Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 270 ตัวตนของเซี่ยนอวี๋ถูกเปิดเผย

ตอนที่ 270 ตัวตนของเซี่ยนอวี๋ถูกเปิดเผย

วันเวลาหลังจากนั้น เพลงตะวันฉายครองอันดับหนึ่ง ในชาร์ตเพลงใหม่ของเดือนธันวาคมอย่างมั่นคงและไม่มีทีท่าว่าจะโดนเบียดจนหล่นจากอันดับไปได้เลย ในทางกลับกัน พ่อเพลงทั้งสองซึ่งครองอันดับสองและสามต่างก็มีช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอันดับกันไป

พ่อเพลงทั้งสองมีขึ้นมีลง

ทว่าเมื่อวันเวลาล่วงเลยเข้ากลางเดือนธันวาคม ชาร์ตเพลงใหม่ก็เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมา

ท้ายที่สุดก็เป็นเฟ่ยหยางที่คว้าอันดับสองไปครองอย่างมั่นคง

นั่นทำให้ผู้คนทั้งในและนอกวงการต่างอุทานออกมาประโยคหนึ่ง “ผู้ชายคนนั้นสมแล้วที่ได้สานต่อปณิธานของอันดับสอง”

แน่นอนว่ามุกก็เป็นเรื่องของมุก

ไม่ได้ทำให้ใครมองข้ามการที่เซี่ยนอวี๋ได้แชมป์รายการเพลง และปกครองมหาสงครามเทพเซียนในปีนี้ไปได้

มีคนรู้สึกว่านี่เป็นหมุดหมายหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่าเซี่ยนอวี๋มีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อเพลง

และมีคนรู้สึกว่าอันดับหนึ่งหมายความว่าเซี่ยนอวี๋เหมาะสมกับฉายา ‘พ่อเพลงตัวน้อย’ แล้ว

สิ่งที่เรียกว่า ‘พ่อเพลงตัวน้อย’ เดิมทีเป็นชื่อเรียกภายในสตาร์ไลท์

ถึงอย่างไรในบริษัท เซี่ยนอวี๋ก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกับพ่อเพลงคนอื่นๆ

คนในวงการที่ยอมรับคำเรียกนี้กลับมีไม่มาก และบางครั้งก็ยังค่อนแคะแดกดันเรื่องนี้ด้วย

ทว่าในตอนนี้ เมื่อเซี่ยนอวี๋ดับเบิลคิลล์พ่อเพลงทั้งสอง เขาก็คู่ควรกับสมญานาม ‘พ่อเพลงตัวน้อย’ แล้ว!

ในวงการจึงเกิดฉันทามติร่วมกันอย่างเป็นทางการ!

แน่นอนว่าไม่มีใครมองเซี่ยนอวี๋เป็นพ่อเพลงเต็มตัวเพียงเพราะเรื่องนี้จริงๆ หรอก ต่อให้เซี่ยนอวี๋จะเอาชนะอิ่นตงและเยี่ยจือชิวได้ในฤดูกาลนี้

ถึงอย่างไรพ่อเพลงก็หมายถึงบุคลากรระดับยอดพีระมิด

แม้ว่าพ่อเพลงจะไม่ค่อยพลาดพลั้ง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้พ่าย บางครั้งบางคราวพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับนักประพันธ์เพลงมือทอง เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพียงแต่มีกรณีตัวอย่างให้เห็นน้อยนักเท่านั้นเอง…

เช่นเดียวกับบุคลากรระดับหัวกะทิในทุกแขนงวิชา

อัจฉริยะระดับหัวกะทิในแต่ละแขนงวิชาใช่ว่าจะไม่เคยพ่ายแพ้ เพียงแต่ว่าอัตราการชนะของเขาไม่มีใครเทียบได้ ต่อให้จะแพ้บ้างเป็นบางครั้งคราว ก็ไม่ได้ทำลายระดับและพลังที่แท้จริงของเขา

ยกตัวอย่างเฟกเกอร์[1]ในยุครุ่งโรจน์

ยุครุ่งโรจน์ของเฟกเกอร์นั้นสมศักดิ์ศรีในฐานะเลนกลางอันดับหนึ่งของโลก เป็นเทพในสายตาของใครหลายคน ทว่าบางครั้งก็ถูกฝ่ายตรงข้ามคิลล์อย่างง่ายดาย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่ออันดับของเขา ในตอนนั้นไม่มีใครกล้าพูดว่าตนคิลล์เฟกเกอร์ได้แล้วตนจะเก่งกาจกว่าเฟกเกอร์…

