ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – Side Story < Love Historiette > 2-17

Side Story < Love Historiette > 2-17

“แฮ่ก…แฮ่ก”

ท่อนเนื้อแข็งขืนปลดปล่อยน้ำเชื้อภายในตัวอินซอบ แต่อีอูยอนกลับกัดริมฝีปากล่างไว้พร้อมกับก้มมองอินซอบและกระแทกแก่นกายเข้ามาไม่หยุด เพราะไม่รู้สึกว่าตัวเองก็ถึงจุดสุดยอดแล้ว

“แฮ่ก อ๊ะ อื้อ…”

“ฮึก…ฮือ…อ๊ะอ๊ะ…”

อินซอบตัวสั่นและสะอื้น เขารู้สึกเหมือนเยื่อเมือกอ่อนนุ่มภายในถูกของแข็งๆ ที่อุ่นร้อนข่มเหง น้ำรักสีขาวขุ่นทะลักออกมาภายนอกช่องทางคับแคบทุกครั้งที่แก่นกายขยับ อีกฝ่ายกระแทกช่วงล่างอย่างเต็มแรงจนน้ำเชื้อที่ถูกกระทบกับผิวเนื้อเปลือยเปล่าอย่างแรงเป็นฟอง

“…แม่ง…คนอย่างคุณ…”

น้ำเสียงนั้นหยาบกระด้างราวกับหนังตรงโคนเล็บ

“ผู้ชายที่ร่างกายอ่อนแอแถมยังมีไอ้นั่นห้อยอยู่…”

ดวงตาที่ดำสนิทของอีอูยอนจ้องมองอินซอบ ดวงตาที่แหลมคมเจาะผ่านผิวหนังที่อ่อนนุ่มของอินซอบ

“ไร้เดียงสาจนโง่ แฮ่ก จนแยกไม่ออกเลยว่าจิตใจดีหรือโง่”

คำพูดที่เหมือนกับดุด่าทำให้อินซอบตัวสั่น เขารู้ตัวช้าเกินไปว่าทั้งหมดคือคำที่บ่งบอกถึงตัวเอง

“กับร่างกายที่ผอมแห้ง ฉิบ”

อีอูยอนกดจมูกลงกับต้นคอของอินซอบก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไป

น้ำตาเอ่อขึ้นมาที่ดวงตากลมโตของอินซอบ เขาเจ็บปวดจนหายใจได้ลำบากทุกครั้งที่เหตุผลที่ควรจะเกลียดตนเพิ่มขึ้นทีละอย่าง

“อึก…”

แม้จะพยายามกลั้นไว้ แต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาได้เลย อินซอบรีบซุกหน้าลงกับหมอน

“นิดๆ หน่อยๆ ก็แกล้งบีบน้ำตา”

มือใหญ่โตของอีอูยอนกุมหน้าของอินซอบไว้และจับให้มองตัวเอง อินซอบเกร็งตาและกลั้นน้ำตาไว้ เพราะไม่อยากให้เห็นว่าร้องไห้

ความรู้สึกที่มีต่อคนไม่สามารถเป็นความรู้สึกที่ดีได้ทั้งหมด บางครั้งก็มีความรู้สึกที่ขุ่นมัวปะปนอยู่ เพราะตัวเขาเองก็มีตอนที่ไม่เข้าใจการกระทำของอีอูยอน หรือเกลียดอีกฝ่ายมากๆ เหมือนกัน อีอูยอนเองก็สามารถรู้สึกเสียใจหรือผิดหวังในตัวเขาได้เช่นกัน …แต่การได้ฟังจากอีกฝ่ายโดยตรงกลับเป็นเรื่องที่ต่างจากการรับรู้ด้วยสมองอย่างสิ้นเชิง

“แม่ง แล้วยังสร้างปัญหาให้น่ารำคาญอีก…”

เขารู้สึกว่าตัวเองโลภเกินไปจนทำให้เสียเรื่อง ตอนนั้นเขาก็แค่อยากได้ยินคำพูดที่บอกว่าจะกอดตัวเองไว้เท่านั้นเอง…ขอโทษตอนนี้ดีไหมนะ บอกว่าขอโทษ เป็นความผิดของผมเอง…ที่ร่างกายอ่อนแอ ถูกหลอกง่าย และสร้างปัญหาให้น่ารำคาญ แค่ชอบผมเฉยๆ ได้ไหม…ผมจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ได้ยินวันนี้ เพราะผมก็จะชอบคุณต่อไป…

“แต่…”

เขารู้สึกถึงสายตาที่มองมา วินาทีที่สบตาของชายหนุ่มที่เหมือนจะอ้อนวอนตัวเอง น้ำตาที่จวนจะไหลก็ไหลลงมาอาบแก้ม

อีอูยอนกอดอินซอบแน่นและพูดต่อ

“…ผมก็ชอบมาก”

อีอูยอนพรมจูบและพูดคำเดิมซ้ำๆ ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง

ผมชอบคุณ ชอบมากๆ แม่ง ผมชอบมากๆ…จนบางครั้งก็เป็นทุกข์

อีกฝ่ายสารภาพความรักของตัวเองออกมาพร้อมกับให้เหตุผลต่างๆ ที่ไม่ชอบ คำว่าบางครั้งก็เป็นทุกข์แทงเข้าไปในใจของอินซอบมากกว่าคำสารภาพไหนๆ

บางครั้งเขาก็คิดแบบนั้น ถ้าอีอูยอนไม่คบกับเขา อีกฝ่ายจะมีชีวิตที่ง่ายขึ้นกว่านิดสักนิดหรือเปล่า

เพราะคงไม่มีเรื่องให้ต้องกลัวว่าคนรักของตัวเองจะตายจนต้องเช็กเสียงหัวใจทุกครั้งที่ตื่นนอน ไม่มีเรื่องให้นอนไม่หลับตอนที่ต้องอยู่ห่างกันหลายวัน ไม่มีเรื่องให้ต้องเก็บขวดยาไว้ที่ตู้เก็บของในห้องน้ำเพื่อกดความกังวลใจที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้น

“อินซอบ…”

อีอูยอนเรียกชื่อของอินซอบราวกับอ้อนวอน แม้ไม่ได้ยินคำว่ารัก แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย

“ผม…”

อินซอบร้องไห้พร้อมกับกอดอีอูยอนด้วยแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นก็กระซิบด้วยเสียงที่แผ่วเบา

“…รักคุณครับ”

แม้บางครั้งจะทำเรื่องที่ไม่เข้าใจ แม้จะทำสร้างความเจ็บปวดให้ แม้จะพูดคำพูดที่โหดร้ายจนรู้สึกกลัว…แต่ผมก็รักคุณที่ชอบผมจนเป็นทุกข์มาก…

“รักนะครับ คุณอูยอน…ผมรักคุณครับ”

อีอูยอนกอดอินซอบราวกับทรุดลงมาใส่ เพราะคำสารภาพรักที่เจือด้วยน้ำตา อินซอบถูกร่างกายที่ใหญ่โตของอีกฝ่ายพาไป และมาถึงจุดสุดยอดอีกครั้งในไม่ช้า อีอูยอนที่รับรู้ถึงการเสร็จสมของอินซอบสวนเอวขึ้นมาอย่างแรง ทุกครั้งที่ต้นขาที่แข็งแรงของอีกฝ่ายเกร็ง กล้ามเนื้อจะปรากฏรูปร่างของตัวมันเองอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไปไม่นาน อีอูยอนก็เสร็จในตัวของอินซอบ

เสียงลมหายใจของคนสองคนดังขึ้นภายในห้องที่เงียบสงบ หลังจากนั้นเสียงลมหายใจก็ถูกปะปนกับความเร่าร้อน

***

‘ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’

ดวงตาที่กลมโตและบริสุทธิ์ช้อนขึ้นมองตัวเขาพลางเอ่ยถาม เขามักจะแสดงความเป็นห่วงที่แฝงความจริงใจไว้กับผู้ชายที่ตัวสูงกว่าตัวเองทุกครั้ง

‘ผมเอาน้ำมาให้ดีไหมครับ’

น้ำเสียงที่นุ่มนวลชักชวนเขาอย่างระมัดระวัง เขาลืมตาและมองอินซอบที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ แม้จะดื่มน้ำเย็นเข้าไปแล้ว แต่ความกระหายกลับไม่หายไปแม้แต่นิดเดียว

‘ต้องการอย่างอื่นอีกไหมครับ’

เขาอยากชำเราอินซอบ เขาจะมัดแขนและขาที่ผอมบางนั้นไว้และรั้งให้อยู่ข้างตัวเอง เขาไม่อยากทำให้อีกฝ่ายออกไปที่ไหนได้

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีโทรศัพท์มาจากอเมริกา เป็นการโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบเหมือนปกติ ถ้าจะมีส่วนที่ต่างออกไปสักหน่อยก็คือมีการบอกว่าอาการของคุณยายแย่ลงกว่าก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นมา อินซอบตอบว่า “เข้าใจแล้วครับ” ด้วยน้ำเสียงที่หมดกำลังใจก่อนจะวางโทรศัพท์

อินซอบไม่สามารถพูดว่าอยากไปหาคุณยายออกมาได้ง่ายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากอเมริกาไม่นาน อีอูยอนไม่แม้แต่จะแกล้งทำเป็นรู้อย่างจงใจ พวกเขาไม่สามารถไปอเมริกาได้ทุกครั้งที่คนแก่อายุเกินเก้าสิบแล้วป่วย

เย็นวันนั้นอินซอบบอกว่าจะเข้านอนไวและเดินเข้าห้องของตัวเองไป เขาได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ จากอีกด้านหนึ่งของประตูห้อง อีอูยอนดื่มกาแฟพลางฟังเสียงอินซอบร้องไห้ และเข้าไปในห้องหลังจากที่อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ อินซอบที่ยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มโกหกว่ากำลังจะนอน

ดวงตาของอีกฝ่ายบวมและเต็มไปด้วยการร้องไห้

อีอูยอนมองคนรักของตัวเองที่แม้กระทั่งการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำไม่สำเร็จ ทั้งยังน่ารักและน่าสงสารจนต้องถอนหายใจนิ่งๆ จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นวางหนังสือ วันนั้นเขาอ่านหนังสือให้ฟังจนกระทั่งอินซอบหลับ เพราะหากไม่ทำแบบนั้น อีกฝ่ายคงร้องไห้จนเช้า

วันต่อมาครอบครัวของอินซอบก็ติดต่อมาตามลำดับ พวกเขาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันและพูดคุยกันอย่างอ่อนโยน

[คิดถึง]

[จะมาได้เมื่อไร]

[ผมคิดถึงพี่ รักนะ]

‘ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน’

‘เดี๋ยวจะไปนะ จะไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย’

‘ฉันก็คิดถึงพวกนายเหมือนกัน รักนะ’

อินซอบแบ่งปันความรักของตัวเองให้แก่ครอบครัวพอสมควร อีอูยอนไม่พอใจกับเรื่องนั้นอย่างร้ายกาจ แม้กระทั่งเศษเสี้ยวของความรู้สึกที่อินซอบมี เขาก็อยากจะกินเข้าไปให้หมด ต่อให้เขาต้องเลียพื้นก็ตาม

เขาจงใจไม่ออกไปที่ไหนโดยใช้วันหยุดยาวเป็นข้ออ้าง เขากอดอินซอบ ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือ และกินข้าวด้วยกันในบ้าน นี่เป็นเวลาที่เขาพึงพอใจ

เขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่อเมริกา อินซอบบอกว่าจะไปเจอหน้าคุณยายที่ป่วยแล้วจะกลับมาก่อนจะออกจากบ้านไป หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็เลื่อนสัญญาที่บอกว่าจะกลับมาออกไปวันแล้ววันเล่า เวลาไม่กี่วันที่ควรจะรอได้หากเป็นคนปกติ เขากลับรอแล้วรอเล่าราวกับคนที่ดำน้ำลงไปแล้วหวังแค่จะขึ้นมาด้านบน การไปอเมริกากับอินซอบไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาไม่อยากแบ่งปันอินซอบกับใคร แม้จะเป็นครอบครัวอันแสนล้ำค่าที่กำลังจะตายของอินซอบก็ตาม

เขารู้ว่าอินซอบให้ความสำคัญกับตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็รักอย่างอื่นนอกเหนือจากเขาด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีด้วย ถ้าวันหนึ่งน้ำหนักในหัวใจของอีกฝ่ายเอียงเอนไปที่สิ่งอื่นนอกจากเขา…การหายไปสักอย่างจะดีกว่าไหม

“ฮ่าฮ่า…”

เขาหัวเราะออกมา อีอูยอนเปิดหน้าและทำให้ใบหน้าเปียกชุ่ม

ถ้ารู้ความจริงว่าคนที่ตัวเองสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยมีความคิดที่น่าสยองขวัญแบบนี้ อินซอบ…

‘…อย่างน้อยก็ควรจะให้โอกาสแก้ตัวไม่ใช่เหรอครับ’

แม้จะใช้น้ำเย็นล้างหน้า แต่อาการเมาเหล้าก็ไม่หายไป

แม่งเอ๊ย การดื่มเพราะอารมณ์เสียนี่แม่ง…

‘ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’

เขาได้ยินเสียงที่อ่อนโยนและเป็นห่วงตน

“ครับ”

อีอูยอนตอบโดยไม่หันกลับไปมอง เขายื่นหัวไปใต้ก๊อกน้ำที่ปล่อยน้ำเย็นออกมา ต้องสร่างเมาสักหน่อย เขาไม่รู้เลยว่าความต้องการอันแสนสกปรกที่กดไว้อย่างยากลำบากได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาในรูปแบบไหน

‘…จะช่วยแต่งงานกันผมได้ไหมครับ’

อีอูยอนเงยหน้าขึ้น เขามองมือที่จับอ่างล้างหน้าไว้ หรือพูดให้ชัดเจนก็คือมองแหวนเงินที่สวมอยู่ที่นิ้ว

ตอนนั้นเขาตอบว่าอะไรนะ

อีอูยอนยกมือขึ้นมามองแหวน และแสยะยิ้ม จะตอบยังไงก็ไม่สำคัญหรือเปล่า เพราะชเวอินซอบตัดสินใจแต่งงานกับตัวเองแล้ว เพราะเขาปิดตาของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้มองเห็นคนอื่น ผูกมัดเอาไว้ไม่ให้ไปที่ไหน และทำให้อ้าขาให้ตัวเองเพียงคนเดียว…

‘คุณอูยอน ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ’

แม่ง

อีอูยอนเปิดตู้เก็บของตรงอ่างอาบน้ำและหยิบขวดยาออกมา ในเวลาแบบนี้การยัดยาเข้าไปและนอนน่าจะดีกว่า เขาเทยาใส่มือตามอารมณ์และโยนใส่ปาก

ถ้าจะโดนอินซอบเกลียดเพราะทำตัวไร้สาระ สู้ตายห่าเพราะกินยาเกินขนาดยังจะดีกว่า

เขากลืนยาลงไปและนอนลง

‘คุณอูยอน คุณอูยอน’

เขาลืมตาเพราะเสียงที่เขย่าและปลุกเขา

‘เกิดอะไรขึ้นครับ ล้มเหรอครับ ให้เรียกรถฉุกเฉินไหมครับ’

ความเป็นห่วงปรากฏในดวงตากลมโต เขาหายใจไม่ออก ตอนที่มองตาคู่นั้น เขาจะรู้สึกเหมือนจมน้ำที่ลึก บางครั้งเขาก็รู้สึกกลัว เพราะเขารู้สึกว่าต่อให้จะตะเกียกตะกายจนสุดแรง สุดท้ายก็ตายอยู่ดี

‘คุณอูยอน…’

เขากอดอินซอบไว้ เขาจูบและแทรกตัวเข้าไปในร่างกายที่ผอมบางก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไป ตอนนั้นเขาถึงรู้สึกว่ายังมีชีวิตอยู่

‘คุณอินซอบ คุณอินซอบ…อินซอบ…’

เขาเกาะร่างกายที่ผอมแห้งของอินซอบไว้ ริมฝีปากเล็กๆ คอที่เรียวยาว ไหลที่งุ้มเล็กน้อย และติ่งหูที่อ่อนนุ่ม เขาแตะริมฝีปากไปตามอารมณ์ก่อนจะขบกัด ดูด เลีย และกัดอย่างไร้สติ

‘…คุณอูยอนทำอย่างที่อยากทำได้เลยครับ’

เขาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่ควรทำตามใจชอบกับคนที่ใจกว้างกับคนอย่างตัวเองขนาดนั้น

แต่…

‘คุณอินซอบ…อินซอบ…อินซอบ…’

เขากอดอินซอบไว้และชำเราอีกฝ่ายตามอำเภอใจ เขาพูดคำพูดที่โหดร้าย กระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางนั้น และปล่อยน้ำรักเข้าไปข้างใน ความต้องการที่รุนแรงจนทำให้ตาพร่าอัดแน่น มันคือนิสัยอันดำมืดที่ไม่สามารถละทิ้งไปได้แม้แต่ครั้งเดียวหลังจากที่เกิดมา

‘…แม่ง…คนอย่างคุณ…’

เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดอะไรออกไป อินซอบที่ตกใจเพราะคำที่เขาพูดร้องไห้

เขาคงไม่สามารถซ่อนจิตใจที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมไว้ได้ และแสดงมันออกมา…

‘ผมรักคุณครับ’

อินซอบกอดเขาไว้และกระซิบ เขารู้สึกเหมือนมีไม้ที่ถูกเผาให้ร้อนจนเป็นสีแดงแทงเข้ามาในลำคอและบดหัวใจของเขาให้ละเอียด

‘รักนะครับ คุณอูยอน…ผมรักคุณครับ’

คุณทำแบบนี้ทุกครั้งเลย…

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท