รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 370 มีแต่พวกใช้การไม่ได้ ทั้งหมดล้วนไม่ได้ความ!

บทที่ 370 มีแต่พวกใช้การไม่ได้ ทั้งหมดล้วนไม่ได้ความ!

บทที่ 370 มีแต่พวกใช้การไม่ได้ ทั้งหมดล้วนไม่ได้ความ!

จักรพรรดิหานทุบตีแม่เฒ่าอย่างรุนแรงจนใบหน้าของนางบวมช้ำราวสุกร

แน่นอนว่าเขาก็ยังคงยั้งมือไม่ถึงขั้นสังหาร เมื่อแม่เฒ่าจวนเจียนสิ้นลม เขาก็เหวี่ยงนางออกไปอีกด้าน

เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดและแม่เฒ่าสบตากัน ก็ต่างเห็นแววตาอึดอัดคับข้องใจในดวงตาของอีกฝ่าย

อึดอัดคับข้องใจ…พวกเขาอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างมาก!

พวกเขาไม่ทันได้ทำอะไร อีกทั้งยังนำความดีมาด้วย ทว่าสุดท้ายกลับถูกทุบตีอย่างบ้างครั้ง พวกเขาจะไม่รู้สึกอึดอัดคับข้องใจได้อย่างไร

“ตระกูลหานมีแต่ตัวไร้ประโยชน์ใช้การไม่ได้เหมือนพวกเจ้า ไม่แปลกที่จะต้องจบเห่!”

จักรพรรดิหานถลึงตามองผู้อาวุโสสูงสุดและแม่เฒ่าพร้อมกัดฟันพูด

เหตุใดเขาถึงโกรธขนาดนี้หรือ?

ก็เพราะไอ้บัดซบนี่บอกกับเขาว่าพวกเซี่ยเหยียนมาจากยอดนิกาย ตระกูลหานของพวกเขาจบสิ้นลงแล้ว ไม่มีกระทั่งความหวังใด แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่าพวกเขาล้วนคิดมากไปเอง พวกเซี่ยเหยียนไม่ได้มาจากยอดนิกายหรือมีภูมิหลังอะไร!!!

ถ้าบอกก่อนที่เขาจะออกไปคงจะไม่มีเรื่องอะไร

แต่ประเด็นคือเขาออกไปเรียบร้อยแล้ว!

เขาไม่เพียงแค่ออกไป แต่ยังทำเรื่องราวทุกอย่างตามใจอย่าง โดยไม่ได้สนใจหน้าตาตนเองหรือตระกูลหานแม้แต่น้อย

อย่างไรเสียเขากับตระกูลหานก็จบสิ้นแล้ว เขายังต้องมากังวลสิ่งใดอีก!

เขาไปที่ตระกูลอู่เพื่อดื่มชาจักรพรรดิ ไปที่เผ่าวิหคทองเพื่อจับวิหคทองมาดื่มโลหิต ยิ่งกว่านั้นยังไปวังพร่างพรายเพื่ออาบน้ำในบ่อน้ำนำโชค…

ทั้งหมดล้วนจะต้องนำความอับอายและความเกลียดชังมหาศาลมาสู่ตัวเขาและตระกูลหาน!

อีกทั้งเรื่องที่สำคัญสุดคือ เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองจบสิ้นแล้วไม่มีโอกาสพลิกฟื้นอะไรอีก จึงสำแดงพลังทั้งหมดออกมาอย่างเต็มที่ไม่คำนึงถึงราคาที่ต้องจ่าย

เดิมทีเขาก็เหลืออายุขับอีกไม่มาก เวลาชีวิตนั้นมีอยู่จำกัด ดังนั้นการสำแดงพลังออกมาบ่อย ๆ โดยไม่คำนึงสิ่งใดจะต้องทำให้สภาพเขาย่ำแย่ลงอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ตัวเขานั้นได้เข้าใกล้ความตายไปอีกก้าวหนึ่ง!

แต่ผลลัพธ์ที่ได้…!?

บัดซบ!

ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องคิดไปเอง!

ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับทั้งเขาและตระกูลหาน!

เขาโกรธจนราวกับหัวใจ ตับ และปอดจะระเบิดออกมา เพราะพวกผู้อาวุโสสูงสุดไม่อาจเชื่อถือได้ เขาจึงต้องอับอายขายหน้า และชักนำความเกลียดชังครั้งใหญ่เข้าสู่ตระกูลหาน ทั้งยังนำพาตนเองเข้าใกล้ความตายไปอีกก้าว!

ความขมขื่นนี้เกิดจะทนได้!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ในตอนนั้นเอง เสียงระเบิดอันน่ากลัวก็ดังมาจากภายนอกครั้งแล้วครั้งเล่า มียอดฝีมือตระกูลหานรีบวิ่งโซซัดโซเซมาอย่างรวดเร็ว

“ผู้อาวุโส ท่านบรรพชน ท่าไม่ดีแล้ว ตระกูลอู่ เผ่าวิหคทอง วังพร่างพรายและกลุ่มกองกำลังอื่น ๆ ล้วนนำอาวุธมหาจักรพรรดิมาเพื่อสังหารพวกเราตระกูลหาน!”

