“แฮ่ก…แฮ่ก”
ท่อนเนื้อแข็งขืนปลดปล่อยน้ำเชื้อภายในตัวอินซอบ แต่อีอูยอนกลับกัดริมฝีปากล่างไว้พร้อมกับก้มมองอินซอบและกระแทกแก่นกายเข้ามาไม่หยุด เพราะไม่รู้สึกว่าตัวเองก็ถึงจุดสุดยอดแล้ว
“แฮ่ก อ๊ะ อื้อ…”
“ฮึก…ฮือ…อ๊ะอ๊ะ…”
อินซอบตัวสั่นและสะอื้น เขารู้สึกเหมือนเยื่อเมือกอ่อนนุ่มภายในถูกของแข็งๆ ที่อุ่นร้อนข่มเหง น้ำรักสีขาวขุ่นทะลักออกมาภายนอกช่องทางคับแคบทุกครั้งที่แก่นกายขยับ อีกฝ่ายกระแทกช่วงล่างอย่างเต็มแรงจนน้ำเชื้อที่ถูกกระทบกับผิวเนื้อเปลือยเปล่าอย่างแรงเป็นฟอง
“…แม่ง…คนอย่างคุณ…”
น้ำเสียงนั้นหยาบกระด้างราวกับหนังตรงโคนเล็บ
“ผู้ชายที่ร่างกายอ่อนแอแถมยังมีไอ้นั่นห้อยอยู่…”
ดวงตาที่ดำสนิทของอีอูยอนจ้องมองอินซอบ ดวงตาที่แหลมคมเจาะผ่านผิวหนังที่อ่อนนุ่มของอินซอบ
“ไร้เดียงสาจนโง่ แฮ่ก จนแยกไม่ออกเลยว่าจิตใจดีหรือโง่”
คำพูดที่เหมือนกับดุด่าทำให้อินซอบตัวสั่น เขารู้ตัวช้าเกินไปว่าทั้งหมดคือคำที่บ่งบอกถึงตัวเอง
“กับร่างกายที่ผอมแห้ง ฉิบ”
อีอูยอนกดจมูกลงกับต้นคอของอินซอบก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไป
น้ำตาเอ่อขึ้นมาที่ดวงตากลมโตของอินซอบ เขาเจ็บปวดจนหายใจได้ลำบากทุกครั้งที่เหตุผลที่ควรจะเกลียดตนเพิ่มขึ้นทีละอย่าง
“อึก…”
แม้จะพยายามกลั้นไว้ แต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาได้เลย อินซอบรีบซุกหน้าลงกับหมอน
“นิดๆ หน่อยๆ ก็แกล้งบีบน้ำตา”
มือใหญ่โตของอีอูยอนกุมหน้าของอินซอบไว้และจับให้มองตัวเอง อินซอบเกร็งตาและกลั้นน้ำตาไว้ เพราะไม่อยากให้เห็นว่าร้องไห้
ความรู้สึกที่มีต่อคนไม่สามารถเป็นความรู้สึกที่ดีได้ทั้งหมด บางครั้งก็มีความรู้สึกที่ขุ่นมัวปะปนอยู่ เพราะตัวเขาเองก็มีตอนที่ไม่เข้าใจการกระทำของอีอูยอน หรือเกลียดอีกฝ่ายมากๆ เหมือนกัน อีอูยอนเองก็สามารถรู้สึกเสียใจหรือผิดหวังในตัวเขาได้เช่นกัน …แต่การได้ฟังจากอีกฝ่ายโดยตรงกลับเป็นเรื่องที่ต่างจากการรับรู้ด้วยสมองอย่างสิ้นเชิง
“แม่ง แล้วยังสร้างปัญหาให้น่ารำคาญอีก…”
เขารู้สึกว่าตัวเองโลภเกินไปจนทำให้เสียเรื่อง ตอนนั้นเขาก็แค่อยากได้ยินคำพูดที่บอกว่าจะกอดตัวเองไว้เท่านั้นเอง…ขอโทษตอนนี้ดีไหมนะ บอกว่าขอโทษ เป็นความผิดของผมเอง…ที่ร่างกายอ่อนแอ ถูกหลอกง่าย และสร้างปัญหาให้น่ารำคาญ แค่ชอบผมเฉยๆ ได้ไหม…ผมจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ได้ยินวันนี้ เพราะผมก็จะชอบคุณต่อไป…
“แต่…”
เขารู้สึกถึงสายตาที่มองมา วินาทีที่สบตาของชายหนุ่มที่เหมือนจะอ้อนวอนตัวเอง น้ำตาที่จวนจะไหลก็ไหลลงมาอาบแก้ม
อีอูยอนกอดอินซอบแน่นและพูดต่อ
“…ผมก็ชอบมาก”
อีอูยอนพรมจูบและพูดคำเดิมซ้ำๆ ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง
ผมชอบคุณ ชอบมากๆ แม่ง ผมชอบมากๆ…จนบางครั้งก็เป็นทุกข์
อีกฝ่ายสารภาพความรักของตัวเองออกมาพร้อมกับให้เหตุผลต่างๆ ที่ไม่ชอบ คำว่าบางครั้งก็เป็นทุกข์แทงเข้าไปในใจของอินซอบมากกว่าคำสารภาพไหนๆ
