งราชวงศ์เซียนฮวงเทียน
ฮ่าฮ่าฮ่า!
แม้องค์ราชันจะแข็งแกร่งและลึกลับ หนิงฝานอาจจะตกใจแต่ก็มิได้เกรงกลัว เขาเพียงก้าวไปยังด้านหน้า
เขาพูดขึ้นเบา ๆ “หนิงฝานทำความเคารพองค์ราชัน!”
พรึ่บ!
ทันใดนั้น องค์ราชันก็ลืมตาขึ้น ลำแสงประหลาดสองสายพวยพุ่งออกมาราวกับมังกรสองตัว และด้วยนัยน์ตาคู่นี้ก็มากพอที่จะทำให้จักรพรรดิเซียนก้มหัวลงให้ด้วยความนับถือและความเกรงกลัว
อย่างไรก็ตาม หนิงฝานกลับทำตัวนิ่งเงียบและจ้องมองด้วยสายตาเฉยเมย
“หึ! สมกับเป็นเซียนไร้เทียมทานในตำนาน พบหน้าข้าก็ยังคงสามารถนิ่งเฉยเช่นนั้นได้ ไม่เลว!”
เมื่อเห็นการแสดงออกของหนิงฝาน องค์ราชันก็พูดจาชื่นชม
“องค์ราชันชมกันมากเกินไปแล้ว!” หนิงฝานตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“พูดมา เจ้ามาพบข้าด้วยเหตุอันใด!” องค์ราชันถามขึ้น
“มีเรื่องหนึ่งที่อยากรบกวนองค์ราชันช่วยขจัดความสงสัย!” หนิงฝานตรงเข้าประเด็น
ทว่าองค์ราชันกลับยกยิ้มอย่างดูถูก “ฮ่าฮ่า! ข้าถือคติเสมอว่าผู้แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพและกำปั้นนั้นใหญ่ที่สุด! แม้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าจะไม่แย่ แต่เจ้ายังคงเป็นเพียงราชาเซียนขั้นสุด เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติมากพอที่จะให้ข้าช่วยขจัดข้อสงสัยให้กับเจ้าเช่นนั้นรึ!”
“ดูเหมือนว่าข้าจะมาที่นี่เร็วเกินไป!”
ได้ยินเช่นนั้นหนิงฝานมิได้โกรธอันใด เพียงประสานมือทำความเคารพ “เช่นนั้น ข้าขอลา!”
พรึ่บ!
พูดจบ ชายหนุ่มก็หันหลังเดินจากไป
“เดี๋ยว!”
ทว่าตอนนี้เอง องค์ราชันพูดขึ้นอีกครั้ง “หากข้าและเซียนไร้เทียมทานมีชะตาต่อกัน ข้าจะให้โอกาสเจ้าหนึ่งครั้ง ขอเพียงเจ้ารับมือกับดัชนีของข้าได้ ข้าจะช่วยขจัดความสงสัยให้ เป็นอย่างไร?”
“นี่… ตกลง!”
ได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานครุ่นคิดไม่นานและท้ายที่สุดก็พยักหน้า
แม้เดิมทีเขาสามารถปฏิเสธได้ รอให้พลังมากพอแล้วค่อยกลับมาใหม่ แต่เมื่อนึกถึงองค์ราชันที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งน่าจะรู้เบาะแสของบงกชเซียนเก้ากลีบ เขาจึงตัดสินใจลองดู
“หึ!”
องค์ราชันพยักหน้า ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมา
ฟุ่บ!
มวลพลังดัชนีควบแน่นเข้าหากัน บนพื้นผิวนั้นดูเรียบง่ายไร้แสงส่องสว่างราวกับว่ามิได้มีพลังอันใด
ทว่าหนิงฝานกลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
“คัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน!”
“ร่างอันไร้เทียมทาน!”
“กระบี่ต้าหลัว!”
“กลยุทธ์สงครามบรรพกาล!”
“…”
หนิงฝานระเบิดพลังเต็มที่ แล้วภาพหลอนอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของราชันจักรพรรดิเซียนก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา พลังต้องห้ามสิบเท่าเดือดพล่านไปทั่วร่างกายของเขา ในมือถือกระบี่ต้าหลัวไว้อยู่!
ตู้มมม!
ตอนนี้หนิงฝานใช้พลังทุกสิ่งที่มีและสับฟันคมกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกไป!
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
ทว่าเมื่อดัชนีโจมตีมา ร่างอวตารของราชันจักรพรรดิเซียนพลันแตกสลายในทันที พลังต้องห้ามของเซียนไร้เทียมทานถูกทำลาย กระบี่ต้าหลัวพลันเกิดเสียงดังลั่นจนน่าตื่นตกใจ
ตู้มมม!
หนิงฝานควบคุมตัวเองไม่ไหวจนต้องถอยร่นออกมา เมื่อเท้าแตะถึงพื้นร่างกายของเขาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ กระทั่งวิญญาณเซียนยังดูหม่นหมองยิ่ง
ล้มเหลว!
“ข้า…แพ้แล้ว!” สีหน้าของหนิงฝานมืดมน
เขารู้ดีว่าตัวเองใจร้อนเกินไป ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เดิมทีก็มิใช่คู่ต่อสู้ขององค์ราชันตรงหน้าเลย
“ไม่! เป็นข้าที่แพ้แล้ว!”
อย่างไรก็ตาม องค์ราชันกลับส่ายหัว ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ข้าต้องยอมรับว่ากระบี่เมื่อครู่ของเจ้าแข็งแกร่งมาก หากว่าเจ้ากับข้าอยู่ในขอบเขตเดียวกัน ข้าคงไม่สามารถต่อกรกับเจ้าได้!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ องค์ราชันจะยอมขจัดความสงสัยให้ข้าหรือไม่?” หนิงฝานดีใจขึ้นมาในทันที
องค์ราชันพยักหน้า “ว่ามาเถิด เจ้าต้องการให้ข้าขจัดความสงสัยในเรื่องอันใด?”
ได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็หยิบเอาสัญลักษณ์รูปแกะสลักบงกชเซียนเก้ากลีบออกมาจากความว่างเปล่าในทันที
“หืม?!”
ไม่รอให้หนิงฝานถาม เมื่อเห็นภาพบงกชเซียนเก้ากลีบ องค์ราชันผู้เงียบขรึมมาโดยตลอด รูม่านตาของเขาหดลงในทันที ราวกับมองเห็นเรื่องอันน่าเหลือเชื่อ
‘หืม! ดูเหมือนว่าองค์ราชันจะรู้ว่าสัญลักษณ์นี่มีความหมายว่าอะไร!’
เมื่อเห็นปฏิกิริยาขององค์ราชัน ภายในใจของหนิงฝานก็มีความสุขมาก
ผู้ใดจะล่วงรู้ว่าเขาใช้เวลาหนึ่งพันห้าร้อยกว่าปีนี้เพื่อตามหา ตั้งแต่ที่เมืองเซียนโบยบินจนไปถึงราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ในที่สุดก็ตามหาบุคคลที่รู้จักบงกชเซียนเก้ากลีบจนพบ
ทันใดนั้นเขาประสานกำปั้นเข้าด้วยกันและพูดขึ้น “องค์ราชัน ความหมายของสัญลักษณ์นี้มีความสำคัญกับข้ามาก โปรดอธิบายให้ข้าด้วย!”
ทว่าองค์ราชันกลับมิได้ตอบอันใด แต่ถามขึ้นว่า “เจ้าพบสัญลักษณ์เช่นนี้ในที่แห่งใดกัน?”
“เมื่อหนึ่งพันห้าร้อยปีก่อน บุคคลที่พกสัญลักษณ์เช่นนี้ได้จับตัวคนที่สำคัญที่สุดของข้าไป!”
หนิงฝานเล่าถึงประวัติที่มาของสัญลักษณ์นี้
ได้ยินเช่นนั้น องค์ราชันก็เงียบลงราวกับดูประหลาดใจ สักพักเขาก็ถอนหายใจ แล้วสักพักก็ดูสงสัย อารมณ์คล้ายสับสนวุ่นวาย
“องค์ราชัน ท่านรู้ความหมายของสัญลักษณ์นี้เป็นแน่ ได้โปรดท่านช่วยอธิบายให้ข้าฟังด้วยเถิด!” หนิงฝานขอร้องอีกครั้ง
องค์ราชันยังคงมิได้ขจัดข้อสงสัยให้กับหนิงฝาน แต่กลับถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดขึ้น “หนิงฝาน เจ้าเป็นตัวประหลาดที่พบเจอได้ยากยิ่ง ความสำเร็จในวันข้างหน้าจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน แต่สัญลักษณ์นี้… ข้าแนะนำเจ้าด้วยความจริงใจ หากเจ้าไม่อยากตาย ก็จงล้มเลิกความคิดที่จะตามหาสัญลักษณ์นี้เสียเถิด!”
“เป็นไปไม่ได้! ไม่ว่าสัญลักษณ์นี้จะเป็นตัวแทนของสิ่งใด ข้าจะไม่มีวันล้มเลิกตามหามัน!”
ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างหนักแน่น ท้ายที่สุดเขาก็พูดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม “องค์ราชัน เชิญท่านอธิบายมาเถิด!”
แต่องค์ราชันกลับยังคงส่ายหัว “หนิงฝาน สัญลักษณ์นี้มิได้มีความหมายง่ายดายดังเช่นที่เจ้าคิด หากเจ้ารู้ก่อนล่วงหน้า ภายในใจของเจ้าจะไม่เป็นสุข นี่มีผลร้ายต่อพลังการฝึกฝนของเจ้า!”
“อย่างไรก็ตามด้วยความหนักแน่นของเจ้าคงจะไม่ยอมแพ้เป็นแน่ เช่นนั้นข้าขอตั้งเป้าหมายหนึ่งให้กับเจ้า เมื่อไหร่ที่เจ้าสามารถชนะข้าได้ เจ้าจึงจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับรู้ถึงความหมายของสัญลักษณ์นี้!”
“เข้าใจหรือไม่?”
องค์ราชันจ้องมองหนิงฝานอย่างลึกซึ้ง
ชายหนุ่มนิ่งเงียบไป เขาเข้าใจดีว่าเบื้องหลังสัญลักษณ์บงกชเซียนเก้ากลีบนั้นไม่ธรรมดา และองค์ราชันเองก็ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของเขา
แต่พลังของเขาในตอนนี้ยังไม่มากพอ และก็คงไม่สามารถบังคับให้องค์ราชันบอกเขาได้ ท้ายที่สุดจึงทำได้แค่ยอมรับ “ตกลง! ในเมื่อตอนนี้องค์ราชันไม่ยอมพูด เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับ ในอีกไม่นานข้าจะต้องชนะท่าน และทำให้ท่านพูดมันออกมาเอง!”
“ข้าขอลา!”
หนิงฝานหมุนตัวกลับและเดินออกไป
“ช้าก่อน!”
ตอนนี้เอง องค์ราชันรั้งหนิงฝานเอาไว้อีกครั้ง ท่ามกลางสายตาอันสับสน เขาปลดเสาสีดำที่อยู่เหนือศีรษะของตัวเองออกมา “หนิงฝาน เสานี้มีนามว่าเสาฮวง มันเป็นสมบัติกาลเวลาที่ข้าได้มาด้วยความบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน เมื่อเริ่มใช้งานเสาแล้วเวลาหนึ่งชั่วยามของโลกภายนอก จะเท่ากับเวลาอันไร้ซึ่งอายุขัยของภายในเสา แน่นอนว่าในวันนี้ภายในเสายังคงเหลือช่วงเวลาสุดท้ายอีกห้าร้อยปี วันนี้ข้าขอมอบมันให้เจ้า หวังว่าเจ้าจะสามารถปรากฏตัวขึ้นในเร็ววันเพื่อมาต่อสู้กับข้า!”
ปัง!
พูดจบ องค์ราชันก็นำเสาฮวงมอบให้กับหนิงฝาน
“ขอบคุณท่านมาก!”
ชายหนุ่มมิได้เสแสร้ง เขารีบรับเสาฮวงมาในทันที พร้อมกับกล่าวขอบคุณองค์ราชันและรีบจากไป
“หนิงฝาน ข้าจะรอวันที่เจ้าเอาชนะข้าได้ ข้าจะตั้งตารออนาคตของเจ้าที่จะพัฒนาพลังอันไร้เทียมทาน!”
มองอีกฝ่ายจากไป สายตาขององค์ราชันพลันเป็นประกาย พลังพิเศษค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในร่างกาย พลังนั้นเหมือนกับพลังภายในร่างกายของหนิงฝานนั่นก็คือ พลังอันไร้เทียมทาน!