รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 354 การมอบหยกคุ้มภัยให้ หรือว่าท่านเซียนจะล่วงรู้เหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า?

บทที่ 354 การมอบหยกคุ้มภัยให้ หรือว่าท่านเซียนจะล่วงรู้เหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า?

บทที่ 354 การมอบหยกคุ้มภัยให้ หรือว่าท่านเซียนจะล่วงรู้เหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า?

หลิงอินมุ่งไปพร้อมกับจิตสังหาร ผู้มาจากทะเลต้องห้ามโหดเหี้ยมเลือดเย็นเกินไป มองชีวิตคนเป็นสิ่งไร้ค่า ไม่เห็นอยู่ในสายตาอย่างสมบูรณ์

ฟังจากเสียงในแผ่นป้ายก่อนหน้านี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้ที่มาจากทะเลต้องห้ามรู้อยู่แล้วว่ามีแผ่นป้ายที่สามารถติดต่อนางได้ แต่ผู้ที่มาจากทะเลต้องห้ามยังคงเปิดฉากสังหารหมู่ที่แห่งนี้ เพื่อให้จ้าวหุบเขาเอ่ยยอมรับออกมาด้วยตนเอง

นี่แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของทะเลต้องห้าม!

หุบเขาคงหลิงสืบทอดกันมาอย่างช้านาน ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ล้วนเจริญรุ่งเรืองเปี่ยมอำนาจยืนอยู่บนตำแหน่งสูงส่ง มีขอบเขตระดับมหาจักรพรรดิกำเนิดขึ้นมาไม่ขาดสาย

ทว่าหุบเขาคงหลิงที่ทรงพลังถึงขนาดเพียงนี้ กลับไม่นับเป็นสิ่งใดได้ต่อหน้าทะเลต้องห้าม คนจากทะเลต้องห้ามเข้ามาทำตามใจเหยียดหยามหุบเขาคงหลิงอย่างถึงที่สุด

เมื่อหลิงอินมาถึง นางก็พบกับสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามในทันที

มันไม่ใช่มนุษย์ ลำตัวเป็นเสือดาว หางเป็นแมงป่อง บนหลังมีเดือยกระดูกหนาแน่นน่าขนลุก ปราณที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงทั้งมืดมนและชวนสยอง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาด

นั่นเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าใดกันแน่?

หลิงอินขมวดคิ้ว นางไม่รู้จักที่มาของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้าม ไม่รู้กระทั่งว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าใดกันแน่

“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดพวกเจ้าถึงต้องปกป้องคนนอกแม้แลกด้วยชีวิต”

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามเองเห็นหลิงอินเดินเข้ามา มันเอ่ยถามจ้าวหุบเขาด้วยความสนใจ

“เจ้าจะไปเข้าใจได้อย่างไร? เจ้าเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานโหดเหี้ยมเลือดเย็นเท่านั้น!”

จ้าวหุบเขากัดฟันเอ่ยออกมา

หยาดเลือดหลั่งรินดั่งสายธาร คนของหุบเขาคงหลิงจำนวนมากสิ้นชีพลงไปอย่างน้อยก็เกินครึ่งด้วยน้ำมือของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้าม

ตอนแรกนางต้องการจะติดต่อหลิงอิน แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น

เพราะนางรู้ดีว่าต่อให้แจ้งหลิงอินไป หลิงอินก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ อีกทั้งตอนจบสุดท้ายอีกฝ่ายอาจต้องสิ้นชีพลงไปด้วย

และถึงหลิงอินจะสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามได้ แต่เบื้องหลังของมันยังมีทะเลต้องห้ามอยู่!

นางจะสามารถจัดการกับทะเลต้องห้ามทั้งหมดได้หรือ?

เก้าแดนต้องห้าม ดำรงอยู่มาช้านาน ทั้งลึกลับและน่าหวาดกลัว

แม้ว่าราชวงศ์อวี่ฮว่าจะเคยรวมโลกทั้งใบให้เป็นหนึ่งเดียว แต่ก็ยังคงกริ่นเกรงและไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่ของเก้าแดนต้องห้าม เช่นนั้นแล้วหลิงอินจะสามารถจัดการกับทั้งทะเลต้องห้ามได้อย่างไร

ภูมิหลังของหลิงอินไม่ธรรมดา อาจเป็นผู้อาวุโสโบราณจากยอดนิกาย

แต่มันจะมีประโยชน์อันใด?

ยอดนิกายนั้นทรงพลังอย่างน่าตกตะลึง แต่เมื่อเทียบกับเก้าแดนต้องห้ามแล้ว นางกลับคิดว่ามันยังคงห่างไกลกัน

หากจัดการเก้าแดนต้องห้ามได้จริง ๆ เก้าแดนต้องห้ามก็คงไม่มีทางอยู่ยงมาโดยตลอด ทั้งยังลึบลับเป็นอย่างยิ่ง

นางต้องการให้ทุกอย่างจบลงที่หุบเขาคงหลิง ไม่ต้องการให้ลุกลามไปมากกว่านี้

ยิ่งไม่ต้องการให้หลิงอินและยอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังของนางต้องเผชิญหน้ากับทะเลต้องห้าม

สุดท้ายแล้ว นี่เป็นความผิดที่หุบเขาคงหลิงได้ก่อขึ้น

นางต้องการจะชดเชยความผิดพลาดนี้!

สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนกำลังจะจุติลงมา ทั้งโลกกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามครั้งใหญ่

หากหุบเขาคงหลิงหายไปก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใด

ทว่าหลิงอินกับยอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังนางไม่สามารถให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นได้

หลิงอินและยอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังเป็นกำลังหลักในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวน จึงไม่อาจให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาได้!

หากมีเรื่องเกิดขึ้น พวกเขาจะต่อกรกับสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนได้ลำบากยิ่งกว่าเดิม

แต่นางกลับไม่คาดคิดว่าสิ่งมีชีวิตจากแดนต้องห้ามได้ล่วงรู้ทุกอย่างตั้งแรกแล้ว!

นางต้องการจะแอบทำลายของวิเศษที่ติดต่อกับหลิงอินได้ แต่กลับถูกสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามขัดขวางและแย่งชิงไป

“ท่านไม่ควรมาที่นี่!”

จ้าวหุบเขามองไปทางหลิงอินก่อนจะตะโกนออกมา “ความผิดอย่างไรก็คือว่าผิด นี่คือผลที่พวกเราสมควรได้รับ แม้ตายก็ไม่เสียดาย! แต่ท่านไม่เหมือนกัน! ท่านมีความสำคัญอยากมากในการต่อกรกับอาณาจักรเทียนหยวน!”

“อาณาจักรเทียนหยวน?”

หลิงอินขมวดคิ้ว นางไม่รู้ว่าอาณาจักรเทียนหยวนคือสิ่งใด

ครั้งล่าสุดที่นางมาหุบเขาคงหลิง จุดประสงค์หลักของนางคือจักรพรรดิบุปผา ส่วนเรื่องอื่น ๆ นางกลับไม่ค่อยล่วงรู้มากนัก

ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรเทียนหยวนเลย กระทั่งยอดนิกายที่พูดถึงกัน นางเองก็ยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก

“ท่านไม่รู้จักอาณาจักรเทียนหยวนอย่างนั้นหรือ?“

จ้าวหุบเขาตกตะลึง “ยอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ท่านรู้หรือ? เจตจำนงฟ้าดินได้ส่งสัญญาณเตือนออกมา สิ่งมีชีวิตจากแดนเทียนหยวนกำลังพยายามหาทางบุกเข้ามายังโลกของเรา หายนะที่แทบกวาดล้างโลกครั้งสมัยโบราณกาลก็เกิดจากสิ่งมีชีวิตจากแดนเทียนหยวนที่กำลังจะกลับมาในไม่ช้า!”

หายนะที่แทบกวาดล้างโลกครั้งสมัยโบราณกาล?

หลินอินขมวดคิ้ว นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา นางก็อยู่ในเมืองชิงซาน จำนวนผู้ฝึกตนที่นางติดต่อด้วยก็มีอยู่น้อยนิดจนนางไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในสมัยโบราณกาล

“ใช่แล้ว ที่ยอดนิกายเบื้องหลังท่านไม่ได้บอกท่าน ก็น่าจะเป็นเพราะกลัวท่านตื่นตระหนกเกินไป ศึกในครั้งนี้ยากยิ่งนัก โอกาสในการชนะของพวกเราน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง!”

จ้าวหุบเขาตะโกนออกมา “ในวันข้างหน้า ยอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังท่านคงจะบอกพวกท่านทุกอย่าง ท่านรีบไปเถิด ในอนาคตท่านจะมีความสำคัญต่อโลกใบนี้มาก!”

