บทที่ 372 ปลอดภัยไว้ก่อน เริ่มลงมือจากผู้ที่อ่อนแอที่สุดเป็นอันดับแรก!
จักรพรรดิหานเถารับคำก่อนมุ่งตรงยังแดนบูรพาของเหยียนโจวในดินแดนหยิน
เขาไม่กล้าโอ้เอ้ให้เสียเวลา ทุกอย่างที่พวกเซี่ยเหยียนแสดงออกมาชวนให้คนตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจะต้องสามารถดึงดูดความสนใจของยอดนิกายได้อย่างแน่นอน
แม้ว่ายอดนิกายจะไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือหวังสมบัติของพวกเซี่ยเหยียน แต่ก็จะไม่เมินเฉยย่างแน่นนอน พวกเขาจะต้องเข้าไปติดต่อกับพวกเซี่ยเหยียนแน่
หลังจากพวกเซี่ยเหยียนติดต่อกับยอดนิกายแล้ว จะต้องเป็นการยากสำหรับตระกูลหานที่จะดำเนินการทำสิ่งใดอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นเขาจึงต้องรีบมุ่งไปยังแดนบูรพาทิศของเหยียนโจวในดินแดนหยิน ต้องการจะกำจัดพวกเซี่ยเหยียนทิ้งก่อนที่จะได้ติดต่อกับยอดนิกาย
“ไปจัดการเด็กพวกนั้นก่อน!”
ดวงตาของเขาทอประกายเย็นเยียบ เขาวางแผนขึ้นมาในใจ โดยเริ่มลงมือจากผู้ที่อ่อนแอที่สุดไล่ไปทีละคน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเซี่ยเหยียนน่าจะต้องได้รับโอกาสวาสนาครั้งใหญ่มา มิเช่นนั้นเหล่าเด็ก ๆ คงไม่มีพลังที่แข็งแกร่งน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้
สำหรับหลี่จิ่วเต้าเองก็ไม่ธรรมดาสามัญ ไม่มีทางเป็นปุถุชนอะไรอย่างแน่นอน
เมื่อหานอู่หยากลับมาปลุกผู้อาวุโสสูงสุดที่เผ่าหาน ได้เล่าว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ใช่ปุถุชนธรรมดา ทั้งยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ผู้นำตระกูลเองก็จบชีวิตลงในเงื้อมมือของหลี่จิ่วเต้า
ด้วยเหตุนี้หานอู่หยาจึงส่งร่างอวตารกลับมาปลูกผู้อาวุโสสูงสุดผู้อื่นให้ออกมาช่วยเหลือ
หลังจากนั้นหานอู่หยาและผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่น ๆ ก็เสียชีวิตลงและหายไปตัวตลอดกาล เกรงว่าพวกเขาคงจะถูกหลี่จิ่วเต้าสังหารไปแล้ว
หลี่จิ่วเต้าอาจเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม
นอกจากนี้คนอีกผู้หนึ่งอย่างหลิงอิน เกรงว่านางเองก็ไม่ใช่ปุถุชน อาจมีความแข็งแกร่งอย่างมากเก็บซ่อนอยู่
เขาออกมาในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อคันศรล้ำค่าในมือของเซี่ยเหยียน แต่เพื่อจัดการพวกเซี่ยเหยียนทั้งกลุ่มไล่ไปทีละคนทีละคน
อย่าไรเสียคนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ก็ได้รับโอกาสวาสนาการเปลี่ยนแปลง
ถึงเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิ ความแข็งแกร่งลึกล้ำไม่อาจหยั่งได้ แต่นิสัยของเขาก็ยังคงระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ไม่ประมาทเลินเล่อเพราะพลังของตนเอง
ความแข็งแกร่งของหลี่จิ่วเต้าไม่ปรากฏชัด เขาจึงไม่สามารถลงมืออย่างผลีผลาม การเริ่มลงมือจากผู้ที่อ่อนแอสุดเป็นทางเลือกดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแต่จะไม่เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝัน ยังมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเขายังสามารถรับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้าได้
นอกจากนี้ เขาเองก็ใกล้มาถึงขีดจำกัดแล้ว ตอนนี้เพียงแค่มีชีวิตอยู่ก็เต็มกลืน การลงมือใช้พลังมาก ๆ รังแต่จะเร่งรัดความตายเข้ามา
หากไม่ถึงยามจำเป็นจริง ๆ เขาเองก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้
“ไปเถอะ”
ร่างของเขาเลือนหายไปจากจุดที่เคยอยู่ เมื่อเขาปรากฏกายขึ้นอีกครั้งก็มาถีงพรรคจื่อเสียแล้ว
ตระกูลหานได้ตรวจสอบพวกหลี่จิ่วเต้ามานานแล้ว เขาจึงรู้ว่าพวกอ้ายฉานกำลังฝึกฝนอยู่ในพรรคจื่อเสีย
เขาก้าวออกไปเพียงหนึ่งก้าวด็ตรงเข้ายังพรรคจื่อเสียได้อย่างเงียบเชียบ ไม่มีสมาชิกพรรคจื่อเสียคนใดพบตัวเขา
แม้ว่าจะมีสมาชิกพรรคจื่อเสียเดินผ่านเขาในระยะประชิด ก็ไม่มีผู้ใดค้นพบตัวตนของเขา ราวกับว่าตัวเขาโปร่งใสไม่มีตัวตนอยู่จริง
นี่คือความน่ากลัวและน่าหวาดหวั่นของเขา แม้อยู่เบื้องหน้าแต่กลับทำให้ผู้คนไม่อาจรับรู้ได้
“อยู่กันไม่ครบ…”
ดวงตาของเขาเหลือบมอง ขณะที่แผ่ความคิดปกคลุมทั่วพรรคจื่อเสียทั้งหมด ทำให้ทุกสิ่งในพรรคจื่อเสียปรากฏขึ้นในหัวของเขา
พวกอ้ายฉานมีทั้งหมดแปดคน แต่ตอนนี้มีเพียงสามคนเท่านั้นที่อยู่ในพรรคจื่อเสีย เด็กคนอื่น ๆ ไม่อยู่
“ไม่เป็นไร จัดการเด็กสามคนนี้ไปก่อน หลังจากนั้นค่อยไปตามหาเด็กคนอื่น”
เขาก้าวไปด้านหน้า ก่อนจะถึงข้าง ๆ เด็กสามคนนั้นทันที ในยามนี้เด็กทั้งสามกำลังนั่งฟังบรรพชนพรรคจื่อเสียเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ฝึกฝนของตนเอง
เด็กทั้งสามต่างมีความก้าวหน้ารวดเร็วเป็นอย่างมาก ขอบเขตปัจจุบันของพวกเขาสูงกว่าบรรพชนพรรคจื่อเสียไปไกลโข แต่อย่างไรเสียบรรพชนพรรคจื่อเสียก็มีชีวิตและช่วงเวลาฝึกฝนยาวนานกว่าพวกเด็ก ๆ ประสบการณ์ของเขาจะสามารถช่วยเหลือเด็กทั้งสามคนได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น ก็ไม่ได้อยู่สภาพพรางตัวอีกต่อไป บรรพชนพรรคจื่อเสียที่เห็นเขาก็ผุดลุกขึ้นยืนจากเบาะนั่งทันทีด้วยสีหน้าตึงเครียด
“เจ้าเป็นผู้ใด!?”
บรรพชนพรรคจื่อเสียจับจ้องจักรพรรดิหานเถาด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความระแวดระวัง
“ข้าไม่ได้มาหาเจ้า เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
จักรพรรดิหานเถาลงมืออย่างไร้สุ้มเสียง ทันใดนั้นหนึ่งลำแสงก็พุ่งออกมาใส่บรรพชนพรรคจื่อเสีย
บรรพชนพรรคจื่อเสียต้องการจะขยับก็ขยับไม่ได้ ต้องการจะพูดก็ไม่อาจเอ่ยวาจาใด
เหลือเพียงเด็กสามคนอย่างจู้จื่อ ฉวี่เทา และชุยข่าน
“เจ้าจะทำอะไร!?”
จู้จื่อตะโกนใส่จักพรรดิหานเถาอย่างกราดเกรี้ยว “รีบปล่อยท่านบรรพชนเดี๋ยวนี้!”
จักรพรรดิหานเถาไม่ได้ให้ความสนใจจู้จื่อ
เขากำลังมองดูกระถางต้นไม้*[1] เบื้องหน้าเขาด้วยสีหน้าจริงจังเป็นอย่างยิ่ง
“สรุปแล้วพวกเขาล้วนดูเหมือนจะได้รับโอกาสวาสนามาทั้งหมด!”
จักรพรรดิหานเถาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความตกใจจนพูดไม่ออก เขาไม่เคยเห็นกระถางต้นไม้เช่นนี้มาก่อน!
นี่คือกระถางต้นไม้แบบใดกัน?
ทั้งกระถางเปี่ยมด้วยเต๋าสูงสุดไหลเวียนอยู่ ต่อหน้ากระถางใบนี้ กระทั่งอาวุธมหาจักรพรรดิก็ไม่อาจเทียบได้อย่างแน่นอน แตกต่างกันอย่างลิบลับประหนึ่งหิ่งห้อยประชันกับสุริยันจันทรา!
กระถางต้นไม้คือสุริยันจันทรา ส่วนอาวุธมหาจักรพรรดิเป็นได้เพียงหิ่งห้อย!
ต้นไม้สีเหลืองทองที่ถูกปลูกเอาไว้ ทุกใบล้วนเปล่งแสงระยับ เปี่ยมด้วยลมปราณแห่งชีวิตแผ่ออกมา
อย่างน้อย ๆ ต้นไม้ต้นนี้ก็เป็นโอสถจักรพรรดิระดับสูงสุด!
แม้กระทั่งดินในกระถางเองก็ไม่ธรรมน่าตื่นตะลึง ด้านในประกอบด้วยแก่นกำเนิดทุกชนิดบนโลก นับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าหายากถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
ได้เติบโตขึ้นมาบนดินเช่นนี้ เกรงว่ากระทั่งต้นหญ้าธรรมดาก็สามารถกลายเป็นโอสถล้ำค่ามอบผลชวนตะลึงสะท้านฟ้า!
ใช่แล้ว
ต้นไม้กระถางนี้เป็นสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าได้มอบให้กับอันหลานเสวี่ย นางได้ทิ้งมันไว้ที่พรรคจื่อเสีย เพื่อให้พวกอ้ายฉานได้ฝึนตนใต้ข้างกระถางต้นไม้
ไม่ว่าจะเป็นกระถาง ต้นไม้สีทองเล็ก ๆ หรือกระทั่งดินข้างใน ล้วนเป็นของที่สามารถสะท้านฟ้าได้ การฝึกตนอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ได้รับอานิสงส์เพิ่มผลการฝึนตนได้มากกว่าครึ่ง
“มาในครั้งนี้ นับว่าไม่เสียเที่ยว!”
หัวใจของจักรพรรดิหานเถาเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรงด้วยตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
แม้ว่าเขาจะนำกระถางต้นไม้กลับไปเพียงอย่างเดียว ก็นับได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
มูลค่าของกระถางต้นไม้ใบนี้มีมากกว่าสมบัติทั้งหมดในคลังของตระกูลหานหลายเท่า!
ถึงจะย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ตระกูลหานรุ่งโรจน์ถึงจุดสูงสุด พวกเขาก็ไม่เคยครอบครองของเช่นนี้มาก่อน!
ตระกูลหานเคยได้รับโอสถจักรพรรดิมาก่อน แต่นั้นก็เป็นเพียงโอสถจัรพรรดิ ไม่ใช่โอสถมหาจักรพรรดิ เทียบแล้วห่างไกลไม่รู้เท่าไหร่กับต้นไม้สีทองต้นนี้!
เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้สึกได้ว่าเพียงใบไม้สีทองหนึ่งใบ ก็เกรงว่าจะสามารถเพิ่มอายุขัยของเขาขึ้นอย่างมาก ทั้งยังทำให้เขากลับคืนสู่จุดสูงสุด
แก่นกำเนิดชีวิตที่ไหลเวียนอยู่ในต้นไม้สีทองขนาดเล็กช่างมากมายมหาศาล!
“ฮ่าฮ่า สวรรค์ประทานพรให้ตระกูลหานแล้ว! ผู้แข็งแกร่งที่เหลือรอดจากยุคโบราณกาลล้วนจะไม่ต้องตายอีกต่อไป!”
ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ต้นไม้สีทองต้นนี้สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งตระกูลหานที่มีชีวิตอยู่รอดมาจากยุคโบราณกาลสามารถกลับคืนสู่สภาวะสูงสุดได้!
กระทั่งมหาจักรพรรดิหานเองก็สามารถช่วยเหลือได้!
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสิ่งนี้สามารถทำให้เขาตื่นเต้นได้มากเพียงใด!
[1] กระถางต้นไม้ (盆景) เป็นการจัดหรือย่อภูมิทัศน์ลงในภาชนะหรือถาด (บอนไซ)