รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 371 ต่อให้ใกล้ตาย เขาก็ไม่สามารถปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามความปรารถนาได้!

บทที่ 371 ต่อให้ใกล้ตาย เขาก็ไม่สามารถปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามความปรารถนาได้!

บทที่ 371 ต่อให้ใกล้ตาย เขาก็ไม่สามารถปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามความปรารถนาได้!

“สวรรค์ มีกองกำลังมากมายถึงเพียงนี้!”

ผู้อาวุโสสูงสุดที่มาพร้อมกับสมบัติล้ำค่าตกใจกลัวทันทีที่เห็นกองกำลังมืดฟ้ามัวดิน ขาของเขาเหมือนจะอ่อนลงฉับพลัน

บัดซบ! นี่มันบ้าเกินไปแล้ว ราวกับกองกำลังจักรพรรดิโบราณเกือบทั่วทั้งดินแดนฮวงมารวมตัวกัน!

“มัวทำสิ่งใดอยู่ ยังไม่รีบมาอีก!”

จักรพรรดิหานจ้องเขม็งไปทางผู้อาวุโสสูงสุดอย่างดุดัน จนผู้อาวุโสสูงสุดต้องรีบวิ่งตรงไปหา

หลังจากนั้นจักรพรรดิหานก็ส่งสัญญาณให้ผู้อาวุโสสูงสุดเอาสมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่เขานำมาด้วยออกมา

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่กล้าแม้แต่จะลังเล รีบนำสมบัติล้ำค่าทั้งหมดออกมา

“ทุกท่าน ข้าไร้หนทางแก้ไขกับมารภายในใจจิตใจ โปรดให้อภัยสำหรับปัญหาที่ข้าก่อขึ้นมา!”

จักรพรรดิหานขออภัยด้วยรอยยิ้ม “สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของขวัญแทนคำของโทษของข้า”

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่กล้าตระหนี่ แม้ว่าเขาจะทุกข์ใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังฟังคำของจักรพรรดิหานส่งมอบสมบัติล้ำค่าทั้งหมดจากคลังสมบัติออกไป

“เพียงเอ่ยอ้างมารภายในใจจิตใจก็สามารถลบล้างเรื่องก่อนหน้าได้แล้วอย่างนั้นหรือ!?”

“ของเล็กน้อยแค่นี้จะเพียงพออันใด? เจ้าถึงกับบังคับให้พวกเรานำชาจักรพรรดิมาให้ดื่ม!”

“บ่อน้ำนำโชคของพวกเขา ที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยสมบัติล้ำค่ามากมายมาตลอดตั้งแต่อดีตกาล เพียงหยดเดียวก็เรียกได้ว่าเป็นสมบัติขั้นสูงสุด กลับถูกเจ้าใช้อาบน้ำ! ทำให้บ่อน้ำนำโชคทั้งหมดแปดเปื้อน! นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หลวง พวกเราจะสามารถใช้มันอีกในอนาคตได้อย่างไร!”

กองกำลังต่าง ๆ ล้วนไม่เต็มใจจะปล่อยผ่าน พวกเขาต่างก็เอ่ยเรื่องความผิดที่จักรพรรดิหานทำกับพวกเขาออกมา

พวกเขาจะปล่อยผ่านไปได้อย่างไร?

แม้ว่าสมบัติล้ำค่าที่จักรพรรดิหานนำออกมานั้นมีค่าและหายากเป็นอย่างยิ่ง แต่พวกมันก็มีปริมาณน้อยนิด ไม่เพียงพอแบ่งให้กองกำลังละหนึ่งชิ้นเสียด้วยซ้ำ!

สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่อาจชดเชยความเสียหายที่จักรพรรดิหานก่อนเอาไว้ได้!

สวรรค์!

ผู้อาวุโสสูงสุดได้ยินแล้วก็ตกตะลึง ท่านบรรพชนมากความสามารถเกินไปแล้ว!

มองจากกองกำลังและตระกูลโบราณต่าง ๆ…นี่นับว่าก่อเรื่องทั่วทั้งแดนฮวงแล้ว!

ดื่มชาจักรพรรดิ อาบน้ำในบ่อน้ำนำโชค…

ท่านบรรพชนช่าง…กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!

ช่างก่อเรื่องชวนสาปแช่งใหญ่โตมากมายถึงเพียงนี้!

ตอนนี้เขาจึงเพิ่งเข้าใจ เข้าใจว่าเหตุใดท่านบรรพชนจึงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าพวกเซี่ยเหยียนไม่ได้มาจากยอดนิกาย

จะไม่โกรธได้อย่างไร?

บรรพชนคิดว่าทุกสิ่งล้วนจบสิ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปทำทุกสิ่งตามใจอยาก ขอเพียงแค่ให้เขารู้สึกสำราญ!

ทว่าใครจะคาดคิด ว่าสิ่งที่พวกเขาเข้าใจนั้นผิดไปทั้งหมด ตระกูลหานเองก็ยังไม่ถึงจุดจบ!

หากเป็นตัวเขาเอง เขาก็คงโกรธจนแทบบ้า!

“เจ้าทำอะไรกัน? ข้าบอกให้เจ้านำสมบัติล้ำค่าทั้งหมดในคลังออกมาไม่ใช่หรือ?”

จักรพรรดิหานตบผู้อาวุโสสูงสุดจนกระเด็นไปอีกทาง จากนั้นจึงหันกลับมากล่าวด้วยรอยยิ้มกับกองกำลังต่าง ๆ “ข้ายอมรับว่าทั้งหมดเป็นข้าที่ทำผิด แม้จะเป็นเพราะมารในจิตใจก็ตาม ข้าต้องขออภัยทุกท่านจากใจจริง เอาเป็นเช่นนี้ ทุกท่านสามารถเข้าไปยังคลังสมบัติของตระกูหาน หากต้องการสิ่งใดก็ล้วนสามารถหยิบไปได้“

ผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกคับข้องใจเป็นอย่างมาก

ท่านบรรพชนบอกตอนใดว่าให้ข้านำสมบัติล้ำค่าทั้งหมดออกมาจากในคลังกัน!?

นี่มันใช้เขาเป็นตัวรับผิดชัด ๆ!

หลังจากจักรพรรดิหานกล่าวจบ เขาก็พาคนจากกองกำลังต่าง ๆ ไปยังคลังสมบัติตระกูลหาน

อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิผู้หนึ่ง เมื่อยอมรับความผิดพลาดด้วยใจจริง ทั้งยังเปิดคลังสมบัติปล่อยให้พวกเขาเข้ามาได้ เสมือนเป็นการไว้หน้าพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่มีความคิดจะสู้ตายกับจักรพรรดิหานอีกต่อไป

หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่คิดเกรงใจ กวาดสมบัติทุกอย่างจากคลังตระกูลหานทั้งหมดไป!

พวกเขาไม่คิดเกรงใจสักนิด!

อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังนับว่าเสียเปรียบ ความเสียหายที่จักรพรรดิหานได้สร้างเอาไว้ร้ายแรงมากเกินไป!

ผู้อาวุโสที่ได้เห็นฉากนี้เจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างยิ่ง

ภูมิหลังของตระกูลหานล้วนอยู่ด้านในคลังสมบัติ ตอนนี้มันว่างเปล่าเสียแล้ว ในวันข้างหน้าเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับตระกูลหานที่จะฝึกฝนหล่อเลี้ยงคนรุ่นเยาว์!

เขากล่าวขึ้นมาในใจว่าจักรพรรดิหานช่างยอดเยี่ยมเสียจริง หากเป็นเขาเกรงว่าต่อให้ใกล้ตายก็ไม่สามารถปล่อยให้ตนเองล่องลอยไปตามใจปรารถนา*[1] ได้

ตอนนี้เป็นเช่นไร ทั้งตระกูลหานถูกลากเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยอย่างมาก!

ทว่าเขาก็กล้าเพียงจะเอ่ยออกมาในใจ ไม่กล้าจะพูดออกมาจริง

หากเขาพูดออกมาจริง ๆ เกรงว่าจักรพรรดิหานจะตีเขาจนตายเป็นแน่!

“เรื่องในครั้งนี้จะจบลงเพียงแค่นี้!”

“เห็นแก่ความจริงใจของจักรพรรดิหาน พวกเราจะไม่เอาความอีกต่อไป!”

กองกำลังต่าง ๆ พากันออกจากตระกูลหานไปทีละคน ในที่ทุกเรื่องราวครั้งนี้ก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์

“ดูสิ่งที่พวกเจ้าทำเสีย! หากไม่ใช่เพราะคำพูดของพวกเจ้า ข้าจะต้องมาทำตัวนอบน้อมและมอบสมบัติทั้งหมดออกไปหรือ?”

จักรพรรดิหานตวาดออกมาด้วยโทสะ

หลังจากที่ผู้อาวุโสสูงสุดได้ฟังแล้ว เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก

เขากำลังคิดว่าตนเองเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร? ท่านเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเองไม่ใช่หรือ?”

ถ้าหากท่านไม่ไปก่อเรื่องกับกองกำลังต่าง ๆ มีหรือจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา

ที่สำคัญคือ พวกเขาไม่ได้กล่าวกับจักรพรรดิหานสักคำว่าตระกูลหานจบสิ้นแล้ว เป็นท่านเองต่างหากที่กล่าวออกมาเองว่าตระกูลหานจบสิ้นแล้ว ทุกสิ่งล้วนสายเกินไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้!

แม้ว่าข้อมูลข่าวสารในตอนแรกของพวกเขาจะผิดพลาด แต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกให้ท่านบรรพชนไปก่อเรื่องที่กองกำลังต่าง ๆ!

“ไร้ประโยชน์ยิ่งนัก ตระกูลหานเชื่อถือคำพูดของพวกเจ้า จึงต้องพบกับจุดจบ!”

จักรพรรดิหานสบถด่า “ไปเสีย ไปปลุกหานเถาขึ้นมา บอกเขาให้มาพบข้า”

หานเถา คือจักรพรรดิผู้หนึ่งที่มีชีวิตอยู่รอดมาจากสมัยโบราณ เหตุใดจักรพรรดิหานถึงต้องตามตัวจักรพรรดิหานเถามาพบกัน?

ผู้อาวุโสสูงสุดรู้สึกงงงวย ทว่าเขาก็ไม่กล้าจะขัดคำสั่งของจักรพรรดิหานรีบไปปลุกจักรพรรดิหานเถา

เพียงไม่นานจักรพรรดิหานเถาก็ตื่นขึ้นมา ก่อนจะมาพบจักรพรรดิหานพร้อมผู้อาวุโสสูงสุด

แม้ว่าจักรพรรดิหานเถาเองก็ต้องเผชิญหน้ากับอายุขัยที่ใกล้สิ้นสุด แต่สภาพของเขาก็ดีกว่ามหาจักรพรรดิหานเป็นอย่างมาก เพราะเขาหลับลึกไม่เคยตื่นขึ้นมาก่อน

“คลังสมบัติของพวกเราว่างเปล่าแล้ว ทว่าเราไม่สามารถปล่อยให้มันว่างเปล่าเช่นนี้ได้ ในเมื่อคนเหล่านั้นไม่มีมีภูมิหลังใด เจ้าก็ไปแย่งชิงสมบัติทั้งหมดของพวกเขามาเสียเถอะ!”

จักรพรรดิหานออกคำสั่ง “อย่าได้ประมาทไป ผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยจากตระกูลเราจบสิ้นภายใต้เงื้อมมือของพวกเขา เจ้าจะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก!”

เพื่อความปลอดภัยแล้ว เขาอยากเป็นผู้ลงมือด้วยตัวเองมากกว่า

ทว่าน่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังมากเกินไป หากเขายังลงมือด้วยตัวเองอีก เกรงว่าเขาจะสามารถตายลงได้ทุกเมื่อ

แน่นอนว่าคนเหล่านั้นที่เขาพูดถึงก็คือพวกเซี่ยเหยียน

ความแข็งแกร่งของพวกเซี่ยเหยียนล้วนมาจากสมบัติต่าง ๆ ที่พวกเขาครอบครอง เขาจึงเกิดความคิดแย่งชิงสมบัติเหล่านั้น

“จำเอาไว้ให้ดี เจ้าจะต้องซ่อนตัวตนของตัวเองเอาไว้เมื่อลงมือ อย่าเปิดเผยตัวตนโดยเด็ดขาด!”

จักรพรรดิหานยังคงกล่าวต่อ “หากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เกรงว่าจะมีกองกำลังจำนวนมากมุ่งเป้าไปที่พวกเซี่ยเหยียน ทว่ากองกำลังเหล่านั้นแทบจะไม่มีทางเอาชนะพวกเซี่ยเหยียนได้ อย่างไรเสียยอดฝีมือระดับสูงของตระกูลเราหลายคนก็ถูกพวกเซี่ยเหยียนจัดการลงไปได้”

ดวงตาของเขาทอประกายขณะกล่าว “ข้ากังวลเพียงว่ายอดนิกายเองก็อาจมีความคิดมุ่งเป้าไปที่พวกเซี่ยเหยียน อย่างไรเสียสมบัติในมือของพวกเซี่ยเหยียนก็ชวนให้ตื่นตะลึง! เจ้าจำเป็นต้องรีบลงมือก่อนที่พวกยอดนิกายจะลงมือ เข้าใจหรือไม่?”

เมื่อยอดนิกายลงมือแล้ว พวกเขาคงไม่มีทางทำสำเร็จ

อย่างไรเสียพวกเขาก็ด้อยกว่ายอดนิกายเป็นอย่างมาก

“ทราบแล้ว!”

จักรพรรดิหานเถารับคำสั่ง ก่อนจะให้ผู้อาวุโสสูงสุดบอกทุกรายละเอียดเกี่ยวกับพวกเซี่ยเหยียน

หลังจากรับรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาก็เดินทางออกจากตระกูลหาน เริ่มทำการเคลื่อนไหว!

[1] ล่องลอยไปตามใจปรารถนา (放飞自我) มีความหมายว่า ปล่อยตัวเองไปทำตามความฝัน ไปทำสิ่งที่ต้องการ

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท