ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
เมื่อมีระบบ ย่อมมีความหวัง
แต่ว่า ถ้าอยากคว้าอันดับหนึ่ง ก็ต้องสั่งผลิตเพลงที่ดีที่สุดออกมาตลอด จำเป็นต้องใช้เงินมหาศาล โดยเฉพาะดูจากนิสัยกวนประสาทของระบบแล้ว จะต้องคำนวณมูลค่าเพิ่มของพ่อเพลงเข้าไปด้วย จากนั้นจึงค่อยคำนวณต้นทุนการสั่งทำเพลง
หลินเยวียนมองเจ้าระบบนี้ออกแล้ว
เพราะฉะนั้น ต่อให้หลินเยวียนนึกอยากเป็นพ่อเพลง แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายของกู้ตงแล้ว เขาจึงทำได้เพียงหยุดคิดมากเป็นการชั่วคราว
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีเรื่องให้สะสางตั้งเยอะแยะ
ไม่รีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน
เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลินเยวียนก็เริ่มเข้าห้องอัดเพลง เพื่ออัดเพลงตะวันฉายให้กับหลานเหยียน
ทำนองของเพลงนี้ไม่ได้ซับซ้อน
หลานเหยียนเคี่ยวกรำอยู่ในห้องอัดเพียงไม่กี่วัน ก็แตะถึงสภาวะสูงสุด ความคุ้นเคยต่อเพลงแตะถึงระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องหรือทำนองก็ล้วนคุมได้อยู่หมัด
ขั้นตอนการอัดเพลง กล่าวได้ว่าลงแรงเพียงน้อยนิด
เหตุผลสำคัญอีกประการที่ทำให้การบันทึกเสียงเป็นไปอย่างราบรื่นเช่นนี้คือการออกเสียงภาษาฉีของหลานเหยียนนั้นชัดเจนมาก!
ว่ากันว่าเหตุผลที่หลานเหยียนได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของมณฑลฉินเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบปี ก็เพราะระดับภาษาฉีของเขาสูงมาก!
คำอธิบายของหลานเหยียนก็คือ ภรรยาของเขาเป็นคนฉี ทั้งสองมักจะใช้ภาษาฉีสนทนากัน ดังนั้นเขาจึงพูดภาษาฉีได้อย่างคล่องแคล่วเช่นนี้
นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หลินเยวียนได้สัมผัสถึงฝีมือของราชาเพลง
มีประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเหลือเกิน
ซุนเย่าหั่วเทียบกับหลานเหยียนไม่ได้เลย แม้แต่เฉินจื้ออวี่ก็ยังเป็นรองหลานเหยียนในแง่ของความสามารถ มิน่าล่ะหลานเหยียนถึงได้เป็นราชาเพลง
หลินเยวียนเชื่อว่า
นี่ไม่ใช่แค่เพราะได้พบกับนักประพันธ์เพลงที่เก่ง หรือได้เพลงที่ดี แล้วจะร้องออกมาให้เพลงโด่งดังได้อย่างง่ายดาย
หากแต่บรรดาราชาเพลงอย่างหลานเหยียน มีฝีมือในการร้องเพลงเป็นทุนเดิม และความเข้าใจที่มีต่อบทเพลงนั้นถึงระดับหนึ่ง จึงจะสามารถแตะถึงเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์บทเพลงของนักประพันธ์เพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ใช่แล้ว
พูดถึงซุนเย่าหั่ว จู่ๆ หลินเยวียนก็นึกขึ้นมาได้ ครั้งก่อนที่อัดเพลงให้เฉินจื้ออวี่ ตนวางแผนจะร่วมงานในเพลงใหม่กับซุนเย่าหั่ว
นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ตนดันจับพลัดจับผลูได้มาร่วมงานกับราชาเพลง
และเป็นสถานการณ์พิเศษอีกด้วย
ปีนี้คงไม่ทันแล้ว
ปีหน้าต้องชดเชยให้รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วมากหน่อยซะแล้ว
หลินเยวียนมองออกว่ารุ่นพี่ซุนเย่าหั่วรักในอาชีพนักร้องของเขามาก เพียงแต่น่าเสียดายที่ยังไม่พบเพลงที่ดีสักที และนี่เป็นสิ่งที่หลินเยวียนทำให้เขาได้
เมื่ออัดเพลง
หลินเยวียนกลับไปยังห้องทำงาน เหล่าโจวก็กระวีกระวาดมาหา เอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด “งานฉลองครบรอบที่หลานเหยียนจะไปเข้าร่วม เขาจะร้องเพลงของนาย?”
“ใช่ครับ”
หลินเยวียนอธิบายอย่างที่เขามักไม่ค่อยได้ทำ “ผมไม่ได้ตั้งใจจะแย่งเงินสามล้านนี้ ผมบอกกับอาจารย์เจิ้งจิงแล้ว”
เหล่าโจว “…”
นี่เป็นเรื่องของเงินซะที่ไหนกันล่ะ เจิ้งจิงก็ไม่ได้มาสนใจเรื่องเงินสามล้านหรอก!
คำถามคือ…
เด็กอย่างนายเขียนเพลงเอาชนะพ่อเพลงได้เลยหรือ
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เหล่าโจวจะอุทิศพลังครึ่งหนึ่งให้กับแผนกภาพยนตร์ แต่เรื่องของแผนกประพันธ์เพลงเขาก็ยังเอาใจใส่ ดังนั้นเหล่าโจวซึ่งได้รับรู้ข่าวนี้จึงมึนงงไปหมด
พ่อเพลงตัวน้อยเขี่ยพ่อเพลงตกกระป๋อง
เหล่าโจวรู้จักเจิ้งจิงดี และรู้ว่าเจิ้งจิงเป็นคนที่ใจกว้างมาก นอกจากจะเป็นนักดนตรี และชื่นชอบการวาดภาพเป็นอย่างมาก ยังกล่าวได้ว่าเจิ้งจิงเป็นหนึ่งในพ่อเพลงที่อารมณ์ดีที่สุดเพียงไม่กี่คนของบริษัท!
แต่ปัญหาก็คือ
แม้ว่าเจิ้งจิงจะไม่ใช่คนขี้โมโห แต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นคนที่เข้มงวดกับดนตรีมาก
เธอไม่มีทางโมโหเพียงเพราะคนอื่นมาแย่งงานไป คนที่มาแย่งงานของเธอไป มีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับการยอมรับจากเธอก่อน!
เจิ้งจิงยอมถอยหนึ่งก้าว หมายความได้เพียงอย่างเดียว
เพลงใหม่ของหลินเยวียน ได้รับการยอมรับจากเจิ้งจิงแล้ว!
ก็จริง
เพลงตะวันฉาย ก่อนมาที่นี่เขาก็ได้ฟังไปรอบหนึ่งแล้ว เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ เจิ้งจิงยอมรับก็ไม่น่าแปลกใจ
เพียงแต่เมื่อนึกถึงอายุของหลินเยวียน และความสำเร็จด้านดนตรีที่หลินเยวียนได้รับแล้ว เหล่าโจวก็รู้สึกเหลือเชื่ออย่างบอกไม่ถูก
หลินเยวียนพูด “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
เหล่าโจวส่ายหน้า “ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาเลย นายทำได้ดีมาก ปีหน้าเขียนเพลงออกมาให้เยอะๆ สู้หน่อย”
ตอนที่เข้ามาในบริษัท เหล่าโจวคาดหวังกับหลินเยวียนเพียงมือทอง
ในตอนนี้ ความคาดหวังของเหล่าโจวต่อหลินเยวียนอยู่ที่ระดับพ่อเพลงแล้ว
ได้รับการยอมรับจากเจิ้งจิง เห็นได้ชัดว่าหลินเยวียนมีคุณสมบัติมากพอ
“ครับ”
“อีกเรื่องหนึ่งคือสองสามวันนี้จะมีการโปรโมตเรื่องเพลงใหม่ของเดือนธันวาคม หวังว่าพวกเราจะได้อันดับที่ดี”
เหล่าโจวเอ่ย
เมื่อเดือนธันวาคมกลายเป็นสิ้นปี ในเดือนนี้จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขันดุเดือดที่สุดของฤดูกาล เพราะเป็นช่วงเวลาในการเร่งเครื่องก่อนถึงสิ้นปี
ไม่เพียงในวงการเท่านั้น
บรรดาแฟนเพลงต่างก็ตั้งตารอเดือนธันวาคมกันมากที่สุด ถึงอย่างไรก็มีเพลงระดับแนวหน้า ราชาราชินีเพลงที่คุ้มค่าแก่การจ่ายเงินให้!
ในความจริงแล้ว
ครั้นเดือนพฤศจิกายนมาเยือน ราชาราชินีเพลงซึ่งอยากเข้าร่วมมหาสงครามของเทพเซียนในเดือนธันวาคมก็เริ่มโปรโมตผลงานของพวกเขาอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนแล้ว!
รวมไปถึงเฟ่ยหยางจากเซวี่ยนล่านด้วย
นอกจากนั้นยังมีซาไห่ และบริษัทดนตรีจากฝั่งมณฑลฉีด้วย
ตัวอย่างเช่นธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์
นับรวมกันแล้วมีราชาเพลงทั้งหมดสามท่าน และราชินีเพลงทั้งหมดสามท่านซึ่งทยอยประกาศรายชื่อออกมา และจะเข้าร่วมการประชันในฤดูกาลนี้!
และปีนี้เอง ก็เป็นฤดูกาลที่มีไลน์อัปนักร้องที่อลังการมากที่สุด!
ไม่เพียงไลน์อัปนักร้องที่อลังการ
ไลน์อัปนักประพันธ์เพลงก็ไม่ได้น้อยหน้า!
บทเพลงของเฟ่ยหยาง ประพันธ์โดยนักประพันธ์เพลงระดับพ่อเพลง รวมไปถึงการเรียบเรียงก็ใช้ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในวงการ!
นอกจากนั้น
เบื้องหลังผลงานของราชาเพลงจากธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็ผ่านมือพ่อเพลงเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือขาใหญ่ในวงการนามว่าเยี่ยจือชิว
เยี่ยจือชิวคนนี้ เดิมทีเป็นนักประพันธ์เพลงของซาไห่ ทว่าหลังจากที่ฉินฉีผนวกรวม ก็กระโดดไปอยู่กับธันเดอร์
ในตอนนั้น
หลานเหยียนก็ประกาศผ่านปู้ลั่วของตน กลายเป็นบุคคลระดับราชาราชินีเพลงคนที่เจ็ดที่ประกาศเข้าร่วมการแข่งขันในเดือนธันวาคม
‘เพลงใหม่ของผม ตะวันฉาย จะปล่อยในเดือนธันวาคม ทั้งนี้เพลงนี้จะถูกนำไปขับร้องในงานเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิปีนี้ด้วย ขอบคุณอาจารย์เซี่ยนอวี๋สำหรับการสร้างสรรค์เนื้อร้องและทำนองของเพลงนี้ครับ @เซี่ยนอวี๋’
พรึ่บๆๆ!
การแข่งขันในเดือนธันวาคม ไม่ต่างอะไรกับศึกระหว่างมังกรและพยัคฆ์ และเซี่ยนอวี๋ในฐานะนักประพันธ์เพลงที่เพิ่งเติบโตในวงการได้เกือบสองปี การปรากฏตัวของเขาย่อมกลายเป็นที่สนใจของผู้คน
เฟ่ยหยางจากเซวี่ยนล่านเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหนึ่งในนั้น
อย่าลืมว่าเฟ่ยหยางเคยพลาดพลั้งมาครั้งหนึ่งยามเผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋
แม้ว่าเฟ่ยหยางจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก แต่โลกภายนอกก็สนทนาเรื่องนี้กันอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้ตอนนี้เฟ่ยหยางสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาเล็กน้อย
“บังเอิญหรือเปล่า ก่อนหน้านี้เคยแพ้ให้เซี่ยนอวี๋มาแล้ว”
เขาหันไปหาอิ่นตงซึ่งอยู่ด้านข้าง “วนมาเจอกันอีกครั้งซะได้ แถมยังเป็นเดือนธันวาด้วย แถมดันเป็นผมกับหลานเหยียนเข้าร่วมงานฉลองครบรอบด้วยกันอีก”
“เพลงคุณมีโอกาส 80% ที่จะชนะ”
อิ่นตงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในคำพูดมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เฟ่ยหยางหัวเราะ “ที่เหลืออีก 20% ล่ะครับ”
อิ่นตงพูด “อีก 20% ที่เหลือเป็นของเยี่ยจือชิว”
เยี่ยจือชิว ก็คือพ่อเพลงคนที่สองนอกจากอิ่นตง ซึ่งเข้าร่วมสังเวียนปลายเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
………………………………………………….
ขอบคุณค่ะ