การประพันธ์เพลงก็เช่นเดียวกัน

นี่เป็นสายงานที่พิเศษอย่างหนึ่ง นอกจากจะทดสอบความสามารถของนักประพันธ์เพลงแล้ว ยังขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจอีกด้วย

นักประพันธ์เพลงมือทองฝีมือดี เมื่อเกิดแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าขึ้นมาละก็ มีโอกาสคว่ำพ่อเพลงได้เลย

เช่นเดียวกับนักประพันธ์เพลงหน้าใหม่ที่มีแรงบันดาลใจคอยหนุนนำ บางครั้งก็สามารถล้มนักประพันธ์เพลงมือทองได้

เพียงแต่จะยากหรือง่าย และมีความเป็นไปได้มากแค่ไหนก็เท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นเซี่ยนอวี๋จึงยังคงเป็น ‘พ่อเพลงตัวน้อย’ ดังเดิม

ถึงขั้นที่ความหมายของคำว่า ‘ตัวน้อย’ ก็ไปเกี่ยวข้องกับข่าวลือในวงการ

“ว่ากันว่าเซี่ยนอวี๋อายุน้อยมาก ยังเป็นนักศึกษามหา’ลัยอยู่เลย”

“ก็เกินไป เป็นนักศึกษามหา’ลัยไปไม่ได้หรอก”

“ฉันเคยเจอเซี่ยนอวี๋ครั้งนึง ดูแล้วอายุประมาณยี่สิบต้นๆ”

“ผมก็เคยได้ยินเพื่อนบอกมา ว่าอายุน้อยจริงๆ เพราะเพื่อนผมเคยทำงานในกองถ่ายเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ เซี่ยนอวี๋เป็นคนเขียนบทเรื่องนั้น”

“จริงเหรอ หรือว่าจะเป็นคนหน้าเด็ก ฉันว่าอย่างน้อยเซี่ยนอวี๋ก็ต้องอายุสักสามสิบได้”

“เพื่อนฉันเคยไปกินข้าวกับเซี่ยนอวี๋ เซี่ยนอวี๋เคยพูดที่โต๊ะอาหารว่า ภายในห้าปี เขาจะต้องเป็นพ่อเพลง!”

“หลานชายของเพื่อนบ้านของลุงกับป้าสะใภ้ผมบอกว่า ปกติเวลาเซี่ยนอวี๋เดิน เขาจะคิดเกี่ยวกับการแต่งเพลงไปด้วย ทำให้เขาชนกับเสาไฟฟ้าบ่อย และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นพ่อเพลงตัวน้อยตั้งแต่วัยรุ่น”

“…”

ข่าวลือนานาสารพัดรูปแบบ จริงบ้างปลอมบ้างยากต่อการแยกแยะ ทว่าในข่าวลือแต่ละอย่างนั้น มีเบาะแสร่วมกันอย่างหนึ่งก็คือ

เซี่ยนอวี๋เป็นผู้ชายอายุน้อย

รายละเอียดว่าอายุน้อยแค่ไหนนั้น โลกภายนอกไม่ได้ล่วงรู้

แม้ว่าหลินเยวียนจะใช้เซี่ยนอวี๋เป็นตัวตนที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยทั้งหมดเสียทีเดียว เพียงแต่ว่าปกติแล้ว เขาจะต้องติดต่อกับผู้คนมากหน้าหลายตาในกองถ่ายหรือบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีข่าวลือที่เท็จบ้างจริงบ้างเกิดขึ้น

ในเมื่อปราศจากการห้ามปรามอย่างเคร่งครัด นี่จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจควบคุมได้

แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่สงสัยเรื่องนี้อยู่เท่านั้นเอง

ในตอนนั้น

มีผู้ประสงค์ดีรวบรวมเบาะแสต่างๆ นานา ขุดข้อมูลของเซี่ยนอวี๋ และไปพบข้อมูลในบัญชีผู้ใช้บนปู้ลั่วของซุนเย่าหั่วเข้า

ก่อนเดือนธันวาคม

ช่วงที่เพลงตะวันฉายของเซี่ยนอวี๋กำลังจะปล่อยออกมา นักร้องหลายคนซึ่งเคยร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ต่างโพสต์ข้อความสนับสนุนเซี่ยนอวี๋บนปู้ลั่ว

หนึ่งในนั้นก็คือซุนเย่าหั่ว

ตัวซุนเย่าหั่วนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร คนที่สนใจเขานั้นมีไม่มาก สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจกันจริงๆ ก็คือคำเรียกซึ่งซุนเย่าหั่วใช้เรียกเซี่ยนอวี๋

‘รุ่นน้อง!’

ต้องเข้าใจก่อนว่าข้อมูลของนักร้องทั่วไปอย่างซุนเย่าหั่วนั้นค่อนข้างเปิดเผย เพลงที่เขาร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ก็โด่งดังมาก ถึงแม้ว่าจะค่อนไปทาง ‘เพลงดังแต่นักร้องไม่ดัง’ ก็เถอะ ทว่าบนอินเทอร์เน็ต แค่คลิกก็รู้แล้วว่าคนคนนี้จบการศึกษามาจากสาขาการขับร้อง วิทยาลัยศิลปะฉินโจว

เซี่ยนอวี๋เป็นรุ่นน้องของเขา…

หมายความว่าเซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษาวิทยาลัยศิลปะฉินโจว?

เมื่ออ้างอิงจากข้อมูลโดยละเอียดว่าซุนเย่าหั่วเป็นนักศึกษารุ่นไหน ตัวตนของเซี่ยนอวี๋ก็ถูกจำกัดขอบเขตแคบลงมาเรื่อยๆ จากนั้นก็เกิดข้อเท็จจริงที่น่าประหลาดใจว่า

เซี่ยนอวี๋อาจเป็นนักศึกษาจบใหม่คนหนึ่ง!

ถึงขั้นที่อาจเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยศิลปะฉินโจวซึ่งยังไม่จบการศึกษาอย่างเป็นทางการ!

ถึงอย่างไรซุนเย่าหั่วก็ไม่ใช่คนที่เรียนจบมานานหลายปีแต่อย่างใด

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หรือว่านักประพันธ์เพลงมือทองซึ่งโด่งดังในช่วงสองปีที่ผ่านมา ถือกำเนิดขึ้นอย่างฉับพลันราวกับผุดออกมาจากอากาศ แต่กลับเอาชนะพ่อเพลงถึงสองคนพร้อมกัน และประสบความสำเร็จระดับดับเบิลคิลล์…จะอายุน้อยขนาดนี้?

ในข่าวลือเหล่านี้

บุคลากรในวงการซึ่งสงสัยว่าเซี่ยนอวี๋นั้นอายุน้อยมากมาโดยตลอด ล้วนตะลึงงันกับเรื่องนี้ ใช้เวลาสักพักกว่าจะอุทานออกมา

“จริงหรือจ้อจี้?”

“แน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เข้าใจผิด”

“เรียกว่ารุ่นน้อง อาจจะเป็นแค่พวกฉายานามหรือเปล่า”

“เซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษาจบใหม่ หรือไม่ก็อาจเป็นนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบ?”

“งั้นเซี่ยนอวี๋ฝีมือระดับปีศาจแล้วล่ะมั้ง!?”

“ต่อให้มณฑลฉินจะได้รับการยอมรับจากทั้งบลูสตาร์ว่าเป็นมาตุภูมิแห่งดนตรี แต่ฉันก็ไม่เคยได้ยินว่ามีอัจฉริยะที่แตะถึงระดับนี้ตั้งแต่เรียนมหา’ลัย!”

“…”

ไม่เพียงในวงการ

แม้แต่ชาวเน็ตที่พอจะรู้จักเซี่ยนอวี๋อยู่บ้าง ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่

ต่อให้พวกเขาไม่ได้มีแนวคิดที่ชัดเจนเหมือนคนในวงการ แต่กลับรู้ว่าถ้าเซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่งละก็ จะต้องเก่งกาจมากอย่างแน่นอน!

ง่ายมาก

ขอเพียงเปรียบเทียบความสำเร็จของเซี่ยนอวี๋ และลองนึกว่าตนทำอะไรบ้างช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ก็จะเข้าใจขึ้นมาแล้ว…

พรึ่บๆๆ!

ขนาดของการสนทนาเริ่มคึกคักและขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น มีชาวเน็ตนับไม่ถ้วนแห่กันไปสอบถามคนที่เคยพบเจอเซี่ยนอวี๋ เพื่อขอการยืนยัน

แน่นอนว่า พื้นที่แสดงความคิดเห็นของเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงก็ไม่ได้รับการยกเว้น

นักร้องที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้คนที่ได้รับผลกระทบต่างก็รีบติดต่อหลินเยวียน เพื่อสอบถามว่าควรจัดการอย่างไร

แน่นอนว่าซุนเย่าหั่วเป็นคนแรกที่ติดต่อหลินเยวียน และกล่าวขอโทษที่ประมาทเลินเล่อเขียนคำเรียกไปเช่นนั้น

เขาเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของเบาะแส ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นตระหนก กลัวว่าจะส่งผลเสียต่อหลินเยวียน ถึงอย่างไรหลินเยวียนก็เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ว่าให้เก็บตัวตนของเขาเป็นความลับ

“ไม่เป็นไรครับ”

กลับเป็นหลินเยวียนที่เอ่ยปลอบรุ่นพี่เย่าหั่ว “ยังไงก็มีคนที่รู้เรื่องนี้เยอะ ตัวตนนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกเปิดเผย”

หลินเยวียนไม่ได้โกรธ

ฉู่ขวงและอิ่งจือถูกซ่อนไว้หลังม่านได้ ก็เพราะไม่จำเป็นต้องติดต่อกับคนอื่น

ตัวตนของเซี่ยนอวี๋ ในฐานะนักประพันธ์เพลง ต้องติดต่อประสานงานกับนักร้องและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ในฐานะนักเขียนบท ยังต้องปรากฏตัวในกองถ่ายท่ามกลางทีมงานนับร้อยคน

จะปิดบังไปได้ยังไงล่ะ?

จะถูกเปิดเผยเมื่อไหร่นั้นเป็นเพียงเรื่องของเวลา

นอกจากนั้นตัวตนของเขาไม่ได้ถูกเปิดเผยไปเสียทั้งหมด

โลกภายนอกเพียงแค่ต้องการยืนยันอายุของเซี่ยนอวี๋เท่านั้น

หากจะถามว่าจุดใดที่อยู่เหนือความคาดหมาย ก็เห็นจะเป็นอาจารย์แผนกประพันธ์เพลง ถึงกับติดต่อหลินเยวียนมาเพื่อสอบถามว่าจะตอบคำถามได้หรือไม่

หลินเยวียนถึงได้รู้ว่า ที่แท้ทางมหาวิทยาลัยก็รู้ตัวตนของเขาแล้ว

เรื่องนี้ไม่ได้น่าตกใจสักเท่าไหร่

หลินเยวียนตอบตกลงกับการตัดสินใจของมหาวิทยาลัย

การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของหลินเยวียนจนหมดเปลือก

เพราะคำตอบของทางมหาวิทยาลัยนั้นแสนเรียบง่าย

‘ข่าวลือนั้นเป็นความจริง เซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเรา ทว่าในฐานะสถานศึกษา เรามีหน้าที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักศึกษา จึงไม่สะดวกเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดแก่สาธารณชน และหวังว่าทุกท่านจะเว้นพื้นที่และระยะห่างกับเรา เคารพความยินยอมของเซี่ยนอวี๋ โปรดอย่าตามสืบค้นข้อมูลจนเกินสมควร’

คำตอบค่อนข้างเป็นทางการ

มหาวิทยาลัยยอมรับเรื่องที่เซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษา ทว่าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของเซี่ยนอวี๋

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็ได้เติมเต็มความสงสัยใคร่รู้ของบรรดาไทยมุงได้แล้ว รวมทั้งได้คลายข้อสงสัยของบุคลากรในวงการอีกนับไม่ถ้วน ต่อให้คำตอบนี้ออกจะน่าตกใจอยู่บ้างก็ตาม

‘หมายความว่า…เซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษามหา’ลัยจริงๆ?’

‘ก่อนที่วิทยาลัยศิลปะฉินโจวจะออกมาแถลง ต่อให้มีหลักฐานชี้ชัด ฉันก็ยังไม่ค่อยเชื่อ…เด็กเกินไปหรือเปล่า’

‘ฉันนึกถึงคนคนหนึ่ง…’

‘ผมรู้ เทพลู่ใช่ไหมครับ! พรสวรรค์ด้านการประพันธ์เพลงเฉิดฉายตั้งแต่อายุยังน้อยเหมือนกัน ได้เป็นพ่อเพลงตอนอายุสามสิบ! แต่ต่อให้เป็นลู่เซิ่ง ผลงานตอนเรียนมหา’ลัยก็เทียบกับเซี่ยนอวี๋ไม่ได้เลยนะครับ…’

ลู่เซิ่ง พ่อเพลงของบลูสตาร์

แต่ผู้คนในวงการชอบเรียกเขาว่า ‘เทพลู่’

ก็เหมือนกับที่เรียกเยี่ยจือชิวว่า ‘คุณปู่’ นั่นล่ะ

ก่อนหน้าเซี่ยนอวี๋ ลู่เซิ่งนับว่าเป็นยอดอัจฉริยะซึ่งได้รับการยอมรับจากทั้งวงการประพันธ์เพลง!

แต่หลังจากที่เซี่ยนอวี๋ปรากฏตัว ฉายานามว่ายอดอัจฉริยะคล้ายกับว่าต้องหลีกทางให้คนใหม่แล้ว

‘เซี่ยนอวี๋จะกลายเป็นพ่อเพลงเร็วว่าเทพลู่ไหมนะ’

‘อย่าเอ็ดไป มีความเป็นไปได้จริงๆ นะ!’

‘เทพลู่อายุสามสิบก็ปล่อยเพลง ‘ครามเข้ม’ ถึงทำให้คนเห็นคุณสมบัติในการเป็นพ่อเพลงของเขาอย่างเป็นที่ประจักษ์ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เซียนอวี๋จะงัดความสามารถที่แท้จริงออกมา งัดผลงานชิ้นโบว์แดงออกมาให้สาธารณชนเห็นไปเลย…’

‘ก่อนหน้านี้ผมคิดมาตลอดเลยว่าเซี่ยนอวี๋ต้องอายุอย่างน้อยสามสิบ!’

‘เป็นพ่อเพลงตัวน้อยจริงๆ ด้วย! เซี่ยนอวี๋อายุน้อยขนาดนี้เชียว!’

‘…’

นี่เป็นอีกหนึ่งความสะเทือนวงการซึ่งเซี่ยนอวี๋นำพามา หลังจากที่เพลงตะวันฉายคว้าอันดับหนึ่งในรายการเพลงเดือนธันวาคม!

ทว่าถ้อยแถลงของมหาวิทยาลัย ก็กล่าวได้ว่าเป็นกลยุทธ์บุกเพื่อถอย

เพราะบนโลกออนไลน์เองก็เกิดเสียงเรียกร้องให้ปกป้องข้อมูลของเซี่ยนอวี๋ หลังจากที่ตัวตนในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัยเปิดเผยในครั้งแรก คนที่ขุดข้อมูลของเซี่ยนอวี๋ก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ

ถึงอย่างไร…

ลำพังข้อมูลว่าเซี่ยนอวี๋เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ก็มากพอให้ผู้คนทั้งในและนอกวงการนำไปประมวลผลแล้ว

นอกจากนั้น

หลินเยวียนก็ใช้บัญชีของเซี่ยนอวี๋ ตอบคำถามไปแล้ว นับว่าเป็นการสรุปเรื่องที่ตัวตนของเขากึ่งถูกเปิดเผยในครั้งนี้ พร้อมทั้งแนบคำกล่าวของอาจารย์เฉียนจงซู[2]

‘ถ้าหากคุณกินไข่ไก่ใบหนึ่งแล้วคิดว่ารสชาติไม่เลว คุณจำเป็นต้องไปรู้จักแม่ไก่ที่ออกไข่ใบนี้มาหรือเปล่าครับ’

……………………………………………………

[1] เฟกเกอร์ (Faker) เกมเมอร์มืออาชีพชาวเกาหลีใต้ เล่นในตำแหน่งเลนกลาง (Mid-lane)

[2] เฉียนจงซู (1910-1998) นักเขียนชื่อดังชาวจีน ผลงานโด่งดังเช่นเรื่อง Fortress Besieged (《围城》)

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท