ตอนที่ 315 ยุคสมัยแห่งตี้ลั่ว ต่อสู้อีกครั้ง!
“เก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน มียุคสมัยแล้วยุคเล่าปรากฏขึ้น เฉกเช่นปัจจุบันที่ถูกเรียกว่า ยุคสมัยที่ไร้ซึ่งราชันจักรพรรดิ ยุคก่อนหน้านี้เป็นยุคของหอเซียนที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิจุน! ตามตำนานเล่าขานว่า ก่อนยุคหอเซียนนั้นเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง มีราชันจักรพรรดินับไม่ถ้วน ตามประวัติศาสตร์เราเรียกขานยุคนั้นกันว่า ยุคทองแห่งราชันจักรพรรดิ!”
“ต่อมาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ระหว่างยุคทองแห่งราชันจักรพรรดิกับยุคหอเซียนกลับปรากฏช่องว่างทางประวัติศาสตร์ขึ้น ยุคนั้นทุกอย่างล้วนว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น แม้แต่บันทึกก็ไม่มีเหลืออยู่ ว่ากันว่ายุคนั้นหายสาบสูญไปแล้ว!”
“เดิมทีเรื่องราวพวกนี้เป็นเพียงตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่! ทว่าเมื่อสิบล้านปีก่อน หลังจากที่หอเซียนล่มสลายไปได้ไม่นาน พลันมีดอกไม้ดอกหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากสายธารแห่งกาลเวลาและตกลงบนภูเขาที่เป็นจุดเชื่อมต่อของเก้าอาณาจักรเซียน และเมื่อดอกไม้ผลิบาน ข้างในก็คือยุคสมัยที่หายสาบสูญไป!”
“ยุคนั้นถูกเรียกว่ายุคตี้ลั่ว (สิ้นจักรพรรดิ) ดอกไม้ดอกนั้นถูกเรียกว่าดอกจักรพรรดิโรยรา และทิวเขาทอดยาวก็ถูกเรียกว่า ภูเขาตี้ลั่ว!”
องค์ราชันฮวงเทียนเล่าถึงต้นกำเนิดภูเขาตี้ลั่ว หลังจากนั้นก็พูดต่อว่า “ดอกจักรพรรดิโรยราจะบานทุก ๆ หนึ่งล้านปี ตลอดหลายสิบล้านปีมานี้ กองกำลังหลักแห่งเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ได้ร่วมมือกันเข้าควบคุมภูเขาตี้ลั่ว เมื่อใดก็ตามที่ดอกจักรพรรดิโรยราเบ่งบาน จะมีการจัดมหาศึกเก้าสวรรค์ขึ้นบนภูเขาตี้ลั่ว เพื่อกำหนดจำนวนคนที่จะเข้าสู่ยุคตี้ลั่ว!”
“ตอนนี้ดอกจักรพรรดิโรยราใกล้จะเบ่งบานอีกครั้งแล้ว เหลือเวลาเพียงแค่ห้าร้อยปี เมื่อถึงตอนนั้นเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ รวมถึงราชวงศ์เซียนฮวงเทียนของพวกเราจะไปที่นั่น หากหอเซียนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งจริง ๆ พวกเขาจะต้องเข้าร่วมศึกที่ภูเขาตี้ลั่วอย่างแน่นอน!”
“มหาศึกเก้าสวรรค์ ดอกจักรพรรดิโรยราเบ่งบาน?”
สิ้นวาจาขององค์ราชันฮวงเทียน ดวงตาของหนิงฝานพลันทอประกายลึกลับขึ้นมา เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะไปยังภูเขาตี้ลั่วเพื่อตามหาร่องรอยของหอเซียน
แต่น่าเสียดาย เวลาที่ดอกจักรพรรดิโรยราจะเบ่งบานยังเหลืออีกห้าร้อยปี ดังนั้นรีบร้อนไปก็ไม่ได้อะไร
“หนิงฝาน สิ่งที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้มีเพียงเท่านี้! นับแต่นี้ต่อไป ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนข้าขอมอบมันให้กับเจ้า!”
องค์ราชันฮวงเทียนยิ้มให้กับหนิงฝาน คำพูดนั้นเห็นได้ชัดว่าตั้งใจร่ำลาอย่างแท้จริง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็กล่าวถามออกมาว่า “องค์ราชันต้องการจะไปจากราชวงศ์เซียนฮวงเทียนหรือ?”
“ใช่แล้ว!”
องค์ราชันฮวงเทียนหยักหน้า
“ด้วยเหตุใด?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
“ข้าจำต้องเข้าสู่เส้นทางสังสารวัฏ!” องค์ราชันฮวงเทียนตอบ จากนั้นร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
เมื่อเห็นว่าองค์ราชันต้องการจากไปอย่างแน่วแน่ หนิงฝานจึงทำได้เพียงเคารพและกล่าวว่า “น้อมส่งองค์ราชันฮวงเทียน!”
“หนิงฝาน ข้ามีลางสังหรณ์ว่ายุคตี้ลั่วกำลังจะสิ้นสุดลง และยุคใหม่กำลังจะมาถึง หวังว่าในอนาคตข้ากับเจ้าจะได้พบกันอีกครั้ง!”
พรึ่บ!
สิ้นคำพูดสุดท้าย ร่างขององค์ราชันฮวงเทียนก็หายไปในความว่างเปล่าและจากไปอย่างสมบูรณ์
องค์ราชันฮวงเทียนจากไปแล้ว ภายในใจของหนิงฝานกลับไม่สามารถสงบนิ่งได้!
วันนี้องค์ราชันฮวงเทียนช่วยเขาไข้ข้อสงสัยมากมาย แต่นี่ยิ่งทำให้เขาเกิดคำถามเพิ่มมากขึ้น
หอเซียนอยู่ที่ใดกัน?
จักรพรรดินีคือใคร?
หอเซียนลักพาตัวหลัวชิงเซียนไปเพื่อเหตุอันใด?
ความสงสัยมากมายพรั่งพรู ทว่าเขากลับไม่สามารถรู้ความจริงได้ในขณะนี้
หนิงฝานส่ายหัว เขาพยายามระงับความหงุดหงิด และแววตาทั้งสองก็กลับมาหนักแน่นอีกครั้ง
“หอเซียนอะไร จักรพรรดิจุนอะไร ผู้ใดกล้าขัดขวางข้าไม่ให้พบชิงเซียน ต่อให้เป็นเทพก็ต้องตาย หากเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องตายเช่นกัน!”
ตอนนี้ยังคงห่างจากมหาศึกเก้าสวรรค์และวันที่ดอกจักรพรรดิโรยราจะเบ่งบาน เขาในตอนนี้จำเป็นต้องสะสางหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนกับราชวงศ์เทพขนนก
ตึก!
ในที่สุด หนิงฝานก็ก้าวออกมา และมาอยู่เหนือท้องฟ้าราชวงศ์เซียนฮวงเทียนอีกครั้ง ตอนนี้สามพันเซียนฮวงเทียนยังมิได้จากไป แต่ยังคงพูดคุยเรื่องการต่อสู้ของหนิงฝานกับองค์ราชันฮวงเทียนเมื่อครู่อยู่
“องค์ราชันหนิง!”
เมื่อเห็นหนิงฝานออกมา เหล่าสามพันเซียนฮวงเทียนซึ่งนำโดยจักรพรรดิทั้งสิบต่างทำความเคารพในทันที
“มิต้อง!” หนิงฝานโบกมือและพูดขึ้น “ทุกท่าน องค์ราชันฮวงเทียนจากราชวงศ์เซียนฮวงเทียนไปแล้ว!”
“อะไรนะ! องค์ราชันฮวงเทียนจากไปแล้ว!”
“เกิดเหตุอันใดกัน เหตุใดองค์ราชันฮวงเทียนถึงจากไป!?”
“ดูเหมือนว่าองค์ราชันฮวงเทียนจะมอบราชวงศ์เซียนฮวงเทียนทั้งหมดให้องค์ราชันหนิงแล้ว!”
“…”
ได้ยินเช่นนั้น เสียงเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นมาในทันที
แล้วหนิงฝานก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ทุกท่าน ในเมื่อวันนี้พวกเจ้ายอมรับให้ข้าเป็นผู้นำราชวงศ์เซียนฮวงเทียน เช่นนั้นข้าจะไม่ปกปิดสิ่งใดกับพวกเจ้าอีก ข้ามาจากโลกข้างล่างที่เรียกว่าราชวงศ์เทพขนนก!”
“ต่อจากนี้ไป ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะรวมราชวงศ์เซียนฮวงเทียนกับราชวงศ์เทพขนนกเข้าด้วย และให้บุตรสาวข้าเป็นผู้ปกครอง พวกท่านจะว่าอย่างไร?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ฝูงชนก็ตกตะลึงไปในบัดดล
แต่หนิงฝานในสายตาของทุกคนวันนี้ เขาสามารถเอาชนะองค์ราชันฮวงเทียนซึ่งเป็นผู้ไร้เทียมทานได้ พวกเขาจะกล้าคิดเห็นเป็นอื่นได้เช่นไร
“ข้าไม่มีข้อโต้แย้งอันใด!” เหล่าผู้คนพูดขึ้น
“ดี!”
“เช่นนั้นก็เตรียมตัวเถิด!”
“ข้าจะพาคนของราชวงศ์เทพขนนกมา!”
สิ้นคำ เขาก็หยิบยันต์มิติเวลาออกมาจากช่องเก็บของในความว่างเปล่า
พรึ่บ!
ทันทีที่เปิดใช้ยันต์มิติเวลา ร่างทั้งร่างก็หายไปจากเหนือท้องฟ้าราชวงศ์เซียนฮวงเทียน หลังจากนั้นก็ปรากฏตัวอีกครั้งยังพระราชวังเซียนมารที่หมู่เกาะจิ่น ซึ่งก็คือเมืองหลวงของราชวงศ์เทพขนนกในปัจจุบัน
สายตาของเขากวาดมองไปทั่วเมืองหลวงราชวงศ์เทพขนนก ภาพเบื้องหน้าดูเจริญรุ่งเรืองเต็มไปด้วยจ้าวเซียนและราชาเซียนที่พบเจอได้จากทุกหนแห่ง
ภายในตัวเมืองของเมืองหลวง ก็เต็มไปด้วยร้านค้ารายย่อยและคนขายหาบเร่ เพียงแต่ผู้ที่ค้าขายนั้นเป็นเซียนขั้นสูง
“อืม! ไม่เลว!”
เมื่อเห็นเมืองหลวงราชวงศ์เทพขนนกที่เจริญรุ่งเรือง หนิงฝานก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ตอนนี้เอง เมื่อรับรู้ได้ถึงปราณของหนิงฝาน หนิงหนานหนาน จวินเต้าหลินและคนอื่น ๆ ก็ออกมาต้อนรับทันที
“ท่านพ่อ!”
“ท่านหนิงฝาน!”
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานกลับมา ทุกคนต่างดีใจมาก
หนิงฝานจากไปนานนับพันปี เมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้งในตอนนี้จึงเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจมาก
“ท่านพ่อ ครั้งนี้ท่านไปนานถึงพันปี ตามหาท่านแม่เจอหรือไม่?” หนิงหนานหนานถามขึ้นมา
นี่คือคำถามแรกที่หนิงหนานหนานจะถามทุกครั้งที่หนิงฝานกลับมา นางเองก็คิดถึงหลัวชิงเซียนอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
หนิงฝานแย้มยิ้ม “วางใจเถิดหนานหนาน ตอนนี้พ่อรู้เบาะแสที่อยู่ของแม่เจ้าแล้ว อีกไม่นานพ่อจะต้องตามหาแม่เจ้าจนเจอ!”
“เยี่ยมไปเลย!”
ได้ยินเช่นนั้น หนิงหนานหนานอดไม่ได้ที่จะดีใจ
หนิงฝานเผยยิ้มไม่แปรเปลี่ยน หลังจากนั้น เขาเตรียมจะบอกจุดประสงค์ที่กลับมาครั้งนี้กับทุกคน
ชิ้ง!
ทว่าพริบตานั้น จู่ ๆ เสียงดาบอันน่าตกใจก็ดังขึ้นตามมาด้วยเจตจำนงแห่งดาบซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
ร่างสูงกำยำราวกับหอคอยเหล็ก ทั่วร่างกายพันไปด้วยห่วงโซ่อันหนักอึ้ง ชายผู้ไม่สวมเสื้อพร้อมกับดาบยาวกว่าสี่สิบเมตรในมือค่อย ๆ เดินเข้ามาทีละก้าว
เขาคือเย่ดาบใหญ่!
เย่ดาบใหญ่ในตอนนี้ ทั่วทั้งร่างเดือดพล่านไปด้วยพลังปราณขอบเขตจักรพรรดิเซียนขั้นต้นอันน่าสะพรึงกลัว
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความก้าวหน้าในรอบสหัสวรรษ!
“หนิงฝาน เวลาพันปีที่เจ้ากับข้าได้ตกลงกันไว้มาถึงแล้ว ข้ากำลังตามหาเจ้า คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกลับมาพอดี!”
เย่ดาบใหญ่ลากดาบยาวกว่าสี่สิบเมตรมายังด้านหน้าของหนิงฝาน ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารอันไร้ขอบเขต
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้เจ้าและข้าก็จงมาต่อสู้กันอีกครั้ง!!”