รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 369 ร้องไห้ ท่านบรรพชนตื่นเต้นแล้วชอบทุบตีผู้คน!

บทที่ 369 ร้องไห้ ท่านบรรพชนตื่นเต้นแล้วชอบทุบตีผู้คน!

บทที่ 369 ร้องไห้ ท่านบรรพชนตื่นเต้นแล้วชอบทุบตีผู้คน!

“ไปเร็ว!”

หานเย่วและแม่เฒ่าตระกูลหานออกจากเขาหยงหมิงด้วยความตื่นเต้นดีใจไม่หยุด ทั้งสองกลับไปยังสถานที่ตั้งตระกูลหาน

นี่เป็นข่าวดีอย่างถึงที่สุด ก่อนหน้านี้ตระกูลหานอยู่อย่างอกสั่นขวัญหายกันตลอดเวลา กังวลว่ายอดนิกายที่อยู่เบื้องหลังพวกหลี่จิ่วเต้าจะมาเยือนตระกูลหาน

ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว พวกนางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร จึงตัดสินใจนำข่าวดีกลับไปยังตระกูลหานทันที

บนร่างของพวกนางปรากฏค่ายกลเคลื่อนย้ายไปยังตระกูลหาน เพียงอึดใจเดียวพวกนางก็กลับมาถึงตระกูลหาน

ด้านในตระกูลหาน ทุกคนดูเซื่องซึมไร้ซึ่งชีวิตชีวา

พวกเขาต่างรู้ว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังย่างกรายเข้ามาหาพวกเขา รู้ว่ายอดนิกายจะต้องมาตามหาพวกเขาในไม่ช้า

สมาชิกตระกูลหานเกือบทั้งหมดกลับมายังตระกูลแล้ว พวกเขาไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร

ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่กลัดกลุ้มขนาดนี้

เป็นเพราะสมาชิกตระกูลหานเกือบทั้งหมดล้วนกลับมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ได้รับข่าวสารจากภายนอก ไม่รู้ว่ายอดนิกายที่แท้จริงปรากฏตัวในจวินโจว

“เหตุใดท่านจึงไร้ชีวิตชีวาเยี่ยงนี้”

แม่เฒ่าตระกูลหานแย้มยิ้มอย่างสดใสพลางเอ่ยหยอกล้อ “เช่นนี้ไม่ดีเลย ใบหน้าเกิดรอยย่นได้ง่ายดาย”

“ไปให้พ้น! ตอนนี้ใช่เวลามากังวลเรื่องรอยย่นหรือ!?”

หลังจากที่ผู้อาวุโสระดับสูงผู้หนึ่งของตระกูลหานได้ยินแม่เฒ่า ก็เกิดความโกรธจนตบแม่เฒ่าลอยกระเด็นไปชนกำแพง

จนถึงตอนนี้แล้ว แม่เฒ่ากลับยังคงกล่าวออกมาเช่นนี้ จะไร้พะวงไปถึงขั้นไหนกัน?

กระดูกในร่างของแม่เฒ่าคล้ายถูกกระแทกแตกเป็นชิ้น ๆ

นางอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากนางรู้ล่วงหน้าว่าจะเป็นเช่นนี้ นางคงไม่เอ่ยหยอกล้ออะไร บอกกล่าวข่าวดีออกไปเลย

ตอนนี้ทุกอย่าเป็นไปด้วยดี นางนับว่าโดนตบหน้าไปเปล่า ๆ!

“ผู้อาวุโส ท่านอย่าได้เข้าใจข้าผิดไป ข้ากลับมาในครั้งนี้ได้นำข่าวดีอย่างยิ่งกลับมาด้วย!”

นางไม่กล้าลีลา รีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่าพวกเซี่ยเหยี่ยไม่ได้มาจากยอดนิกาย

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?

ดวงตาผู้อาวุโสสูงสุงเบิกกว้างขึ้นทันที สรุปแล้วเป็นพวกเขาที่กลัวกันไปเองอย่างนั้นหรือ?

ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มกว้างออกมาทันที รอยย่นเต็มใบหน้าชรายืดออกพร้อมรอยยิ้ม “ดี ดียิ่ง!”

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร แต่ในที่สุดวิกฤตของตระกูลหานก็ได้รับการแก้ไขแล้ว

ถึงว่าผ่านเวลามานานหลายวันแล้ว ยอดนิกายเบื้องหลังพวกเซี่ยเหยียนก็ยังไม่มาหาพวกเขา ที่แท้เบื้องหลังของพวกเซี่ยเหยียนไม่มียอดนิกายอะไรอยู่ตั้งแต่แรก!

นี่นับได้ว่าเป็นข่าวดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับการคุมคามจากยอดนิกาย พวกเขายังไม่จำเป็นต้องกังวลว่าแผนการลี้ภัยไปอยู่ฝั่งอาณาจักรเทียนหยวนของตระกูลหานจะถูกเปิดเผย

อย่างไรเสียแผนการลี้ภัยไปอยู่ฝั่งอาณาจักรเทียนหยวนของพวกเขาก็มีเพียงแค่พวกเซี่ยเหยียนที่ล่วงรู้ เมื่อพวกเซี่ยเหยียนไม่มียอดนิกายอยู่เบื้องหลัง เรื่องราวทั้งหมดก็จะง่ายดายขึ้นมาก

แม้ว่าพวกเซี่ยเหยียนจะออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็สามารถปฏิเสธได้อย่างสิ้นเชิง และจะไม่เกิดเรื่องอะไรตามมา

“ไป ไป ไปข่าวดีให้กับท่านบรรพชน!”

ผู้อาวุโสสูงสุดตื่นเต้นเป็นอย่างมาก รีบพาแม่เฒ่ายังสถานที่ที่บรรพชนอยู่

พวกเขาไปถึงที่แห่งนั้นอย่างรวดเร็ว

“ท่านบรรพชน!”

ผู้อาวุโสสูงสุดเอ่ยเรียกจากด้านนอกอย่างแผ่วเบา

ท่านบรรพชนเป็นถึงมหาจักรพรรดิผู้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

“มีเรื่องอันใด?”

เสียงของจักรพรรดิหานที่ดังมาจากข้างในมีความรำคาญอยู่

ตอนนี้จักรพรรดิหานยังคงมีอารมณ์โกรธ ภายในใจยังคงอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย

เขาจะไม่อารมณ์เสียได้อย่างไร!

นับตั้งแต่เขาออกจากตระกูลหาน ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ด้วยดี มันคงจะดีมากอย่างถึงที่สุด หากในตอนท้ายการเดินทางไปยังแดนฝอราบรื่น ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเช่นไร!?

หลังจากไปถึงพระพุทธศาสนาเเล้ว เขากลับได้รับความอัดอั้น ถูกเด็กน้อยอายุเพียงไม่กี่ขวบทุบตีจนต้องวิ่งหนี!

ความรู้สึกเพลินเพลินใจก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้วนปลิวหายไปแล้ว!

เขาอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่บรรเทาลง!

“ท่านบรรพชน พวกเรามีข่าวดีจะมารายงาน!”

ด้านนอกประตู ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

“ข่าวดี? ตอนนี้ยังจะมีข่าวดีออะไรอีก?”

จักรพรรดิหานกล่าวออกมาอย่างอารมณ์เสีย

ทว่าเขาก็ยังคงต้องการจะฟัง จึงปล่อยให้ผู้อาวุโสสูงสุดเข้ามา

ผู้อาวุโสสูงสุดพาแม่เฒ่าเข้าไปด้านใน

“ท่านบรรพชน ตระกูลหานของพวกเราไม่จำเป็นต้องวิตกหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว!”

หลังจากเข้ามา แม่เฒ่าก็ไม่กล้าทำผิดพลาดดั่งเช่นครั้งก่อน นางรีบกล่าวเรื่องราวทั้งหมดออกมาทันทีด้วยความรวดเร็วและตรงประเด็น

“พวกเซี่ยเหยียนไม่มียอดนิกายสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง!”

นางกล่าวออกมาโดยไม่เว้นช่วง

“ท่านบรรพชน นี่นับเป็นข่าวดีอย่างถึงที่สุด พวกเราจะไม่ต้องวิตกหวาดกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว!”

ผู้เฒ่าสูงสุดพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ทว่าเขาก็ต้องหุบยิ้มลง

เพราะว่าเขาเห็นสีหน้าผิดปกติของจักรพรรดิหาน…

ใบหน้าของจักรพรรดิหานทะมึนจนน่ากลัว แววตาราวกับจะกินคนเข้าไป เช่นนั้นแล้วจะให้เขาตื่นเต้นยินดีต่อได้อย่างไร?

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ข่าวนี้ก็เป็นข่าวดีไม่ใช่หรือ?

ภายในใจของผู้อาวุโสสูงสุดงงงวย

แต่เขาก็ตระหนักได้ว่า บางทีข่าวนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องดีจริง ๆ!

เพียงพริบตาเดียวจักรพรรดิหานก็มาถึงด้านหน้าของเขา ทั้งยังทุบตีผู้อาวุโสสูงสุดอย่างแรงจนร่างกายบิดเบี้ยง กระอักเลือดจำนวนมากออกมาจากปาก

ตอนนี้เขารู้ได้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่ข่าวดีแต่อย่างใด ไม่เช่นนั้นจักรพรรดิหานจะเข้ามาทุบตีเขาเช่นนี้ได้อย่างไร?

“นี่ไม่ใช่ข่าวดีหรือ?”

ในใจของเขาร่ำร้องว่าไม่อยุติธรรมเสียเลย

นี่เป็นข่าวดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุใดจึงกลายเป็นข่าวร้ายสำหรับจักรพรรดิหาน?

ตุบ ตุบ ตุบ!

จักรพรรดิหานลงมืออย่างโหดร้าย ทุบตีผู้อาวุโสสูงสุดอย่างบ้าคลั่งจนลงไปกองกับพื้น บนใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยเลือด

แม่เฒ่าที่ดูอยู่ด้านข้างถึงกับตกตะลึง

ถึงท่านบรรพชนจะตื่นเต้นแต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!

นี่..นี่ต้องการจะตีจนผู้อาวุโสสูงสุดตายเลยหรือ!

แต่แท้จริงแล้วจักรพรรดิหานไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของตนเองเพื่อทุบตีผู้อาวุโสสูงสุด ไม่เช่นนั้นผู้อาวโสสูงสุดคงจะตายไปนานแล้ว

เขาทุบตีผู้อาวุโสสูงสุดอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะโยนผู้อาวุโสสูงสุดออกไปอีกทางเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดใกล้ตายเต็มทีแล้ว

“ไร้ประโยชน์ ใช้การไม่ได้ ไร้ค่า! พวกเจ้าทั้งหมดไร้ค่าอะไรเช่นนี้!”

เขาตะโกนสบถด่าด้วยความโกรธ การทุบตีผู้อาวุโสสูงสุดอย่างบ้าคลั่งไม่ได้ทำให้ความโกรธในใจหายไป เขายังคงโกรธเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นเขาก็จ้องมองไปทางแม่เฒ่า

“เอ๊ะ?”

เมื่อแม่เฒ่าเห็นว่าท่านบรรพชนจ้องมองมาที่นาง ใบหน้าชราก็แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาว ขาทั้งสองขาของนางสั่นด้วยความตื่นตกใจ

ทว่าก่อนที่นางจะทันได้พูดอะไรออกมา ก็พลันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง สูญเสียการควบคุมร่างกายตนเอง!

ท่านบรรพชนมาปรากฏขึ้นตรงหน้านาง ทำให้นางต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับผู้อาวุโสสูงสุด ถูกท่านบรรพชนทุบตีไม่ยั้ง!

ฟันทั้งหมดของนางร่วงออก ร่างกายบาดเจ็บอย่างรุนแรง น่าสังเวชอย่างถึงที่สุด!

“พวกเจ้าใช้การได้บ้างหรือไม่? ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง!”

บรรพชนตวาดด่า ยิ่งคิดยิ่งโกรธจนทุบตีแม่เฒ่าไม่หยุด

นี่มันอะไรกัน!

แม่เฒ่าร่ำไห้ เหตุใดท่านบรรพชนจึงแสดงความตื่นเต้นไม่เหมือนผู้อื่น?

ท่านบรรพชนตื่นเต้นแล้วชอบทุบตีคน!!!

หากนางรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางก็คงไม่ยอมมาที่นี่พร้อมกับผู้อาวุโสสูงสุด!

นางคิดว่านางเป็นผู้นำข่าวดีกลับมา ท่านบรรพชนก็ควรให้รางวัลแก่นาง…

ผู้ใดจะคิดว่านางกลับถูกท่านบรรพชนทุบตี!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท