รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 358 พลังปราณของเส้นทางสังสารวัฏ แดนสังสารวัฏมีจุดประสงค์อันใด!?

บทที่ 358 พลังปราณของเส้นทางสังสารวัฏ แดนสังสารวัฏมีจุดประสงค์อันใด!?

บทที่ 358 พลังปราณของเส้นทางสังสารวัฏ แดนสังสารวัฏมีจุดประสงค์อันใด!?

สิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักพรรดิเก้าตนจากทะเลต้องห้าม พลังปราณมืดมนมุ่งร้าย หมอกดำพิศวงรายล้อมอยู่โดยรอบ รูปลักษณ์แตกต่างกันไป ไม่มีจุดไหนเหมือนกันแม้แต่น้อย

หากต้องหาจุดเหมือนให้ได้ คงเป็นจุดที่ร่างกายทุกตนเหมือนปะติดปะต่อจากชิ้นส่วนอื่น ดูไม่เข้ากันอย่างมาก ไม่เหมือนเป็นการเจริญเงยงอกตามปกติกระมัง

พวกมันจ้องมองหลิงอิน สายตาเปี่ยมไปด้วยความปองร้าย

ทะเลต้องห้ามเป็นถึงหนึ่งในเก้าแดนต้องห้าม จึงไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน

“อย่าผลีผลามทำอันใดเชียว เกิดเรื่องขึ้นมาพวกเจ้าคงรับผิดชอบไม่ไหว จ้าวสมุทรของพวกเจ้าเชิญข้ามา”

หลิงอินเอ่ยเสียงเรียบ

“จ้าวสมุทรรึ?”

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามทั้งเก้าสบตากัน และมิกล้าวู่วามอีก

เมื่อทบทวนดี ๆ แล้ว มีสิ่งมีชีวิตตนใดหาญกล้าเข้ามาอาละวาดในทะเลต้องห้ามของพวกมันบ้าง?

มิหนำซ้ำหลิงอินยังเป็นแค่นักบุญตนหนึ่งเท่านั้น!

แม้ว่าฉินในมือของนางจะดูแปร่ง ๆ ไปบ้าง ทว่านักบุญตนหนึ่งกล้าหาญเพียงใดก็คงไม่ถึงขั้นนี้!

นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามไม่เคยออกไปข้างนอก ผู้ที่ออกไปข้างนอกล้วนไปเพื่อปฏิบัติภารกิจที่จ้าวสมุทรมอบหมาย

หลิงอินพาสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามที่เดินทางออกไปข้างนอกมาถึงในนี้…

บางทีสิ่งที่นางกล่าวมาอาจเป็นเรื่องจริง เกรงว่านางมาเพราะคำเชิญของจ้าวสมุทรจริง ๆ

กระนั้นยังมีจุดที่พิลึกอยู่

ในเมื่อมาเพราะคำเชิญ เหตุใดหลิงอินถึงก่อเหตุฆ่าฟันในทะเลต้องห้ามของพวกมัน คร่าสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งไป?

“ไปบอกจ้าวสมุทรของพวกเจ้าว่าข้ามาแล้ว”

หลิงอินกล่าวต่อ สีหน้ายังคงนิ่งเฉย

มีหยกคุ้มภัยกับตัว ต่อให้ทะเลต้องห้ามสยดสยองมากเพียงใด นางก็มั่นใจว่าตนสามารถกลับไปอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนหนึ่งมุ่งหน้าไปรายงานจ้าวสมุทร

พวกมันมิกล้าทะเล่อทะล่าตัดสินใจ จ้าวสมุทรมิได้ใจดีมีเมตตา ขืนพวกมันทำผิดพลาด ได้พบจุดจบอย่างน่าอนาถแน่

ผ่านไปไม่นาน สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นก็กลับมา

“ข้าไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จ้าวสมุทรไม่แม้แต่จะเปิดประตูด้วยซ้ำ”

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นหันมองหลิงอิน แค่นหัวเราะเสียงเย็น “หากเจ้ามาเพราะคำเชิญของจ้าวสมุทรจริง ไยจ้าวสมุทรถึงไม่มีการตอบรับ จับกุมนางไว้ก่อน แล้วค่อยให้จ้าวสมุทรพิพากษาทีหลัง!”

จากนั้นมันลงมือทันที พลังปราณอันน่าพรั่นพรึงท่วมท้นนภา กรงเล็บข้างหนึ่งซัดเข้าหาหลิงอิน!

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามอีกแปดตนพากันเคลื่อนไหว กฎวิถีซึ่งเหนือกว่ามหาจักพรรดิถักทอผสาน พลังอันแสนน่ากลัวหลั่งไหลดุจดั่งมหาสมุทร ภาพที่ปรากฏน่าหวาดหวั่นเหลือแสน!

หญิงสาวหัวเราะเสียงเย็น นางเข้าใจจุดประสงค์ของจ้าวสมุทรในทันที

เรื่องที่จ้าวสมุทรต้องการพบนางนั้นไม่ต้องสงสัย

แต่เหตุใดนางมาถึงแล้ว จ้าวสมุทรกลับไม่ให้การตอบรับ?

หึ! เขาคิดจะวางมาดข่มนาง!

ในเมื่ออยากให้สู้ นางก็จะสู้ให้ดู!

ร่างของหลิงอินเอนไหว อวตารร่างหนึ่งพุ่งออกไปพร้อมกับคันศรวิเศษ

เสียงฉินดังขึ้น ลำนำสงครามชวนให้ฮึกเหิมบรรเลงออกมา ญาณวิหคเพลิงทะยานพร้อมด้วยเปลวเพลิงโชติช่วงพร้อมแผดเผาสรรพสิ่ง ถล่มออกไปข้างหน้า!

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

อวตารผู้มีคันศรวิเศษในมือดึงสายให้ตึงที่สุด ศรอาบแสงมากมายหลอมร่างในอึดใจเดียว ก่อนจะพุ่งออกไปประหนึ่งอุกกาบาต

หลิงอินปลดปล่อยพลังเต็มพิกัด ไม่คิดเก็บงำไว้แม้แต่น้อย

สิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักรพรรดิทั้งเก้าพุ่งโจมตีนางพร้อมกัน สร้างแรงกดดันให้แก่นางมหาศาล

“ชอบกลยิ่งนัก!”

“เช่นนี้ก็ได้หรือ!?”

สิ่งมีชีวิตทั้งเก้าจากทะเลต้องห้ามสีหน้าแปรเปลี่ยนกันถ้วนหน้า พิลึกพิลั่นกันหมด

พวกมันคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าผู้อยู่ในขอบเขตนักบุญจะสามารถรีดเร้นพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงระดับนี้ออกมาได้!

นั่นฉินอะไร

บทเพลงที่บรรเลงออกมากำราบได้แม้กระทั่งพวกมัน กำลังรบลดทอนมหาศาล!

แล้วคันศรคันนั้นเป็นคันศรชนิดใด?

ยิงหลายศรได้ในคราเดียวไม่พอ ซ้ำร้ายพลังในศรอาบแสงทุกดอกต่างชวนให้พวกมันอกสั่นขวัญแขวน รู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างร้ายแรง!

พวกมันรู้สึกแย่เหลือแสน

พลังรบเหนือมหาจักรพรรดิถึงเก้าตน กลับต้องประหวั่นเพียงเพราะเผชิญกับนักบุญเล็ก ๆ เยี่ยงนี้หรือ!?

อีกด้าน ภายในตำหนักใหญ่ที่สุดบนเกาะ

สิ่งมีชีวิตซึ่งมีร่างท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นงูเปิดประตูตำหนัก เลื้อยออกมาจากด้านใน

“พลังปราณของเส้นทางสังสารวัฏ…”

ดวงตาของมันทอประกายสยดสยองขณะจ้องมองหลิงอินซึ่งกำลังเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด และมันยังสัมผัสได้ถึงพลังปราณของเส้นทางสารวัฏจากตัวหลิงอิน

“มาจากแดนสังสารวัฏอย่างนั้นหรือ”

สายตาของมันดุร้ายขึ้นมา “เราต่างคนต่างมีหน้าที่ ทะเลต้องห้ามไม่เคยก้าวก่ายกงการของแดนสังสารวัฏ บัดนี้แดนสังสารวัฏกลับคิดเป็นปรปักษ์กับทะเลต้องห้ามของข้าหรือ?”

บนตัวหลิงอินมีพลังปราณจากเส้นทางสังสารวัฏ

เห็นอยู่ทนโท่ว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับแดนสังสารวัฏ

มันรู้ว่าแดนสังสารวัฏกำลังทำการใดอยู่

เป้าหมายของแดนสังสารวัฏมิได้ต่างจากทะเลต้องห้ามของพวกมันมากนัก

ในกาลเวลาอันแสนยาวนาน พวกมันกับแดนสังสารวัฏไม่เคยแทรกแซงกันและกัน ไฉนตอนนี้แดนสังสารวัฏถึงคิดเป็นปรปักษ์กับทะเลต้องห้าม?

คราวสมาชิกองครักษ์อุบัติกาลเกิดเรื่อง มันก็สงสัยว่าเป็นฝีมือของแดนสังสารวัฏ

บัดนี้สัมผัสกับพลังปราณแดนสังสารวัฏจากตัวหลิงอิน มันคิดว่าสิ่งที่มันคาดเดาไว้นั้นคือความจริง

“โกลาหล โกลาหลกันไปหมด เรื่องราวทั้งหมดใกล้ได้เปิดเผย เกิดเรื่องอลหม่านได้สารพัดสารเพอย่างที่คิด!”

มันหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว “แดนสังสารวัฏเชื่อมต่อกับทุกอาณาจักร ไพศาลไร้ที่สิ้นสุด หรือมันคิดว่าทะเลต้องห้ามของข้าเป็นเพียงหมากตัวเล็ก ๆ?”

มันแค่นเสียงเย็นขณะเอ่ยต่อ “คิดอันใดกันอยู่! ทะเลต้องห้ามของข้าเชื่อมต่อกับมหาสมุทรห้วงลึก สายน้ำลึกล้ำเป็นหนักหนา! ขืนบังอาจทำการใดลงไปโดยไม่คิด เรามารอดูกันว่าข้าสามารถท่วมดินแดนของเจ้าได้หรือไม่!”

มันทอดสายตามองการต่อสู้ระหว่างหลิงอินและสิ่งมีชีวิตทั้งเก้าจากทะเลต้องห้าม ไม่มีท่าทีคิดลงมือแต่อย่างใด

หลิงอินคิดไม่ผิด อีกฝ่ายตั้งใจปราบพยศนางจริง ๆ

สิ่งมีชีวิตที่มันส่งออกไปกลับถูกหลิงอินพากลับมาฆ่าในทะเลต้องห้าม เช่นนี้เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีของทะเลต้องห้าม

ไม่ว่าอย่างไร มันต้องข่มหลิงอินเสียบ้าง ให้นางได้รู้จักศักดิ์ศรีของทะเลต้องห้าม

และบัดนี้ หลังจากที่มันสัมผัสถึงพลังปราณแดนสังสารวัฏได้จากหลิงอิน มันยิ่งต้องการปราบพยศนาง

แดนสังสารวัฏเชื่อมต่อกับอาณาจักรทั้งปวงแล้วอย่างไร?

เมื่อมาอยู่ในถิ่นทะเลต้องห้ามของมัน ถึงเป็นมังกรก็ต้องขด ถึงเป็นพยัคฆ์ก็ต้องหมอบ!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดอันน่ากลัวดังไม่ขาดสาย หลิงอินทรงพลังจนน่าหวาดหวั่น ฉินและคันศรโจมตีพร้อมกัน แม้แต่สิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักรพรรดิทั้งเก้ายังไม่อาจทำอันตรายหลิงอินได้!

“สวะ!”

สีหน้าจ้าวสมุทรเริ่มย่ำแย่

อีกฝ่ายเป็ยเพียงนักบุญตนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักรพรรดิตั้งเก้าตนกลับทำอะไรไม่ได้ สีหน้ามันจะดีได้อย่างไร?

มันรู้สึกขายหน้า และยิ่งสัมผัสได้ถึงความท้าทายจากแดนสังสารวัฏ

แดนสังสารวัฏหมายความว่าอย่างไร?

ถึงกล้าปล่อยให้นักบุญตนหนึ่งมาอวดเบ่งบารมีถึงในทะเลต้องห้ามของพวกมันเช่นนี้?

กำลังประกาศศักดาของแดนสังสารวัฏ เตือนให้ทะเลต้องห้ามของพวกมันถอยให้อย่างนั้นหรือ?

“ซากเปื่อย (ฝู่สือ) เจ้าไปเสีย คุมตัวนางไว้ แต่อย่าเพิ่งฆ่านาง!”

มันออกคำสั่งให้สิ่งมีชีวิตในทะเลต้องห้ามซึ่งทรงพลังกว่าออกโรง

นี่คือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เหนือมหาจักรพรรดิขึ้นไปอีกสองขั้น เป็นถึงร่างศพตี้จวิน!

สิ่งมีชีวิตทั้งเก้าจากทะเลต้องห้ามนั้นเหนือมหาจักรพรรดิขึ้นไปเพียงหนึ่งขั้น อยู่ในขอบเขตตี้หวง

เหนือกึ่งจักรพรรดิขึ้นไปคือมหาจักรพรรดิ เหนือมหาจักรพรรดิขึ้นไปคือ ตี้หวงกับตี้จวิน

และขั้นสูงสุดของขอบเขตมหาจักรพรรดิก็คือเทียนตี้!

“โอหังอุตริปานนี้ เช่นนั้นเรามาเจอกันหน่อย!”

จ้าวสมุทรยิ้มเย็น มันอยากเห็นเหลือเกินว่าแดนสังสารวัฏคิดทำการใดกันแน่!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท