บทที่ 379 พรสวรรค์ด้านฉินช่างน่าอัศจรรย์ หลี่จิ่วเต้าเองยังเกิดความรู้สึกชื่นชม!
หลี่จิ่วเต้าเห็นท่าทางเขินอายของเสี่ยวหยาแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
เขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ที่บ้านเกิดของข้ามีหลายคนที่เลียหลังจากดื่มหมดแล้วเพื่อไม่ให้เสียของ
“คนที่บ้านเกิดของคุณชาย?”
เสี่ยวหยาตกตะลึง บ้านเกิดของท่านเซียนคือภพเซียนใช่หรือไม่?
“ใช่แล้ว เมื่อพวกเขากินโยเกิร์ตก็จะทำเช่นนี้ พูดถึงโยเกิร์ตแล้ว…ช่างน่าเสียดายที่ไม่มีนม คงจะดีไม่น้อยหากทำโยเกิร์ตได้”
ชายหนุ่มส่ายหัว เมื่อคิดถึงรสชาติของโยเกิร์ต ก็เหมือนมีรสชาติหวนกลับขึ้นมาในปาก
“พวกเขาล้วนดื่ม…นมวัวหรือ?”
เสี่ยวหยาอดถามขึ้นมาไม่ได้
คนในภพเซียนของท่านเซียนไม่รู้สึกว่าการดื่มนมเป็นเรื่องน่าอายหรอกหรือ?
มีเพียงทารกแรกเกิดเท่านั้นที่ดื่มนม!
แม้ว่ารสชาติของนมจะอร่อยมากก็ตามเถอะ!
“ดื่มสิ”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่านมเป็นของดี การดื่มนมนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย คนในบ้านเกิดของข้าดื่มมันเป็นประจำแทบทุกวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่”
นี่…นี่…นี่!
คำตอบของหลี่จิ่วเต้าทำให้เสี่ยวหยาคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก
นมดีขนาดนั้นเชียวหรือ?
คนในภพเซียนของท่านเซียนถึงดื่มมันประจำแทบทุกวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่!
ดูเหมือนว่านมจะเป็นของดีจริง ๆ ดื่มเข้าไปแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย!
เสี่ยวหยาตัดสินใจได้แล้ว ต่อจากนี้ไปนางจะดื่มนมทุกวัน!
ส่วนเรื่องน่าอายหรือไม่นั้น…
คนในภพเซียนของท่านเซียนยังดื่มทุกวัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ น่าอายตรงไหนกัน!
ไม่ใช่เรื่องน่าอายสักนิด!
เป็นพวกนางที่ไม่รู้คุณประโยชน์ของนมเอง!
ในตอนนั้นเอง นางก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นภายในร่างกายของนาง
อวัยวะทั้งหมดในร่างกายของนางเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงทำงานได้คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น แก่นกำเนิดชีวิตก็พุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วอันบ้าคลั่งเหนือจินตนาการ!
“กระดูกของข้า…”
นางตกใจจนไม่รู้จะเอ่ยออกมาอย่างไร รับรู้ได้ว่ากระดูกในร่างกายของนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน มีอักขระมากมายโผล่มาจากกระดูกของนาง ซึมผสานเข้าไปในเลือดเนื้อของนาง!
นางรู้สึกว่าตนเองกับกระดูกเกิดความ ‘สนิทชิดเชื้อ’ กันมากขึ้น ตอนแรกนางรู้สึกราวกับว่านี่ไม่ใช่กระดูกของนาง แต่เป็นกระดูกของผู้อื่น
ทว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นกระดูกของนางไปแล้วจริง ๆ!
“ของบำรุงชั้นดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย!”
ในใจของนางนึกถึงสิ่งที่ท่านเซียนพึ่งกล่าวออกมา ก่อนจะเข้าใจความหมายทันที
ที่แท้ท่านจุดประสงค์ที่ท่านเซียนมอบชานมให้กับนางก็อยู่ตรงนี้!
แม้ว่านางจะฟื้นคืนชีพมาแล้ว ทว่าร่างกายก็ยังคงอ่อนแอ ไม่สามารถเข้ากันได้กับกระดูกของตนเอง
ท่านเซียนมอบชานมให้นางดื่ม ก็เพื่อบำรุงร่างกาย ทำให้นางสามารถหลอมรวมเข้ากับกระดูกของตนเองได้อย่างเต็มที่
“ประโยชน์ดูเหมือนจะมีมากกว่านั้น!”
นางรู้สึกว่ากระดูกในร่างกายกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เหมือนได้เกิดใหม่พร้อมพลังที่มากขึ้น อยู่เหนือยิ่งกว่ากระดูกก่อนหน้า!
“นี่คือวิธีของท่านเซียนหรือ? เพียงแค่ชานมหนึ่งแก้วก็สามารถทำเช่นนี้ได้!”
นางทอดถอนใจออกมา ระดับความชื่นชมที่มีต่อท่านเซียนเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงถึงที่สุด
หลิงอินเคยกล่าวเอาไว้ว่า แม้กระดูกของน่าจะน่าอัศจรรย์เป็นถึงกระดูกจักรพรรดิแต่กำเนิด ทว่าหลังจากผ่านระยะเวลาอันยาวนาน ทั้งยังเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้ง ทำให้สูญเสียพลังในกระดูกไปเป็นอย่างมากจนห่างไกลจากคำว่า ‘กระดูกจักรพรรดิแต่กำเนิด’
ในยามนี้ กระดูกของนางไม่เพียงแต่ฟื้นคืนความแข็งแกร่งดั้งเดิมกลับมา ทว่ายังเหนือล้ำยิ่งกว่าความแข็งแกร่งดั้งเดิมไปมาก!
ตอนนี้มันก็ยังไม่คู่ควรกับชื่อกระดูกจักรพรรดิแต่กำเนิด
ก่อนหน้านี้เพราะมันด้อยกว่าเกินไป
ทว่าตอนนี้เป็นเพราะมันแข็งแกร่งมากกว่าเกินไป!
กระดูกในร่างกายของนางยังคงอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ยังห่างไกลจากการเปลี่ยนแปลงจนเสร็จสมบูรณ์ หากถึงการเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ กระดูกของนางจะแข็งแกร่งและน่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้นไปกว่านี้!
หลิงอินเองก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเสี่ยวหยาได้ ความสำเร็จในอนาคตของเสี่ยวหยาจะต้องสูงมากอย่างไม่ต้องสงสัย สูงเสียยิ่งกว่ากระดูกจักรพรรดิแต่กำเนิดจะทำได้!
นางเองก็กำลังได้รับการบำรุงจากชานม ตัวของนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงจนค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
‘นมหรือ? ข้าจะต้องหาวัวมามอบให้กับท่านเซียน!’
หลิงอินกล่าวขึ้นมาในใจ ระหว่างนึกถึงคำพูดของท่านเซียนเมื่อครู่
พวกนางอยู่กับท่านเซียนตลอดทั้งวัน สนทนากันมากมายในเรื่องเกี่ยวกับการเล่นฉิน หลี่จิ่วเต้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อพบว่าเสี่ยวหยามีความสามารถด้านการเล่นฉินสูงมาก ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านนี้เป็นพิเศษ
“พรสวรรค์อันหาพบได้ยาก…”
หลี่จิ่วเต้าอดแปลกใจไม่ได้
เสี่ยวหยามีพรสวรรค์ด้านฉินเหนือยิ่งกว่าหลินอินเสียด้วยซ้ำ นับว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีต้นหนึ่งอย่างแน่นอน
หากหมั่นเพียรฝึกฝนและชี้แนะดี ๆ ความสำเร็จในด้านฉินของเสี่ยวหยาจะต้องถึงระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้อย่างแน่นอน!
“คุณชายช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!”
เสี่ยวหยาชื่นชมท่านเซียนจากก้นบึ้งหัวใจ
หลังจากได้ฟังท่านเซียนพูดเกี่ยวกับฉินแล้ว นางก็เกิดความตระหนักรู้ขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ระดับมรรคาแห่งทำนองกู่ฉินของท่านเซียนนับได้ว่าอยู่ในจุดสูงสุดเกินกว่าที่ผู้ใดจะเอื้อมถึง!
ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง กลับทำให้นางสามารถพัฒนาได้มากยิ่งกว่าการที่นางฝึกฝนด้วยตัวเองเป็นร้อยหรือกระทั่งพันปีเสียด้วยซ้ำ!
“ฮ่าฮ่า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าตั้งปณิธานไม่รับศิษย์ ข้าก็คงอยากจะรับเจ้าเป็นศิษย์จริง ๆ! พรสวรรค์ด้านฉินของเจ้ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก จนทำให้ข้าชื่นชมเป็นพิเศษ”
หลี่จิ่วเต้าชื่นชอบเสี่ยวหยาเป็นอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความคิดอยากจะรับลูกศิษย์
ทว่าเขาเป็นคนเกียจคร้านและรักอิสระ หากกลายเป็นอาจารย์ขึ้นมาจริง ๆ เกรงว่าจะไม่สามารถเป็นอาจารย์ที่ดีได้
หากกลายเป็นอาจารย์แล้ว ทุกสิ่งจะแตกต่างไปจากเดิม เขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสั่งสอนขัดเกลาพรสวรรค์ของเสี่ยวหยา ไม่เช่นนั้นคงไม่คู่ควรกับตำแหน่งอาจารย์
ยอดเยี่ยมปานนั้นเชียว!
หลิงอินตกใจ นางรู้ว่าพรสวรรค์ของเสี่ยวหยานั้นสูงเป็นอย่างมาก แต่ทว่านางก็ไม่คาดคิดว่าจะมากถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งท่านเซียนยังให้การประเมินไว้สูง!
หลังจากนั้นนางก็รู้สึกยินดีกับเสี่ยวหยา
ท่านเซียนกล่าวออกมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่าพรสวรรค์ด้านฉินของเสี่ยวหยาจะต้องน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก!
เสี่ยวหยาในอนาคตจะต้องประสบความสำเร็จในระดับสูงสะท้านฟ้าอย่างแน่นอน!
“จริงหรือ?”
เสี่ยวหยาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าท่านเซียนจะประเมินนางสูงถึงเพียงนี้
“จริงแท้ หากเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นก็ลองถามหลิงอิน ข้าไม่เคยพูดกับนางเช่นนี้มาก่อน”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ
“เป็นความจริง ดูเหมือนเสี่ยวหยาจะยอดเยี่ยมกว่าข้าจริง ๆ!”
หลิงอินกล่าวออกมา
“ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นต้นกล้าที่ดี หากมีคนชี้แนะเจ้าในด้านฉิน เจ้าย่อมสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ด้านฉินได้อย่างง่ายดาย”
หลี่จิ่วเต้ามองเสี่ยวหยา “ถ้าเจ้าไม่รังเกียจก็สามารถมาหาข้าบ่อย ๆ ได้ ข้าเองก็พอจะประสบความสำเร็จในด้านฉินอยู่บ้าง”
ประสบความสำเร็จในด้านฉินอยู่บ้าง?
หลิงอินกล่าวขึ้นมาในใจ ท่านเซียนช่างชอบล้อเล่นเสียจริง หากเสียงฉินของท่านเซียนนับว่าพอประสบความสำเร็จอยู่บ้าง เสียงฉินของพวกนางคงนับว่าไม่อาจทนฟังได้!
เสียงฉินของท่านเซียนไม่เพียงแต่พอเล่นได้ แต่นับได้ว่ายอดเยี่ยมเกินไปเสียด้วยซ้ำ!
“คุณชายถ่อมตัวเกินไปแล้ว ความสำเร็จด้านฉินของท่านนับว่าอยู่จุดสูงสุดอย่างแน่นอน เปรียบประหนึ่งดังขุนเขาสูงตระหง่านทะลุหมู่เมฆ การที่ข้าสามารถขอคำแนะนำจากท่านได้ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตนี้!”
เสี่ยวหยากล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
“เจ้าเองก็ยกยอเกินไป”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้ายอมรับแล้ว จากนี้ก็สามารถมาหาข้าบ่อย ๆ ได้”
เขามองไปที่หลิงอินก่อนจะกล่าวหยอกล้อ “เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่าลืมมาด้วยกันกับเสี่ยวหยา มิเช่นนั้นข้าเกรงว่าป้าหวังจะคิดมากอีกครั้ง”
“ไม่ลืม ไม่ลืม!”
ใบหน้าของหลิงอินเปลี่ยนเป็นสีแดง นางเข้าใจว่าท่านเซียนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
ป้าหวังไม่ชอบคิดมากเรื่องอื่น นอกจากเรื่องการแต่งงานระหว่างนางกับท่านเซียน
เมื่อใดก็ตามที่มีหญิงสาวมาหาท่านเซียน ป้าหวังก็จะรู้สึกเป็นกังวลไม่หยุด กลัวว่าท่านเซียนจะถูกผู้อื่นฉกฉวยไป