บางครั้งเขาก็คิดแบบนั้น ถ้าอีอูยอนไม่คบกับเขา อีกฝ่ายจะมีชีวิตที่ง่ายขึ้นกว่านิดสักนิดหรือเปล่า
เพราะคงไม่มีเรื่องให้ต้องกลัวว่าคนรักของตัวเองจะตายจนต้องเช็กเสียงหัวใจทุกครั้งที่ตื่นนอน ไม่มีเรื่องให้นอนไม่หลับตอนที่ต้องอยู่ห่างกันหลายวัน ไม่มีเรื่องให้ต้องเก็บขวดยาไว้ที่ตู้เก็บของในห้องน้ำเพื่อกดความกังวลใจที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้น
“อินซอบ…”
อีอูยอนเรียกชื่อของอินซอบราวกับอ้อนวอน แม้ไม่ได้ยินคำว่ารัก แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
“ผม…”
อินซอบร้องไห้พร้อมกับกอดอีอูยอนด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นก็กระซิบด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“…รักคุณครับ”
แม้บางครั้งจะทำเรื่องที่ไม่เข้าใจ แม้จะทำสร้างความเจ็บปวดให้ แม้จะพูดคำพูดที่โหดร้ายจนรู้สึกกลัว…แต่ผมก็รักคุณที่ชอบผมจนเป็นทุกข์มาก…
“รักนะครับ คุณอูยอน…ผมรักคุณครับ”
อีอูยอนกอดอินซอบราวกับทรุดลงมาใส่ เพราะคำสารภาพรักที่เจือด้วยน้ำตา อินซอบถูกร่างกายที่ใหญ่โตของอีกฝ่ายพาไป และมาถึงจุดสุดยอดอีกครั้งในไม่ช้า อีอูยอนที่รับรู้ถึงการเสร็จสมของอินซอบสวนเอวขึ้นมาอย่างแรง ทุกครั้งที่ต้นขาที่แข็งแรงของอีกฝ่ายเกร็ง กล้ามเนื้อจะปรากฏรูปร่างของตัวมันเองอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไปไม่นาน อีอูยอนก็เสร็จในตัวของอินซอบ
เสียงลมหายใจของคนสองคนดังขึ้นภายในห้องที่เงียบสงบ หลังจากนั้นเสียงลมหายใจก็ถูกปะปนกับความเร่าร้อน
***
‘ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’
ดวงตาที่กลมโตและบริสุทธิ์ช้อนขึ้นมองตัวเขาพลางเอ่ยถาม เขามักจะแสดงความเป็นห่วงที่แฝงความจริงใจไว้กับผู้ชายที่ตัวสูงกว่าตัวเองทุกครั้ง
‘ผมเอาน้ำมาให้ดีไหมครับ’
น้ำเสียงที่นุ่มนวลชักชวนเขาอย่างระมัดระวัง เขาลืมตาและมองอินซอบที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ แม้จะดื่มน้ำเย็นเข้าไปแล้ว แต่ความกระหายกลับไม่หายไปแม้แต่นิดเดียว
‘ต้องการอย่างอื่นอีกไหมครับ’
เขาอยากชำเราอินซอบ เขาจะมัดแขนและขาที่ผอมบางนั้นไว้และรั้งให้อยู่ข้างตัวเอง เขาไม่อยากทำให้อีกฝ่ายออกไปที่ไหนได้
เมื่อไม่กี่วันก่อนมีโทรศัพท์มาจากอเมริกา เป็นการโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบเหมือนปกติ ถ้าจะมีส่วนที่ต่างออกไปสักหน่อยก็คือมีการบอกว่าอาการของคุณยายแย่ลงกว่าก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นมา อินซอบตอบว่า “เข้าใจแล้วครับ” ด้วยน้ำเสียงที่หมดกำลังใจก่อนจะวางโทรศัพท์
อินซอบไม่สามารถพูดว่าอยากไปหาคุณยายออกมาได้ง่ายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากอเมริกาไม่นาน อีอูยอนไม่แม้แต่จะแกล้งทำเป็นรู้อย่างจงใจ พวกเขาไม่สามารถไปอเมริกาได้ทุกครั้งที่คนแก่อายุเกินเก้าสิบแล้วป่วย
เย็นวันนั้นอินซอบบอกว่าจะเข้านอนไวและเดินเข้าห้องของตัวเองไป เขาได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ จากอีกด้านหนึ่งของประตูห้อง อีอูยอนดื่มกาแฟพลางฟังเสียงอินซอบร้องไห้ และเข้าไปในห้องหลังจากที่อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ อินซอบที่ยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มโกหกว่ากำลังจะนอน
ดวงตาของอีกฝ่ายบวมและเต็มไปด้วยการร้องไห้
อีอูยอนมองคนรักของตัวเองที่แม้กระทั่งการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำไม่สำเร็จ ทั้งยังน่ารักและน่าสงสารจนต้องถอนหายใจนิ่งๆ จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นวางหนังสือ วันนั้นเขาอ่านหนังสือให้ฟังจนกระทั่งอินซอบหลับ เพราะหากไม่ทำแบบนั้น อีกฝ่ายคงร้องไห้จนเช้า
วันต่อมาครอบครัวของอินซอบก็ติดต่อมาตามลำดับ พวกเขาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันและพูดคุยกันอย่างอ่อนโยน
[คิดถึง]
[จะมาได้เมื่อไร]
[ผมคิดถึงพี่ รักนะ]
‘ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน’
‘เดี๋ยวจะไปนะ จะไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย’
‘ฉันก็คิดถึงพวกนายเหมือนกัน รักนะ’
อินซอบแบ่งปันความรักของตัวเองให้แก่ครอบครัวพอสมควร อีอูยอนไม่พอใจกับเรื่องนั้นอย่างร้ายกาจ แม้กระทั่งเศษเสี้ยวของความรู้สึกที่อินซอบมี เขาก็อยากจะกินเข้าไปให้หมด ต่อให้เขาต้องเลียพื้นก็ตาม
เขาจงใจไม่ออกไปที่ไหนโดยใช้วันหยุดยาวเป็นข้ออ้าง เขากอดอินซอบ ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือ และกินข้าวด้วยกันในบ้าน นี่เป็นเวลาที่เขาพึงพอใจ
เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่อเมริกา อินซอบบอกว่าจะไปเจอหน้าคุณยายที่ป่วยแล้วจะกลับมาก่อนจะออกจากบ้านไป หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็เลื่อนสัญญาที่บอกว่าจะกลับมาออกไปวันแล้ววันเล่า เวลาไม่กี่วันที่ควรจะรอได้หากเป็นคนปกติ เขากลับรอแล้วรอเล่าราวกับคนที่ดำน้ำลงไปแล้วหวังแค่จะขึ้นมาด้านบน การไปอเมริกากับอินซอบไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาไม่อยากแบ่งปันอินซอบกับใคร แม้จะเป็นครอบครัวอันแสนล้ำค่าที่กำลังจะตายของอินซอบก็ตาม
เขารู้ว่าอินซอบให้ความสำคัญกับตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็รักอย่างอื่นนอกเหนือจากเขาด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีด้วย ถ้าวันหนึ่งน้ำหนักในหัวใจของอีกฝ่ายเอียงเอนไปที่สิ่งอื่นนอกจากเขา…การหายไปสักอย่างจะดีกว่าไหม
“ฮ่าฮ่า…”
เขาหัวเราะออกมา อีอูยอนเปิดหน้าและทำให้ใบหน้าเปียกชุ่ม
ถ้ารู้ความจริงว่าคนที่ตัวเองสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยมีความคิดที่น่าสยองขวัญแบบนี้ อินซอบ…
‘…อย่างน้อยก็ควรจะให้โอกาสแก้ตัวไม่ใช่เหรอครับ’
แม้จะใช้น้ำเย็นล้างหน้า แต่อาการเมาเหล้าก็ไม่หายไป
แม่งเอ๊ย การดื่มเพราะอารมณ์เสียนี่แม่ง…
‘ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’
เขาได้ยินเสียงที่อ่อนโยนและเป็นห่วงตน
“ครับ”
อีอูยอนตอบโดยไม่หันกลับไปมอง เขายื่นหัวไปใต้ก๊อกน้ำที่ปล่อยน้ำเย็นออกมา ต้องสร่างเมาสักหน่อย เขาไม่รู้เลยว่าความต้องการอันแสนสกปรกที่กดไว้อย่างยากลำบากได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาในรูปแบบไหน
‘…จะช่วยแต่งงานกันผมได้ไหมครับ’
อีอูยอนเงยหน้าขึ้น เขามองมือที่จับอ่างล้างหน้าไว้ หรือพูดให้ชัดเจนก็คือมองแหวนเงินที่สวมอยู่ที่นิ้ว
ตอนนั้นเขาตอบว่าอะไรนะ
อีอูยอนยกมือขึ้นมามองแหวน และแสยะยิ้ม จะตอบยังไงก็ไม่สำคัญหรือเปล่า เพราะชเวอินซอบตัดสินใจแต่งงานกับตัวเองแล้ว เพราะเขาปิดตาของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้มองเห็นคนอื่น ผูกมัดเอาไว้ไม่ให้ไปที่ไหน และทำให้อ้าขาให้ตัวเองเพียงคนเดียว…
‘คุณอูยอน ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’
แม่ง
อีอูยอนเปิดตู้เก็บของตรงอ่างอาบน้ำและหยิบขวดยาออกมา ในเวลาแบบนี้การยัดยาเข้าไปและนอนน่าจะดีกว่า เขาเทยาใส่มือตามอารมณ์และโยนใส่ปาก
ถ้าจะโดนอินซอบเกลียดเพราะทำตัวไร้สาระ สู้ตายห่าเพราะกินยาเกินขนาดยังจะดีกว่า
เขากลืนยาลงไปและนอนลง
‘คุณอูยอน คุณอูยอน’
เขาลืมตาเพราะเสียงที่เขย่าและปลุกเขา
‘เกิดอะไรขึ้นครับ ล้มเหรอครับ ให้เรียกรถฉุกเฉินไหมครับ’
ความเป็นห่วงปรากฏในดวงตากลมโต เขาหายใจไม่ออก ตอนที่มองตาคู่นั้น เขาจะรู้สึกเหมือนจมน้ำที่ลึก บางครั้งเขาก็รู้สึกกลัว เพราะเขารู้สึกว่าต่อให้จะตะเกียกตะกายจนสุดแรง สุดท้ายก็ตายอยู่ดี
‘คุณอูยอน…’
เขากอดอินซอบไว้ เขาจูบและแทรกตัวเข้าไปในร่างกายที่ผอมบางก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไป ตอนนั้นเขาถึงรู้สึกว่ายังมีชีวิตอยู่
‘คุณอินซอบ คุณอินซอบ…อินซอบ…’
เขาเกาะร่างกายที่ผอมแห้งของอินซอบไว้ ริมฝีปากเล็กๆ คอที่เรียวยาว ไหลที่งุ้มเล็กน้อย และติ่งหูที่อ่อนนุ่ม เขาแตะริมฝีปากไปตามอารมณ์ก่อนจะขบกัด ดูด เลีย และกัดอย่างไร้สติ
‘…คุณอูยอนทำอย่างที่อยากทำได้เลยครับ’
เขาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่ควรทำตามใจชอบกับคนที่ใจกว้างกับคนอย่างตัวเองขนาดนั้น
แต่…
‘คุณอินซอบ…อินซอบ…อินซอบ…’
เขากอดอินซอบไว้และชำเราอีกฝ่ายตามอำเภอใจ เขาพูดคำพูดที่โหดร้าย กระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางนั้น และปล่อยน้ำรักเข้าไปข้างใน ความต้องการที่รุนแรงจนทำให้ตาพร่าอัดแน่น มันคือนิสัยอันดำมืดที่ไม่สามารถละทิ้งไปได้แม้แต่ครั้งเดียวหลังจากที่เกิดมา
‘…แม่ง…คนอย่างคุณ…’
เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดอะไรออกไป อินซอบที่ตกใจเพราะคำที่เขาพูดร้องไห้
เขาคงไม่สามารถซ่อนจิตใจที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมไว้ได้ และแสดงมันออกมา…
‘ผมรักคุณครับ’
อินซอบกอดเขาไว้และกระซิบ เขารู้สึกเหมือนมีไม้ที่ถูกเผาให้ร้อนจนเป็นสีแดงแทงเข้ามาในลำคอและบดหัวใจของเขาให้ละเอียด
‘รักนะครับ คุณอูยอน…ผมรักคุณครับ’
คุณทำแบบนี้ทุกครั้งเลย…