ยอดฝีมือตระกูลหานผู้นี้เต็มไปด้วยเลือดทั่วทั้งกาย

“ไม่ทราบว่าพวกเขาทำด้วยเหตุผลใด พวกเขาไม่แม้กระทั่งพูดจา ลงมือทันทีที่มาถึง ตอนนี้พวกเขากำลังจะบุกเข้ามาภายในพื้นที่ของตระกูลหานแล้ว!”

เขากล่าวต่อ

“เอ๊ะ?”

สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดและแม่เฒ่าตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้

เกิดอะไรขึ้น?

หรือจะเป็นไปได้ไหมว่าแผนการตระกูลหานที่ต้องการจะลี้ภัยไปอยู่ฝั่งอาณาจักรเทียนหยวนถูกเปิดเผย?

ทว่าแม้พวกเขาจะถูกเปิงโปงแผนการ ตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!

มาถึงก็เริ่มลงมือโดยไม่พูดไม่จาถามไถ่สิ่งใด!

นี่มันเผด็จการเกินไปแล้ว!

อีกด้านหนึ่ง สีหน้าของจักรพรรดิหานมืดครึ้มจนแทบจะคั้นออกมาเป็นน้ำหมึกได้

เพียงแค่นึกถึง เจ้าพวกนั้นก็มาเสียแล้ว!

แม้คนในตระกูลหานจะไม่รู้ว่าเหตุใดตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ จึงมาที่นี่ แต่เขารู้ดีอยู่แก่ใจ รู้ดีจนไม่อาจรู้มากไปกว่านี้

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ มาเพื่อชำระบัญชีกับเขา!

“ลงมือบุกเข้ามาในตระกูลหานของพวกเราอย่างไม่บอกเหตุผล จะมากเกินไปแล้ว!”

ผู้อาวุโสสูงสุดอดเอ่ยออกมาอย่างคับแค้นใจไม่ได้ ก่อนจะหันไปขอร้องกับจักรพรรดิหาน “ท่านบรรพชนโปรดลงมือ แสดงให้พวกเขาเห็นเถิด ว่าตระกูลหานของเราไม่ใช่ลูกพลับนิ่ม นึกอย่างจะจับจะบีบเช่นไรก็ได้!”

หากท่านบรรพชนออกโรง จะต้องสามารถหยุดยั่งตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน

เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะสามารถเปิดโอกาสพูดคุยกับตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ

ตราบใดที่พวกเขาสามารถพูดคุยได้ทุกอย่างก็จะดีขึ้น แต่เกรงว่าตระกูลอู่และกองกำลังอื่น ๆ จะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูด

น่าเสียดาย ที่เขาไม่ได้รู้รายละเอียดของเรื่องราวครั้งนี้…

“ออกโรง? ออกโรงบ้าอะไร!”

จักรพรรดิหานตบผู้อาวุโสสูงสุดจนกระเด็นไปอีกทาน “รีบไปเอาของออกมาจากคลัง! จำเอาไว้ว่าต้องเป็นสมบัติล้ำค่าด้วย!”

“เอ๊ะ?”

ผู้อาวุโสสูงสุดถึงกับบื้อใบ้ ในใจกล่าวว่าบรรพชนผู้นี้ช่างชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัว*[1] ทุบตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่เมื่อมีศัตรูภายนอกมากลับตาขาว!

มีคนมาหาเรื่องถึงหน้าประตูบ้าน แต่ยังไม่ทันจะถามหาสาเหตุอะไรกลับส่งคนไปเอาสมบัติล้ำค่าออกมา?

ตระกูลหานของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น!

ต่อให้ภายในกองกำลังอื่นจะมีขอบเขตสูงสุดแล้วอย่างไร?

ตระกูลหานของพวกเขาก็มีขอบเขตสูงสุด มีกระทั่งเหนือยิ่งกว่าขอบเขตสูงสุด!

“ไปเร็ว!”

จักรพรรดิหานจ้องเขม็งไปทางผู้อาวุโสสูงสุด ก่อนจะออกจากที่นี่ตรงไปยังประตูด้านหน้าภูเขา

ภายในใจของเขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เป็นเพราะเขายั่วยุกองกำลังอื่นมากเกินไป…

ตอนนี้แตกต่างไปจากเดิมแล้ว ก่อนหน้านี้เขาดั่งคนไม่มีอะไรจะเสีย ไม่ต้องรักษาท่าทางอันใด ทว่าตอนนี้กลับต่างออกไป

หากตระกูลหลายต้องการจะอยู่รอดและเดินหน้าต่อไปได้ ย่อมต้องไม่สามารถเป็นศัตรูต่อกองกำลังมากมายขนาดนี้

เมื่อใดควรยอมแพ้ก็จงยอมแพ้!

เขามาถึงประตูด้านหน้าภูเขาอย่างรวดเร็ว

โกรธแค้นกันเพียงนี้เชียวหรือ? ไม่ว่ามองไปทางใดก็เต็มไปด้วยฝูงชนหนาแน่นจากทุกเผ่าทุกกองกำลัง!

เมื่อเห็นภาพดังกล่าว หัวใจของจักรพรรดิหานก็ยิ่งรู้สึกว่างเปล่ามากยิ่งขึ้น

“จักรพรรดิหาน! พวกข้าฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ การกระทำของเจ้าทำให้ตระกูลของข้าไม่อาจทนรับได้! แม้ว่าเจ้าจะเป็นถึงมหาจักรพรรดิ เจ้าก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้!”

“พวกเราเองก็มีความรุ่งโรจน์มาตั้งแต่ครั้งอดีต จะยอมให้เจ้ามาหยามเช่นนี้ได้อย่างไร!!!”

ตระกูลอู่ วังพร่างพราย และกองกำลังทรงอำนาจอื่น ๆ ต่างตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

สิ่งที่จักรพรรดิหานทำกับตระกูลและกองกำลังของพวกเขานั้นมาเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถยอมรับได้

อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นถึงตระกูลและกองกำลังโบราณที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน เคยให้กำเนิดมหาจักรพรรดิมากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาต่างมีศักดิ์ศรีความรุ่งโรจน์ที่ต้องการจะปกป้องรักษาไว้!

แม้ลำพังพวกเขาจะไม่สามารถทำอะไรจักรพรรดหานได้ แต่เมื่อพวกเขาจับมือรมกองกำลังจำนวนมากเข้าด้วยกัน แม้กระทั่งจักรพรรดิหานเองก็ไม่สามารถต่อกรได้!

จักรพรรดิหานไม่ได้อยู่ในสภาวะสูงสุด เห็นได้ชัดว่ากำลังเข้าสู่ช่วงบั้นปลาย พลังที่สามารถใช้งานได้มีอยู่อย่างจำกัด หากพวกเขาทั้งหมดต่อสู้ร่วมกัน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส!

อีกทั้งในครั้งนี้พวกเขายังสืบสาวเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสามารถต่อกรกับจักรพรรดิหานได้อย่างแน่นอน!

“ทุกท่านอย่าพึ่งใจร้อน! ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่ผิดเอง ข้ามาที่นี่เพื่อขอขมาทุกท่าน หวังว่าทุกท่านจะสามารถให้อภัยได้!”

จักรพรรดิหานรีบเอ่ยขอโทษออกมาด้วยท่าทางนอบน้อมเป็นอย่างมาก

“เอ๊ะ?”

“นี่…หมายความว่าอย่างไร?”

กลุ่มกองกำลังต่าง ๆ รู้สึกสับสนไม่เข้าใจอยู่บ้าง

สถานการณ์เช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง…

ก่อนหน้านี้จักรพรรดิหานดูไร้ความยี่หระ แสดงท่าทางผยองใช้อำนาจบาตรใหญ่ถึงเพียงนั้น เหตุใดตอนนี้จึงเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว?

นี่คือหวาดกลัวพวกเขาอย่างนั้นหรือ?

“เฮ้อ ข้าจะกล่าวความจริงให้ทุกท่าน หลังจากใกล้หมดอายุขัยเต็มที สภาวะต่าง ๆ ก็เริ่มเสื่อมถอย ก่อนหน้านี้ข้าจึงถูกมารภายในจิตใจครอบงำอย่างไม่อาจต้านทานได้ ข้าจึงไปที่ดินแดนของพวกท่านเพื่อกระทำสิ่งต่าง ๆ ตามใจอยาก ต้องขออภัยพวกท่านจริง ๆ!”

จักรพรรดิหานกล่าวออกมาด้วยความนอบน้อมและจริงใจ

หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อ “ข้าเต็มใจที่จะชดเชยทุกท่านอย่างสุดความสามารถ ทุกท่านต้องการสิ่งใดก็กล่าวมาเถิด ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะตอบรับอย่างแน่นอน!”

การกระทำของจักรพรรดิหานทำให้กองกำลังต่าง ๆ พากันคาดไม่ถึง

แต่เดิมพวกเขาคิดว่าต้องสู้กันก่อนจึงค่อยพูดจากันได้ คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิหานจะยอมแพ้ตั้งแต่แรก!

[1] ความรุนแรงในครอบครัว (窝里横) เป็นศัพท์ในอินเตอร์เน็ตของจีน หมายถึง คนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงกับครอบครัว แต่ทำตัวดีต่อหน้าบุคคลภายนอก

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท