บทที่ 356 มุ่งหน้าไปยังทะเลต้องห้าม ทุกอย่างต้องจบลง!
ครืน!
มิติระเบิดแหลกลาญ พลังปราณอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงซัดสาดไปทั่ว สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้คลุ้มคลั่ง แผลงฤทธิ์พลังรบสูงสุด กฎซึ่งเหนือกว่ามหาจักรพรรดิถักทอผสาน น่าหวาดหวั่นเหลือแสน!
มันไม่มีทางเลือก แรงกดดันมีมากเกินไป เพลงฉินข่มพลังของมันจนตัวมันยังไม่อยากเชื่อ นี่มันฉินอะไรกันนี่ อยู่ในระดับที่ข่มพลังมันได้เชียวหรือ!
ตึง ตึง ตึง!
สิ่งมีชีวิตในหุบเขาคงหลิงหมอบกับพื้นคนแล้วคนเล่า กระอักเลือดไม่หยุด รอยร้าวคืบคลานไปทั่วร่าง พวกเขารับคลื่นพลังเช่นนี้มิไหว ไม่สามารถหนีเอาชีวิตรอดด้วยซ้ำ!
แม้กระทั่งนักบุญยุคนี้ของหุบเขาคงหลิงยังสิ้นฤทธิ์ เมื่อเผชิญกับคลื่นพลังระดับนี้ พลังนักบุญของพวกเขาไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่ต่างจากสมาชิกคนอื่น ๆ ของหุบเขาคงหลิง
พวกเขาเองก็ไร้โอกาสหนี ร้าวรานทั่วร่าง วิญญาณแตกสลาย!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ประกายหลากสีมากมายพวยพุ่งออกจากฉินเฟิ่งหมิง คุ้มกันสิ่งมีชีวิตในหุบเขาคงหลิง ปัดป้องคลื่นพลังนี้ออกไป
สยดสยองเกินไปแล้ว หากมิใช่ว่ามีพลังของฉินเฟิ่งหมิงคอยคุ้มกัน พวกเขาไม่อาจต้านทานได้แม้แต่ลมหายใจเดียว!
โฮก!
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามทะยานตัวขึ้น เสียงคำรามกึกก้องไปทั่วเอกภพ กลิ่นอายชั่วร้ายท่วมท้นท้องนภา!
มันเข้าโรมรันดุเดือดกับเงาเซียนซึ่งหลอมร่างจากเพลงฉิน เสียงระเบิดดังไม่ขาดสาย ท้องฟ้าเกิดเป็นหลุมแล้วหลุมเล่า แสดงภาพการต่อสู้จนฟ้าถล่มได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
“ไม่มีประโยชน์!”
หลิงอินคำรามเสียงเย็น ยกมือยิงศรออกไปอีกหลายครา แต่ละศรทวีความน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ
เลือดสาดกระเซ็นรินหลั่งลงมาจากฟากฟ้า สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามได้รับบาดเจ็บ ร่างของมันถูกศรอาบแสงดอกหนึ่งยิงทะลุ เจ็บเสียจนมันคำรามด้วยความกราดเกรี้ยว
ทว่ามันนั้นดุดันน่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง
แม้จะได้รับบาดเจ็บ บารมีกลับไม่ลดลงแม้แต่น้อย พลังที่ปะทุออกมายังคงรุนแรงเช่นเดิม!
“ภาพวาดทะเลต้องห้าม!”
มันเรียกภาพใหญ่ใบหนึ่งออกมา ภาพนั้นมีหมอกดำล้อมรอบ ซ้ำยังมีพลังปราณน่าพิศวงคืบคลานออกมาด้วย!
นี่คือภาพอาคมทรงพลังซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากทะเลต้องห้าม น่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด มันพกภาพทะเลภาพนี้ออกมาด้วย เผื่อไว้สำหรับกรณีไม่คาดคิด
ซ่า!
ภาพวาดทะเลต้องห้ามคลี่ออก น้ำทะเลสีดำไร้ขอบเขตแสนพิศวงทะลักออกมา ท่วมท้นทุกสิ่ง แม้กระทั่งประกายแสงเอนไหวของเงาเซียนยังต้องหม่นหมอง
หลิงอินยิงศรอาบแสงออกไปอีกหลายครั้ง ทว่าพลังจากน้ำทะเลสีดำน่าพิศวงนี้น่ากลัวเกินไป ศรอาบแสงจมดิ่งลงไปในพริบตา ไม่มีคลื่นกระเซ็นขึ้นมาแม้แต่หยดเดียว!
“เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก!”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตวาดลั่น เรียกเอาน้ำทะเลสีดำในภาพให้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
มันนึกโชคดีในใจเหลือคณาที่พกภาพทะเลภาพนี้มาด้วย หากมิได้นำสิ่งนี้มาด้วย มันคงทำอะไรหลิงอินไม่ได้จริง ๆ
อานุภาพของฉินวิเศษและคันศรวิเศษแกร่งกล้าเกินไป!
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ภาพทะเลนี้น่าทึ่งมากก็จริง พลังแสนน่ากลัว ต่อให้เป็นระดับมหาจักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะได้เปรียบ อาจถูกสังหารในเสี้ยวพริบตา
ทว่าพลังของฉินและคันศรมิได้มีเท่านี้!
เสียงวิหคเพลิงคำรามดังขึ้น ญาณฉินวิหคเพลิงโบยบินออกจากฉินเฟิ่งหมิง ราวกับอสูรร้ายแห่งบรรพกาลได้ตื่นขึ้นเสียแล้ว ปีกของมันสยายกว้าง ทะเลเพลิงไร้ที่สิ้นสุดพวยพุ่งออกมา เข้าปะทะกับน้ำทะเลสีดำที่หลั่งไหล!
ทะเลเพลิงลุกโชนรุนแรง หมายจะแผดเผาเวหาให้สิ้นซาก เงาเพลิงแผ่ขยายออกไปทั่วทั้งผืนฟ้า น้ำทะเลสีดำระเหยอย่างรวดเร็ว ไม่อาจต่อต้านพลังจากทะเลเพลิงได้!
“ภาพกระจอกเพียงภาพเดียว ยังกล้าเอาออกมาอวดอ้างบารมีอีกหรือ”
หลิงอินคำรามเสียงเย็น ยิงศรออกไปอีกครั้ง ศรนี้ประดุจดาวตก พลังแฝงเหนือจินตนาการ พุ่งทะลุน้ำทะเลสีดำ ปักลงไปบนภาพวาดทะเลต้องห้าม!
บังเกิดเสียงดังตู้ม ภาพวาดทะเลต้องห้ามระเบิดแหลกลาญ ถูกศรนี้ทำลายจนราบคาบ!
“อะไรกัน!”
ม่านตาของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามหดลงอย่างเร็ว อย่างไรก็เชื่อภาพที่มันเห็นไม่ลง
จะให้มันเชื่อได้อย่างไร!?
ภาพวาดทะเลต้องห้ามอันทรงพลังถูกทำลายด้วยศรเดียวอย่างนั้นหรือ!
เรื่องนี้เกินกว่าการรับรู้ของมัน จนมันชาหนึบไปทั้งหนังศีรษะ!
ภาพวาดทะเลต้องห้ามเชียวนะ ผ่านการแช่ในน้ำทะเลต้องห้ามมาแล้ว พลานุภาพแสนยิ่งใหญ่ สุดท้ายกลับถูกทำลายด้วยศรเดียว จะให้มันเชื่อได้อย่างไร!
พลังต้องห้ามนี้คือพลังอันเป็นแก่นรากของพวกมันทะเลต้องห้าม เป็นต้นทุนอันแกร่งกล้าของพวกมัน ทว่าหลังปะทะกับศรรนี้กลับย่อยยับในบัดดล…
มุมมองที่มีต่อโลกของมันพังครืนในทันที!
สะท้านโลกาเกินไปแล้ว!
นี่มันฉินอะไร ศรอะไรกันแน่!?
พรวด พรวด พรวด!
เลือดสาดกระเซ็น หลิงอินยิงศรออกไปอีกหลายครา เร่งพลังถึงขีดสุด สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามต้านทานไม่ได้เลย ร่างกายถูกแทงทะลุทุกส่วน บาดเจ็บสาหัส!
เงาเซียนตวัดกระบี่ยาวจู่โจมเข้ามา หนึ่งกระบี่ส่องสว่างไปเก้าแคว้น เงานั้นสับฟันกระบี่ออกไปหลายครั้งระรัวเร็ว สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมายนับไม่ถ้วน
เสียงดังฟึ่บ วิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามหนีออกจากกาย ทว่ามันยังไม่ทันได้เผ่นก็ถูกพลังของเพลงฉินสะกดไว้เสียก่อน
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามกลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ มันต้องตายอยู่ที่นี่หรือ!
เพลงฉินบรรเลงต่อไปไม่หยุด มีพลังทำลายล้างต่อวิญญาณอย่างแรงกล้า วิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามกระอักโลหิตวิญญาณออกมาไม่หยุด พลังปราณถดถอยเรื่อย ๆ
หลิงอินยิงออกไปอีกหลายศร ศรปีกมีพลังทำลายล้างต่อวิญญาณสูงมากเช่นกัน วิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามบาดเจ็บสาหัสต่อเนื่อง พลังปราณใกล้เหือดแห้งเต็มที เห็นอยู่ทนโท่ว่ามันกำลังจะถูกฆ่าตายที่นี่
ทว่าหญิงสาวมิได้ปลิดชีพมัน
นางหยุดทุกการโจมตี เก็บฉินวิเศษและคันศรวิเศษ ยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งเข้าไป ทะลุมิติตรงดิ่งไปคว้าวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามมาไว้ในมือ
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามในตอนนี้อ่อนแรงจนถึงขีดสุด ไม่อาจทำอันตรายนางได้อีกต่อไป
“เจ้าอยากให้ข้าไปเยือนทะเลต้องห้ามมิใช่หรือ ไปสิ ข้าจะไปกับเจ้า”
หลิงอินกล่าว… นางจะเข้าไปในทะเลต้องห้าม!
สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องมีบทสรุป มิฉะนั้นทุกอย่างก็จะดำเนินต่อไปไม่หยุดหย่อน หุบเขาคงหลิงต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยอีกเรื่อย ๆ
“อะ…อะไรนะ?”
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามสงสัยว่าตนได้ยินผิดไปหรือไม่
หลิงอินจะไป…ทะเลต้องห้ามหรือ?
แม่นางใจกล้าถึงเพียงนี้เชียว?
บ้าเอ๊ย หากเจ้าจะไปบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ข้าอยากพาเจ้าไปแทบแย่ แล้วเจ้ามัวต่อสู้กับข้าทำมะเขือหรือไร ซ้ำร้ายยังอัดข้าเสียยับเยิน!
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามรู้สึกอดสูเป็นที่สุด
กาลเวลาผันเปลี่ยน ปฐพีพลิกโฉม หลิงอินไม่รู้ว่าทะเลต้องห้ามในยุคนี้ตั้งอยู่ที่ใด
นางเก็บสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไว้โดยยังไม่ฆ่าก็เพราะต้องการให้สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้นำทางให้นางเท่านั้น
ถึงที่นั่นเมื่อใด นางย่อมไม่ปล่อยสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไว้แน่ ทั้งยังจะส่งสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไปที่ชอบด้วย!
เลือดต้องล้างด้วยเลือด การฆ่าฟันที่สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามก่อขึ้นที่นี่ จำต้องชดใช้ด้วยชีวิต!
“แม่นาง…หลิงอิน ท่านจะไปจริงหรือ อย่า อย่าไปเลย ทะเลต้องห้ามน่ากลัวเกินไป!”
จ้าวหุบเขาเดินเข้ามาอย่างยากลำบากเพื่อเกลี้ยกล่อมหลิงอิน ไม่อยากให้หลิงอินเดินทางไปยังทะเลต้องห้าม
สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตรงหน้านี้เป็นเพียงลิ่วล้ออย่างเห็นได้ชัด เป็นที่แจ่มแจ้งแล้วว่าในทะเลต้องห้ามยังมีการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่านี้
โดยเฉพาะในพื้นที่ของทะเลต้องห้ามเอง
นางเป็นห่วงความปลอดภัยของหลิงอินมาก
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้จำต้องจบลง”
หลิงอินกล่าว บอกให้จ้าวหุบเขาไม่ต้องกังวล เพราะนางมีวิธีเอาตัวรอด
หากปราศจากหยกคุ้มภัยที่ท่านเซียนประทานให้ นางย่อมมิกล้าไปยังทะเลต้องห้าม
ทว่าหลังได้รับหยกคุ้มภัยจากท่านเซียนมา นางก็ไม่มีความกังวลอีกต่อไป จึงต้องการมุ่งหน้าไปที่ทะเลต้องห้ามเพื่อจบเรื่องราวนี้
จากนั้น นางก็พาสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นออกจากที่แห่งนี้ รุดหน้าไปยังทะเลต้องห้าม