นางยังคงเชื่อว่าหลิงอินมาจากยอดนิกาย

กระทั่งถึงตอนนี้นางก็ยังคงคิดว่าหลิงอินมาจากยอดนิกาย

เพราะนอกจากยอดนิกายแล้ว นางก็ไม่สามารถนึกเหตุผลอื่นว่า เหตุใดหลิงอินถึงได้ทรงพลังอย่างน่าหวาดหวั่นเพียงนี้

“ไม่ เจ้าคิดผิดแล้ว”

หลิงอินส่ายหัวเบา ๆ

ทุกสิ่งทุกอย่าง จ้าวหุบเขาล้วนคิดผิด

จ้าวหุบเขาคิดว่านางมาจากยอดนิกาย ซึ่งไม่ถูกสักนิด

จ้าวหุบเขาคิดว่านางไม่สามารถจัดการกับทะเลต้องห้าม นี่เองก็ผิด

จ้าวหุบเขาคิดว่าการเอาชนะอาณาจักรเทียนหยวนแทบจะเป็นไปไม่ได้ นี่เองก็ผิดเช่นกัน

นางไม่ได้มาจากยอดนิกายอะไรนั่น

อีกทั้งนางยังสามารถจัดการกับทะเลต้องห้ามได้!

ส่วนสงครามอันยากลำบาก?

ไม่สามารถต่อกรกับโลกเทียนหยวนได้?

ท่านเซียนอยู่บนโลกใบนี้ แล้วอาณาจักเทียนหยวนจะนับเป็นสิ่งใดได้?

พวกมันจะสามารถทำสิ่งใดได้?

ไม่ต้องพูดถึงท่านเซียนลงมือด้วยตัวเอง เพียงคนรอบกายท่านเซียน ก็ไม่ใช่ผู้ที่อาณาจักเทียนหยวนจะสามารถต่อกรได้แล้ว!

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ความคิดอีกมากมายก็ปรากฏตามขึ้นมาในใจนาง

ท่านเซียนสั่งสอนผู้คนไปไม่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องการจะให้คนเหล่านี้ต่อกรกับสิ่งมีชีวิตจากแดนเทียนหยวน?

ความคิดเช่นนี้มีโอกาสเป็นไปได้มาก

ท่านเซียนเป็นผู้เมตตา ขนาดภัยร้ายที่เกิดขึ้นกับปุถุชนยังไม่อาจทนมองได้ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยให้สิ่งมีชีวิตจากแดนเทียนหยวนสังหารผู้คนบนโลกใบนี้ได้ตามอำเภอใจ!

นอกจากนี้ นางยังจำหยกคุ้มภัยที่ท่านเซียนมอบให้ในวันนี้ได้

การมอบหยกคุ้มภัยให้ หรือว่าท่านเซียนจะล่วงรู้เหตุการณ์บางอย่างล่วงหน้า? ท่านเซียนจึงได้มอบหยกคุ้มภัยให้เพราะเกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง

คนอื่นนางไม่รู้ แต่สำหรับตัวนางกลับตระหนักขึ้นได้

ท่านเซียนมอบหยกคุ้มภัยให้นาง ไม่ใช่เพียงเพื่อปกป้องนาง แต่เพื่อให้นางสามารถต่อกรกับทะเลต้องห้ามได้ใช่หรือไม่?

ทะเลต้องห้ามทั้งน่าหวาดกลัวและลึกลับ อยู่ยงตลอดกาล ไม่มีวันตายหรือล่มสลาย

แม้นางจะมีฉินเฟิ่งหมิงและคันศรอยู่ในมือ แต่ก็เป็นเรื่องลำบากในการต่อกรกับทั้งทะเลต้องห้าม

ท่านเซียนได้มอบหยกคุ้มภัยให้นาง เห็นได้ขัดว่าเพื่อให้นางปลอดภัยไม่ต้องห่วงพะวง!

‘ท่านเซียน!’

ความอบอุ่นแล่นขึ้นมาในใจนางจนสะท้าน

ท่านเซียนพานางไปภาคกลาง เพื่อให้จัดการเรื่องราวของเสี่ยวหยา ซ้ำยังมอบหยกคุ้มภัยให้ปกป้องนาง ทำให้นางจะได้ไม่ต้องกลัวการคุกคามจากทะเลต้องห้าม

ท่านเซียนเป็นห่วงนางมาก!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท